แชร์เรื่องการสร้างความมั่นใจของนักกีฬา

กระทู้สนทนา
บังเอิญผ่านตาทวิตแอคหนึ่ง มี Jordan Larson ตาม ก็เลยเข้าไปอ่าน ไม่รู้มีใครเขียนถึงหรือยัง
แต่คิดว่ามีประโยชน์ก็เลยอยากเอามาแชร์กันในนี้
บางเรื่องหลายคนคงรู้แล้ว นักกีฬา/ทีมงานก็คงเข้าใจพอสมควร แต่สำหรับหลายคน หรือมือใหม่ อาจนำไปใช้พัฒนาตัวเองได้ค่ะ

เครดิตคือ @NeuroFuelMT ค่ะ
ชื่อแอคเต็มคือ NeuroFuel Mental Training มีจิตแพทย์ท่านหนึ่งชื่อว่า Larry Widman คอยดูแลเนื้อหา
ส่วน Jordan Larson น่าจะให้การสนับสนุน เพราะขึ้นชื่อใน Bio ไว้

เนื้อหาโดยรวมของแอคนี้ ว่าด้วยเรื่องการฝึกฝนด้านจิตใจของนักกีฬา
ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว เค้าคิดว่า "ความมั่นใจ" เป็นสิ่งที่ฝึกกันได้เหมือนกล้ามเนื้อ ยิ่งฝึกก็ยิ่งแข็งแรงมีพลัง
สำหรับนักกีฬา นอกจากฝีมือและสภาพร่างกายแล้ว สิ่งที่ต้องดูแลมากที่สุดก็คือเรื่องจิตใจ เขาก็เลยทำแอคนี้ขึ้นมา ทั้งแชร์ประสบการณ์ของนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ และ อธิบายทางด้านเทคนิคในการจัดการกับสภาพจิตใจของนักกีฬา

ตัวอย่างเนื้อหาที่น่าสนใจนะคะ

เรื่องการพูดคุยกับตัวเอง
เค้าบอกไว้ว่า ทั่วไปๆ คนเราจะคุย/บอกกับตัวเองเยอะ มันเป็นสิ่งสำคัญ
โดยเฉพาะคำพูดที่เราพูดคุยกับตัวเอง (ส่วนตัวเราคิดว่า มันคือจังหวะที่เราคิดในใจ โดยเฉพาะในสนามแข่ง)
เค้าเชื่อว่าการคุยกับตัวเองในแง่บวก สร้างพลังบวกให้เรามีความมั่นใจได้มากขึ้นและกังวล/กลัวน้อยลง
การจะพูดกับตัวเองในแง่บวกได้ ต้องเริ่มจากการเข้าใจว่า ถ้าเราพูดในแง่ลบมันสร้างปัญหาให้เรา
แล้วเราต้องรู้ว่าอะไรคือการพูดในแง่ลบกับตัวเอง จากนั้นก็ปรับเปลี่ยนเป็นพูดในแง่บวก ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้ เราต้องมองในแง่บวกเข้าไว้

ในชั่วขณะที่กดดันมากๆ/ หลังจากที่ทำอะไรพลาดในเกมส์ เขาแนะนำให้เราปรับโฟกัสในหัวทันที ให้บอกตัวเองในใจด้วยวลี เช่น

"Nobody is more prepared than I am" อารมณ์ "เห้ยเอาโว้ยยยย มา!  KU ซ้อมหนักกว่าใครละ มาเลยยยยย มา!"
"This is an opportunity I'm excited for" ก็น่าจะประมาณ "วันนี้แหละมา! มาเลยรอมานานละ"
"I've earn the right to bยิ้ม. I've got this!"--> "นี่แหละที่ที่ KU ควรได้ยืน แล้วKU ก็ทำได้โว้ยยย!"

ส่วนท่าทางที่แนะนำให้ทำในสถานการณ์แบบนี้คือ (เราแปลไม่ได้ รบกวนท่านที่เล่นวอลเลย์บอล ช่วยอธิบายให้ด้วยค่ะ)
"Elbow High."
"Feet first. Track and hold."
"Hold finish"

การสูดลมหายใจลึกๆ อย่างตั้งใจ
การตั้งใจสูดลมให้เต็มปอดช้าๆ เป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบประสาท เพราะช่วยทำให้อารมณ์และร่างกายเราสงบลงในช่วงที่กดดัน
มีผลให้เรามีการควบคุมและโฟกัสดีขึ้นในสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
วิธีการคือ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ 3 ครั้ง สูดเข้าทางจมูก จนนับถึง 4 แล้วปล่อยออกทางปาก จนนับถึง 6

หมอบอกว่า การฝึกเรื่องกำหนดลมหายใจช่วยทำให้นักกีฬาชั้นนำนิ่งขึ้น ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

การสื่อสารรระหว่างกันในทีม ในจังหวะที่ผิดพลาด
ตัวอย่างเช่น เมื่อตัวตีทำพลาด ตัวเซตมักจะช่วยปลอบโดยบอกว่า ขอโทษเป็นความผิดเราเอง แต่ในนี้แนะนำว่า...
สิ่งที่คนทำพลาดในจุดนั้นควรได้ฟังคือ "เดี๋ยวฉันเข้ามารองบอลเอง เอาใหม่"
(ส่วนตัวคิดว่า มันให้ความรู้สึกก้าวข้ามความหงุดหงิด ผิดหวังได้ไว มีโฟกัสกับเกมตรงหน้าได้ไวขึ้น ไม่เสียเวลา แล้วคนจะตีอีกรอบก็อุ่นใจ มั่นใจ ไม่โดดเดี่ยว)

ภาษากายคือสิ่งสำคัญ
คำอธิบายก็คือ ภาษากายมีบทบาทหลักในการทำให้เรารู้สึกอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะรู้สึกพร้อม kill และหน้าหล่า
ภาษาร่างกายมีผลต่อความคิด
ความคิดทำให้เรามีความรู้สึก
ความรู้สึกนั้นๆ นำไปสู่พฤติกรรมบางอย่าง
และ พฤติกรรมทำให้เกิดผลที่ตามมา

ข้อแนะนำในเรื่องนี้ก็คือ เพื่อให้เรารู้สึกมั่นใจขึ้น เราต้อง act ในแบบที่เราอยากจะรู้สึก
คือในจังหวะที่เราเริ่มไม่มั่นใจ เราอยากมั่นใจขึ้น เราต้องฮึดทำท่าทีแสดงออกมาเลยว่ามั่นใจ
เพื่อให้กระบวนการร่างกายมันนำความรู้สึกเราไปในทิศทางนั้น

ภาษาร่างกายที่มั่นใจ อาทิ
- เดินอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ (ก้าวเท้ายาวๆ กระฉับกระเฉง กระตือรือร้นมีพลัง)
- ยืนอกผายไหล่ผึ่ง ศรีษะตั้งตรง
- ควบคุมการแสดงออกบนใบหน้า ด้วยการ ยิ้ม!
- เชิดหน้า ตามองตรง

เขาว่าจัดระเบียบร่างกายแบบนี้ เดี๋ยวความรู้สึกมั่นใจมันจะวิ่งตามมาค่ะ

เรื่องความกดดัน
เขาเชื่อว่าไม่ใช่ว่าความกดดันทุกอย่างมันไม่ดี และไม่คิดว่า การแข็งขันที่ได้ผลดีต้องทำให้เรารู้สึกไร้แรงกดดัน
แต่มองว่าแรงกดดันเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่เราไปยืนในจุดที่สูงขึ้น
เอาดีๆ มันคือการจัดการกับแรงกดดันที่เกิดขึ้น พลิกความรู้สึกวิกฤติให้เป็นโอกาสทางความรู้สึก

แทนที่จะมองว่า "แรงกดดันจะทำให้เราล้มเหลว" แต่เราต้องอยู่เหนือมัน โดยคิดให้ได้ว่า แรงกดดันมันเป็นเรื่องอภิสิทธิ์นะ
(ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสอยู่ในสถานการณ์แบบนี้)
คือ ต้องเชื่อให้ได้ว่า "ที่เรายืนกดดันอยู่จุดนี้ได้ นั่นเพราะเรามาได้ไกลมาก มันเป็นจุดที่เราผ่านอะไรมาตั้งเยอะเพื่อมายืนแบบนี้ แล้วเราจะไปได้ไกลกว่านี้อีก"

ความสม่ำเสมอ
ในนี้อ้างอิงถึง Courtney Thompson ที่บอกว่า
"ความยิ่งใหญ่ สำหรับเธอ อยู่ที่เรื่องความสม่ำเสมอและวิธีการจัดการเรื่องวันต่อวัน
ความยิ่งใหญ่ไม่ใช่โมเมนต์ที่เรารุ่งเรืองอยู่ แต่มันเป็นเรื่องของการเดินเข้ายิมไปซ้อมให้ได้ทุกวัน ไม่ว่าเราจะเก่งแล้วหรือเรากำลังเก่งขึ้น เพราะไม่ว่าจะได้แชมป์โลกหรือตกรอบ ล้วนต้องทำแบบนี้ นี่แหละคือสิ่งที่พิเศษมากๆ ที่ต้องทำ" (ก็คือซ้อมทุกวันสม่ำเสมอ)

นอกจากเรื่องพวกนี้ ยังมีเรื่องที่เป็นประโยชน์อีกหลายเรื่องสำหรับการเป็นนักกีฬา เช่น การรับมือกับการบาดเจ็บ การทบทวนสถานการณ์ของตัวเอง ฯลฯ ส่วนใหญ่คือการให้คำแนะนำเชิงเทคนิคในการคิดดีลกับสิ่งหนักๆ ที่เผชิญตรงหน้าให้ได้ในแง่บวก สร้าง positive mindset 

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนอ่านค่ะ หรือถ้าใครสนใจลองตามแอคดูนะคะ มีชุมชนโค้ชวอลเลย์บอลในนั้นพอควร

ปล
ถ้าโค้ชดนัยผ่านมาโพสต์นี้ จังหวะเริ่มหน้าหล่า ตะโกนบอกเด็กๆ ได้นะคะว่า เชิดไว้ ยิ้มกันหน่อยโว้ย แล้วเดี๋ยวเรายิงรัวๆ กันเลย!!!
มั่นไว้อย่างที่โค้ชพันทิปบอกนี่แหละค่ะ สำคัญจริง เอาใจช่วยทั้งทีมนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่