โน จสฺสํ โน จ เม สิยา - น ภวิสฺสติ น เม ภวิสฺสตีติ : เราไม่มี..ของเราไม่มี ->ดังนั้น..เราจะไม่มี..ของเราจะไม่มี

กระทู้สนทนา
จาก...โนจเมสิยาสูตร - 
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=17&A=4190&Z=4219
จาก...ปาลิเลยยสูตร
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=17&A=2111&Z=2227
จาก...โกศลสูตรที่ ๑
https://etipitaka.com/read/thai/24/57/👉👉👉
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

 [๑๘๐]   น  เหว  โข  รูปํ  อตฺตโต  สมนุปสฺสติ  ฯ
น เวทนํ ฯ  น สญฺญํ    ฯ   น   สงฺขาเร   ฯ   น   วิญฺญาณํ   อตฺตโต   สมนุปสฺสติ
 [๑๘๐] ปุถุชนย่อมไม่ตามเห็นรูป โดยความเป็นตนเลย ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นเวทนา
โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นสัญญา โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นสังขาร
โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่ตามเห็นวิญญาณ โดยความเป็นตน ฯลฯ 

นาปิ   เอวํทิฏฺฐี  โหติ  โส  อตฺตา  โส  โลโก  โส  เปจฺจ  ภวิสฺสามิ นิจฺโจ   ธุโว   สสฺสโต   อวิปริณามธมฺโมติ  
เป็นผู้ไม่มีทิฏฐิ เช่นนี้ว่า ตนก็อันนั้น โลกก็อันนั้น เรานั้นละโลกนี้ไปแล้ว จักเป็นผู้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความ
ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา

อปิจ  โข  เอวํทิฏฺฐี  โหติ โน  จสฺสํ  โน  จ  เม  สิยา  น  ภวิสฺสามิ  น เม ภวิสฺสตีติ ฯ👈👈👈
แต่ว่าเป็นผู้มีทิฏฐิ เช่นนี้ว่า เราไม่พึงมี และบริขารของเราไม่พึงมี....เราจักไม่มี บริขารของเราจักไม่มี

ยา   โข  ปน  สา  ภิกฺขเว  อุจฺเฉททิฏฺฐิ  สงฺขาโร  โส  ฯ  
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มีทิฏฐิความเห็นว่าขาดสูญเช่นนั้นเป็นสังขาร.

โส  ปน สงฺขาโร    กึนิทาโน   กึสมุทโย   กึชาติโก   กึปภโว   ฯ   
ก็สังขารนั้น มีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นเครื่องก่อให้เกิดขึ้น มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด? 

อวิชฺชาสมฺผสฺสเชน   ภิกฺขเว   เวทยิเตน   ผุฏฺฐสฺส   อสฺสุตวโต   ปุถุชฺชนสฺส
อุปฺปนฺนา   ตณฺหา  ตโตโช  โส  สงฺขาโร  ฯ  
สังขารนั้น เกิดจากตัณหาที่เกิดขึ้นแก่ปุถุชนผู้มิได้สดับ ผู้อันความเสวยอารมณ์ที่เกิดแต่อวิชชาสัมผัสถูกต้องแล้ว. 

อิติ  โข  ภิกฺขเว  โสปิ  สงฺขาโร  อนิจฺโจ  ฯเปฯ  
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้แล แม้สังขารนั้น ก็ไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่ง อาศัยเหตุเกิดขึ้น 
แม้ตัณหานั้น แม้เวทนานั้น แม้สัมผัสะนั้น แม้อวิชชานั้น ก็ไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่ง อาศัยเหตุเกิดขึ้น.
 
เอวํปิ  โข  ภิกฺขเว  ชานโต  เอวํ  ปสฺสโต  อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลแม้รู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ อาสวะทั้งหลาย ย่อมสิ้นไปโดยลำดับ.



ที่ยก..ปาลิเลยสูตรในหัวข้อที่ 180 มาให้ดูก็เพื่อยืนยันพุทธพจน์ที่ว่า การไปเห็นว่า 
" เราไม่มี - เราไม่เคยมี - เราเป็นเพียงสมมุติของขันธ์๕ "...คำนี้คือ 

โน จสฺสํ โน จ เม สิยา - น ภวิสฺสติ  น เม  ภวิสฺสตีติ : 
(....เราไม่มี..ของเราไม่มี ->ดังนั้น..เราจะไม่มี..ของเราจะไม่มี..,)

อันเป็นอุจเฉททิฏฐิ.. อย่าได้ภูมิใจในมิจฉาทิฏฐิของต้น  ให้นำไปพิจารณาและแก็ไขให้ถูกต้อง..ดีกว่า

การที่ไปกล่าวว่า...ขันธ์๕(เป็ด)..ไม่ใช่เรา(ไก่)....
เพราะว่า.. "  เราไม่มี - เราไม่เคยมี - เราเป็นเพียงสมมุติของขันธ์๕ "
อย่างนี้...มันก็จะเป็นตรรกะ..เบี้ยวๆแบบนี้หละ 👇
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่