"เป้าหมายในชีวิตฉันคืออะไร"
ต่อจากซีรี่ส์ที่รู้สึกไม่มีคุณค่า หนึ่งในวิธีก็คือทำให้เรามีเป้าหมายให้ไล่ล่า แล้วก็จะมีความสุขตามมา ซึ่งคำถามต่อมาก็คือ ถ้าฉันไม่มีเป้าหมาย ฉันจะหามันได้จากที่ไหน
ต้องบอกว่าขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างจะใช้เวลา ปัญหาของมันก็คือ เมื่อเราโตขึ้น เรากลับมีเวลาคิดถึงเรื่องนี้น้อยลง และการไล่ล่าตามหาก็ลำบากมากขึ้น เนื่องจากภาระหน้าที่และความเหนื่อยล้าจากงาน ทำให้กระบวนการนี้ส่วนมากแล้วจะเริ่มมีมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการศึกษาอะไรขนาดนั้น ความหมายก็คือผมเจอเด็กมหาวิทยาลัยท็อปๆ ที่ไม่มีความฝันมาคือเยอะมากๆ ไม่มีเป้าหมายก็เยอะมากๆ แต่เขาดันใช้ช่วงเวลาที่ควรไล่ล่าค้นหา ไปกับการเรียนพิเศษ อัดหนักๆ จนไม่มีเวลาโฟกัสตัวเอง กลับกัน คนที่อยู่มหาวิทยาลัยที่ไม่ตึงมาก กลับมีความฝันเต็มไปหมด ทีนี้สำหรับคนที่กำลังค้นหาอยู่เรามาลองดู ขั้นตอนเบื้องต้นกัน
1. ลองอะไรมั่วๆ เปิดใจ เปิดกายให้กว้างเข้าไว้
ก่อนที่เราจะรู้ว่าเราชอบหรอไม่ชอบอะไร ให้ลองทำอะไรหลายๆ อย่างเข้าไว้ บางคนลองไปเที่ยวคนเดียว , บางคนลองแต่งตัวแบบจัดเต็ม , บางคนไล่ล่าหาของกินที่แปลกๆ ลับๆ , บางคนอยากทำธุรกิจ , บางคนอยากใช้ชีวิตในป่า , บางคนอยากมีฟาร์ม ฯลฯ ความฝันไม่จำเป็นต้องยิงใหญ่ บางคนแค่ไม่มีความทุกข์มารบกวนก็พอแล้ว วิธีสังเกตคือ ถ้าเรารู้สึกตื่นเต้นแบบบอกไม่ถูก กลับมาหาข้อมูลแบบที่ไม่เคยทำกับเรื่องอื่น นั่นแปลว่าคุณเริ่มมาถูกทางแล้วล่ะ (แต่ของแบบนี้นานวันเข้ามันก็จะรู้สึกน้อยลงนะ แต่มันก็ยังเป็นทางนี้อยู่)
2. เราต้องลาออกจากงานมาลุยเลยไหมบางอย่าง
ต้องยอมรับว่าในโลกโซเชียลมีคนที่ทำแบบนั้นได้จริงๆ มีคนที่ทำจนเป็นอาชีพได้จริงๆ แต่บางครั้งมันก็ไม่ได้เกิดมาสำหรับทุกคน และไม่ใช่ว่าทำไปนานๆ แล้วจะมีความสุข ยกตัวอย่างเช่น การทำธุรกิจ บางทีกลายเป็นว่ามาแบกรับความเครียดจากภาระหนี้สิน , เศรษฐกิจภาพรวมที่ส่งผลโดยตรงหนักมากๆ , ลูกน้องการจัดการ เรื่องคนที่วุ่นวาย เผลอๆ แล้วอาจจะนำความทุกข์มาให้ด้วยซ้ำ บางความฝันก็เข้ามาเพื่อทำให้เรามีแรง มีใจในการทำงาน , ในการก้าวหน้า , ในการสร้างความสุขให้เรา เช่นเมื่อเรารู้ว่าเราชอบท่องเที่ยวรอบโลก ยิ่งเราเที่ยวเยอะ เราก็ยิ่งอยากขยันทำงาน อยากมีเงินเยอะๆ เพื่อให้ได้เที่ยว เพื่อให้มีอิสระในชีวิตมากขึ้น และเราจะมองข้ามความทุกข์โง่ๆ ไป เช่นเรื่องคนที่ทำงานนิสัยไม่ดี เป็นต้น
3. ถ้าไล่ล่าได้แล้วยังไงต่อ ถ้าบรรลุแล้วมันจะเป็นยังไง
ความฝันมันมีทั้งระยะสั้นระยะยาวครับ ระยะยาวบางคนอาจจะได้อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น กับคนที่บ้าน ไม่มีปัญหาการเงิน ไม่มีปัญหาในครอบครัว ได้เห็นลูกหลานเติบโต เพราะฉะนั้นแล้ว คนเราไม่จำเป็นจะต้องมีความฝันเดียวเสมอไป สำคัญที่การตามหามันให้เจอจากข้อ 1 น่ะล่ะ
และถ้าคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ก็ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามจะเป็นกำลังใจให้ผมได้มากๆ เลย
และสามารถพูดคุยกันสดๆ ได้ที่ Facebook ของผม : https://
www.facebook.com/icevisuwat/
ขอให้เจอกับความสุขไวๆ นะครับ
"เป้าหมายในชีวิตฉันคืออะไร"
ต่อจากซีรี่ส์ที่รู้สึกไม่มีคุณค่า หนึ่งในวิธีก็คือทำให้เรามีเป้าหมายให้ไล่ล่า แล้วก็จะมีความสุขตามมา ซึ่งคำถามต่อมาก็คือ ถ้าฉันไม่มีเป้าหมาย ฉันจะหามันได้จากที่ไหน
ต้องบอกว่าขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างจะใช้เวลา ปัญหาของมันก็คือ เมื่อเราโตขึ้น เรากลับมีเวลาคิดถึงเรื่องนี้น้อยลง และการไล่ล่าตามหาก็ลำบากมากขึ้น เนื่องจากภาระหน้าที่และความเหนื่อยล้าจากงาน ทำให้กระบวนการนี้ส่วนมากแล้วจะเริ่มมีมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการศึกษาอะไรขนาดนั้น ความหมายก็คือผมเจอเด็กมหาวิทยาลัยท็อปๆ ที่ไม่มีความฝันมาคือเยอะมากๆ ไม่มีเป้าหมายก็เยอะมากๆ แต่เขาดันใช้ช่วงเวลาที่ควรไล่ล่าค้นหา ไปกับการเรียนพิเศษ อัดหนักๆ จนไม่มีเวลาโฟกัสตัวเอง กลับกัน คนที่อยู่มหาวิทยาลัยที่ไม่ตึงมาก กลับมีความฝันเต็มไปหมด ทีนี้สำหรับคนที่กำลังค้นหาอยู่เรามาลองดู ขั้นตอนเบื้องต้นกัน
1. ลองอะไรมั่วๆ เปิดใจ เปิดกายให้กว้างเข้าไว้
ก่อนที่เราจะรู้ว่าเราชอบหรอไม่ชอบอะไร ให้ลองทำอะไรหลายๆ อย่างเข้าไว้ บางคนลองไปเที่ยวคนเดียว , บางคนลองแต่งตัวแบบจัดเต็ม , บางคนไล่ล่าหาของกินที่แปลกๆ ลับๆ , บางคนอยากทำธุรกิจ , บางคนอยากใช้ชีวิตในป่า , บางคนอยากมีฟาร์ม ฯลฯ ความฝันไม่จำเป็นต้องยิงใหญ่ บางคนแค่ไม่มีความทุกข์มารบกวนก็พอแล้ว วิธีสังเกตคือ ถ้าเรารู้สึกตื่นเต้นแบบบอกไม่ถูก กลับมาหาข้อมูลแบบที่ไม่เคยทำกับเรื่องอื่น นั่นแปลว่าคุณเริ่มมาถูกทางแล้วล่ะ (แต่ของแบบนี้นานวันเข้ามันก็จะรู้สึกน้อยลงนะ แต่มันก็ยังเป็นทางนี้อยู่)
2. เราต้องลาออกจากงานมาลุยเลยไหมบางอย่าง
ต้องยอมรับว่าในโลกโซเชียลมีคนที่ทำแบบนั้นได้จริงๆ มีคนที่ทำจนเป็นอาชีพได้จริงๆ แต่บางครั้งมันก็ไม่ได้เกิดมาสำหรับทุกคน และไม่ใช่ว่าทำไปนานๆ แล้วจะมีความสุข ยกตัวอย่างเช่น การทำธุรกิจ บางทีกลายเป็นว่ามาแบกรับความเครียดจากภาระหนี้สิน , เศรษฐกิจภาพรวมที่ส่งผลโดยตรงหนักมากๆ , ลูกน้องการจัดการ เรื่องคนที่วุ่นวาย เผลอๆ แล้วอาจจะนำความทุกข์มาให้ด้วยซ้ำ บางความฝันก็เข้ามาเพื่อทำให้เรามีแรง มีใจในการทำงาน , ในการก้าวหน้า , ในการสร้างความสุขให้เรา เช่นเมื่อเรารู้ว่าเราชอบท่องเที่ยวรอบโลก ยิ่งเราเที่ยวเยอะ เราก็ยิ่งอยากขยันทำงาน อยากมีเงินเยอะๆ เพื่อให้ได้เที่ยว เพื่อให้มีอิสระในชีวิตมากขึ้น และเราจะมองข้ามความทุกข์โง่ๆ ไป เช่นเรื่องคนที่ทำงานนิสัยไม่ดี เป็นต้น
3. ถ้าไล่ล่าได้แล้วยังไงต่อ ถ้าบรรลุแล้วมันจะเป็นยังไง
ความฝันมันมีทั้งระยะสั้นระยะยาวครับ ระยะยาวบางคนอาจจะได้อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น กับคนที่บ้าน ไม่มีปัญหาการเงิน ไม่มีปัญหาในครอบครัว ได้เห็นลูกหลานเติบโต เพราะฉะนั้นแล้ว คนเราไม่จำเป็นจะต้องมีความฝันเดียวเสมอไป สำคัญที่การตามหามันให้เจอจากข้อ 1 น่ะล่ะ
และถ้าคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ก็ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามจะเป็นกำลังใจให้ผมได้มากๆ เลย
และสามารถพูดคุยกันสดๆ ได้ที่ Facebook ของผม : https://www.facebook.com/icevisuwat/
ขอให้เจอกับความสุขไวๆ นะครับ