After Yang (2021): อาฟเตอร์ หยาง
" ประณีต คมคายสไตล์ A24... กล่าวถึงความหมายของชีวิตได้อย่างลึกซึ้ง "
สวัสดีครับทุกท่าน ! หลังจากที่เดือนที่แล้ว
Everything Everywhere All at Once (2022) จากค่าย
A24 ได้สร้างความประทับใจให้กับทุกท่านแล้ว ในเดือนนี้ก็มีหนังไซไฟของค่าย A24 อีกเรื่อง เข้าฉาย ก็คือ
After Yang (2021)... ตัวหนังได้ได้รับเลือกเป็น
Official Selection ใน
Canne Film Festival และ
Sundance Film Festival บ่งบอกถึงคุณภาพที่ไม่ธรรมดาทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ผมก็ไม่ได้คาดหวังกับเรื่องนี้มาก แต่หลังจากที่ได้รับชม ก็พบว่านี่เป็นหนังไซไฟที่น่าประทับใจ ไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่คิด จึงอยากจะมาแชร์รีวิวสักเล็กน้อย เผื่อว่าท่านใดสนใจรับชมนะครับ (
คิดว่าหนังอาจจะออกโรงในเร็ว ๆ นี้ด้วย เพราะกระแสเงียบเหลือเกิน)
เรื่องย่อ
After Yang - Official Trailer
After Yang (2021) ได้รับการกำกับโดย
Kogonada ตัวเนื้อเรื่องกล่าวถึง
หยาง (Justin H. Min) หุ่นยนต์ผู้เปรียบเสมือนพี่ชายสุดที่รักของลูกสาวอย่าง ดันเกิดขัดข้องจนหยุดทำงานไป
เจค (Colin Farrell) จึงหาวิธีที่จะซ่อมแซมเขากลับมา และนั่นทำให้เขาต้องเข้าไปเชื่อมต่อกับความทรงจำของหยาง ซึ่งมันกลับทำให้เขาได้ย้อนกลับไปมองชีวิตของตัวเอง
ภรรยา (Jodie Turner-Smith) และ
มิกะ (Malea Emma Tjandrawidjaja) ลูกสาวผู้ห่างเหินอีกครั้ง [Credit -
Pantip]
ความรู้สึกหลังชม
หนึ่งในซีนที่ทรงพลังที่สุดของเรื่อง
- จุดที่อยากชื่นชมคือ
"ความประณีต และความคมคายที่หนังนำเสนอ" ค่าย
A24 ยังคงเป็นค่ายที่สร้างหนังที่เปี่ยมด้วยคุณภาพอยู่เสมอ After Yang ดำเนินเรื่องด้วยความเนิบ / เงียบ (ตามขนบหนังอาร์ต) ทว่าทุกย่างก้าวของหนังเต็มไปด้วยความบรรจง คมคาย ประณีตสวยงาม... โครงสร้างบทและตัวเรื่อง ทำได้เนี้ยบ ความน่าสนใจในแต่ละจุด สามารถดึงให้เราอยากดูต่อไปจนจบเรื่อง
- แก่นหลักของเรื่องโฟกัสไปที่การตามหาความหมายของชีวิตผ่านหยาง และประเด็นสายสัมพันธ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะ
ความเหินห่างกันในครอบครัว / ความผูกพันระหว่างหยางกับมิกะ (ลูกสาว) / ความสัมพันธ์ระหว่างหยางกับแต่ละตัวละคร / ความสัมพันธ์ระหว่างมิกะกับครอบครัวในฐานะลูกบุญธรรม... ประเด็นหลักของเรื่องจึงว่าด้วย
"ความสัมพันธ์" โดยเฉพาะ
"การก่อร่างสร้างสายสัมพันธ์" ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการมีชีวิตของ
"มนุษย์" อย่างที่หยางพยายามเรียนรู้
บรรยากาศความเปลี่ยวเหงาที่ภาพยนตร์นำเสนอ
- ประเด็นปรัชญา (ไซไฟ) อื่น ๆ ที่น่าสนใจ ก็เรื่อง
"การวิวัฒนาการของ AI" ซึ่งพานึกไปถึง
Ghost in the Shell (1995) แต่ไม่ได้ใส่ความเป็นฮาร์ดไซไฟมากเท่า หรืออย่างประเด็นวิถีชีวิตของผู้คนในอนาคตจะเป็นอย่างไร หนังฉายไอเดียได้น่าสนใจมาก... อีกประเด็นที่หนังพูดถึง ก็เช่นเรื่อง
"ตัวตนของชาวเอเชีย (Asian identity)" ดูเหมือนหนังจะสื่อถึงจุดนี้พอสมควร
- ในเรื่องของงานภาพ อันนี้ประณีตจริง สวยในทุกซีน ทั้งในด้านการจัดวาง Composition และการจัดวางแสง ส่วนในด้านดนตรีประกอบภาพยนตร์ ก็ทำได้ดี สร้างบรรยากาศเหงาดราม่าได้จับหัวใจ...
Ryuichi Sakamoto - Memory Bank | After Yang
- จุดที่อาจเป็นข้อเสีย ก็คงเป็นความเนิบ / สไตล์หนังที่อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน ตัวหนังไม่ได้ถึงขนาดเข้าถึงยากมากนัก แต่ก็ใช่ว่าจะดูง่ายแบบปอกกล้วยเขาปาก ดังนั้นก็จำเป็นจะต้องดูอย่างพินิจพิจารณา และจะใจร้อนขณะดูไม่ได้
ดังนั้นหากสนใจก็แนะนำนะครับ หรือหากใคร ต้องการดูหนังที่ท้าทาย / มีความอาร์ตทางภาพยนตร์ขึ้นบ้าง... ผมว่า After Yang น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี !
ซีนการแข่งเต้นในช่วงเปิดหนังน่าสนใจมาก (ตลกแบบอาร์ต ๆ 😂)
_________________________________
ป.ล. ตรงหัวกระทู้ขอแก้เป็น After Yang (2021) นะครับ พอดีผมนึกว่าเป็นหนังของปีนี้
ป.ล.2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากคุยหรือติดต่อกับผม
After Yang (2022) - ผ่านมาแค่ให้รู้จัก... หรือผ่านมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งตลอดไป
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ผมก็ไม่ได้คาดหวังกับเรื่องนี้มาก แต่หลังจากที่ได้รับชม ก็พบว่านี่เป็นหนังไซไฟที่น่าประทับใจ ไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่คิด จึงอยากจะมาแชร์รีวิวสักเล็กน้อย เผื่อว่าท่านใดสนใจรับชมนะครับ (คิดว่าหนังอาจจะออกโรงในเร็ว ๆ นี้ด้วย เพราะกระแสเงียบเหลือเกิน)
เรื่องย่อ
ความรู้สึกหลังชม
- แก่นหลักของเรื่องโฟกัสไปที่การตามหาความหมายของชีวิตผ่านหยาง และประเด็นสายสัมพันธ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะความเหินห่างกันในครอบครัว / ความผูกพันระหว่างหยางกับมิกะ (ลูกสาว) / ความสัมพันธ์ระหว่างหยางกับแต่ละตัวละคร / ความสัมพันธ์ระหว่างมิกะกับครอบครัวในฐานะลูกบุญธรรม... ประเด็นหลักของเรื่องจึงว่าด้วย "ความสัมพันธ์" โดยเฉพาะ "การก่อร่างสร้างสายสัมพันธ์" ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการมีชีวิตของ "มนุษย์" อย่างที่หยางพยายามเรียนรู้
- ในเรื่องของงานภาพ อันนี้ประณีตจริง สวยในทุกซีน ทั้งในด้านการจัดวาง Composition และการจัดวางแสง ส่วนในด้านดนตรีประกอบภาพยนตร์ ก็ทำได้ดี สร้างบรรยากาศเหงาดราม่าได้จับหัวใจ...