เสียใจลูกตัดขาด

สวัสดีค่ะ ทุกคน เราเป็นคุนแม่ที่เรียกว่าใจแตกมีลูกตั้งแต่เด็กก็ว่าได้ เรามีน้องตอนอายุ17 ปัจจุบันเราอายุ42 มีลุกคนเดียวและไม่คิดจะมีเพิ่ม ตอนที่เรามีน้องเราให้คุณแม่เราเลี้ยงตั้งแต่เด็กอยู่ ตจว.  ฐานะทางบ้านเราไม่ดีถึงขั้นจะจนเลยก็ว่าได้ พอเราคลอดเราคิดอย่างเดียวเราจะทำยังไง ถึงจะหาเงินมาส่งเสียลุกดูแลเขาส่งให้แม่เป็นค่าเลี้ยงดู การศึกษาเราก็ไม่มีหาทำงานไปเรื่อย เรื่องเงินเราหาส่งเสียไม่เคยขาดตกบกพร่อง ปิดเทอมเรารับมาอยู่ด้วยตลอด เรามีสามีใหม่ อยู่กับสามีใหม่มา 13ปีแล้ว สามีใหม่ส่งเสียดูแลเรากับลูกเป็นอย่างดี และลูกก็ดูยอมรับในตัวพ่อเลี้ยงเพราะเขาเป็นคนดีใจดี ลูกจะดีกับพ่อเลี้ยงมากกว่าแม่ด้วยซ้ำทั้งพฤติกรรมและคำพูดเพราะเวลาลุกอยากได้อะไรสามีเราไม่เคยขัดซื้อให้ตลอด  พอคำว่าครอบครัวเริ่มมั่นคง ลูกเริ่มเข้ามหาลัย เราไปรับลุกมาอยู่ด้วย สิ่งที่ประสบพบเจอคือ ลูกต่อต้านเราหนักมาก คือเข้ากันไม่ได้เลย พุดกันสามคำจ้องทะเลาะกันตลอด ลุกจะดีกับทุกคนในครอบครัวยกเว้นเราทุกๆวันแม่ลุกไม่เคยเอามาลัยมาไหว้เราเลย แต่ทุกๆวันพ่อ ลุกจะเอามาไหว้พ่อเลี้ยงเขาตลอดแล้วมองเราเป็นเหมือนอากาส แรกๆเราเข้าใจว่า เราคงทิ้งลุกนานเกินไป พยายามให้เวลาเขา ยอมเขา ปรับความเข้าใจเข้าหาเขา ให้เขาได้เท่าที่จะให้ได้เพื่อชดเชย  สถานการเหมือนจะดีขึ้น แต่พอลูกเริ่มมีแฟนมีสังคมเพื่อนมหาลัย ลูกเปลี่ยนไปสิ้นเชิง เปลี่ยนไปจนเราตั้งตัวไม่ทัน  ลูกมองเราเหมือนคนแปลกหน้า ลุกเอาครอบครัวเพื่อนมาเปรียบแม่ตัวเอง อะไรที่เพื่อนได้จากพ่อแม่ลูกมักมาระเบิดอารมกับเราเสมอว่าเราให้อะไรที่เขาขอไม่ได้ เช่น เงิน+ข้าวของแพงๆ ซึ่งบางอย่างเราให้ไม่ได้ด้วยเศรษกิจการเงินที่มันเกินตัว   ลุกจะทำพฤติกรรมทำเฉยชาก้าวร้าว ไม่ฟังดื้อเงียบใส่ ขังตัวเองในห้อง แต่โชคดีของเราคือลุกไม่เกเรเลย ตั้งใจเรียนจนจบโดยที่ไม่หนักใจเรื่องเรียนเลย  พอจบ สักพักลุกทำงานแล้วย้ายไปอยู่กับแฟน เราให้อิสระเค้าทุกอย่างไม่ห้าม แต่กลายเป็นจุดเปลี่ยนตรงนี้ทำให้ลูกออกจากเราไปสิ้นเชิง ลูกไม่ติดต่อทางบ้าน ไม่ติดต่อเรา แม้แต่ยายกับป้าที่เลี้ยงเค้ามาเค้าก็ไม่ติดต่อ เวลาลุกไปคุยกะเพื่อนสนิทเขา เพื่อนเขาแคปมาให้เราดู ลุกใช้คำพูดแทนตัวเราด้วยคำว่า มัน.! ตลอด ลุกบอกไม่อยากคุยกะเรา ไม่อยากเจอหน้า เห็นหน้าเรามีแต่ความทุกข์ ไม่อยากมีเราในชีวิต เราช่วยรึให้อะไรอย่างที่เขาต้องการไม่ได้ กำลังใจมันกินไม่ได้ ไม่เหมือนพ่อแม่คนอื่นที่ซัพพอตตลอด   เรื่องราวในอดีตที่เราบ้าแต่ทำงานหาเงินเพื่อส่งเสียเขา ไม่ได้ดูแลเขา ไม่สั่งสอนอบรมเขา ไม่อยู่กับเขาไม่ทำหน้าที่แม่เท่าที่แม่คนนึงควรทำ มันส่งผลกระทบให้เราเจ็บปวดได้ขนาดนี้เชียวหรือ เราพยายามคุยปรับทุกทางแล้วไม่ดีขึ้นเลย เหมือนยิ่งเข้าไกล้ลุกยิ่งหนี เราทุกข์ใจมาก เครียจคิดวนเวียนตลอดเวลา เวลาโทรหาแล้วลุกตัดสายรึตะคอกใส่ เราร้องไห้ทุกวัน มันสายไปแล้วใช่ไหมที่เราจะดึงลุกกลับมาให้รักเราบ้าง  เราอยากให้ลุกคิดว่าที่เราทำ ทำเพื่อเขาทั้งนั้น หาเงิน ๆๆเพื่อเขา แต่เหมือนยิ่งอธิบายเขายิ่งย้อนให้เราเจ็บปวดทุกครั้ง เราควรจัดการความรู้สึกทุกข์แบบนี้ยังไงดีคะทุกคน ทุกข์มากที่จะทำใจว่าเขาจะไม่มีเราแล้วในชีวิต
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
คงต้องรอให้เขามีลูกเอง อาจจะคิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง

เราเองก็มีพฤติกรรมไม่ดีกับพ่อแม่ เช่น สมัยทำงานประจำ เลิกงานมาเหนื่อยๆ หรือวันหยุดอยากตื่นสายๆ พ่อโทรมาแต่เช้า เราก็หงุดหงิด ไม่รับสาย ตัดสายทิ้ง  บางทีพาลอารมณ์เสียใส่เพราะเราอยากนอนพัก จนกระทั่งพอมีลูกเอง เราเข้าใจถ่องแท้เลย ทุกวันนี้ขนาดอาบน้ำอยู่ถ้าได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็วิ่งออกมารับ ขับรถอยู่พ่อโทรมาต้องรีบจอดข้างทางรับสาย  ถ้ารับไม่ทันก็โทรกลับทันที ทั้งๆที่รู้ว่าพ่อโทรมาถามแค่ว่าทำอะไร กินข้าวรึยัง ฝนตกไหม พ่อถามแค่นั้น

บางอย่างต้องใช้เวลาค่ะ เฝ้ารอดูเขาอยู่ห่างๆ พร้อมสนับสนุนเขาอยู่ไกลๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
คุณพึ่งไปรับลูกมาเลี้ยงตอนมหาวิทยาลัย
คุณเสียตำแหน่งแม่ไปนานนนนนนแล้วครับ
ความคิดเห็นที่ 12
เราอยากให้คุณลองไปฟังรายการอะไรสักอย่างที่ สุกัญญา มิเกล ออกมาพูดเรื่องตัดขาดกับลูกสาว

เค้าพูดได้ดีนะคะ ยิ่งวิ่งตามลูก เหนื่อยทั้งเรา เครียดทั้งลูก

รักลูกต้องปล่อยให้ลูกไปหรือทำในสิ่งที่เค้าต้องการ ถ้าตัดขาดจากเราแล้วมีความสุข ก็ปล่อยให้เค้าทำค่ะ

อย่าไปยุ่ง ไปวุ่นวาย ทำให้เค้าโมโหจนต้องมาระเบิดอารมณ์ใส่เรา บาปกับตัวเค้าเปล่าๆ

ถ้าวันนึงเค้าคิดได้ เค้าจะกลับมาเอง แต่ถ้าเค้าคิดไม่ได้ ก็ถือว่าหมดเวร หมดกรรมกันแค่นี้

เราทำหน้าที่แม่ได้ดีที่สุดแล้วค่ะ
ความคิดเห็นที่ 18
"เกิดหนูมาทำไม ไม่ได้อยากเกิดมาเลย เกิดมาแล้วต้องรับมือกับอะไรไม่รุ้บนโลก" (จาก 17-1)

เดาไม่ผิดว่าประโยคฮิตนี้ต้องมา

เราว่าใคร ๆ ก็คงเคยมีแวบ ๆ คิดแบบนี้บ้างเวลาเจออุปสรรคหนัก ๆ กันบ้างแหละ

แต่วัยรุ่นสมัยนี้ท่องตาม ๆ กัน จนกลายเป็นว่ามีอะไรไม่ได้อย่างใจ ก็งัดประโยคนี้ขึ้นมา
ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสารตัวเอง คิดว่าถ้าไปเกิดกับพ่อแม่คนอื่นที่รวยกว่านี้ เข้าใจตัวเองกว่านี้ ก็คงสบาย
มัวไปโฟกัสโทษคนอื่น-สงสารตัวเอง แทนที่มีปัญหาแล้วจะพยายามหาทางแก้ หรือปรับที่ตัวเองก่อน
เช่น อยากได้ของแพง ๆ เกินฐานะครอบครัว เด็กที่มีวุฒิภาวะจะหางานพิเศษทำ ไม่ใช่มาโกรธพ่อแม่

ความคิดเค้าตอนนี้มันรวนหมดแล้ว เพราะตรรกะพื้นฐานมันเบี้ยว จขกท.ไปวอแวคงไม่มีอะไรดีขึ้น
ยิ่งจขกท.ไปพยายามชดเชย เค้าจะยิ่งคิดว่าที่เค้าเบลมจขกท.อย่างหยาบคายและรุนแรงนั่นน่ะ มันถูกต้องแล้ว
ถ้าจขกท.บอกตัวเองได้ว่าวันนั้นคุณทำดีที่สุดแล้ว เพราะถ้าคุณไม่หาเงินลูกก็ไม่มีกิน ก็ไม่มีอะไรต้องรู้สึกผิด
ความผิดพลาดที่คุณท้องไม่พร้อม คุณก็ชดเชยไปกับการทำงานหนักเกินวัยไปแล้ว

ถึงวันนึงเค้าโตขึ้น หรือกระแส me me me พวกนี้เบาบางลง ก็หวังว่าเค้าจะคิดได้เอง
แต่ถ้าเค้าคิดไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องทำใจ คนเราไม่จากเป็นก็จากตาย ทำบุญร่วมกันมาแค่นี้ก็ได้แค่นี้
ความคิดเห็นที่ 13
เด็กๆเขาต้องการแม่อยู่แค่ช่วงไม่กี่ปีค่ะ โดยเฉพาะ 3 ปีแรก เป็นช่วงสำคัญที่เขากำลังเรียนรู้โลก โดยมีแม่อยู่ข้างๆ

ถ้าตั้งแต่เล็ก แม่หายไป อยู่แต่กับป้าและยาย ส่งมาแต่เงิน ไม่ได้เจอแม่เลย แม่ก็จะไม่มีตัวตนในชีวิตเขา เขาก็อาจจะคิดว่าแม่ทิ้งเขาไป เด็กไม่ได้ต้องการเงินเท่าความรักค่ะ

อยู่ๆพอโต แม่ก็โผล่มา บอกนี่แม่นะ เธอต้องเชื่อฟัง ก็คงจะยากนะคะที่เขาจะยอมรับได้

เราเข้าใจ จขกท นะ แต่ละบ้านก็มีความจำเป็นแตกต่างกัน เงิน กับ เวลา เป็นสิ่งที่ต้องบาลานซ์ในชีวิต เพราะสำคัญทั้งคู่ ถ้าแม่เลือกไปหาเงิน ก็ต้องยอมรับว่าเรามีราคาที่ต้องจ่าย คือความสัมพันธ์กับลูก ยิ่งสมัยก่อนไม่มีวีดีโอคอล อะไรๆก็ไม่เอื้ออำนวย เราเห็นใจนะคะ

แนะนำว่า สิ่งที่อยู่ในใจของแม่ แปลงมันออกมาเป็นการกระทำค่ะ ความรัก ความห่วงใย แสดงออกมา โดยคำนึงถึงว่าลูกโต มีชีวิตของเขาเองแล้วนะคะ (ลองไปอ่านหนังสือเลี้ยงลูกวัยรุ่นดูค่ะ น่าจะพอไกด์ได้)

ทำบ้านให้น่าอยู่ ลูกกลับมามีของกินที่เขาชอบ พูดให้น้อย ฟังให้มาก อย่าด่วนตัดสินทางที่เขาเลือก

ยากนะคะ การแก้ความสัมพันธ์ที่พังไปแล้ว แม่ควรทำไปเรื่อยๆ ไม่คาดหวังค่ะ อันนี้คือราคาที่ต้องจ่าย ในสิ่งที่เราทำลงไปในอดีตค่ะ
ความคิดเห็นที่ 8
คุณจขกท.เคยต้องต่อสู้หรือทำงานในสังคมที่แข่งขันกันสูงๆมั้ยคะ  เวลายืนอยู่จุดนั้นเราจะเห็นชัดมากว่าคนที่มีพ่อแม่พร้อมและคอยช่วยซัพพอร์ตลูกตลอดเวลานั้นไปได้ไกลกว่าเสมอ แถมเวลาที่เค้าต้องการ คุณก็ไม่ได้อยู่ข้างๆ  จุดนี้เราเข้าใจลูกสาวจขกท.นะคะ มันทั้งเหนื่อย ท้อ และคับแค้นใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าลูกสาวก็ทำไม่ถูกเท่าไร คงต้องรอให้วุฒิภาวะสูงกว่านี้ น้องอาจจะเข้าใจและเห็นใจคุณจขกท.มากขึ้นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่