โทนี่อัด กัญชาเสรี เปรียบเหมือนฝิ่น แรกๆ บอกสรรพคุณเยอะ จนติดกันเยอะ ย้ำต้องเตือนเยาวชนด้วย อย่าทำเป็นเล่น เพี้ยนกันใหญ่ ต้องทำให้ถูกหลักการ
วันที่ 21 มิ.ย.2565 โทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมสนทนา ในรายการ CARE Talk ครั้งที่ 36 ตอน “เศรษฐกิจพังยับ ประยุทธ์รับมือไม่ไหว?!” โดยประเด็นกัญชาเสรีในไทยนั้น เหมือนเมื่อฝิ่นออกมาใหม่ๆ ก็บอกมีสรรพคุณเยอะ สุดท้ายก็มีการเสพติดกันเยอะ กัญชาก็เหมือนกันมีสารเสพติดอยู่ในตัว และมีสรรพคุณ แต่ต้องสกัดให้ถูกต้องตามหลักการ ฉะนั้นการเตือนกับเยาวชนต้องมาพร้อมกันกับการให้เสรี
อีกทั้งบอกว่าปลูกได้ตามครัวเรือนแล้วต้องแบ่งรัฐ เรื่องนี้มันตลก ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องดูให้ครบวงจร ไม่ใช่อยากหาเสียงว่าปลูกกัญชาได้ แล้วบอกว่าชนะแล้ว เห็นวันนี้มีการใช้ใส่แม้กระทั่งในไข่เจียว ตนว่ามันเพี้ยนกันใหญ่แล้ว เรื่องนี้อย่าทำเป็นเล่นไปอย่าลืมว่ามันมีสารเสพติดอยู่ในตัว ต้องสกัดให้ถูกหลักการ
เราจะเปิดประเทศแต่พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังมีอยู่ รัฐบาลนี้กลัวเสถียรภาพตัวเองมากกว่าเสถียรภาพประเทศ วันนี้หวงเก้าอี้ไว้หวงเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อชาติ และรัฐบาลนี้เป็นครม.ที่หาคนเข้าร่วมครม.ได้ยาก เพราะดูจากการที่กว่าจะได้รัฐมนตรีมาร่วมงานมันยากมาก
อีกทั้งพรรคร่วมรัฐาลก็ได้พรรคที่ไม่ได้คำตอบที่จะแก้ปัญหา ดังนั้นถ้ารัฐบาล และครม.เป็นแบบนี้มันไปไม่รอดจริงๆ เรื่องมันยากกว่าปกติมันไม่ใช่สถานการณ์ปกติ วันนี้ไทยต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประทศ แลต้องทำจริงจัง โดยเฉพาะระบบราชการ ทั้งนี้ในส่วนผู้นำต้องรอบรู้ใจกว้าง รับฟังและต้องรีบทำ ไม่ใช่บอกว่าเหนื่อยแล้วเลิกทำ
ตนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทย เข้าใจว่าเป็นกันทั้งโลก แต่ไทยเราอ่อนแอกว่าทั่วโลก และเราไม่ได้เตรียมการอะไรเลย ไม่มียุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ประเทศตัอนนี้เหมือนทะเลที่บ้าคลั่ง แต่มีกัปตันที่ไปพาเรือไปเรื่อยๆแบบนี้ก็ไม่ไหว
ปัจจุบันเรื่องอาหารมีปัญหา ข้าวสาลี 30% มาจากยูเครนที่รัฐเซียยึดครอง แล้วอย่างอื่นจะตามมาทั้งเรื่องเงินเฟ้อ พลังงานที่สูงขึ้นเป็นปัญหาหมด มีคนว่าสงครามรัฐเชียยูเครนอีกยาวไกล จึงแนะนำว่าไม่ว่าจะหุ้น บิทคอยน์ เก็บเงินไว้ในกระเป๋าได้ก็เก็บไว้ก่อน กอดเงินสดเอาไว้ก่อน
วันนี้แม้พลังงานจะลดแต่ก็ยังต้องไปขอลดอีก เราต้องดูว่าอะไรที่ปตท.ได้มากไปก็ต้องไปขอลดลงบ้างไม่ให้ดูเป็นการผูกขาดมากไป และเรื่องปุ๋ยก็ดูว่าทำไมแพง คือต้องเอาตัวเลขมาดู แล้วนายกฯดูตัวเลขเลย เพราะนายกฯเองก็เรียนเอ็นจิเนียมาอยู่ ถ้าไม่ได้จริงๆตนเองยินดีช่วย
เริ่มที่ต้นทางดูว่าอะไรแพงก็ต้องคุมตั้งแต่ต้นทาง วันนี้บาทอ่อนเขาเลยไปขายต่างประเทศ ส่วนที่ผ่านมารัฐบาลพยายามขอความร่วมมือให้ไม่ให้ขึ้นราคาสินค้า เรื่องนี้เราต้องมองทั้งหมด เริ่มที่พลังงานเราต้องดูว่าเราซื้อมาแพงกว่าคนอื่นหรือไม่
รัฐบาลแบกรับก่อนได้ไหม ไม่เอาภาษี ต้องระวังน้ำมันปาล์ม พอรัฐบาลปล่อยราคามาคนเอาไปซ่อนเลย และวันนี้หวยขายดีเท่าๆกับยาเสพติดเมื่อครั้งก่อน เพราะคนไม่มีความหวัง เลยขอเอาเงินร้อยไปซื้อเผื่อจะได้ถูกบ้าง
"ชัชชาติ" โผล่กลางดึก แอบเยี่ยมผู้ประสบภัยไฟไหม้ชุมชนบ่อนไก่ สัญญาไม่ทิ้ง เดี๋ยวดูแลให้
https://www.thairath.co.th/news/politic/2425527
ผู้ว่าฯ กทม. ย่องเงียบกลางดึก แอบพาทีมลงพื้นที่ดูแลผู้ประสบเหตุไฟไหม้ ชุมชนบ่อนไก่ พร้อมให้กำลังใจ บอกของไหม้ไปหาใหม่ได้ ยันไม่ทอดทิ้ง ขอทุกคนอย่าห่วง เตรียมหาที่อยู่ระยะยาวให้ต่อจากนี้
เมื่อเวลา 22.08 น. วันที่ 21 มิ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เข้ามาเยี่ยมผู้ประสบเหตุไฟไหม้ ชุมชนบ่อนไก่ ถนนพระรามที่ 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ที่ศูนย์พักพิง เพื่อดูความเรียบร้อย และถามสารทุกข์สุกดิบของชาวบ้าน
โดย นาย
ชัชชาติ ได้ขอให้ทุกคนสู้ๆ ไม่เป็นไรของไหม้ไปหาใหม่ได้ เอาชีวิตเหลือไว้ก่อน เดี๋ยวดูแลให้ ยืนยันไม่ทิ้ง และเดี๋ยวพรุ่งนี้จะหาที่อาบน้ำให้ และหลังจากนี้จะดูแลเรื่องที่อยู่อาศัยระยะยาว เพราะมีผู้ประสบภัยกว่า 100 คน นอกจากนี้ยังมีเด็กเล็ก จะดูแลเรื่องที่เรียนหนังสือให้ต่อไป ขณะเดียวกันจะดูในเรื่องมาตรการโควิด เพื่อไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ จึงขอเป็นกำลังใจ ขอให้ทุกคนคิดถึงเพื่อนร่วมเมือง และกล่าวว่า ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวดูแลให้เอง แต่ตอนนี้ขออย่าส่งอะไรมา เดี๋ยวจะล้นและจะมีปัญหาเรื่องการจัดการ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ระหว่างลงพื้นที่ คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้ลงพื้นที่ในจุดดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยได้นำข้าวกล่องมาช่วยเหลือ พร้อมเข้ามาแสดงความยินดีกับนาย
ชัชชาติ ที่ได้ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. โดยทั้ง 2 คน ยังได้ทักทายอย่างเป็นกันเอง
เซ่นน้ำมันแพง! รถโดยสารสายโคราช-กรุงเทพฯ เตรียมลดเที่ยววิ่งอีก 50%
https://ch3plus.com/news/economy/ch3onlinenews/297280
รถโดยสารสายโคราช-กรุงเทพฯ เตรียมลดเที่ยววิ่งลงอีก 50% เพราะแบกรับภาระน้ำมันแพงไม่ไหว
หลังจากสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย ประกาศว่า 21 บริษัทรถโดยสารแจ้งความประสงค์ที่จะปรับลดเที่ยววิ่งลง 80% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง
วันนี้ (22 มิ.ย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมา แห่งที่ 2 ริมถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ยังคงมีผู้โดยสารเดินทางมาไปใช้บริการรถโดยสารประจำทางสายระหว่างเมือง โดยเฉพาะสาย 21 เส้นทางนครราชสีมา-กรุงเทพฯ กันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่คึกคักเหมือนช่วงเทศกาลหรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ โดยปัจจุบันรถโดยสารสาย 21 นครราชสีมา-กรุงเทพฯ มีผู้ประกอบการ 4 บริษัทให้บริการเดินรถเส้นทางดังกล่าว และมีรถโดยสารให้บริการรวมกันกว่า 200 คัน
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการรถโดยสารสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ รายหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะนี้ทั้งผู้ประกอบการเดินรถ 4 บริษัทกำลังเร่งหารือเพื่อกำหนดแนวทางการให้บริการผู้โดยสารให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากมีบางบริษัทไม่ได้สังกัดอยู่ในสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย แต่ในฐานะผู้ประกอบการรถโดยสารสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ เหมือนกัน ก็ต้องดำเนินกิจการให้สอดคล้องกัน
โดยในเบื้องต้นคาดการณ์ว่า จะมีการปรับลดเที่ยววิ่งรถโดยสารสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ ลงอย่างน้อย 50% จากเดิมที่ทั้ง 4 บริษัทให้บริการวิ่งรถเฉลี่ยวันละ 70 เที่ยวหรือไปกลับ 140 เที่ยว ก็จะปรับลดเที่ยววิ่งลงเหลือ 35 เที่ยว หรือไปกลับ 70 เที่ยว สาเหตุเพราะต้นทุนราคาค่าน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งหากเที่ยวไหนมีผู้โดยสารใช้บริการน้อย ผู้ประกอบการก็ขาดทุน
โดยปัจจุบันแต่ละบริษัทให้บริการรถโดยสารสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ เฉลี่ย 1 ชั่วโมงต่อเที่ยวในช่วงเวลากลางวัน และบางบริษัทก็เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่หลังจากนี้ก็จะขยายเวลาเป็น 2 ชั่วโมงต่อเที่ยว เพื่อประคับประคองไม่ให้ธุรกิจขาดทุนมากเกินไป
พนักงานขับรถโดยสารรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ถ้าหากรัฐบาลยังไม่ปรับลดราคาน้ำมัน ผู้ประกอบการก็อาจจะถอดใจเพราะแบกรับภาวะขาดทุนไม่ไหว และก็จะส่งผลกระทบต่อพนักงาน ซึ่งหากมีการปรับลดเที่ยววิ่งลง พนักงานก็ต้องทำงานน้อยลง รายได้ก็ลดลงไปด้วย
ขณะที่ผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งที่ใช้บริการรถโดยสารสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ เป็นประจำ เปิดเผยว่า หากมีการปรับลดเที่ยววิ่งลงก็จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของผู้โดยสาร เพราะต้องใช้เวลาในการรอรถยาวนานขึ้น และหากถึงขั้นที่ผู้ประกอบการต้องยกเลิกให้บริการก็น่าเสียดาย เพราะผู้ใช้บริการจำนวนมากใช้บริการเดินทางนครราชสีมา-กรุงเทพฯ เป็นประจำมายาวนาน
JJNY : โทนี่ อัดกัญชาเสรี│"ชัชชาติ"แอบเยี่ยมผู้ประสบภัยไฟไหม้│รถโคราช-กท.เตรียมลดเที่ยววิ่งอีก50%│"เหนียวไก่"ขึ้น 5 บ.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7122270
วันที่ 21 มิ.ย.2565 โทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมสนทนา ในรายการ CARE Talk ครั้งที่ 36 ตอน “เศรษฐกิจพังยับ ประยุทธ์รับมือไม่ไหว?!” โดยประเด็นกัญชาเสรีในไทยนั้น เหมือนเมื่อฝิ่นออกมาใหม่ๆ ก็บอกมีสรรพคุณเยอะ สุดท้ายก็มีการเสพติดกันเยอะ กัญชาก็เหมือนกันมีสารเสพติดอยู่ในตัว และมีสรรพคุณ แต่ต้องสกัดให้ถูกต้องตามหลักการ ฉะนั้นการเตือนกับเยาวชนต้องมาพร้อมกันกับการให้เสรี
อีกทั้งบอกว่าปลูกได้ตามครัวเรือนแล้วต้องแบ่งรัฐ เรื่องนี้มันตลก ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องดูให้ครบวงจร ไม่ใช่อยากหาเสียงว่าปลูกกัญชาได้ แล้วบอกว่าชนะแล้ว เห็นวันนี้มีการใช้ใส่แม้กระทั่งในไข่เจียว ตนว่ามันเพี้ยนกันใหญ่แล้ว เรื่องนี้อย่าทำเป็นเล่นไปอย่าลืมว่ามันมีสารเสพติดอยู่ในตัว ต้องสกัดให้ถูกหลักการ
เราจะเปิดประเทศแต่พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังมีอยู่ รัฐบาลนี้กลัวเสถียรภาพตัวเองมากกว่าเสถียรภาพประเทศ วันนี้หวงเก้าอี้ไว้หวงเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อชาติ และรัฐบาลนี้เป็นครม.ที่หาคนเข้าร่วมครม.ได้ยาก เพราะดูจากการที่กว่าจะได้รัฐมนตรีมาร่วมงานมันยากมาก
อีกทั้งพรรคร่วมรัฐาลก็ได้พรรคที่ไม่ได้คำตอบที่จะแก้ปัญหา ดังนั้นถ้ารัฐบาล และครม.เป็นแบบนี้มันไปไม่รอดจริงๆ เรื่องมันยากกว่าปกติมันไม่ใช่สถานการณ์ปกติ วันนี้ไทยต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประทศ แลต้องทำจริงจัง โดยเฉพาะระบบราชการ ทั้งนี้ในส่วนผู้นำต้องรอบรู้ใจกว้าง รับฟังและต้องรีบทำ ไม่ใช่บอกว่าเหนื่อยแล้วเลิกทำ
ตนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทย เข้าใจว่าเป็นกันทั้งโลก แต่ไทยเราอ่อนแอกว่าทั่วโลก และเราไม่ได้เตรียมการอะไรเลย ไม่มียุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ประเทศตัอนนี้เหมือนทะเลที่บ้าคลั่ง แต่มีกัปตันที่ไปพาเรือไปเรื่อยๆแบบนี้ก็ไม่ไหว
ปัจจุบันเรื่องอาหารมีปัญหา ข้าวสาลี 30% มาจากยูเครนที่รัฐเซียยึดครอง แล้วอย่างอื่นจะตามมาทั้งเรื่องเงินเฟ้อ พลังงานที่สูงขึ้นเป็นปัญหาหมด มีคนว่าสงครามรัฐเชียยูเครนอีกยาวไกล จึงแนะนำว่าไม่ว่าจะหุ้น บิทคอยน์ เก็บเงินไว้ในกระเป๋าได้ก็เก็บไว้ก่อน กอดเงินสดเอาไว้ก่อน
วันนี้แม้พลังงานจะลดแต่ก็ยังต้องไปขอลดอีก เราต้องดูว่าอะไรที่ปตท.ได้มากไปก็ต้องไปขอลดลงบ้างไม่ให้ดูเป็นการผูกขาดมากไป และเรื่องปุ๋ยก็ดูว่าทำไมแพง คือต้องเอาตัวเลขมาดู แล้วนายกฯดูตัวเลขเลย เพราะนายกฯเองก็เรียนเอ็นจิเนียมาอยู่ ถ้าไม่ได้จริงๆตนเองยินดีช่วย
เริ่มที่ต้นทางดูว่าอะไรแพงก็ต้องคุมตั้งแต่ต้นทาง วันนี้บาทอ่อนเขาเลยไปขายต่างประเทศ ส่วนที่ผ่านมารัฐบาลพยายามขอความร่วมมือให้ไม่ให้ขึ้นราคาสินค้า เรื่องนี้เราต้องมองทั้งหมด เริ่มที่พลังงานเราต้องดูว่าเราซื้อมาแพงกว่าคนอื่นหรือไม่
รัฐบาลแบกรับก่อนได้ไหม ไม่เอาภาษี ต้องระวังน้ำมันปาล์ม พอรัฐบาลปล่อยราคามาคนเอาไปซ่อนเลย และวันนี้หวยขายดีเท่าๆกับยาเสพติดเมื่อครั้งก่อน เพราะคนไม่มีความหวัง เลยขอเอาเงินร้อยไปซื้อเผื่อจะได้ถูกบ้าง
"ชัชชาติ" โผล่กลางดึก แอบเยี่ยมผู้ประสบภัยไฟไหม้ชุมชนบ่อนไก่ สัญญาไม่ทิ้ง เดี๋ยวดูแลให้
https://www.thairath.co.th/news/politic/2425527
ผู้ว่าฯ กทม. ย่องเงียบกลางดึก แอบพาทีมลงพื้นที่ดูแลผู้ประสบเหตุไฟไหม้ ชุมชนบ่อนไก่ พร้อมให้กำลังใจ บอกของไหม้ไปหาใหม่ได้ ยันไม่ทอดทิ้ง ขอทุกคนอย่าห่วง เตรียมหาที่อยู่ระยะยาวให้ต่อจากนี้
เมื่อเวลา 22.08 น. วันที่ 21 มิ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เข้ามาเยี่ยมผู้ประสบเหตุไฟไหม้ ชุมชนบ่อนไก่ ถนนพระรามที่ 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ที่ศูนย์พักพิง เพื่อดูความเรียบร้อย และถามสารทุกข์สุกดิบของชาวบ้าน
โดย นายชัชชาติ ได้ขอให้ทุกคนสู้ๆ ไม่เป็นไรของไหม้ไปหาใหม่ได้ เอาชีวิตเหลือไว้ก่อน เดี๋ยวดูแลให้ ยืนยันไม่ทิ้ง และเดี๋ยวพรุ่งนี้จะหาที่อาบน้ำให้ และหลังจากนี้จะดูแลเรื่องที่อยู่อาศัยระยะยาว เพราะมีผู้ประสบภัยกว่า 100 คน นอกจากนี้ยังมีเด็กเล็ก จะดูแลเรื่องที่เรียนหนังสือให้ต่อไป ขณะเดียวกันจะดูในเรื่องมาตรการโควิด เพื่อไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ จึงขอเป็นกำลังใจ ขอให้ทุกคนคิดถึงเพื่อนร่วมเมือง และกล่าวว่า ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวดูแลให้เอง แต่ตอนนี้ขออย่าส่งอะไรมา เดี๋ยวจะล้นและจะมีปัญหาเรื่องการจัดการ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ระหว่างลงพื้นที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้ลงพื้นที่ในจุดดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยได้นำข้าวกล่องมาช่วยเหลือ พร้อมเข้ามาแสดงความยินดีกับนายชัชชาติ ที่ได้ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. โดยทั้ง 2 คน ยังได้ทักทายอย่างเป็นกันเอง
เซ่นน้ำมันแพง! รถโดยสารสายโคราช-กรุงเทพฯ เตรียมลดเที่ยววิ่งอีก 50%
https://ch3plus.com/news/economy/ch3onlinenews/297280
รถโดยสารสายโคราช-กรุงเทพฯ เตรียมลดเที่ยววิ่งลงอีก 50% เพราะแบกรับภาระน้ำมันแพงไม่ไหว
หลังจากสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย ประกาศว่า 21 บริษัทรถโดยสารแจ้งความประสงค์ที่จะปรับลดเที่ยววิ่งลง 80% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง
วันนี้ (22 มิ.ย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมา แห่งที่ 2 ริมถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ยังคงมีผู้โดยสารเดินทางมาไปใช้บริการรถโดยสารประจำทางสายระหว่างเมือง โดยเฉพาะสาย 21 เส้นทางนครราชสีมา-กรุงเทพฯ กันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่คึกคักเหมือนช่วงเทศกาลหรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ โดยปัจจุบันรถโดยสารสาย 21 นครราชสีมา-กรุงเทพฯ มีผู้ประกอบการ 4 บริษัทให้บริการเดินรถเส้นทางดังกล่าว และมีรถโดยสารให้บริการรวมกันกว่า 200 คัน
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการรถโดยสารสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ รายหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะนี้ทั้งผู้ประกอบการเดินรถ 4 บริษัทกำลังเร่งหารือเพื่อกำหนดแนวทางการให้บริการผู้โดยสารให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากมีบางบริษัทไม่ได้สังกัดอยู่ในสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย แต่ในฐานะผู้ประกอบการรถโดยสารสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ เหมือนกัน ก็ต้องดำเนินกิจการให้สอดคล้องกัน
โดยในเบื้องต้นคาดการณ์ว่า จะมีการปรับลดเที่ยววิ่งรถโดยสารสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ ลงอย่างน้อย 50% จากเดิมที่ทั้ง 4 บริษัทให้บริการวิ่งรถเฉลี่ยวันละ 70 เที่ยวหรือไปกลับ 140 เที่ยว ก็จะปรับลดเที่ยววิ่งลงเหลือ 35 เที่ยว หรือไปกลับ 70 เที่ยว สาเหตุเพราะต้นทุนราคาค่าน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งหากเที่ยวไหนมีผู้โดยสารใช้บริการน้อย ผู้ประกอบการก็ขาดทุน
โดยปัจจุบันแต่ละบริษัทให้บริการรถโดยสารสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ เฉลี่ย 1 ชั่วโมงต่อเที่ยวในช่วงเวลากลางวัน และบางบริษัทก็เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่หลังจากนี้ก็จะขยายเวลาเป็น 2 ชั่วโมงต่อเที่ยว เพื่อประคับประคองไม่ให้ธุรกิจขาดทุนมากเกินไป
พนักงานขับรถโดยสารรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ถ้าหากรัฐบาลยังไม่ปรับลดราคาน้ำมัน ผู้ประกอบการก็อาจจะถอดใจเพราะแบกรับภาวะขาดทุนไม่ไหว และก็จะส่งผลกระทบต่อพนักงาน ซึ่งหากมีการปรับลดเที่ยววิ่งลง พนักงานก็ต้องทำงานน้อยลง รายได้ก็ลดลงไปด้วย
ขณะที่ผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งที่ใช้บริการรถโดยสารสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ เป็นประจำ เปิดเผยว่า หากมีการปรับลดเที่ยววิ่งลงก็จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของผู้โดยสาร เพราะต้องใช้เวลาในการรอรถยาวนานขึ้น และหากถึงขั้นที่ผู้ประกอบการต้องยกเลิกให้บริการก็น่าเสียดาย เพราะผู้ใช้บริการจำนวนมากใช้บริการเดินทางนครราชสีมา-กรุงเทพฯ เป็นประจำมายาวนาน