แบกไม่ไหว! ฟาร์มไก่เนื้อขอขึ้น 2 บาท/กก. ชี้ต้นทุนพุ่ง วอนรัฐอย่าคุมราคาเกินจริง
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/301137
วานนี้ (14 ก.ค. 65) กรมการค้าภายในออกมาส่งสัญญาณ ราคาไก่จะลงในเร็วๆ นี้ แต่ล่าสุด ฟาร์มไก่เนื้อ ขอยืนราคาหน้าฟาร์มไว้ที่ 41 บาทต่อไป หลังต้นทุนอาหารสัตว์ น้ำมันพุ่ง กระทบค่าขนส่งเพิ่ม 20%
นาง
ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์ม จำเป็นต้องปรับราคาขึ้น 2 บาท จากเดือนมกราคมที่ราคา 39 บาท เป็น 41 บาทต่อกิโลกรัม ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และจำเป็นต้องยืนในราคานี้ต่อไป เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้ เนื่องจากต้นทุนการผลิตเฉลี่ยในปัจจุบันประมาณ 42-43 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นผลมาจากราคาข้าวโพดเลี้ยงสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปีนี้เกินกว่า 13 บาทต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศจากลิตรละ 30 บาท เป็นลิตรละ 35 บาท ส่งผลให้ค่าขนส่งสูงขึ้น 20% เป็นค่าใช้จ่ายที่เกษตรกรต้องแบกรับไว้ด้วย ซึ่งผู้ประกอบการในห่วงโซ่การผลิตก็ต้องรับภาระต้นทุนสูงขึ้นไม่ต่างกัน
นางฉวีวรรณ วอนให้ผู้บริโภคมั่นใจการปรับราคาเนื้อไก่เป็นตามกลไกตลาด ที่สร้างความเป็นธรรมให้กับเกษตรกร และผู้บริโภค การควบคุมราคาสินค้ามากเกินไปในภาวะวิกฤต อาจจะทำให้ผู้ประกอบการขาดทุนสูง จนไม่สามารถแบกภาระขาดทุนต่อไปได้ จนทำให้เลิกกิจการ และท้ายสุดจะกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศมากกว่าการปล่อยให้ราคาปรับขึ้นได้อย่างสมเหตุผลตามต้นทุนที่แท้จริง
ชาวสวนปาล์ม หวั่นพาณิชย์กดราคาปาล์มขวด ทำหน้าสวนตกต่ำ
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/301136
ชาวสวนปาล์ม หวั่น กระทรวงพาณิชย์กดราคาน้ำมันปาล์มขวด ทำราคาปาล์มดิบหน้าสวนตกต่ำ กระทบชาวสวนปาล์มหนัก
นาย
มนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย เปิดเผยในรายการอัพสวิง เศรษฐกิจดีดี ทางแพลตฟอร์ม 3Plusnews หลังกระทรวงพาณิชย์กดราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดลดลงเหลือต่ำสุดขวดละ 62 บาท และประกาศจะปรับลดลงอีกในสัปดาห์หน้า โดยยอมรับว่า เกษตรกรชาวสวนปาล์มมีความกังวลว่า จะส่งผลให้โรงงานมากดราคารับซื้อปาล์มดิบจากเกษตรกร
ซึ่งล่าสุดวันนี้ ราคารับซื้อปาล์มเกรดเอ ลงมาอยู่ที่ 6.10 – 6.50 บาทแล้ว และยังมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก กระทบกับชาวสวนปาล์มโดยตรง โดยมองว่า หากรัฐบาลบริหารจัดการให้เหมาะสม โดยราคาน้ำมันปาล์มขวดอยู่ที่ขวดละ 65 บาท และเกษตรกรขายปาล์มดิบได้กิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 7 บาท ก็เชื่อว่าจะอยู่ได้ทุกฝ่าย ทั้งชาวสวน โรงงาน และผู้บริโภค แต่หากกระทรวงพาณิชย์จะกดราคาน้ำมันปาล์มขวดให้ลงต่ำกว่านี้อีกในสัปดาห์หน้า ก็ต้องรอดูท่าทีของชาวสวนว่าจะทำอย่างไรต่อไป โดยย้ำว่า ราคารับซื้อปาล์มทลายต้องไม่ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 7 บาท เพราะไม่เช่นนั้นเกษตรกรจะขาดทุนหนัก และไม่มีทุนในการทำสวนปาล์มต่อไป สุดท้ายผลก็จะไปตกกับผู้บริโภคอีก
อีกมุม เป็นมุมร้านโชห่วย ที่กำลังได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปาล์มขวด ที่ลดลง เพราะทำให้สต๊อกเก่าที่ซื้อไว้จำหน่าย ขายได้ยากขึ้น เนื่องจากเป็นราคาที่ซื้อไว้ในช่วงที่ราคาน้ำมันปาล์มอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้ตอนนี้ร้านต่างๆ ต้องกัดฟันเร่งขายของเก่าให้หมด เพื่อจะได้สั่งสต๊อกใหม่ที่ราคาถูกลง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะขายหมดเมื่อไหร่ เพราะช่วงนี้กำลังซื้อไม่ค่อยมี
“หมอธีระ” วอน บอกความจริง อย่าปกปิด บิดเบือน ถาม 1,795 แท้จริงแล้วเกือบ 6 หมื่นใช่หรือไม่
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3455078
“หมอธีระ” วอน บอกความจริง อย่าปกปิด บิดเบือน ถาม 1,795 แท้จริงแล้วเกือบ 6 หมื่นใช่หรือไม่
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นพ.
ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด ว่า
“15 กรกฎาคม 2565…
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 783,526 คน ตายเพิ่ม 1,329 คน รวมแล้วติดไป 564,935,477 คน เสียชีวิตรวม 6,380,880 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และบราซิล
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 13 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 65.73 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 40.33
…สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า
จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
…BA.2.75 เป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง
Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.2.75 หรือที่มีชื่อเล่นที่นักวิชาการตั้งกันให้ว่า “Centaurus” นั้นเริ่มพบระบาดมากในอินเดียเป็นประเทศแรก จากนั้นพบในอีกหลายประเทศ แม้จำนวนในประเทศอื่นนั้นยังไม่มาก แต่ทั่วโลกต่างจับตามอง เนื่องจากมีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่ง และมีแนวโน้มที่จะมีสมรรถนะการแพร่ระบาดเร็วกว่าเดิม
ล่าสุดพบในหลายรัฐของอเมริกา เช่น แคลิฟอร์เนีย วอชิงตัน อิลลินอยส์ ฯลฯ และอีกหลายประเทศ
ไทยเราจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ให้ดี และควรป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากเปิดเสรีการใช้ชีวิตและการท่องเที่ยว เพราะอาจทำให้ระบาดทับซ้อนคล้ายกับระลอกสามเมื่อกลางปีที่แล้ว ที่เรามีทั้งอัลฟ่าต่อด้วยเดลต้า จนทำให้เกิดการติดเชื้อ ป่วย และเสียชีวิตจำนวนมาก
…ภาพรวมการได้รับวัคซีนทั่วโลก
กลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง และปานกลางระดับสูงนั้นมีสัดส่วนประชากรที่ได้รับวัคซีนครบแล้วมากกว่ากลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับต่ำและประเทศที่มีรายได้น้อย
ปรากฏการณ์เช่นนี้ ในเชิงสาธารณสุขจะแปลความว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก เพราะโรคระบาดที่แพร่ทั่วโลกอย่างโควิด-19 นั้นจะอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ดีก็ต่อเมื่อทั่วโลกสามารถเข้าถึงวัคซีนป้องกันได้โดยถ้วนทั่ว มิฉะนั้นก็ย่อมมีโอกาสเกิดการปะทุระบาดเป็นระลอกไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ในกลุ่มประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนที่มีประสิทธิภาพได้นั้น ก็อาจทำให้มีจำนวนการติดเชื้อสูง และเป็นที่มาของไวรัสที่กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่นำไปสู่การระบาดหนักได้
ดังนั้น แนวทางการใช้ชีวิตของประชากรโลกในครึ่งปีหลังของ 2565 นี้ จึงควรดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ “การใส่หน้ากาก” เป็นเรื่องที่จำเป็น เวลาออกไปตะลอนนอกบ้าน ไม่ว่าจะทำมาค้าขาย พบปะคนอื่น ศึกษาเล่าเรียน หรือดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันก็ตาม
…เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ
“การบอกความจริง” ไม่ปกปิด ไม่บิดเบือน ไม่รายงานต่ำกว่าความจริง ไม่ tone down harm and risk perception
นี่คือความรับผิดชอบในบทบาทหน้าที่ ความซื่อสัตย์ และความกล้าหาญ ของหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของทุกคนในสังคม
ในภาวะวิกฤติ ประชาชนจำเป็นต้องรู้ความจริงอย่างละเอียด เพื่อที่จะรู้เท่าทันสถานการณ์จริง และตัดสินใจประพฤติปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
การกล่าวอ้างว่า ใครๆ ก็รายงานต่ำกว่าความจริง ก็เลยทำบ้างนั้น คงเป็นแนวคิดที่ไม่มีใครปรารถนา และไม่ควรยอมรับให้เกิดขึ้น ไม่ว่าที่ใดก็ตามในโลก เพราะจะนำไปสู่”ความไม่เชื่อมือ ไม่เชื่อมั่น และไม่เชื่อใจ” ในที่สุด
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ดูจะเป็นตัวอย่างที่ดี ที่หน่วยงานของเขาเผยแพร่ข้อมูลให้แก่ประชาชนในประเทศด้วยความจริงใจ ย่อมแสดงถึงการให้ความสำคัญกับชีวิตของทุกคนในสังคม
อย่างไรก็ตามหลังโพสต์ดังกล่าวแล้ว ต่อมา นพ.ธีระ โพสต์อีกว่า
เช้านี้รายการข่าวมีแต่เรื่องหดหู่เกี่ยวกับโควิด…คนเสียชีวิตที่บ้านหลายรายคนติดเชื้อเข้าถึงบริการตรวจรักษาได้อย่างยากลำบากปัญหาการเข้าถึงยาต้านไวรัสแต่…ตัวเลขแต่ละวันสวยหรูวังวนเดิม…
และล่าสุดโพสต์ตบท้ายว่า
1,795 –> คาดประมาณ 59,834
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid0quAe6rvDGFaUte2DUAEbFoB12ZBvhWoC2yRSTbncnf5xErjTHDbQkJqGiZf51bdNl
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02mC97cyBUuiVCoy6BmgEJKXe25q3ate6VdxFnhifPG3B3Ueu5BeXhBSR1DHbCxdVhl
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02NyF3m5oLHuUctePZogZaXVthrXw5YbCNhukJnaGv8awvpC7PtCcitwTcXDZ2mgxcl
'เพื่อไทย' เปิด 26 ขุนพล พร้อมเด็ดหัว สอยนั่งร้าน '3 ป.-8 รมต.' แย้ม 4 ส.ส.ร่วมอภิปรายหนแรก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3455319
‘เพื่อไทย’ เปิด 26 ขุนพล ร่วมเด็ดหัว สอยนั่งร้าน ‘3 ป.-8 รมต.’
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้วางขุนพล 26 คน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีคนอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 11 คน ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19-22 กรกฎาคมนี้ เวลา 08.30-00.30 น. ภายใต้ยุทธการ “
เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” นำโดย 1.นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค 2.นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค 3.นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรค 4.นาย
ขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี 5.นาย
ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ 6.นาย
จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่และรองเลขาธิการพรรค 7.นาย
จตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น 8.น.ส.
จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ดและกรรมการบริหารพรรค 9.นาย
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. 10.นาย
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่และรองหัวหน้าพรรค
11.นาย
ไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู 12.น.ส.
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรค 13.นาย
พัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร 14.นาง
มนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนมและรองเลขาธิการพรรค 15.นาย
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรค 16.นาย
วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย 17.นาย
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา 18.นาย
วัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. 19.นาย
ศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย 20.นาย
สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี 21.นาย
สุรวิทย์ คงสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ และ 22.นาง
อนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร
ขณะที่ ส.ส.ที่จะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นครั้งแรก ได้แก่ 1.น.ส.
สกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร 2.น.ส.
สรัสนันท์ อรรนพพร ส.ส.ขอนแก่น 3.นาง
สุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ส.ส.กทม และ 4.นาย
เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลยและกรรมการบริหารพรรค
JJNY : 5in1 ฟาร์มไก่เนื้อขอขึ้น│สวนปาล์มหวั่นพณ.กดราคา│“หมอธีระ”วอนอย่าบิดเบือน│‘พท.’เปิด26ขุนพล│ก.ก.ขับอานุภาพพ้นพรรค
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/301137
วานนี้ (14 ก.ค. 65) กรมการค้าภายในออกมาส่งสัญญาณ ราคาไก่จะลงในเร็วๆ นี้ แต่ล่าสุด ฟาร์มไก่เนื้อ ขอยืนราคาหน้าฟาร์มไว้ที่ 41 บาทต่อไป หลังต้นทุนอาหารสัตว์ น้ำมันพุ่ง กระทบค่าขนส่งเพิ่ม 20%
นางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์ม จำเป็นต้องปรับราคาขึ้น 2 บาท จากเดือนมกราคมที่ราคา 39 บาท เป็น 41 บาทต่อกิโลกรัม ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และจำเป็นต้องยืนในราคานี้ต่อไป เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้ เนื่องจากต้นทุนการผลิตเฉลี่ยในปัจจุบันประมาณ 42-43 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นผลมาจากราคาข้าวโพดเลี้ยงสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปีนี้เกินกว่า 13 บาทต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศจากลิตรละ 30 บาท เป็นลิตรละ 35 บาท ส่งผลให้ค่าขนส่งสูงขึ้น 20% เป็นค่าใช้จ่ายที่เกษตรกรต้องแบกรับไว้ด้วย ซึ่งผู้ประกอบการในห่วงโซ่การผลิตก็ต้องรับภาระต้นทุนสูงขึ้นไม่ต่างกัน
นางฉวีวรรณ วอนให้ผู้บริโภคมั่นใจการปรับราคาเนื้อไก่เป็นตามกลไกตลาด ที่สร้างความเป็นธรรมให้กับเกษตรกร และผู้บริโภค การควบคุมราคาสินค้ามากเกินไปในภาวะวิกฤต อาจจะทำให้ผู้ประกอบการขาดทุนสูง จนไม่สามารถแบกภาระขาดทุนต่อไปได้ จนทำให้เลิกกิจการ และท้ายสุดจะกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศมากกว่าการปล่อยให้ราคาปรับขึ้นได้อย่างสมเหตุผลตามต้นทุนที่แท้จริง
ชาวสวนปาล์ม หวั่นพาณิชย์กดราคาปาล์มขวด ทำหน้าสวนตกต่ำ
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/301136
ชาวสวนปาล์ม หวั่น กระทรวงพาณิชย์กดราคาน้ำมันปาล์มขวด ทำราคาปาล์มดิบหน้าสวนตกต่ำ กระทบชาวสวนปาล์มหนัก
นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย เปิดเผยในรายการอัพสวิง เศรษฐกิจดีดี ทางแพลตฟอร์ม 3Plusnews หลังกระทรวงพาณิชย์กดราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดลดลงเหลือต่ำสุดขวดละ 62 บาท และประกาศจะปรับลดลงอีกในสัปดาห์หน้า โดยยอมรับว่า เกษตรกรชาวสวนปาล์มมีความกังวลว่า จะส่งผลให้โรงงานมากดราคารับซื้อปาล์มดิบจากเกษตรกร
ซึ่งล่าสุดวันนี้ ราคารับซื้อปาล์มเกรดเอ ลงมาอยู่ที่ 6.10 – 6.50 บาทแล้ว และยังมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก กระทบกับชาวสวนปาล์มโดยตรง โดยมองว่า หากรัฐบาลบริหารจัดการให้เหมาะสม โดยราคาน้ำมันปาล์มขวดอยู่ที่ขวดละ 65 บาท และเกษตรกรขายปาล์มดิบได้กิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 7 บาท ก็เชื่อว่าจะอยู่ได้ทุกฝ่าย ทั้งชาวสวน โรงงาน และผู้บริโภค แต่หากกระทรวงพาณิชย์จะกดราคาน้ำมันปาล์มขวดให้ลงต่ำกว่านี้อีกในสัปดาห์หน้า ก็ต้องรอดูท่าทีของชาวสวนว่าจะทำอย่างไรต่อไป โดยย้ำว่า ราคารับซื้อปาล์มทลายต้องไม่ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 7 บาท เพราะไม่เช่นนั้นเกษตรกรจะขาดทุนหนัก และไม่มีทุนในการทำสวนปาล์มต่อไป สุดท้ายผลก็จะไปตกกับผู้บริโภคอีก
อีกมุม เป็นมุมร้านโชห่วย ที่กำลังได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปาล์มขวด ที่ลดลง เพราะทำให้สต๊อกเก่าที่ซื้อไว้จำหน่าย ขายได้ยากขึ้น เนื่องจากเป็นราคาที่ซื้อไว้ในช่วงที่ราคาน้ำมันปาล์มอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้ตอนนี้ร้านต่างๆ ต้องกัดฟันเร่งขายของเก่าให้หมด เพื่อจะได้สั่งสต๊อกใหม่ที่ราคาถูกลง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะขายหมดเมื่อไหร่ เพราะช่วงนี้กำลังซื้อไม่ค่อยมี
“หมอธีระ” วอน บอกความจริง อย่าปกปิด บิดเบือน ถาม 1,795 แท้จริงแล้วเกือบ 6 หมื่นใช่หรือไม่
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3455078
“หมอธีระ” วอน บอกความจริง อย่าปกปิด บิดเบือน ถาม 1,795 แท้จริงแล้วเกือบ 6 หมื่นใช่หรือไม่
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด ว่า
“15 กรกฎาคม 2565…
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 783,526 คน ตายเพิ่ม 1,329 คน รวมแล้วติดไป 564,935,477 คน เสียชีวิตรวม 6,380,880 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และบราซิล
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 13 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 65.73 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 40.33
…สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า
จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
…BA.2.75 เป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง
Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.2.75 หรือที่มีชื่อเล่นที่นักวิชาการตั้งกันให้ว่า “Centaurus” นั้นเริ่มพบระบาดมากในอินเดียเป็นประเทศแรก จากนั้นพบในอีกหลายประเทศ แม้จำนวนในประเทศอื่นนั้นยังไม่มาก แต่ทั่วโลกต่างจับตามอง เนื่องจากมีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่ง และมีแนวโน้มที่จะมีสมรรถนะการแพร่ระบาดเร็วกว่าเดิม
ล่าสุดพบในหลายรัฐของอเมริกา เช่น แคลิฟอร์เนีย วอชิงตัน อิลลินอยส์ ฯลฯ และอีกหลายประเทศ
ไทยเราจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ให้ดี และควรป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากเปิดเสรีการใช้ชีวิตและการท่องเที่ยว เพราะอาจทำให้ระบาดทับซ้อนคล้ายกับระลอกสามเมื่อกลางปีที่แล้ว ที่เรามีทั้งอัลฟ่าต่อด้วยเดลต้า จนทำให้เกิดการติดเชื้อ ป่วย และเสียชีวิตจำนวนมาก
…ภาพรวมการได้รับวัคซีนทั่วโลก
กลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง และปานกลางระดับสูงนั้นมีสัดส่วนประชากรที่ได้รับวัคซีนครบแล้วมากกว่ากลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับต่ำและประเทศที่มีรายได้น้อย
ปรากฏการณ์เช่นนี้ ในเชิงสาธารณสุขจะแปลความว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก เพราะโรคระบาดที่แพร่ทั่วโลกอย่างโควิด-19 นั้นจะอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ดีก็ต่อเมื่อทั่วโลกสามารถเข้าถึงวัคซีนป้องกันได้โดยถ้วนทั่ว มิฉะนั้นก็ย่อมมีโอกาสเกิดการปะทุระบาดเป็นระลอกไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ในกลุ่มประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนที่มีประสิทธิภาพได้นั้น ก็อาจทำให้มีจำนวนการติดเชื้อสูง และเป็นที่มาของไวรัสที่กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่นำไปสู่การระบาดหนักได้
ดังนั้น แนวทางการใช้ชีวิตของประชากรโลกในครึ่งปีหลังของ 2565 นี้ จึงควรดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ “การใส่หน้ากาก” เป็นเรื่องที่จำเป็น เวลาออกไปตะลอนนอกบ้าน ไม่ว่าจะทำมาค้าขาย พบปะคนอื่น ศึกษาเล่าเรียน หรือดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันก็ตาม
…เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ
“การบอกความจริง” ไม่ปกปิด ไม่บิดเบือน ไม่รายงานต่ำกว่าความจริง ไม่ tone down harm and risk perception
นี่คือความรับผิดชอบในบทบาทหน้าที่ ความซื่อสัตย์ และความกล้าหาญ ของหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของทุกคนในสังคม
ในภาวะวิกฤติ ประชาชนจำเป็นต้องรู้ความจริงอย่างละเอียด เพื่อที่จะรู้เท่าทันสถานการณ์จริง และตัดสินใจประพฤติปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
การกล่าวอ้างว่า ใครๆ ก็รายงานต่ำกว่าความจริง ก็เลยทำบ้างนั้น คงเป็นแนวคิดที่ไม่มีใครปรารถนา และไม่ควรยอมรับให้เกิดขึ้น ไม่ว่าที่ใดก็ตามในโลก เพราะจะนำไปสู่”ความไม่เชื่อมือ ไม่เชื่อมั่น และไม่เชื่อใจ” ในที่สุด
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ดูจะเป็นตัวอย่างที่ดี ที่หน่วยงานของเขาเผยแพร่ข้อมูลให้แก่ประชาชนในประเทศด้วยความจริงใจ ย่อมแสดงถึงการให้ความสำคัญกับชีวิตของทุกคนในสังคม
อย่างไรก็ตามหลังโพสต์ดังกล่าวแล้ว ต่อมา นพ.ธีระ โพสต์อีกว่า
เช้านี้รายการข่าวมีแต่เรื่องหดหู่เกี่ยวกับโควิด…คนเสียชีวิตที่บ้านหลายรายคนติดเชื้อเข้าถึงบริการตรวจรักษาได้อย่างยากลำบากปัญหาการเข้าถึงยาต้านไวรัสแต่…ตัวเลขแต่ละวันสวยหรูวังวนเดิม…
และล่าสุดโพสต์ตบท้ายว่า
1,795 –> คาดประมาณ 59,834
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid0quAe6rvDGFaUte2DUAEbFoB12ZBvhWoC2yRSTbncnf5xErjTHDbQkJqGiZf51bdNl
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02mC97cyBUuiVCoy6BmgEJKXe25q3ate6VdxFnhifPG3B3Ueu5BeXhBSR1DHbCxdVhl
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02NyF3m5oLHuUctePZogZaXVthrXw5YbCNhukJnaGv8awvpC7PtCcitwTcXDZ2mgxcl
'เพื่อไทย' เปิด 26 ขุนพล พร้อมเด็ดหัว สอยนั่งร้าน '3 ป.-8 รมต.' แย้ม 4 ส.ส.ร่วมอภิปรายหนแรก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3455319
‘เพื่อไทย’ เปิด 26 ขุนพล ร่วมเด็ดหัว สอยนั่งร้าน ‘3 ป.-8 รมต.’
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้วางขุนพล 26 คน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีคนอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 11 คน ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19-22 กรกฎาคมนี้ เวลา 08.30-00.30 น. ภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” นำโดย 1.นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค 2.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค 3.นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรค 4.นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี 5.นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ 6.นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่และรองเลขาธิการพรรค 7.นายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น 8.น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ดและกรรมการบริหารพรรค 9.นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. 10.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่และรองหัวหน้าพรรค
11.นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู 12.น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรค 13.นายพัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร 14.นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนมและรองเลขาธิการพรรค 15.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรค 16.นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย 17.นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา 18.นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. 19.นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย 20.นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี 21.นายสุรวิทย์ คงสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ และ 22.นางอนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร
ขณะที่ ส.ส.ที่จะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นครั้งแรก ได้แก่ 1.น.ส.สกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร 2.น.ส.สรัสนันท์ อรรนพพร ส.ส.ขอนแก่น 3.นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ส.ส.กทม และ 4.นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลยและกรรมการบริหารพรรค