ขอเล่าเรื่องยาวมากๆ ของพฤติกรรมและเงื่อนไขที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเอาเปรียบลูกค้าของบริษัท J&T Express
วันศุกร์ช่วงเที่ยง มีการรับพัสดุที่จัดส่งด้วย J&T Express ปรากฎว่าเกิดความเสียหาย จัดส่งในช่วงที่ไม่อยู่บ้านเพราะเป็นวันทำงาน แต่มีคนที่อยู่บ้านรับของเอาไว้ให้แทน โดยพนักงานจัดส่งได้โทรมาแจ้งบอกว่าให้เราไปยื่นเรื่องเคลมผ่านทางแอพได้ วันเสาร์ก็ยุ่งภารกิจทั้งวันเลยยังไม่ได้ดำเนินการเคลม พอเช้าวันอาทิตย์มีเวลาจึงได้มีโอกาสถ่ายรูปความเสียหาย และติดตั้งแอพ J&T เพื่อจะส่งเรื่องเคลม ป้อนข้อมูลเข้าไปปรากฎว่า จะต้องเป็นผู้ส่งเท่านั้นที่จะยื่นเรื่องเคลมได้ อันนี้ก็ไม่นึกมาก่อนว่าผู้รับทำเองไม่ได้ซึ่งไม่ตรงกับที่พนักงานจัดส่งแจ้งเอาไว้แล้ว
ก็เลยโทรติดต่อไป Call Center ทันที (คุณอังสุมารี) พนักงานรายนี้ก็แจ้งยืนยันเสียงแข็งว่าเป็นเงื่อนไขของบริษัทที่ผู้ส่งจะต้องเป็นยื่นเรื่องเคลมเท่านั้น และจะต้องยื่นเรื่องภายในเที่ยงของวันนี้ (วันอาทิตย์) เพราะหลังจากนี้ก็จะปิดเรื่องและจะไม่สามารถแจ้งอะไรได้อีกแล้ว ก็เลยแย้งไปว่า ผู้ส่งเป็นบริษัทซึ่งปิดทำการในวันเสาร์อาทิตย์เราไม่สามารถติดต่อไปได้ (ก็ได้พยายามโทรไปแล้วแต่ไม่มีคนทำงานหรือผู้รับสาย) และพัสดุก็จัดส่งในวันศุกร์ซึ่งเราก็ควรจะต้องดำเนินการแล้วไม่ใช่มาดำเนินการวันอาทิตย์ (ทั้งๆ ที่จัดส่งวันศุกร์ซึ่งเราไม่ได้รับของเอง และก็เป็นเวลาทำงานยังไม่ได้มีโอกาสเห็นของที่เสียหายหรือมีเวลาดำเนินการใดๆ เลย เสาร์อาทิตย์บริษัทผู้ส่งสินค้าก็ปิดทำการแล้วจะมีหนทางติดต่อผู้ส่งได้อย่างไรกัน) ซึ่งพนักงานก็ยังคงยืนกระต่ายขาเดียวไม่สามารถทำอะไรได้เลยเพราะนี่เป็นเงื่อนไขของบริษัทที่กำหนดเอาไว้ ทางเดียวคือให้เราจะต้องติดต่อกับผู้ส่งเพื่อยื่นเรื่องเคลมให้ได้ภายในเที่ยงของวันอาทิตย์เท่านั้น ก็ยังลองถามว่าการที่กำหนดระยะเวลาร้องเรียนที่สั้นๆ ถึงขนาดนี้แถมผู้รับพัสดุที่เป็นฝ่ายรับซึ่งทราบว่าเกิดความเสียหายขึ้นไม่สามารถยื่นแจ้งเรื่องเคลมได้เอง จะต้องส่งข้อมูลทั้งหมดกลับไปให้ฝ่ายผู้ส่งเพื่อแจ้งเคลมนั้นมันแทบจะไม่มีโอกาสน้อยมากๆ ที่จะทำได้สำเร็จในภายระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้สั้นมากเช่นนี้ ยิ่งถ้าติดช่วงวันหยุดยาวยิ่งไม่สามารถเป็นไปได้เลย ได้รับคำตอบที่ตลกๆ ที่ไร้เหตุผลกลับมาว่า บริษัท J&T ของเราก็เปิดทำการตลอดทุกวันนะคะ (มันเกี่ยวกันไหมกับการติดต่อระหว่างผู้รับและผู้ส่งให้ยื่นเรื่องเคลม) ท้ายที่สุดสรุปว่า Call Center บอกเงื่อนไขของทางบริษัทได้เพียงแค่นี้ ถ้าผู้ส่งไม่ดำเนินการยื่นภายในเที่ยงวันนี้ (อาทิตย์) ก็จะหมดสิทธิ์ยื่นเคลมในทันที ให้เราไปใช้ดุลยพินิจเอาเองว่าจะต้องทำยังไงให้ได้ สรุปเป็นการสนทนาที่ได้รับคำตอบยืนยันแบบเสียงแข็งว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดเอาไว้แบบนี้เท่านั้น
เราก็แย้งว่าเป็นการตั้งเงื่อนไขของบริษัทเอาเองที่ไม่ยุติธรรมต่อลูกค้าเลย เพราะกำหนดหลักการและให้ระยะเวลายื่นเคลมที่มีความเป็นไปได้น้อยมากๆ ในทางปฏิบัติ จึงจะขอพูดกับหัวหน้างานของ Call Center นี้แทน ปรากฎว่าวันอาทิตย์เป็นวันหยุดทำงานของหัวหน้า (ทีบริษัทของตัวเองก็ยังไม่จัดให้มีเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้างานมาคอยดูแลควบคุมพนักงานทำงานในกรณีที่อาจะเกิดปัญหาอยู่ตลอดเวลาเลย) สรุปว่าก็ต้องวางสายไปแบบขุ่นข้องหมองใจมากๆ
ด้วยความเครียดจากการสนทนา จึงเข้าไปดูเว็บของบริษัท J&T Express ปรากฎว่าเห็นระบุเงื่อนไขแสดงเอาไว้ว่า กรณีเกิดความเสียหายจะต้องยื่นเคลมภายใน 3 วันหลังจากได้รับของที่เสียหาย โดยยกตัวอย่างว่า เซ็นรับของวันที่ 1 เวลา 17:00 น. ก็จะต้องยื่นเรื่องภายในวันที่ 4 เวลา 17:00 น. ก็เลยมาลองนับวันดูบ้าง ปรากฎว่าพัสดุของเราได้รับวันศุกร์เที่ยง นี่เช้าวันอาทิตย์นับยังไงก็เพิ่งแค่ใกล้จะครบ 2 วันเท่านั้นเอง ดังนั้นก็คงมีโอกาสหายใจเพียงพอในช่วงเช้าวันจันทร์ที่จะติดต่อกับบริษัทผู้ส่งเพื่อแจ้งให้ช่วยดำเนินการให้ยื่นเคลมภายในเที่ยงได้อยู่บ้าง ก็เลยโทรกลับไปที่ Call Center เพื่อสอบถามยืนยันอีกทีว่าหมดเขตแจ้งเคลมในวันไหนกันแน่ ปรากฎว่าคราวนี้พนักงาน (ชื่อคุณนุษบา) เป็นผู้รับสายเราก็อ้างอิงจากที่เห็นในเว็บ ก็ได้รับคำตอบที่เธอตรวจสอบแล้วว่าจะสามารถเคลมได้ภายในเที่ยงของวันจันทร์ (ซึ่งแตกต่างจากข้อมูลเดิมที่ได้รับจากคุณอังสุมารี) แต่ทั้งนี้ก็ยังคงยืนยันว่าทุกอย่างจะต้องทำให้ได้ภายในเวลาที่กำหนดเอาไว้ในเงื่อนไขของบริษัทเท่านั้น ไม่สามารถยืดหยุ่นให้ได้เลยทั้งสิ้น ย้ำหนักแน่นอีกเช่นเดียวกันว่านี่เป็นเงื่อนไขของทางบริษัท ก็เลยลองตั้งคำถามให้คุณนุษบาลองช่วยคิดหน่อยว่า หากเป็นเธอที่เป็นผู้รับสินค้าแล้วเจอปัญหาแบบนี้ขึ้นมา โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวหลายๆ วันที่ทำให้เธอไม่มีโอกาสที่จะสามารถติดต่อกับผู้ส่งได้เลยนั้นเธอจะทำอย่างไร ได้รับคำตอบกลับมาว่า "ไม่ทราบค่ะ" ลองย้ำถามอยู่หลายหนก็ตอบแบบหุ่นยนต์กลับมาเหมือนเดิม สรุปว่าเงื่อนไขนี้ก็คงตั้งขึ้นมาสำหรับให้ลูกค้าสมองกลวงๆ เท่านั้นที่จะไม่คิดอะไรเลยกับเงื่อนไขที่จงใจเอารัดเอาเปรียบของบริษัทแห่งนี้แหละนะ
จากนั้นก็เลยฝากประเด็นนี้ให้คุณนุษบาส่งต่อไปถึงผู้บริหารบริษัท J&T Express ว่าการตั้งเงื่อนไขแบบนี้ค่อนข้างเป็นการเอาเปรียบลูกค้าและให้ผู้ส่งเป็นผู้ยื่นเรื่อง (แต่เพียงฝ่ายเดียว) ภายในระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้สั้นมากๆ แค่เพียง 3 วัน (ที่ไม่ใช่ "3 วันทำการ" ซะด้วย) โดยทั้งหมดทั้งปวงจะต้องให้ผู้รับติดต่อแจ้งกลับไปยังผู้ส่งดำเนินการยื่นด้วย (ถ้าผู้ส่งเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่สามารถโทรหรือส่งช้อความติดต่อได้ง่ายๆ ก็ยังอาจจะทำได้ แต่ถ้าผู้ส่งเป็นบริษัท(ที่ไม่ใช่บุคคล)ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการติดต่อหรือประสานงานกันภายในก็คงไม่มีทางทำได้ แถมถ้าเป็นช่วงวันหยุดยาวๆ ที่ทั้งผู้รับและผู้ส่งอาจจะไม่สามารถติดต่อกันได้โดยสะดวกก็คงหมดโอกาสเคลมไปเลย บริษัทจะได้ไม่ต้องลอยตัวไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยใช่หรือไม่ ทั้งนี้ก็ไม่ค่อยมั่นใจหรอกว่าสิ่งที่ฝากเอาไว้นี้จะส่งไปถึงหูถึงตาของผู้บริหารบริษัทแล้วผ่านถึงสมองให้คิดอะไรบ้างหรือไม่ ถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะรอดูว่าอนาคตของบริษัทแห่งนี้จะเป็นเช่นใดต่อไปก็แล้วกัน
ส่วนคุณพนักงานชื่อ อังสุมาลี ที่ให้ข้อมูลผิดในครั้งแรกนั้น ก็ได้ฝากให้คุณนุษบาแจ้งให้ติดต่อกลับมาเจรจากันอีกสักหน่อย เพราะตอนที่สนทนากับคุณเธอนั้นก็ใช้น้ำเสียงที่แข็งดึงดันมากตลอดเวลา ก็อยากจะดูสิว่าจะยอมมาแก้ตัวอะไรบ้างไหม แต่ผ่านมานานพอสมควรแล้วก็ยังไม่มีวี่แววที่จะติดต่อกลับมา นี่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของพนักงานของบริษัทนี้ชัดเจนเลยว่ามันย่ำแย่มากขนาดไหน และตลอดการสนทนาของพนักงาน Call Center ทั้งสองนอกจากที่ไม่สร้างให้เกิดความรู้สึกว่าพยายามที่จะช่วยเหลือลูกค้าแล้ว ยังกลับดูเหมือนที่จะหยิ่งพยองและไม่ง้อลูกค้าอีกด้วย หรือมั่นใจว่าบริษัทตัวเองมีลูกค้ามาใช้บริการอยู่เยอะแล้ว ไม่ต้องสนใจเสียงนกเสียงกาอะไรก็ได้หรือเปล่า อืม... ขอบอกเอาไว้เลยว่า ชาตินี้จะไม่ยอมมีวันเสียเงินมาใช้บริการให้แก่บริษัทที่มีทัศนคติในการให้บริการลูกค้าห่วยๆ เช่นนี้เลยเป็นอันขาด
อย่างไรก็ตามปัญหาเกิดขึ้นจริงหากทางบริษัท J&T มีความจริงใจในความรับผิดชอบที่จะช่วยเหลือเยียวยาแก่ลูกค้าเพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดทางบริษัทเอง อย่างน้อยทางบริษัทเองก็ควรจะเปิดโอกาสให้ผู้รับแจ้งเบื้องต้นได้แล้วว่าเกิดความเสียหายขึ้น ส่วนขั้นตอนการเคลมที่อาจจะให้ผู้ส่งเป็นผู้ดำเนินการก็อาจจะยืดเวลาให้ออกไปอีกหน่อยให้ทุกฝ่ายมีโอกาสหายใจดำเนินการประสานงานหลักฐานต่างๆ กันได้บ้าง มิใช่ J&T กำหนดง่ายๆ เอาเองแต่เพียงฝ่ายเดียวเช่นนี้ หรืออย่างน้อยก็ให้เปลี่ยนเป็น "วันทำการ" ก็ยังดีกว่านี้ หากตั้งเงื่อนไขที่แฝงด้วยการเอาเปรียบกันแบบนี้ ก็ฝากให้ผู้ที่กำลังใช้บริการส่งพัสดุ/สินค้าด้วย J&T Express นี้ลองคิดเผื่อถึงประเด็นเหล่านี้เอาไว้ด้วยว่าคุ้มค่าและสมควรที่จะเลือกบริการขนส่งรายนี้ดีหรือไม่ เพราะปัจจุบันมีตัวเลือกอีกมากมายที่น่าจะจริงใจและมีกระบวนการในความรับผิดชอบมากกว่ารายนี้ให้พิจารณาได้
แต่สำหรับเราและครอบครัวนั้น ต่อไปถ้าจะส่งพัสดุก็คงจะไม่มีทางเลือกขนส่ง J&T Express นี้เด็ดขาด เพราะดำเนินการธุรกิจแบบไร้ธรรมาภิบาลที่แฝงด้วยนโยบายซึ่งส่อถึงเจตนาที่จะเอาเปรียบและไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ไม่ควรจะมีโอกาสได้ทำมาหากินอยู่ในสังคม หากเกิดปัญหาขึ้นมาเราเป็นผู้ส่งคงจะชอกช้ำเพราะหากผู้รับแจ้งว่ากระชั้นชิดหรือเลยกำหนดของ J&T ก็คงจะต้องแบกความเสียหายเอาไว้เองแทนเพื่อเยียวยาแก่ผู้รับ หรือถ้าจะสั่งสินค้าก็คงพยายามแจ้งผู้ส่งไม่ให้ใช้บริการขนส่งจาก J&T เป็นอันขาด อย่างน้อยๆ ในเบื้องต้น ก็ป้องกันโอกาสเกิดปัญหาการที่จะผิดใจกันระหว่างผู้ส่งและผู้รับหากกระบวนการเคลมมีปัญหาในเรื่องระยะเวลาแล้วไม่รู้จะโทษว่าฝ่ายใดที่ส่งหรือดำเนินเรื่องล่าช้ากันแน่
ตอนนี้ถ้ามีโอกาสเลือก แนะนำว่าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงไปเลยนะ J&T Express ลาก่อน
บริการแย่มากๆ J&T Express ทำของเสียหาย และยังตั้งเงื่อนไขแบบเอาเปรียบลูกค้ามากที่สุด
วันศุกร์ช่วงเที่ยง มีการรับพัสดุที่จัดส่งด้วย J&T Express ปรากฎว่าเกิดความเสียหาย จัดส่งในช่วงที่ไม่อยู่บ้านเพราะเป็นวันทำงาน แต่มีคนที่อยู่บ้านรับของเอาไว้ให้แทน โดยพนักงานจัดส่งได้โทรมาแจ้งบอกว่าให้เราไปยื่นเรื่องเคลมผ่านทางแอพได้ วันเสาร์ก็ยุ่งภารกิจทั้งวันเลยยังไม่ได้ดำเนินการเคลม พอเช้าวันอาทิตย์มีเวลาจึงได้มีโอกาสถ่ายรูปความเสียหาย และติดตั้งแอพ J&T เพื่อจะส่งเรื่องเคลม ป้อนข้อมูลเข้าไปปรากฎว่า จะต้องเป็นผู้ส่งเท่านั้นที่จะยื่นเรื่องเคลมได้ อันนี้ก็ไม่นึกมาก่อนว่าผู้รับทำเองไม่ได้ซึ่งไม่ตรงกับที่พนักงานจัดส่งแจ้งเอาไว้แล้ว
ก็เลยโทรติดต่อไป Call Center ทันที (คุณอังสุมารี) พนักงานรายนี้ก็แจ้งยืนยันเสียงแข็งว่าเป็นเงื่อนไขของบริษัทที่ผู้ส่งจะต้องเป็นยื่นเรื่องเคลมเท่านั้น และจะต้องยื่นเรื่องภายในเที่ยงของวันนี้ (วันอาทิตย์) เพราะหลังจากนี้ก็จะปิดเรื่องและจะไม่สามารถแจ้งอะไรได้อีกแล้ว ก็เลยแย้งไปว่า ผู้ส่งเป็นบริษัทซึ่งปิดทำการในวันเสาร์อาทิตย์เราไม่สามารถติดต่อไปได้ (ก็ได้พยายามโทรไปแล้วแต่ไม่มีคนทำงานหรือผู้รับสาย) และพัสดุก็จัดส่งในวันศุกร์ซึ่งเราก็ควรจะต้องดำเนินการแล้วไม่ใช่มาดำเนินการวันอาทิตย์ (ทั้งๆ ที่จัดส่งวันศุกร์ซึ่งเราไม่ได้รับของเอง และก็เป็นเวลาทำงานยังไม่ได้มีโอกาสเห็นของที่เสียหายหรือมีเวลาดำเนินการใดๆ เลย เสาร์อาทิตย์บริษัทผู้ส่งสินค้าก็ปิดทำการแล้วจะมีหนทางติดต่อผู้ส่งได้อย่างไรกัน) ซึ่งพนักงานก็ยังคงยืนกระต่ายขาเดียวไม่สามารถทำอะไรได้เลยเพราะนี่เป็นเงื่อนไขของบริษัทที่กำหนดเอาไว้ ทางเดียวคือให้เราจะต้องติดต่อกับผู้ส่งเพื่อยื่นเรื่องเคลมให้ได้ภายในเที่ยงของวันอาทิตย์เท่านั้น ก็ยังลองถามว่าการที่กำหนดระยะเวลาร้องเรียนที่สั้นๆ ถึงขนาดนี้แถมผู้รับพัสดุที่เป็นฝ่ายรับซึ่งทราบว่าเกิดความเสียหายขึ้นไม่สามารถยื่นแจ้งเรื่องเคลมได้เอง จะต้องส่งข้อมูลทั้งหมดกลับไปให้ฝ่ายผู้ส่งเพื่อแจ้งเคลมนั้นมันแทบจะไม่มีโอกาสน้อยมากๆ ที่จะทำได้สำเร็จในภายระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้สั้นมากเช่นนี้ ยิ่งถ้าติดช่วงวันหยุดยาวยิ่งไม่สามารถเป็นไปได้เลย ได้รับคำตอบที่ตลกๆ ที่ไร้เหตุผลกลับมาว่า บริษัท J&T ของเราก็เปิดทำการตลอดทุกวันนะคะ (มันเกี่ยวกันไหมกับการติดต่อระหว่างผู้รับและผู้ส่งให้ยื่นเรื่องเคลม) ท้ายที่สุดสรุปว่า Call Center บอกเงื่อนไขของทางบริษัทได้เพียงแค่นี้ ถ้าผู้ส่งไม่ดำเนินการยื่นภายในเที่ยงวันนี้ (อาทิตย์) ก็จะหมดสิทธิ์ยื่นเคลมในทันที ให้เราไปใช้ดุลยพินิจเอาเองว่าจะต้องทำยังไงให้ได้ สรุปเป็นการสนทนาที่ได้รับคำตอบยืนยันแบบเสียงแข็งว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดเอาไว้แบบนี้เท่านั้น
เราก็แย้งว่าเป็นการตั้งเงื่อนไขของบริษัทเอาเองที่ไม่ยุติธรรมต่อลูกค้าเลย เพราะกำหนดหลักการและให้ระยะเวลายื่นเคลมที่มีความเป็นไปได้น้อยมากๆ ในทางปฏิบัติ จึงจะขอพูดกับหัวหน้างานของ Call Center นี้แทน ปรากฎว่าวันอาทิตย์เป็นวันหยุดทำงานของหัวหน้า (ทีบริษัทของตัวเองก็ยังไม่จัดให้มีเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้างานมาคอยดูแลควบคุมพนักงานทำงานในกรณีที่อาจะเกิดปัญหาอยู่ตลอดเวลาเลย) สรุปว่าก็ต้องวางสายไปแบบขุ่นข้องหมองใจมากๆ
ด้วยความเครียดจากการสนทนา จึงเข้าไปดูเว็บของบริษัท J&T Express ปรากฎว่าเห็นระบุเงื่อนไขแสดงเอาไว้ว่า กรณีเกิดความเสียหายจะต้องยื่นเคลมภายใน 3 วันหลังจากได้รับของที่เสียหาย โดยยกตัวอย่างว่า เซ็นรับของวันที่ 1 เวลา 17:00 น. ก็จะต้องยื่นเรื่องภายในวันที่ 4 เวลา 17:00 น. ก็เลยมาลองนับวันดูบ้าง ปรากฎว่าพัสดุของเราได้รับวันศุกร์เที่ยง นี่เช้าวันอาทิตย์นับยังไงก็เพิ่งแค่ใกล้จะครบ 2 วันเท่านั้นเอง ดังนั้นก็คงมีโอกาสหายใจเพียงพอในช่วงเช้าวันจันทร์ที่จะติดต่อกับบริษัทผู้ส่งเพื่อแจ้งให้ช่วยดำเนินการให้ยื่นเคลมภายในเที่ยงได้อยู่บ้าง ก็เลยโทรกลับไปที่ Call Center เพื่อสอบถามยืนยันอีกทีว่าหมดเขตแจ้งเคลมในวันไหนกันแน่ ปรากฎว่าคราวนี้พนักงาน (ชื่อคุณนุษบา) เป็นผู้รับสายเราก็อ้างอิงจากที่เห็นในเว็บ ก็ได้รับคำตอบที่เธอตรวจสอบแล้วว่าจะสามารถเคลมได้ภายในเที่ยงของวันจันทร์ (ซึ่งแตกต่างจากข้อมูลเดิมที่ได้รับจากคุณอังสุมารี) แต่ทั้งนี้ก็ยังคงยืนยันว่าทุกอย่างจะต้องทำให้ได้ภายในเวลาที่กำหนดเอาไว้ในเงื่อนไขของบริษัทเท่านั้น ไม่สามารถยืดหยุ่นให้ได้เลยทั้งสิ้น ย้ำหนักแน่นอีกเช่นเดียวกันว่านี่เป็นเงื่อนไขของทางบริษัท ก็เลยลองตั้งคำถามให้คุณนุษบาลองช่วยคิดหน่อยว่า หากเป็นเธอที่เป็นผู้รับสินค้าแล้วเจอปัญหาแบบนี้ขึ้นมา โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวหลายๆ วันที่ทำให้เธอไม่มีโอกาสที่จะสามารถติดต่อกับผู้ส่งได้เลยนั้นเธอจะทำอย่างไร ได้รับคำตอบกลับมาว่า "ไม่ทราบค่ะ" ลองย้ำถามอยู่หลายหนก็ตอบแบบหุ่นยนต์กลับมาเหมือนเดิม สรุปว่าเงื่อนไขนี้ก็คงตั้งขึ้นมาสำหรับให้ลูกค้าสมองกลวงๆ เท่านั้นที่จะไม่คิดอะไรเลยกับเงื่อนไขที่จงใจเอารัดเอาเปรียบของบริษัทแห่งนี้แหละนะ
จากนั้นก็เลยฝากประเด็นนี้ให้คุณนุษบาส่งต่อไปถึงผู้บริหารบริษัท J&T Express ว่าการตั้งเงื่อนไขแบบนี้ค่อนข้างเป็นการเอาเปรียบลูกค้าและให้ผู้ส่งเป็นผู้ยื่นเรื่อง (แต่เพียงฝ่ายเดียว) ภายในระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้สั้นมากๆ แค่เพียง 3 วัน (ที่ไม่ใช่ "3 วันทำการ" ซะด้วย) โดยทั้งหมดทั้งปวงจะต้องให้ผู้รับติดต่อแจ้งกลับไปยังผู้ส่งดำเนินการยื่นด้วย (ถ้าผู้ส่งเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่สามารถโทรหรือส่งช้อความติดต่อได้ง่ายๆ ก็ยังอาจจะทำได้ แต่ถ้าผู้ส่งเป็นบริษัท(ที่ไม่ใช่บุคคล)ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการติดต่อหรือประสานงานกันภายในก็คงไม่มีทางทำได้ แถมถ้าเป็นช่วงวันหยุดยาวๆ ที่ทั้งผู้รับและผู้ส่งอาจจะไม่สามารถติดต่อกันได้โดยสะดวกก็คงหมดโอกาสเคลมไปเลย บริษัทจะได้ไม่ต้องลอยตัวไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยใช่หรือไม่ ทั้งนี้ก็ไม่ค่อยมั่นใจหรอกว่าสิ่งที่ฝากเอาไว้นี้จะส่งไปถึงหูถึงตาของผู้บริหารบริษัทแล้วผ่านถึงสมองให้คิดอะไรบ้างหรือไม่ ถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะรอดูว่าอนาคตของบริษัทแห่งนี้จะเป็นเช่นใดต่อไปก็แล้วกัน
ส่วนคุณพนักงานชื่อ อังสุมาลี ที่ให้ข้อมูลผิดในครั้งแรกนั้น ก็ได้ฝากให้คุณนุษบาแจ้งให้ติดต่อกลับมาเจรจากันอีกสักหน่อย เพราะตอนที่สนทนากับคุณเธอนั้นก็ใช้น้ำเสียงที่แข็งดึงดันมากตลอดเวลา ก็อยากจะดูสิว่าจะยอมมาแก้ตัวอะไรบ้างไหม แต่ผ่านมานานพอสมควรแล้วก็ยังไม่มีวี่แววที่จะติดต่อกลับมา นี่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของพนักงานของบริษัทนี้ชัดเจนเลยว่ามันย่ำแย่มากขนาดไหน และตลอดการสนทนาของพนักงาน Call Center ทั้งสองนอกจากที่ไม่สร้างให้เกิดความรู้สึกว่าพยายามที่จะช่วยเหลือลูกค้าแล้ว ยังกลับดูเหมือนที่จะหยิ่งพยองและไม่ง้อลูกค้าอีกด้วย หรือมั่นใจว่าบริษัทตัวเองมีลูกค้ามาใช้บริการอยู่เยอะแล้ว ไม่ต้องสนใจเสียงนกเสียงกาอะไรก็ได้หรือเปล่า อืม... ขอบอกเอาไว้เลยว่า ชาตินี้จะไม่ยอมมีวันเสียเงินมาใช้บริการให้แก่บริษัทที่มีทัศนคติในการให้บริการลูกค้าห่วยๆ เช่นนี้เลยเป็นอันขาด
อย่างไรก็ตามปัญหาเกิดขึ้นจริงหากทางบริษัท J&T มีความจริงใจในความรับผิดชอบที่จะช่วยเหลือเยียวยาแก่ลูกค้าเพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดทางบริษัทเอง อย่างน้อยทางบริษัทเองก็ควรจะเปิดโอกาสให้ผู้รับแจ้งเบื้องต้นได้แล้วว่าเกิดความเสียหายขึ้น ส่วนขั้นตอนการเคลมที่อาจจะให้ผู้ส่งเป็นผู้ดำเนินการก็อาจจะยืดเวลาให้ออกไปอีกหน่อยให้ทุกฝ่ายมีโอกาสหายใจดำเนินการประสานงานหลักฐานต่างๆ กันได้บ้าง มิใช่ J&T กำหนดง่ายๆ เอาเองแต่เพียงฝ่ายเดียวเช่นนี้ หรืออย่างน้อยก็ให้เปลี่ยนเป็น "วันทำการ" ก็ยังดีกว่านี้ หากตั้งเงื่อนไขที่แฝงด้วยการเอาเปรียบกันแบบนี้ ก็ฝากให้ผู้ที่กำลังใช้บริการส่งพัสดุ/สินค้าด้วย J&T Express นี้ลองคิดเผื่อถึงประเด็นเหล่านี้เอาไว้ด้วยว่าคุ้มค่าและสมควรที่จะเลือกบริการขนส่งรายนี้ดีหรือไม่ เพราะปัจจุบันมีตัวเลือกอีกมากมายที่น่าจะจริงใจและมีกระบวนการในความรับผิดชอบมากกว่ารายนี้ให้พิจารณาได้
แต่สำหรับเราและครอบครัวนั้น ต่อไปถ้าจะส่งพัสดุก็คงจะไม่มีทางเลือกขนส่ง J&T Express นี้เด็ดขาด เพราะดำเนินการธุรกิจแบบไร้ธรรมาภิบาลที่แฝงด้วยนโยบายซึ่งส่อถึงเจตนาที่จะเอาเปรียบและไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ไม่ควรจะมีโอกาสได้ทำมาหากินอยู่ในสังคม หากเกิดปัญหาขึ้นมาเราเป็นผู้ส่งคงจะชอกช้ำเพราะหากผู้รับแจ้งว่ากระชั้นชิดหรือเลยกำหนดของ J&T ก็คงจะต้องแบกความเสียหายเอาไว้เองแทนเพื่อเยียวยาแก่ผู้รับ หรือถ้าจะสั่งสินค้าก็คงพยายามแจ้งผู้ส่งไม่ให้ใช้บริการขนส่งจาก J&T เป็นอันขาด อย่างน้อยๆ ในเบื้องต้น ก็ป้องกันโอกาสเกิดปัญหาการที่จะผิดใจกันระหว่างผู้ส่งและผู้รับหากกระบวนการเคลมมีปัญหาในเรื่องระยะเวลาแล้วไม่รู้จะโทษว่าฝ่ายใดที่ส่งหรือดำเนินเรื่องล่าช้ากันแน่
ตอนนี้ถ้ามีโอกาสเลือก แนะนำว่าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงไปเลยนะ J&T Express ลาก่อน