JJNY : ผู้ประกอบการรถบัสโอดศก. จอดรถทิ้ง│กลุ่มปกป้อง ปชต.เมียนมาวิจารณ์ไทย│โรม อัดบิ๊กอ้วนพูดเท็จ│ปัตตานีป่วน! เผากล้อง

ผู้ประกอบการรถบัส รับ-ส่งพนักงาน โอด เศรษฐกิจ จอดรถทิ้งกว่า 100 คัน
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_9556410
 
 
ผู้ประกอบการรถบัส รับ-ส่งพนักงาน โอด เศรษฐกิจ จอดรถทิ้งกว่า 100 คัน หลังโรงงานทยอยปิดตัว ลดแรงงาน เผย ยังไม่เลิกจ้างพนักงาน 200 ชีวิต หวั่นเดือดร้อนหนัก
 
วันที่ 20 ธ.ค.2567 ที่บริษัทสมศักดิ์ ทรานสปอร์ต จำกัด อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชนพัฒน์ บูชากุล นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานจัดการอบรมให้ความรู้การขับขี่รถโดยสารอย่างปลอดภัย ให้แก่พนักงานขับรถโดยสารของบริษัทสมศักดิ์ ทรานสปอร์ต จำกัด
 
ทั้งนี้ เพื่อรณรงค์และกระตุ้นเตือนให้ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะตื่นตัวและตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน รวมทั้งสร้างจิตสำนึก เสริมสร้างวินัยจราจร ลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้น้อยที่สุด
 
ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา มีมาตรการด้านความปลอดภัย ทั้งการตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้ก่อนการเดินทาง และการตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติด โดยตั้งเป้าว่า เทศกาลปีใหม่ในปีนี้จะต้องปลอดแอลกอฮอล์และสารเสพติด 100% และหากตรวจพบว่า ผู้ประกอบการกระทำความผิดละเมิดกฎหมายที่กำหนด จะลงโทษขั้นสูงสุดทันที
 
ด้าน น.ส.รัตน์ชนกพร สิริรัตนสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทสมศักดิ์ ทรานสปอร์ต จำกัด กล่าวว่า บริษัทดำเนินกิจการวิ่งรถโดยสารรับส่งพนักงานโรงงานทั่วประเทศ มานานกว่า 30 ปี และจัดการอบรมให้ความรู้แก่พนักงานขับรถ เป็นประจำทุกปี ปีละ 4 ครั้ง เพื่อให้พนักงานขับรถมีความตระหนักถึงความปลอดภัยและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นหากขับรถบนพื้นฐานของความประมาท
 
น.ส.รัตน์ชนกพร กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินกิจการวิ่งรถในปัจจุบัน จากสภาวะเศรษฐกิจทำให้โรงงานอุตสาหกรรม ทั้งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และต่างจังหวัด มีการปิดตัว ย้ายถิ่นฐานการผลิต รวมทั้งลดจำนวนพนักงาน จึงส่งผลกระทบต่อธุรกิจวิ่งรถโดยสารรับ-ส่งพนักงานในโรงงานเป็นอย่างมาก
 
ปัจจุบัน บริษัทมีรถโดยสารที่จะต้องจอดทิ้งไว้ ไม่ได้วิ่งรับส่งพนักงานกว่า 100 คัน จากรถที่มีอยู่ 300 คัน ซึ่งตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมากว่า 30 ปี ยุคสมัยนี้ถือว่าเป็นยุคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนพนักงานที่มีอยู่กว่า 200 ชีวิต ทางบริษัทยังคงจ้างต่อไป ไม่มีนโยบายลดจำนวนพนักงานแต่อย่างใด เนื่องจากมองว่า หากเลิกจ้างพนักงานจะได้รับผลกระทบอย่างมากในยุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้” น.ส.รัตน์ชนกพร กล่าว
  
น.ส.รัตน์ชนกพร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาล ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุน เพื่อให้ผู้ประกอบการ และประชาชนได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
 

 
กลุ่มปกป้อง ปชต.เมียนมา วิจารณ์ไทย จัดหารือเชิญแค่ รบ.ทหาร หวั่นทำวิกฤติหนักขึ้น
https://www.isranews.org/article/isranews-news/134361-isranews-Myanmar.html

กลุ่มปกป้องประชาธิปไตยในเมียนมา DMD วิจารณ์ไทย จัดหารือเรื่องเมียนมา เชิญแค่ตัวแทนรัฐบาลทหาร หวั่นทำสถานการณ์เลวร้ายลง เพราะไม่ใช่ รบ.ที่ถูกเลือกตั้งมาอย่างชอบธรรม ชี้มีบางประเทศเข้าร่วมประชุมมีบทบาทขายอาวุธ-หนุนบางกลุ่มในเมียนมา
 
สำนักข่าวอิศรา (www.isranew.org) รายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการประชุมเกี่ยวกับประเทศเมียนมาที่ประเทศไทยซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 ธ.ค. นี้ว่า กลุ่มปกป้องประชาธิปไตยเมียนมาชื่อว่า The Defend Myanmar Democracyหรือกลุ่ม DMD ได้ออกมาวิจารณ์การเข้ามีส่วนร่วมของตัวแทนสภาทหารในการหารือไม่เป็นทางการที่ประเทศไทยว่า จะทำให้สถานการณ์การเมืองของเมียนมาเลวร้ายลงไปอีก
 
โดยการจัดหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนเรื่องเมียนมา (Extended Informal Consultation) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพนั้นมีผู้แทนจากประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมาและประเทศสมาชิกอาเซียน ตลอดจนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อู ตาน ส่วย (Minister U Than Swe)
 และทีมงานจากคณะมนตรีทหารเข้าร่วม
 
การปรากฏตัวของตัวแทนของรัฐบาลทหารในการประชุมจะทําให้รัฐบาลทหารมีความชอบธรรมทางการเมืองที่ผิดพลาด ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อรัฐบาลที่แท้จริงของเมียนมา” นายนาว ออง โฆษกของกลุ่มปกป้องประชาธิปไตยเมียนมากล่าวและย้ำว่าเรื่องนี้ จะทำให้วิกฤตการณ์แย่ลง
 
หากประเทศเพื่อนบ้านต้องการช่วยแก้ปัญหาวิกฤตเมียนมาที่เกิดจากรัฐบาลทหาร เราจะไม่ต้องรับมือกับกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้รับเลือกตั้งซึ่งพยายามยึดครองประเทศ” นายนาว ออง กล่าวย้ำในแถลงการณ์ โดยระบุว่ารัฐบาลอย่างเป็นทางการที่เขาหมายถึงนั้นคือรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนที่ชนะการเลือกตั้งปี 2563 และมีเพียงรัฐบาล NUG เท่านั้นที่ควรพบปะและจัดการกับการอภิปรายไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกิจการของเมียนมา
 
นายนาว ออง กล่าวต่อไปว่าประเทศที่สนับสนุนรัฐบาลทหารมากกว่าประชาชนเมียนมาจะมารวมตัวกันในการอภิปรายครั้งนี้ ซึ่งไม่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนเมียนมา
 
ทั้งนี้ประเทศไทยจะได้มีการหารือเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อตกลงร่วมกัน 5 ข้อที่อาเซียนกำหนดขึ้นก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2564
 
อย่างไรก็ตาม กลุ่ม DMD ระบุว่าในระหว่างการหารือ ตัวแทนรัฐบาลทหารอาจหารือเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งปลอมและไม่ถูกกฎหมาย ที่พวกเขากำลังวางแผนอยู่ ซึ่งมันเสี่ยงต่อการได้รับความชอบธรรมทางการเมืองที่ไม่ถูกต้องจากประเทศที่เข้าร่วมประชุมนี้ นอกจากนี้ ยังมีบางประเทศที่เข้าร่วมการหารือ กลับไปมีบทบาทอีกด้านหนึ่งในการให้การสนับสนุนบางกลุ่มในเมียนมา ตั้งแต่การขายอาวุธทางทหารให้ไปจนถึงการให้การสนับสนุนทางการเมืองในเวทีระหว่างประเทศ
 
เรียบเรียงจาก : https://kicnews.org/2024/12/



โรม หวัง 4 ลูกเรือได้กลับไทยก่อนปีใหม่ อัดบิ๊กอ้วนพูดเท็จ มีข้อมูลชัด ไม่เคยประท้วงเมียนมา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4963343

กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ เรียกร้อง รบ.ไทยทำขึงขังกับเมียนมาให้ได้ตัว 4 ลูกเรือกลับไทยก่อนปีใหม่
 
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 4 ลูกเรือคนไทยถูกรัฐบาลทหารเมียนมาจับตัวว่า เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกินกว่าเหตุมาก เรื่องทับซ้อน หรือการล้ำนั้นก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้เพราะมีหลักฐานอย่างชัดเจนคือการที่ทหารเรือของเมียนมายิงมาที่เรือประมงเพื่อหวังผลจะฆ่าลูกเรือ โชคดีที่ไม่มีความเสียหายไปมากกว่านี้
 
นายรังสิมันต์กล่าวว่า การเกิดเหตุการณ์แบบนี้แต่ไทยเรากลับไม่ได้มีการประท้วงไปที่รัฐบาลเมียนมาเลย คิดว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เลย ขอใช้โอกาสนี้พูดไปถึงรัฐบาลเราว่ารัฐบาลต้องแสดงท่าทีที่เข้มแข็งกว่านี้ การปล่อยให้ประเทศเพื่อนบ้านเอาเรือรบยิงเรือประมงของคนไทยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรับได้จริงๆ รัฐบาลมีความจำเป็นต้องแสดงท่าทีอย่างจริงจังเพื่อให้คนไทยมั่นใจว่าเขาจะสามารถทำมาหากินได้อย่างปลอดภัย
 
มากไปกว่านั้นคิดว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องรับผิดชอบกับคำพูดของตัวเอง นายภูมิธรรมได้หลอกลวงประชาชนคนไทยโดยบอกว่าตัวเองมีการประท้วงต่อเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ข้อมูลที่เราได้รับจากหน่วยงานต่างๆ ที่มาชี้แจงกับ กมธ.ความมั่นคง ชัดเจนว่ายังไม่มีการประท้วง เป็นแค่การแสดงความกังวลเท่านั้น นั่นหมายความว่าข้อมูลที่นายภูมิธรรมพูดกับสื่อมวลชนเป็นความเท็จ และยิ่งไปว่านั้นเราอยากทราบว่าคนไทย 4 คนจะได้กลับไทยเมื่อไหร่ เราต้องการความชัดเจน ถ้าทราบตามข่าวว่าจะมีการปล่อยตัวตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.แล้วแต่ก็ยังไม่มีการปล่อยตัว” นายรังสิมันต์กล่าว
 
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า ขอใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้ 4 คนไทยได้กลับสู่ประเทศไทยก่อนปีใหม่ อยากเห็นคนเหล่านี้ได้มาฉลองปีใหม่กับครอบครัว ดังนั้น ไม่อยากให้รัฐบาลนิ่งเฉยกับเรื่องนี้ และอย่าปล่อยให้เรื่อนี้หาย ที่ผ่านมารัฐบาลบอกมาตลอดว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลทหารเมียนมา มีบรรดาชนชั้นนำของเมียนมามีทรัพย์สินมากมายมาอยู่ในประเทศไทย ลูกชายลูกสาวของเผด็จการทหารพม่าก็มีคอนโดมีเนียมอยู่ในประเทศไทย
 
ประเทศเอื้อให้ชนชั้นนำของพม่าขนาดนี้ แต่สิ่งที่เราทำคือยอมจำยอมรับกับความเป็นไปที่รัฐบาลทหารเมียนมากำหนด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้จริงๆ เชื่อว่าประเทศไทยในการต่อรองจำเป็นต้องพูดคุยกับรัฐบาลทหารเมียนมาอย่างมีน้ำหนักกว่านี้ เพื่อให้เกิดการปล่อยตัวลูกเรือ 4 คน” นายรังสิมันต์ระบุ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่