ส่วนตัวคิดว่า ต้องพ้นจากตำแหน่งตามเจตนารมณ์ของ รธน. ซึ่งนักกฎหมายทั่วๆไปและกฎหมายชื่อดัง แม้จะอ้างว่า ตาม รธน.ปี60 มาตรา 158
จะบัญญัติว่า "นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตําแหน่ง"
นั่นเป้นการกล่าวถึงกรณีที่เข้ารับตำแหน่งนายกฯทั่วๆไป ซึ่งจะต้องนับระยะเวลาตั้งแต่จากการเข้ารับตำแหน่ง

แต่กรณีของ นายกประยุทธ ได้มีความเป้นรัฐมนตรีตั้งแต่ 23 สค ปี 2557 นั่นหมายถึง ได้มีอำนาจในการบริหารแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว 
ทั้งนี้ การกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์หลักตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญเพื่อ
1.กําหนดระยะเวลาการทำงานให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการครอบงำหรือแทรกแซงทางการเมืองของกลุ่มผลประโยชน์
2.ป้องกันมิให้ผู้ดํารงตําแหน่งหลงอำนาจนำไปสู่เผด็จการทางการเมืองได้
3.ให้เกิดการแข่งขันทางการเมืองอย่างเสรีเน้นนโยบายพรรคการเมืองมากกว่าตัวบุคคล
4.เปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี
5.ให้นายกรัฐมนตรีตระหนักและเห็นความสำคัญของเสียงสนับสนุนที่ทำให้ได้รับการเลือกตั้ง

และมาตรา 264 บทเฉพาะกลาว บัญญติไว้ว่า "ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้"

ดังนั้น หากพิจารณาตามเจตนารมณ์ของ รธน. แล้ว หมายความว่า หากจะให้นายกประยุทธ ดำรงตำแหน่งต่อจาก สค 65 ไปอีกเท่ากับไม่เป็นตามเจตนารมณ์ของ รธน. ตาม 5 ข้อข้างต้นตามที่ได้กล่าวมา เพราะตามเจตราณ์ของมาตรา 264 บทเฉพาะกลาวนั้น ให้อำนาจบริหารแก่คณะรัฐมนตรีให้เป็นคณะรัฐมนตรีตามกฎหมายตั้งแต่ปี 57 เป้นต้นมา นั่นหมายความว่า เพื่อป้องกันมิให้บุคคลที่เป้นรัฐมนตรีในช่วงเวลาก่อนวันที่ประกาศใช้ รธน ปี60 นั้น สามารถดำรงตำแหน่งได้เกิน 8 ปี หากตนเองได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีในภายหลังนั่นเอง ซึ่งจะทำให้บุคคลนั้นอยู่ในอำนาจและใช้อำนาจบริหาร เกิน 8 ปี ซึ่งจะขัดกับเจตนารมรืของ รธน. นั่นเองครับ

ส่วนท่านอื่น มีความเห็นว่าไงบ้างครับ