ตัวเราเป็นพี่สาวคนโตค่ะ มีน้องชายกำลังโตเป็นวัยรุ่นอายุ 17 เรียนอยู่ม.5
ส่วนเราอายุ 26 เข้ามาทำงานในกรุงเทพ เเล้วทีนี้ฐานะครอบครัวเราไม่ค่อยดีนัก พ่อป่วยทำงานไม่ได้เเล้ว
เเม่ค้าขายอยู่ที่บ้าน ที่ตจว ไม่ได้มีกำไรมาจุนเจื้อครอบครัวมากนัก ค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ
เราเลยอาศัยเข้ามาทำงานที่กทม เเล้วกินอยู่ อย่างประหยัดที่สุด ส่งเงินกลับไปให้ทางบ้านทุกเดือน
เเม่จะเครียดเเละโทรมาหาบ่อยว่า เสียเงินค่ารักษาพยาบาลให้พ่อ ฟอกไต ที่รพ ไปเยอะมาก ไม่พอเสียค่าเทอมให้น้องชาย
บางวัน ค่าขนมน้องชายไม่พอค่ารถ ค่ากินไปโรงเรียน เราเองเป็นคนรีบโอนเงินไปให้น้องชาย ได้มีเงินไปโรงเรียน เพราะกลัวน้องชายลำบาก
เราเป็นห่วงเค้ามากๆ เพราะมีอยู่กันเเค่ 2 คนพี่น้อง พูดง่ายๆสมัยเรายังเรียนอยู่ ตัวเรากับน้องชาย บางวันอดมื้อกินมื้อ เพราะเงินไม่พอใช้
เหมือนเดิมค่ะ พ่อป่วย เสียเงินเยอะ ทุกวันนี้เรายังใช้หนี้กยศ อยู่เลยค่ะ เเม้จะลำบากพยายามทำงาน หยุดเสาร์ อาทิตย์ ไปขายของที่ตลาดนัดด้วย
จะได้มีเงินเยอะๆ ให้ที่บ้าน อยู่สบายๆ น้องชายใกล้จะเรียนต่อมหาลัยเเล้วด้วย พ่อกับเเม่ ต้องใช้เงินอีก เพื่ออนาคตของน้องชาย
ความสัมพันธ์ของเรากับน้องชาย สมัยเด็กๆคือ รักกันดีค่ะ ตัวติดกันอยู่เสมอ เราจะเป็นพี่ที่คอยดูเเลน้องชายตลอด เรารักน้องชายมากๆ
มีช่วงที่เราออกมาทำงานที่กทม ทำให้เราห่างเหินกับน้องชาย บวกกับตัวน้องชายเราเริ่มเป็นวัยรุ่น มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ได้เดินตามต้อยๆเราผู้เป็นพี่
เหมือนเมื่อก่อนเเล้ว พูดอะไร ก็ถามคำ ตอบคำ
เวลาเราโทรมาหาน้องถามว่าเป็นยังไงบ้าง เค้าจะตอบว่า "รำคาญ ยุ่งอะไรนักหนา อยากรู้ก็ไปถามเเม่สิ "
หลายครั้งเราโดนน้องชายว่า เรา ทำไม่ดีใส่เรา หลายครั้งมาก ทั้งๆที่เราเป็นห่วงว่าเค้าเลิกเรียน กลับบ้านมาจะมีกินข้าวไหมนะ
เป็นยังไงบ้าง เรียนหนังสือโอเคไหม โดนเพื่อนเเกล้งหรือเปล่า
เราอยู่กรุงเทพ คิดถึงน้องชายอยากใช้เวลาเมื่อเหมือนก่อน ตอนเป็นพี่น้องรักกันดีอยู่
เราไม่รู้ว่าทำไมโตขึ้นมา เค้าห่างเหินเเละมองเราในเเง่ลบเเบบนี้
พี่สาวคนนี้เเค่อยากได้คุยกับน้องชายบ้าง
จนมีวันหนึ่ง เราได้หยุดงาน เลยนั่งรถจากกรุงเทพ กลับบ้านที่ ตจว พอมาถึงบ้าน เรารีบไปดูพ่อก่อนที่ป่วยติดเตียง
เเถมตอนนั้นเราซื้อของฝาก ซื้ออาหารมาฝากน้องชาย กับเเม่ด้วย เราด้วยความอยากเจอน้องชาย เลยเปิดประตูเข้าไปที่ห้องนอนเค้า
เห็นน้องชายนั่งเล่นเกมอยู่
เราชวนคุยว่า "พี่ซื้อข้าว ขนม มาฝากนะ ที่เราอ่ะ (ชื่อน้องชาย) ชอบทั้งนั้นเลย เป็นไงบ้าง เเล้วนี้นั่งเล่นเกมอยู่ในห้องทั้งวัน อาบน้ำรึยัง"
น้องชายเราไม่ตอบค่ะ เค้าปาคีย์บอร์ด คอมใส่หน้าเรา กระเเทกอย่างจั๋งเลยค่ะ ตอนนั้นเราอึ้งเลย ยืนตัวเเข็งทื่อ ตกใจมาก
น้องชายพูดว่า "
มุง ไปไกลๆFoot กูเลยนะ สาระเเน อะไรกับชีวิต Gu หนักหนา"
(ต้องพิมพ์ว่า Gu กับ Foot เป็นภาษาอังกฤษนะคะ พันทิปไม่ขึ้นให้พิมพ์โดยตรง) เเปลคำพูดน้องชาย ตรงตัวอักษรอังกฤษเลยค่ะ
เราน้ำตาไหลเลยค่ะ นาทีนั้น
เเม่ที่อยู่ข้างล่างบ้าน ก็ได้ยิน ถามว่าข้างบนเกิดอะไรขึ้น
เราเงียบ ตะโกนตอบกลับไปว่า " ไม่มีอะไรค่ะ "
เรารีบหันหลังกลับ เดินออกจากห้องนอนของน้องชาย เห็นเเว่บๆว่าสายตาเค้า จ้องเขม็งมาที่เรา
ตลอดทั้งวันนั้น เราเงียบขรึม น้องชายไม่คุยกับเราสักคำเลยค่ะ มีมาเเค่ลงมาชั้น 1 ของบ้านเพื่ออาบน้ำเเล้วขึ้นห้องไป ไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น
ทั้งขนม ของฝาก อาหารที่เราซื้อมาให้เค้า เค้าก็ไม่ยอมกินเลย
เราเสียใจ เเละจุกอก มาถึงนาทีนี้
เลยตัดสินใจเข้ามาถามในพันทิป ดูค่ะ
เราผิดไหมที่เป็นพี่สาวยุ่งเรื่องของน้องชายมากเกินไป จนทำให้เค้ารังเกียจเรามากขนาดนี้ ?
# เรื่องส่งเงินค่าเทอม ค่ารถไปโรงเรียน น้องชายไม่รู้นะคะ ว่าเราเป็นคนช่วยออกเงินให้เค้าใช้ทุกวันนี้
เราไม่คิดอยากให้น้องชายรับรู้อยู่เเล้ว มันเป็นหน้าที่ของคนเป็นพี่สาว ต้องดูเเลน้อง เเละพ่อเเม่ อยู่เเล้วค่ะ
ขอทุกคนช่วยเหลือ ให้คำเเนะนำด้วยนะคะ เราจะทำยังไงดีกับน้องชายเราคนนี้
เราทั้งเจ็บทั้งเสียใจ จนไม่อยากเห็นหน้าน้องชายอีกเเล้ว มันเป็นคำด่าที่รุนเเรงมาก ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของน้องชายที่เรารักอ่ะ
ตอบคำถามทุกคนค่ะ ที่คิดว่าเป็นเรื่องเเต่ง
= ทำไมถึงคิดว่าเป็นเรื่องเเต่งค่ะ
ตอนท้าย เราพิมพ์คือ เราอธิบายความรู้สึกของเราตอน ตกใจ น้องด่าเราด้วยคำรุนเเรงขนาดนั้น
ไม่มีใครเอาความเจ็บป่วยของพ่อตัวเอง เอาความลำบากของเเม่ตัวเอง เอาความก้าวร้าวของน้องตัวเอง
ที่เกิดขึ้นมา ทำเป็นเรื่องเเต่ง เรื่องตลกหรอกค่ะ
ที่เราเขียนอธิบายเยอะ เพราะต้องการจะขอความช่วยเหลือ ขอคำแนะนำหาทางออกจริงๆ
อยู่ดีๆน้อง คิดกับเราในเเง่ร้ายเเบบนี้ ไม่ว่าจะเราจะพูดกับน้องยังไง เค้าก็ไม่ฟัง ให้ทำยังไง น้องก็เกลียดเรามาก
ถ้าเราปรับความเข้าใจกับน้องชายได้เอง เราไม่ตั้งกระทู้ถามในพันทิปหรอกค่ะ อันนี้เราเครียดเเละจนปัญญาจริงๆ
เราเลยเขียนตั้งกระทู้อธิบายเรื่องราวทั้งหมด เพื่อขอความช่วยเหลือจากทุกคน ใจความมีเเค่นี้ค่ะ
คุณพ่อฟอกไตไม่ได้ใช้สิทธิบัตรทองหรือคะ?
= พ่อใช้สิทธิ์บัตรทอง เเละพ่อมักมีอาการเเน่นอกค่ะ บางครั้งนานๆที่ต้องแอดมินนอนรพ.
บวกกับที่บ้าน มีหนี้สิน ต้องใช้จ่ายอยู่บ้างเป็นสมควรค่ะ ต้องหารายได้มาช่วยกัน เพื่อพยุงต่อไป
ขอให้อ่านความคิดเห็นอื่นๆนะคะที่เราตอบไปหลายประเด็นที่ทุกคนถามมา เราพร้อมอธิบายให้เข้าใจกับข้อเท็จจริงที่สงสัยกัน
สรุป
= เราได้ตอบความคิดเห็นย่อยอื่นๆไปแล้วนะคะ
ขอให้อ่านความคิดเห็นอื่นๆนะคะที่เราตอบไปหลายประเด็นที่ทุกคนถามมา เราพร้อมอธิบายให้เข้าใจกับข้อเท็จจริงที่สงสัยกัน
5555 ขอขำนิดหนึ่ง มีคอมเม้น บอกเราว่าต้อนรับกลับสู่โลกมนุษย์ ตื่นๆ ชีวิตเราลำบากมาก่อน เจอเเรงกดดันมาเยอะค่ะ
เราอยู่โลกมนุษย์อยู่เเล้วละ เพียงเเค่เรามองปัญหาในมุมบวก ไม่ใช่มุมลบ
ตอนนี้ให้ พื้นที่ส่วนตัวน้องชายมากขึ้น คุยกับเเม่ ว่าจะพยายามเข้าใจเค้า เเละจะมีการพูดคุยเปิดอกกัน ถึงความรู้สึกของน้องค่ะ
ปรับตัวเข้าใจน้องเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง มีปัญหาอะไร ให้เค้ายินดีมาพูดให้เราฟังเอง ไม่ใช่บังคับขู่เข็นเค้าค่ะ
ตรงนี้เราตอบเองค่ะ ความรู้สึกหลังจากเราอ่านฟีดเเบ๊ค ความคิดเห็นของทุกคน
= ค่ะดูเป็นคนอ่อนเเอ เเต่ก็ไม่รู้จะดุ ด่าตะคอกน้องชายไปทำไม พูดคุยกันดีๆก็ได้
เราอาจใช้วิธีเหมือนเเม่คนที่ 2 ของน้องชายตัวเองมากเกินไป เราลืมคิดไปค่ะตรงจุดนี้
ซึ่งเราขอบคุณตัวเองที่มาตั้งกระทู้ถามในพันทิป
เพราะคนที่อยู่ในปัญหาของเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่าเค้าคิดไม่ได้ เรื่องเเค่นี้ทำโง่จัง
เเต่เลนส์สายตาของคนอยู่ในปัญหามักมองเห็น
ต้นตอสาเหตุของปัญหาไม่ออก เท่าคนนอก ที่จะพิจารณาได้ ว่าควรทำอย่างไร
ไม่ให้กระทบผลเสียไปในทางลบ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำเเนะนำที่ช่วยเหลือเรา
ถ้าคนอ่อนเเอ ที่พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นทั้งด้านบวก ด้านลบอย่างเรา ไล่ตอบคำถาม เเละขอบคุณทุกคอมเม้น
จะดูเป็นคนอ่อนเเอ น่ารำคาญ เราก็ยินดีนะ เพราะเราขอบคุณจริงๆที่คุณมาตอบกระทู้ให้คำตอบ ช่วยเหลือเราเเก้ปัญหา
ทั้งๆที่คุณไม่รู้จักเราในชีวิตจริง ก็นะ มันในพันทิปคนก็มาตอบช่วยกันเยอะอยู่เเล้ว นั่นคือความช่วยเหลือเหมือนกันค่ะ
อธิบายให้ทุกคนในพันทิปเข้าใจ คือเหนื่อยมาก ทุกคนร้อยพ่อพันเเม่จริงๆ
เราผิดเหรอ? พยายามเป็นพี่สาวที่ดี คอยดูเเลน้องชายตัวเองให้ดีที่สุด คอยเเบ่งเบาภาระพ่อเเม่ เเต่เราโดนน้องชายด่า ด้วยคำนี้
ส่วนเราอายุ 26 เข้ามาทำงานในกรุงเทพ เเล้วทีนี้ฐานะครอบครัวเราไม่ค่อยดีนัก พ่อป่วยทำงานไม่ได้เเล้ว
เเม่ค้าขายอยู่ที่บ้าน ที่ตจว ไม่ได้มีกำไรมาจุนเจื้อครอบครัวมากนัก ค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ
เราเลยอาศัยเข้ามาทำงานที่กทม เเล้วกินอยู่ อย่างประหยัดที่สุด ส่งเงินกลับไปให้ทางบ้านทุกเดือน
เเม่จะเครียดเเละโทรมาหาบ่อยว่า เสียเงินค่ารักษาพยาบาลให้พ่อ ฟอกไต ที่รพ ไปเยอะมาก ไม่พอเสียค่าเทอมให้น้องชาย
บางวัน ค่าขนมน้องชายไม่พอค่ารถ ค่ากินไปโรงเรียน เราเองเป็นคนรีบโอนเงินไปให้น้องชาย ได้มีเงินไปโรงเรียน เพราะกลัวน้องชายลำบาก
เราเป็นห่วงเค้ามากๆ เพราะมีอยู่กันเเค่ 2 คนพี่น้อง พูดง่ายๆสมัยเรายังเรียนอยู่ ตัวเรากับน้องชาย บางวันอดมื้อกินมื้อ เพราะเงินไม่พอใช้
เหมือนเดิมค่ะ พ่อป่วย เสียเงินเยอะ ทุกวันนี้เรายังใช้หนี้กยศ อยู่เลยค่ะ เเม้จะลำบากพยายามทำงาน หยุดเสาร์ อาทิตย์ ไปขายของที่ตลาดนัดด้วย
จะได้มีเงินเยอะๆ ให้ที่บ้าน อยู่สบายๆ น้องชายใกล้จะเรียนต่อมหาลัยเเล้วด้วย พ่อกับเเม่ ต้องใช้เงินอีก เพื่ออนาคตของน้องชาย
ความสัมพันธ์ของเรากับน้องชาย สมัยเด็กๆคือ รักกันดีค่ะ ตัวติดกันอยู่เสมอ เราจะเป็นพี่ที่คอยดูเเลน้องชายตลอด เรารักน้องชายมากๆ
มีช่วงที่เราออกมาทำงานที่กทม ทำให้เราห่างเหินกับน้องชาย บวกกับตัวน้องชายเราเริ่มเป็นวัยรุ่น มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ได้เดินตามต้อยๆเราผู้เป็นพี่
เหมือนเมื่อก่อนเเล้ว พูดอะไร ก็ถามคำ ตอบคำ
เวลาเราโทรมาหาน้องถามว่าเป็นยังไงบ้าง เค้าจะตอบว่า "รำคาญ ยุ่งอะไรนักหนา อยากรู้ก็ไปถามเเม่สิ "
หลายครั้งเราโดนน้องชายว่า เรา ทำไม่ดีใส่เรา หลายครั้งมาก ทั้งๆที่เราเป็นห่วงว่าเค้าเลิกเรียน กลับบ้านมาจะมีกินข้าวไหมนะ
เป็นยังไงบ้าง เรียนหนังสือโอเคไหม โดนเพื่อนเเกล้งหรือเปล่า
เราอยู่กรุงเทพ คิดถึงน้องชายอยากใช้เวลาเมื่อเหมือนก่อน ตอนเป็นพี่น้องรักกันดีอยู่
เราไม่รู้ว่าทำไมโตขึ้นมา เค้าห่างเหินเเละมองเราในเเง่ลบเเบบนี้
พี่สาวคนนี้เเค่อยากได้คุยกับน้องชายบ้าง
จนมีวันหนึ่ง เราได้หยุดงาน เลยนั่งรถจากกรุงเทพ กลับบ้านที่ ตจว พอมาถึงบ้าน เรารีบไปดูพ่อก่อนที่ป่วยติดเตียง
เเถมตอนนั้นเราซื้อของฝาก ซื้ออาหารมาฝากน้องชาย กับเเม่ด้วย เราด้วยความอยากเจอน้องชาย เลยเปิดประตูเข้าไปที่ห้องนอนเค้า
เห็นน้องชายนั่งเล่นเกมอยู่
เราชวนคุยว่า "พี่ซื้อข้าว ขนม มาฝากนะ ที่เราอ่ะ (ชื่อน้องชาย) ชอบทั้งนั้นเลย เป็นไงบ้าง เเล้วนี้นั่งเล่นเกมอยู่ในห้องทั้งวัน อาบน้ำรึยัง"
น้องชายเราไม่ตอบค่ะ เค้าปาคีย์บอร์ด คอมใส่หน้าเรา กระเเทกอย่างจั๋งเลยค่ะ ตอนนั้นเราอึ้งเลย ยืนตัวเเข็งทื่อ ตกใจมาก
น้องชายพูดว่า " มุง ไปไกลๆFoot กูเลยนะ สาระเเน อะไรกับชีวิต Gu หนักหนา"
(ต้องพิมพ์ว่า Gu กับ Foot เป็นภาษาอังกฤษนะคะ พันทิปไม่ขึ้นให้พิมพ์โดยตรง) เเปลคำพูดน้องชาย ตรงตัวอักษรอังกฤษเลยค่ะ
เราน้ำตาไหลเลยค่ะ นาทีนั้น
เเม่ที่อยู่ข้างล่างบ้าน ก็ได้ยิน ถามว่าข้างบนเกิดอะไรขึ้น
เราเงียบ ตะโกนตอบกลับไปว่า " ไม่มีอะไรค่ะ "
เรารีบหันหลังกลับ เดินออกจากห้องนอนของน้องชาย เห็นเเว่บๆว่าสายตาเค้า จ้องเขม็งมาที่เรา
ตลอดทั้งวันนั้น เราเงียบขรึม น้องชายไม่คุยกับเราสักคำเลยค่ะ มีมาเเค่ลงมาชั้น 1 ของบ้านเพื่ออาบน้ำเเล้วขึ้นห้องไป ไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น
ทั้งขนม ของฝาก อาหารที่เราซื้อมาให้เค้า เค้าก็ไม่ยอมกินเลย
เราเสียใจ เเละจุกอก มาถึงนาทีนี้
เลยตัดสินใจเข้ามาถามในพันทิป ดูค่ะ
เราผิดไหมที่เป็นพี่สาวยุ่งเรื่องของน้องชายมากเกินไป จนทำให้เค้ารังเกียจเรามากขนาดนี้ ?
# เรื่องส่งเงินค่าเทอม ค่ารถไปโรงเรียน น้องชายไม่รู้นะคะ ว่าเราเป็นคนช่วยออกเงินให้เค้าใช้ทุกวันนี้
เราไม่คิดอยากให้น้องชายรับรู้อยู่เเล้ว มันเป็นหน้าที่ของคนเป็นพี่สาว ต้องดูเเลน้อง เเละพ่อเเม่ อยู่เเล้วค่ะ
ขอทุกคนช่วยเหลือ ให้คำเเนะนำด้วยนะคะ เราจะทำยังไงดีกับน้องชายเราคนนี้
เราทั้งเจ็บทั้งเสียใจ จนไม่อยากเห็นหน้าน้องชายอีกเเล้ว มันเป็นคำด่าที่รุนเเรงมาก ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของน้องชายที่เรารักอ่ะ
ตอบคำถามทุกคนค่ะ ที่คิดว่าเป็นเรื่องเเต่ง
= ทำไมถึงคิดว่าเป็นเรื่องเเต่งค่ะ
ตอนท้าย เราพิมพ์คือ เราอธิบายความรู้สึกของเราตอน ตกใจ น้องด่าเราด้วยคำรุนเเรงขนาดนั้น
ไม่มีใครเอาความเจ็บป่วยของพ่อตัวเอง เอาความลำบากของเเม่ตัวเอง เอาความก้าวร้าวของน้องตัวเอง
ที่เกิดขึ้นมา ทำเป็นเรื่องเเต่ง เรื่องตลกหรอกค่ะ
ที่เราเขียนอธิบายเยอะ เพราะต้องการจะขอความช่วยเหลือ ขอคำแนะนำหาทางออกจริงๆ
อยู่ดีๆน้อง คิดกับเราในเเง่ร้ายเเบบนี้ ไม่ว่าจะเราจะพูดกับน้องยังไง เค้าก็ไม่ฟัง ให้ทำยังไง น้องก็เกลียดเรามาก
ถ้าเราปรับความเข้าใจกับน้องชายได้เอง เราไม่ตั้งกระทู้ถามในพันทิปหรอกค่ะ อันนี้เราเครียดเเละจนปัญญาจริงๆ
เราเลยเขียนตั้งกระทู้อธิบายเรื่องราวทั้งหมด เพื่อขอความช่วยเหลือจากทุกคน ใจความมีเเค่นี้ค่ะ
คุณพ่อฟอกไตไม่ได้ใช้สิทธิบัตรทองหรือคะ?
= พ่อใช้สิทธิ์บัตรทอง เเละพ่อมักมีอาการเเน่นอกค่ะ บางครั้งนานๆที่ต้องแอดมินนอนรพ.
บวกกับที่บ้าน มีหนี้สิน ต้องใช้จ่ายอยู่บ้างเป็นสมควรค่ะ ต้องหารายได้มาช่วยกัน เพื่อพยุงต่อไป
ขอให้อ่านความคิดเห็นอื่นๆนะคะที่เราตอบไปหลายประเด็นที่ทุกคนถามมา เราพร้อมอธิบายให้เข้าใจกับข้อเท็จจริงที่สงสัยกัน
สรุป
= เราได้ตอบความคิดเห็นย่อยอื่นๆไปแล้วนะคะ
ขอให้อ่านความคิดเห็นอื่นๆนะคะที่เราตอบไปหลายประเด็นที่ทุกคนถามมา เราพร้อมอธิบายให้เข้าใจกับข้อเท็จจริงที่สงสัยกัน
5555 ขอขำนิดหนึ่ง มีคอมเม้น บอกเราว่าต้อนรับกลับสู่โลกมนุษย์ ตื่นๆ ชีวิตเราลำบากมาก่อน เจอเเรงกดดันมาเยอะค่ะ
เราอยู่โลกมนุษย์อยู่เเล้วละ เพียงเเค่เรามองปัญหาในมุมบวก ไม่ใช่มุมลบ
ตอนนี้ให้ พื้นที่ส่วนตัวน้องชายมากขึ้น คุยกับเเม่ ว่าจะพยายามเข้าใจเค้า เเละจะมีการพูดคุยเปิดอกกัน ถึงความรู้สึกของน้องค่ะ
ปรับตัวเข้าใจน้องเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง มีปัญหาอะไร ให้เค้ายินดีมาพูดให้เราฟังเอง ไม่ใช่บังคับขู่เข็นเค้าค่ะ
ตรงนี้เราตอบเองค่ะ ความรู้สึกหลังจากเราอ่านฟีดเเบ๊ค ความคิดเห็นของทุกคน
= ค่ะดูเป็นคนอ่อนเเอ เเต่ก็ไม่รู้จะดุ ด่าตะคอกน้องชายไปทำไม พูดคุยกันดีๆก็ได้
เราอาจใช้วิธีเหมือนเเม่คนที่ 2 ของน้องชายตัวเองมากเกินไป เราลืมคิดไปค่ะตรงจุดนี้
ซึ่งเราขอบคุณตัวเองที่มาตั้งกระทู้ถามในพันทิป
เพราะคนที่อยู่ในปัญหาของเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่าเค้าคิดไม่ได้ เรื่องเเค่นี้ทำโง่จัง
เเต่เลนส์สายตาของคนอยู่ในปัญหามักมองเห็น
ต้นตอสาเหตุของปัญหาไม่ออก เท่าคนนอก ที่จะพิจารณาได้ ว่าควรทำอย่างไร
ไม่ให้กระทบผลเสียไปในทางลบ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำเเนะนำที่ช่วยเหลือเรา
ถ้าคนอ่อนเเอ ที่พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นทั้งด้านบวก ด้านลบอย่างเรา ไล่ตอบคำถาม เเละขอบคุณทุกคอมเม้น
จะดูเป็นคนอ่อนเเอ น่ารำคาญ เราก็ยินดีนะ เพราะเราขอบคุณจริงๆที่คุณมาตอบกระทู้ให้คำตอบ ช่วยเหลือเราเเก้ปัญหา
ทั้งๆที่คุณไม่รู้จักเราในชีวิตจริง ก็นะ มันในพันทิปคนก็มาตอบช่วยกันเยอะอยู่เเล้ว นั่นคือความช่วยเหลือเหมือนกันค่ะ
อธิบายให้ทุกคนในพันทิปเข้าใจ คือเหนื่อยมาก ทุกคนร้อยพ่อพันเเม่จริงๆ