เหตุผลที่คุณไม่ควรซื้อคอนโด / หมู่บ้านจัดสรร เพราะสุดท้ายล้วนหนีไม่พ้น "สลัมลอยฟ้า" ขึ้นอยู่กับช้าหรือเร็ว
- ระยะแรกทุกอย่างจะดูเพอร์เฟกต์ไปหมด เพลิดเพลินกับทำเลที่เลือกซื้อ ชมวิวริมระเบียง สนุกสนานกับการแต่งห้อง
- นิติบุคคลดี แม่บ้านดี รปภ.ดี คนสวนดี ล้วนเป็นต้นทุนที่สูงขึ้นตามลำดับ บางที่จัดเก็บส่วนกลางได้ 14 ล้าน เจอรายจ่ายประจำเป็นค่าจ้างพวกนี้ไปแล้ว 10 ล้าน
- เวลาผ่านไป ตึกยิ่งอายุเยอะ ค่าบำรุงยิ่งสูงตาม โดยเฉพาะการซ่อมบำรุงลิฟต์ และค่าเบี้ยประกันอาคาร
- เงินไม่พอก็ต้องขึ้นค่าส่วนกลาง ฟังดูเหมือนง่าย แต่ไม่ง่าย เพราะต้องอาศัยฉันทามติลูกบ้านเกินครึ่ง 50% ซึ่งโอกาสจะมีลูกบ้านมาประชุมหรือมอบฉันทะได้ถึง 50% โคตรยาก เลยถูกตีตกเป็นส่วนใหญ่เกือบทุกคอนโด
- นำพามาสู่การจัดเก็บรายได้ตามมาตรา 40 (3) รายหัวข้อ เช่น ค่าซ่อมบำรุงลิฟต์ ค่าเบี้ยอาคาร ตามที่ว่าไป แต่หลายคนก็เลือกที่จะไม่จ่าย
- หลายคนบอกมีวิธีดัดหลัง แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เช่น ล็อกคีย์การ์ดสิ แบบนี้ทำไม่ได้ ผิดกฎหมายเต็มๆ
- สุดท้ายวันนึง คนจ่ายน้อยกว่าคนไม่จ่าย ก็อาจเจอสภาพ ขยะเต็มทางเดินเพราะไม่มีแม่บ้าน หรือมีน้อยลง ลิฟต์ที่เคยมี 10 ตัวก็อาจเปิดใช้แค่ 4 ตัว จ้างรปภ.ถูกๆ หลับในเวลางาน เพื่อลดรายจ่ายให้สอดคล้องกับรายรับ ถึงเวลานั้นลูกบ้านก็จะโวยอีก อะไรวะ คอนโดหรือสลัมลอยฟ้า (หลายที่เจอแบบนี้แล้ว)
- คำแนะนำ อย่าไปยี้โครงการที่ตั้งราคาส่วนกลางไว้สูงๆ เพราะจะทำให้คุณอยู่ได้สุขสบายไปหลายสิบปี ตอนแรกเคยแซวโครงการนึง ไม่ได้หรูมากด้วย แต่ค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 58 บาท อะไรวะเนี่ย แพงกว่าที่ผมอยู่ตั้ง 20 บาท ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับ ผมขอโทษ จ่ายไปเถอะ ชีวิตมีความสุขแน่นอน
- หมู่บ้านจัดสรรก็คล้ายกัน หนักกว่าคอนโดอีกตรงที่ว่า ถ้าคอนโดไม่จ่ายค่าส่วนกลาง จะออกใบปลอดหนี้ไม่ได้ ขายห้องไม่ได้ แต่บ้านจัดสรรขายได้เลย นิติบุคคล ต้องไปไล่ฟ้องเอาเสียทั้งเวลาและการดำเนินคดี
- ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่หลายหมู่บ้านเก่าแก่หลายสิบปี อยู่ไปนานๆ หลายแห่งจะเริ่มโทรมลง บางโครงการถึงกับไม่มี รปภ. หรือมีอยู่แค่ 1-2 คน
- อยากมีบ้านจริงๆ ต้องซื้อที่ดินปลูกบ้านเอง แบบนี้จะลดปัญหาน่าปวดหัวได้เยอะ จ่ายค่าขยะให้ กทม.อย่างเดียวพอ ส่วนใครกลัวขโมยก็ปลูกบ้านสไตล์ลอฟต์ๆ ที่ด้านหน้าปิดมิดให้หมด เหลือเข้าออกแค่ประตูใหญ่ 1 บาน แล้วไปเน้นโปร่งกลางบ้านแทน แบบนี้น่าจะดี
จริงไหมที่ทุกคอนโด หนีไม่พ้นสลัมลอยฟ้า ขึ้นอยู่กับช้าหรือเร็ว
- ระยะแรกทุกอย่างจะดูเพอร์เฟกต์ไปหมด เพลิดเพลินกับทำเลที่เลือกซื้อ ชมวิวริมระเบียง สนุกสนานกับการแต่งห้อง
- นิติบุคคลดี แม่บ้านดี รปภ.ดี คนสวนดี ล้วนเป็นต้นทุนที่สูงขึ้นตามลำดับ บางที่จัดเก็บส่วนกลางได้ 14 ล้าน เจอรายจ่ายประจำเป็นค่าจ้างพวกนี้ไปแล้ว 10 ล้าน
- เวลาผ่านไป ตึกยิ่งอายุเยอะ ค่าบำรุงยิ่งสูงตาม โดยเฉพาะการซ่อมบำรุงลิฟต์ และค่าเบี้ยประกันอาคาร
- เงินไม่พอก็ต้องขึ้นค่าส่วนกลาง ฟังดูเหมือนง่าย แต่ไม่ง่าย เพราะต้องอาศัยฉันทามติลูกบ้านเกินครึ่ง 50% ซึ่งโอกาสจะมีลูกบ้านมาประชุมหรือมอบฉันทะได้ถึง 50% โคตรยาก เลยถูกตีตกเป็นส่วนใหญ่เกือบทุกคอนโด
- นำพามาสู่การจัดเก็บรายได้ตามมาตรา 40 (3) รายหัวข้อ เช่น ค่าซ่อมบำรุงลิฟต์ ค่าเบี้ยอาคาร ตามที่ว่าไป แต่หลายคนก็เลือกที่จะไม่จ่าย
- หลายคนบอกมีวิธีดัดหลัง แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เช่น ล็อกคีย์การ์ดสิ แบบนี้ทำไม่ได้ ผิดกฎหมายเต็มๆ
- สุดท้ายวันนึง คนจ่ายน้อยกว่าคนไม่จ่าย ก็อาจเจอสภาพ ขยะเต็มทางเดินเพราะไม่มีแม่บ้าน หรือมีน้อยลง ลิฟต์ที่เคยมี 10 ตัวก็อาจเปิดใช้แค่ 4 ตัว จ้างรปภ.ถูกๆ หลับในเวลางาน เพื่อลดรายจ่ายให้สอดคล้องกับรายรับ ถึงเวลานั้นลูกบ้านก็จะโวยอีก อะไรวะ คอนโดหรือสลัมลอยฟ้า (หลายที่เจอแบบนี้แล้ว)
- คำแนะนำ อย่าไปยี้โครงการที่ตั้งราคาส่วนกลางไว้สูงๆ เพราะจะทำให้คุณอยู่ได้สุขสบายไปหลายสิบปี ตอนแรกเคยแซวโครงการนึง ไม่ได้หรูมากด้วย แต่ค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 58 บาท อะไรวะเนี่ย แพงกว่าที่ผมอยู่ตั้ง 20 บาท ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับ ผมขอโทษ จ่ายไปเถอะ ชีวิตมีความสุขแน่นอน
- หมู่บ้านจัดสรรก็คล้ายกัน หนักกว่าคอนโดอีกตรงที่ว่า ถ้าคอนโดไม่จ่ายค่าส่วนกลาง จะออกใบปลอดหนี้ไม่ได้ ขายห้องไม่ได้ แต่บ้านจัดสรรขายได้เลย นิติบุคคล ต้องไปไล่ฟ้องเอาเสียทั้งเวลาและการดำเนินคดี
- ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่หลายหมู่บ้านเก่าแก่หลายสิบปี อยู่ไปนานๆ หลายแห่งจะเริ่มโทรมลง บางโครงการถึงกับไม่มี รปภ. หรือมีอยู่แค่ 1-2 คน
- อยากมีบ้านจริงๆ ต้องซื้อที่ดินปลูกบ้านเอง แบบนี้จะลดปัญหาน่าปวดหัวได้เยอะ จ่ายค่าขยะให้ กทม.อย่างเดียวพอ ส่วนใครกลัวขโมยก็ปลูกบ้านสไตล์ลอฟต์ๆ ที่ด้านหน้าปิดมิดให้หมด เหลือเข้าออกแค่ประตูใหญ่ 1 บาน แล้วไปเน้นโปร่งกลางบ้านแทน แบบนี้น่าจะดี