ผมได้เจอเพื่อนฝูงหลายคนที่รับราชการและทำงานภาคเอกชน ตั้งความฝันไว้ว่าจะเก็บเงินก้อนหนึ่งไว้ใช้ในยามเกษียณ หรือ หลังจากอายุครบ ๖๐ ปีแล้ว
เพื่อนเหล่านี้เล่าให้ฟังว่า จะขายบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วอยากจะนำเงินไปซื้อที่ดินสักสี่ซ้าห้าไร่ ปลูกพืชสวนครัวรั้วกินได้ ขุดบ่อเลี้ยงปลาเลี้ยงไก่ มีชีวิตอย่างสงบ อยู่แบบพอเพียงกันสองคนตายาย เพราะลูกๆโตมีครอบครัวกันหมดแล้ว
ผมได้ยินได้ฟังแล้ว ก็ให้นึกทอดถอนใจเฮือกใหญ่ ในฐานะที่เราอยู่กันไร่อยู่กันนามาจนทุกวันนี้ ก็อยากจะเตือนเพื่อนพ้องทั้งหลายว่า ขอให้อยู่บนโลกของความเป็นจริง หาข้อมูลให้ดีๆก่อนจะทำอะไรตามที่ฝันไว้ที่อาจจะกลายเป็นฝันค้าง....
เมื่อคุณอายุ ๖๐ ปี....ร่างกายคุณไม่เหมือนสมัยหนุ่มๆที่ยังมีกำลี้กำลัง ความเสื่อมถอยของสังขารที่ใช้งานมานาน โรคต่างๆรุมเร้า อีกอย่างคุณทำงานนั่งออฟฟิศมาโดยตลอดเกินครึ่งชีวิต ไม่เคยทำงานในไร่เลย จึงไม่รู้ว่ามันหนักหนาขนาดไหน


คุณไม่ต้องซื้อที่ดินถึง ๕ ไร่หรอก แค่ ๒ ไร่คุณจะทำไหวหรือเปล่า แค่ถางหญ้าที่ขึ้นในที่ดินของคุณ ถางให้หมดเสียก่อน คุณก็หมดแรงแล้ว หญ้ามันขึ้นได้ตลอด โดยเฉพาะหน้าฝนเช่นนี้ ถ้าหญ้าโต พืชผลคุณก็จะตาย เพราะมันดูดสารอาหารจากดินแทน แล้วอย่าไปคาดหวังว่าจะเอาเครื่องตัดหญ้าไปตัด (อย่างที่เอ็นจีโอพวกอนุรักษ์มันบอก) เพราะหญ้าพวกนี้รากมันฝังลึกลงในดิน คุณต้องขุดมันถึงราก แล้วจับรากมันหงายขึ้น ตากแดดให้เผามันจนแห้ง มันถึงจะตาย...ยิ่งถ้าคุณไปเจอหญ้าแห้วหมู จะยิ่งเหนื่อย เพราะรากของมันจะชอนไชเข้าไปในดิน แล้วกระจายออกไปใต้ดิน ยิ่งขุดยิ่งเหนื่อย ต้องถอนรากถอนโคน(อย่างคนโบราณว่า)มันให้ได้ ไม่เช่นนั้นมันก็จะขยายพันธุ์มันไปเรื่อยๆ
แล้วถ้าคุณจะปลูกผัก...คุณก็ต้องขุดหลุม แล้วเดินหยอดเมล็ดพันธุ์ ท่ามกลางแสงแดดในต่างจังหวัด เคยไปสัมผัสกันหรือเปล่าครับว่ามันแผดเผาคุณขนาดไหน ก้มๆเงยๆ ขุดหลุม หยอดเมล็ดพันธุ์ หลังก็จะปวด ยิ่งไม่เคยทำด้วยแล้ว ผมว่าไม่ถึงครึ่งวัน คุณก็จะหอบเพราะสังขารไม่ไหว
แล้วถ้าคุณจะขุดบ่อเลี้ยงปลา...ขนาดของบ่อขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ว่าจะขุดเพื่ออะไร เพื่อใช้น้ำทำการเกษตร หรือขุดเพื่อเลี้ยงปลา ความลึกต้องขนาดกี่เมตร คำนวณค่าขุดไว้ด้วยนะครับว่า จะเท่าไหร่ แล้วดินที่ขุดขึ้นมา จะเอาไปไว้ไหน....อีกทั้งเมื่อเติมน้ำเต็มบ่อแล้ว ผักบุ้งขึ้นจะถอนมันไหวไหม.... จะลากมันขึ้นจากบ่อไหวไหม...ถ้าไม่ทำ จะปล่อยให้มันลามเต็มบ่อหรืออย่างไร....???

การซื้อที่ดินสี่ซ้าห้าไร่เพื่อทำตามความฝัน คงไม่ได้อยู่ในเมืองเป็นแน่ คงอยู่ไกลออกไปจากตัวเมืองพอสมควรอย่างน้อยๆ น่าจะไม่ต่ำกว่า ๒๐ กิโลเมตร มีคำถามว่า อายุ ๖๐ ปีแล้ว ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งป่วยขึ้นมากะทันหัน จะขับรถฝ่าความมืด ๒๐ กว่ากิโลเพื่อมาโรงพยาบาลในเมืองไหวไหม...ต่างจังหวัดไกลๆ ถนนหนทางไม่ได้ราบเรียบเหมือนในกรุง ไฟตามถนนก็ไม่มี ต้องเปิดไฟสูงตลอด จนกว่าจะเห็นไฟจากรถที่สวนมา จึงจะลดไฟสูงลงเป็นไฟปกติ คุณต้องทำอย่างนี้ไปตลอด ๒๐ กิโลเมตรเพื่อพาสามีหรือภรรยาไปโรงพยาบาลในเมือง...ไหวไหมครับ???
ผมไม่อยากทำลายความฝันของใคร แต่แค่อยากให้ข้อเท็จจริงในฐานะที่มีประสบการณ์เท่านั้น ถ้าคุณอยากจะทำตามความฝันจริง คุณต้องเริ่มทำตั้งแต่อายุ ๔๐ กว่าๆ เพื่อจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับชีวิตในไร่ในนาในสวน ไม่ใช่จะมาเริ่มทำเมื่ออายุ ๖๐ ปี....ในวันที่คุณไม่มีแรงจะทำแล้ว
ฝากไว้ให้คิดครับ...
จาก นายสามเหลี่ยม
อยากให้คิดใหม่เมื่อจะไปทำไร่หลังเกษียณ
เพื่อนเหล่านี้เล่าให้ฟังว่า จะขายบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วอยากจะนำเงินไปซื้อที่ดินสักสี่ซ้าห้าไร่ ปลูกพืชสวนครัวรั้วกินได้ ขุดบ่อเลี้ยงปลาเลี้ยงไก่ มีชีวิตอย่างสงบ อยู่แบบพอเพียงกันสองคนตายาย เพราะลูกๆโตมีครอบครัวกันหมดแล้ว
ผมได้ยินได้ฟังแล้ว ก็ให้นึกทอดถอนใจเฮือกใหญ่ ในฐานะที่เราอยู่กันไร่อยู่กันนามาจนทุกวันนี้ ก็อยากจะเตือนเพื่อนพ้องทั้งหลายว่า ขอให้อยู่บนโลกของความเป็นจริง หาข้อมูลให้ดีๆก่อนจะทำอะไรตามที่ฝันไว้ที่อาจจะกลายเป็นฝันค้าง....
เมื่อคุณอายุ ๖๐ ปี....ร่างกายคุณไม่เหมือนสมัยหนุ่มๆที่ยังมีกำลี้กำลัง ความเสื่อมถอยของสังขารที่ใช้งานมานาน โรคต่างๆรุมเร้า อีกอย่างคุณทำงานนั่งออฟฟิศมาโดยตลอดเกินครึ่งชีวิต ไม่เคยทำงานในไร่เลย จึงไม่รู้ว่ามันหนักหนาขนาดไหน
คุณไม่ต้องซื้อที่ดินถึง ๕ ไร่หรอก แค่ ๒ ไร่คุณจะทำไหวหรือเปล่า แค่ถางหญ้าที่ขึ้นในที่ดินของคุณ ถางให้หมดเสียก่อน คุณก็หมดแรงแล้ว หญ้ามันขึ้นได้ตลอด โดยเฉพาะหน้าฝนเช่นนี้ ถ้าหญ้าโต พืชผลคุณก็จะตาย เพราะมันดูดสารอาหารจากดินแทน แล้วอย่าไปคาดหวังว่าจะเอาเครื่องตัดหญ้าไปตัด (อย่างที่เอ็นจีโอพวกอนุรักษ์มันบอก) เพราะหญ้าพวกนี้รากมันฝังลึกลงในดิน คุณต้องขุดมันถึงราก แล้วจับรากมันหงายขึ้น ตากแดดให้เผามันจนแห้ง มันถึงจะตาย...ยิ่งถ้าคุณไปเจอหญ้าแห้วหมู จะยิ่งเหนื่อย เพราะรากของมันจะชอนไชเข้าไปในดิน แล้วกระจายออกไปใต้ดิน ยิ่งขุดยิ่งเหนื่อย ต้องถอนรากถอนโคน(อย่างคนโบราณว่า)มันให้ได้ ไม่เช่นนั้นมันก็จะขยายพันธุ์มันไปเรื่อยๆ
แล้วถ้าคุณจะปลูกผัก...คุณก็ต้องขุดหลุม แล้วเดินหยอดเมล็ดพันธุ์ ท่ามกลางแสงแดดในต่างจังหวัด เคยไปสัมผัสกันหรือเปล่าครับว่ามันแผดเผาคุณขนาดไหน ก้มๆเงยๆ ขุดหลุม หยอดเมล็ดพันธุ์ หลังก็จะปวด ยิ่งไม่เคยทำด้วยแล้ว ผมว่าไม่ถึงครึ่งวัน คุณก็จะหอบเพราะสังขารไม่ไหว
แล้วถ้าคุณจะขุดบ่อเลี้ยงปลา...ขนาดของบ่อขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ว่าจะขุดเพื่ออะไร เพื่อใช้น้ำทำการเกษตร หรือขุดเพื่อเลี้ยงปลา ความลึกต้องขนาดกี่เมตร คำนวณค่าขุดไว้ด้วยนะครับว่า จะเท่าไหร่ แล้วดินที่ขุดขึ้นมา จะเอาไปไว้ไหน....อีกทั้งเมื่อเติมน้ำเต็มบ่อแล้ว ผักบุ้งขึ้นจะถอนมันไหวไหม.... จะลากมันขึ้นจากบ่อไหวไหม...ถ้าไม่ทำ จะปล่อยให้มันลามเต็มบ่อหรืออย่างไร....???
การซื้อที่ดินสี่ซ้าห้าไร่เพื่อทำตามความฝัน คงไม่ได้อยู่ในเมืองเป็นแน่ คงอยู่ไกลออกไปจากตัวเมืองพอสมควรอย่างน้อยๆ น่าจะไม่ต่ำกว่า ๒๐ กิโลเมตร มีคำถามว่า อายุ ๖๐ ปีแล้ว ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งป่วยขึ้นมากะทันหัน จะขับรถฝ่าความมืด ๒๐ กว่ากิโลเพื่อมาโรงพยาบาลในเมืองไหวไหม...ต่างจังหวัดไกลๆ ถนนหนทางไม่ได้ราบเรียบเหมือนในกรุง ไฟตามถนนก็ไม่มี ต้องเปิดไฟสูงตลอด จนกว่าจะเห็นไฟจากรถที่สวนมา จึงจะลดไฟสูงลงเป็นไฟปกติ คุณต้องทำอย่างนี้ไปตลอด ๒๐ กิโลเมตรเพื่อพาสามีหรือภรรยาไปโรงพยาบาลในเมือง...ไหวไหมครับ???
ผมไม่อยากทำลายความฝันของใคร แต่แค่อยากให้ข้อเท็จจริงในฐานะที่มีประสบการณ์เท่านั้น ถ้าคุณอยากจะทำตามความฝันจริง คุณต้องเริ่มทำตั้งแต่อายุ ๔๐ กว่าๆ เพื่อจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับชีวิตในไร่ในนาในสวน ไม่ใช่จะมาเริ่มทำเมื่ออายุ ๖๐ ปี....ในวันที่คุณไม่มีแรงจะทำแล้ว
ฝากไว้ให้คิดครับ...
จาก นายสามเหลี่ยม