'พงศกร-ประภัสร์' เท'หญิงหน่อย' หวนกลับพท. เผยชาวบ้านขอให้มาช่วยแลนด์สไลด์
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7151894
 
 
‘พงศกร-ประภัสร์’ เท ‘หญิงหน่อย’ หวนกลับเพื่อไทย เผยชาวบ้านขอให้มาช่วยแลนด์สไลด์ ประชาชนต้องการให้มา นี่คือความในใจที่อยากทำเพื่อประชาชน
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ก.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพท. นายณัฐวุติ ใสยเกื้อ  ผอ.ครอบครัวพท. และน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค พท. ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวนายพงศกร อรรณนพพร อดีตประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) และนายประภัสร์ จงสงวน อดีต ผอ.เลือกตั้งกรุงเทพฯ พรรคไทยสร้างไทย กลับเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของพรรค พท.อีกครั้ง
 
ทั้งนี้ นพ.ชลน่านได้สวมเสื้อพรรคพท.ให้นายพงศกรและนายประภัสร์ เพื่อต้อนรับการเป็นสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ
   
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในนามของพรรคพท. เราจะใช้คำว่าต้อนรับก็ได้ แต่น้อยไปสำหรับวันนี้ เพราะบุคลากรทั้งสองเป็นเหมือนเลือดเนื้อเชื้อไขของพรรค พท. เชื่อมั่นว่าประชาชน โดยเฉพาะที่จ.ขอนแก่น เหมือนยกภูเขาออกจากอก เชื่อว่านายพงศกรจะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยให้การทำงานของพรรค พท.แลนด์สไลด์ที่ จ.ขอนแก่นเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งไม่ว่าจะหารอะไรหัวใจของพวกเราก็จะมุ่งมั่นทำให้ประชาชนได้ และเชื่อว่าประชาชนจะช่วยกันทำให้เกิดแลนดสไลด์ได้ วันนี้เป็นสัญญาณไปถึงผู้มีอำนาจ ไม่ว่าท่านจะคิดสูตรอย่าไร พรรค พท.ไม่เคยหวั่น เรามีความพร้อม โดยเฉพาะการคิดสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์หารด้วย 500 กลับยิ่งทำให้เรามีความฮึกเหิม และยิ่งอยากจะทำให้เกิดแลนด์สไลด์ให้ได้
  
ด้านนายพงศกร กล่าวว่า ขอบคุณที่ทุกคนให้การต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่น ตนจะตั้งใจทำงานให้พรรคพท.อย่างดีที่สุด เรายืดมั่นองค์กรเป็นหลัก ถามว่าทำไมต้องออกจากพรรคพท. และทำไมกลับมาอีกครั้ง ขอเรียนว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ที่บิดเบี้ยว สืบทอดอำนาจ ตนจึงออกไปช่วยตั้งพรรค ประกอบกับขณะนี้ประชาชนอยากให้กลับมาช่วยพรรค พท.ให้แลนด์สไลด์ทั้งประเทศ หลังจากที่หัวหน้าครอบครัว พท.ได้เดินสายไปยังอีสาน และบอกว่าความสุขของประชาชนจะกลับมาหากเลือกพท.ให้กลับมาแลนด์สไลด์ หลังจากนั้นตนได้ออกไปพบประชาชนในพื้นที่ ส่วนใหญ่บอกให้กลับมาช่วยกันทำให้ พท.เกิดแลนด์สไลด์ ประชาชนต้องการให้มา เราก็ปฏิเสธไม่ได้ นี่คือความในใจที่อยากทำเพื่อประชาชน
 

---

เงินบาทเปิด อ่อนค่า 36.11 บาท หลังรับแรงกดดันดอลลาร์แข็ง-หวั่นจีนล็อกดาวน์ประเทศ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3442197

 เงินบาทเปิดอ่อนค่าวันนี้ 36.11 บาท หลังรับแรงกดดันดอลลาร์แข็ง-หวั่นจีนล็อกดาวน์ประเทศ
 
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.08 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.11 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.00-36.20 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
 
นายพูนกล่าวว่า สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทยังผันผวนและมีความเสี่ยงอ่อนค่าได้ ท่ามกลางปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐ รวมถึงความกังวลแนวโน้มทางการจีนอาจใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดโควิด โดยประเมินแนวรับเงินบาทระยะสั้นอยู่ช่วง 35.90-36.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่วนแนวต้านสำคัญยังเป็นโซน 36.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มีโอกาสอ่อนค่าทดสอบแนวต้าน หากทางการจีนใช้มาตรการล็อกดาวน์จริง จนเกิดแรงเทขายสินทรัพย์ฝั่ง EM Asia อย่างไรก็ตาม จุดกลับตัวของเงินเหรียญสหรัฐอาจเกิดขึ้นในช่วงการประชุมเฟดปลายเดือนนี้ หากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง ทำให้ยังมีโอกาสที่เงินบาทจะเริ่มกลับตัวมาแข็งค่าได้
 
ดังนั้นควรระวังความผันผวนในตลาดการเงินช่วงก่อนและหลังตลาดรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ เนื่องจากข้อมูลเป็นหนึ่งปัจจัยที่เฟดใช้ประกอบการตัดสินใจนโยบายการเงิน ส่วนมุมมองของผู้เล่นในตลาดอาจกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น และกลับมาปิดรับความเสี่ยง หากข้อมูลออกมาแย่กว่าคาดไปมาก
 
แม้ตลาดการเงินโดยรวมถูกกดดันจากความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจหลักอย่างสหรัฐ และยุโรป อาจชะลอตัวจนเข้าสู่สภาวะถดถอย แต่ฝั่งตลาดการเงินสหรัฐ ผู้เล่นในตลาดเริ่มประเมินว่าหากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อชะลอลง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจไม่จำเป็นเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง สอดคล้องกับมุมมองของตลาดผ่าน CME FedWatch Tool ที่มองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยถึงจุดสูงสุดที่ 3.50% ในปีนี้ ก่อนที่จะเริ่มลดดอกเบี้ยลงในช่วงกลางปีหน้า
 
“มุมมองดังกล่าวทำให้ผู้เล่นเดินหน้ากลับเข้ามาซื้อหุ้นเทคฯใหญ่ (Buy on Dip) อาทิ Alphabet (Google) 3.7%, Apple 2.4% กอปรกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ และ WTI ได้รีบาวด์ขึ้นสู่ระดับ 104.2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และ 102.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลตามลำดับ หลัง EIA สหรัฐรายงานสต๊อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์หนุนให้หุ้นกลุ่มพลังงานกลับมาปรับตัวขึ้น ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นถึง 1.50%” นายพูนกล่าว
 
กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets) ระบุว่า ค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.00-36.20 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยเงินบาทอ่อนค่าสูงสุดเมื่อวานนี้ แต่ปิดตลาดแข็งค่ากลับลงมาสอดคล้องกับทิศทางดัชนีเงินเหรียญสหรัฐ เนื่องจากตลาดรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิถุนายน คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 268,000 ตำแหน่ง ลดลงจากเดือนก่อน 390,000 ตำแหน่ง ขณะที่ค่าเงินปอนด์ปรับแข็งค่าขึ้นเทียบกับค่าเงินเหรียญสหรัฐ หลังจากนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากการลาออกของรัฐมนตรี ทำให้ขาดเสียงสนับสนุน ขณะเดียวกันทางการจีนอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ราว 220 พันล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากเผชิญความเสี่ยงอย่างหนักจากการล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา

---

  
เปิดประวัติ ชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3442198
 
เปิดประวัติ ชินโสะ อาเบะ นายกญี่ปุ่นผู้ครองเก้าอี้นานที่สุดในประวัติศาสตร์
 
กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกเมื่อมีรายงานข่าวว่านายชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นวัย 67 ปีถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างการหาเสียงเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา
 
คลิกอ่าน ด่วน! สื่อญี่ปุ่นรายงาน ‘อาเบะ’ อดีตนายกฯ ถูกลอบยิง ขณะกล่าวสุนทรพจน์ที่นารา
 
สำหรับนายชินโสะ อาเบะ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยล่าสุดระหว่างปี 2012-2020 ทำสถิติเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยระยะเวลาดำรงตำแหน่งยาวนานมากกว่า 7 ปี
 
อย่างไรก็ตาม นายอาเบะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเมื่อปี 2020 ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ส่งไม้ต่อให้ตัวแทนจากพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตย (แอลดีพี) อย่างนายโยชิฮิเดะ ซูงะ และล่าสุดนายฟูมิโอะ คิชิดะ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแทนจนถึงปัจจุบัน
 
ในเวลานั้น นายอาเบะด้วยวัย 65 ปี ต้องออกมาแถลงลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากอาการป่วยลำไส้อักเสบที่กลับมากำเริบอีกครั้ง หลังจากอาการเดียวกันนั้นทำให้นายอาเบะต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2006-2007
 
อาเบะเคยสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยวัยเพียง 52 ปี ในการดำรงตำแหน่งครั้งแรกเมื่อปี 2006 ในเวลานั้นอาเบะกลายเป็นสัญลักษณ์ของ “การเปลี่ยนแปลงและคนรุ่นใหม่”
 
แต่อาเบะเองก็เป็นนักการเมืองรุ่นที่ 3 ในครอบครัวนักการเมืองชนชั้นสูงของสังคมญี่ปุ่นที่เกิดมาพร้อมกับแนวคิดอนุรักษนิยมเช่นกัน
 
การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัยแรกเต็มไปด้วยความปั่นป่วนวุ่นวาย ทั้งเรื่องอื้อฉาวและความขัดแย้งทางการเมือง ปิดท้ายด้วยการลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลทางสุขภาพ ทำให้อาเบะกลายเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นหลายต่อหลายคนที่อยู่ในตำแหน่งได้ไม่นานนัก
 
อาเบะกลับมานั่งเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในปี 2012 หลังจากเข้ารับการรักษาตัวด้วยยาตัวใหม่ที่ทำให้อาการป่วยดีขึ้น
 
อาเบะเข้าสู่ตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวหลังเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มในปี 2011 รวมไปถึงวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูคุชิมา พร้อมๆ กับแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่เรียกว่า “อาเบะโนมิกส์”
 
อาเบะเพิ่มงบการใช้จ่ายของรัฐบาล การผ่อนคลายมาตรการทางการเงิน และลดขั้นตอนในระบบราชการลง นอกจากนี้ ยังพยายามกระตุ้นอัตราการเกิดของประชากรด้วยนโยบายทำให้บรรยากาศในที่ทำงานเอื้อกับการมีทายาท โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่
 
นอกจากนี้ ยังผลักดันให้มีการขึ้น “ภาษีการบริโภค” เพื่อนำงบประมาณไปสนับสนุนนโยบายโรงเรียนอนุบาลเรียนฟรี รวมไปถึงอุดหนุนระบบประกันสังคมที่กำลังอยู่ในสภาวะงบประมาณตึงตัว
 
ความสำเร็จในการบริหารงานของอาเบะมีอยู่หลายด้านไม่ว่าจะด้านความมั่นคง ในการตั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติของญี่ปุ่นขึ้นในปี 2013 ซึ่งนำไปสู่การออกกฎหมายเพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถร่วมปฏิบัติการด้านความมั่นคงกับชาติพันธมิตรในต่างประเทศได้
 
นับเป็นหนึ่งในความพยายามในการปลดล็อกให้ญี่ปุ่นสามารถดำเนินการทางการทหารได้มากกว่าการมีกองกำลังป้องกันตนเอง ตามรัฐธรรมนูญที่สหรัฐอเมริการ่างไว้หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
 
นอกจากนี้ ยังมีความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสามารถนำญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงสงครามการค้ากับสหรัฐ และสามารถทำข้อตกลงทางการค้าสำคัญๆ กับสหภาพยุโรป รวมถึงกับจีนได้
 
ขณะที่อาเบะเองได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้มีส่วนสำคัญทำให้ญี่ปุ่นคว้าสิทธิการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ในปี 2020 การแข่งขันที่เลื่อนมาแข่งในปี 2021 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วย
 
อย่างไรก็ตาม อาเบะเองก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายเรื่อง ทั้งการขึ้นภาษีการบริโภคจาก 8% เป็น 10% ในปี 2019 ปัญหาเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต รวมไปถึงการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ล่าช้า รวมถึงความผิดหวังของประชาชนจากการต้องเลื่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงโตเกียว ในปี 2020 ออกไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
 
ความไม่พอใจดังกล่าวส่งผลให้คะแนนนิยมในตัวนายอาเบะตกต่ำลงมากที่สุดนับตั้งแต่เข้าสู่ตำแหน่งในปี 2012 เมื่อบวกกับปัญหาสุขภาพแล้วทำให้ไม่เป็นที่น่าประหลาดใจนักเมื่อนายอาเบะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง
 
หลังจากลาออก นายอาเบะยังคงมีบทบาทสำคัญในพรรคแอลดีพีโดยเป็นผู้กุมเสียงกลุ่มสำคัญในพรรคเอาไว้ ขณะที่นายคิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเลือกที่จะเน้นไปที่การลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิก ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ โดยสื่อมองว่า เป็นความพยายามเพื่อหลีกให้พ้นจากเงาอิทธิพลของนายอาเบะภายในพรรคแอลดีพีเอง