[๕๘๐] พระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น วัจฉโคตรปริพาชก ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค
ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่ท่านพระโคดม อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้ทิฏฐิหลายอย่างเหล่านี้เกิดขึ้นในโลกว่า โลกเที่ยงบ้าง ฯลฯ สัตว์
เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเกิดอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เกิดอีกก็หามิได้บ้าง?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรวัจฉะ เพราะกรรมคือการไม่เห็นเฉพาะในรูป ในเหตุเกิดแห่งรูป
ในความดับแห่งรูป ในปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับแห่งรูป ฯลฯ
[๕๘๑] พระนครสาวัตถี. ดูกรวัจฉะ เพราะกรรมคือการไม่เห็นเฉพาะในเวทนา ฯลฯ
[๕๘๒] พระนครสาวัตถี. ดูกรวัจฉะ เพราะกรรมคือการไม่เห็นเฉพาะในสัญญา ฯลฯ
[๕๘๓] พระนครสาวัตถี. ดูกรวัจฉะ เพราะกรรมคือการไม่เห็นเฉพาะในสังขารทั้งหลาย ฯลฯ
รูปอัปปัจจักขกัมมาทิสูตรที่ ๑-๔
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๙
สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=17&A=6692&Z=6704&pagebreak=0
เพราะกรรมคือการไม่เห็นเฉพาะในรูป ในเหตุเกิดแห่งรูป ในความดับแห่งรูป ในปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับแห่งรูป ฯลฯ
ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่ท่านพระโคดม อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้ทิฏฐิหลายอย่างเหล่านี้เกิดขึ้นในโลกว่า โลกเที่ยงบ้าง ฯลฯ สัตว์
เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเกิดอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เกิดอีกก็หามิได้บ้าง?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรวัจฉะ เพราะกรรมคือการไม่เห็นเฉพาะในรูป ในเหตุเกิดแห่งรูป
ในความดับแห่งรูป ในปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับแห่งรูป ฯลฯ
[๕๘๑] พระนครสาวัตถี. ดูกรวัจฉะ เพราะกรรมคือการไม่เห็นเฉพาะในเวทนา ฯลฯ
[๕๘๒] พระนครสาวัตถี. ดูกรวัจฉะ เพราะกรรมคือการไม่เห็นเฉพาะในสัญญา ฯลฯ
[๕๘๓] พระนครสาวัตถี. ดูกรวัจฉะ เพราะกรรมคือการไม่เห็นเฉพาะในสังขารทั้งหลาย ฯลฯ
รูปอัปปัจจักขกัมมาทิสูตรที่ ๑-๔
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๙
สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=17&A=6692&Z=6704&pagebreak=0