ป.ปลา (เค็ม) นั้นหายาก?

ป.ปลา (เค็ม) นั้นหายาก?
“ป.ปลานั้นหายาก ต้องลำบากออกเรือไป ขนส่งจากแดนไกล ใช้น้ำแข็งเปลืองน้ำมัน แช่เย็นก็เสียไฟ 
หุงต้มไซร้แก๊สทั้งนั้น พลังงานต้องหมดกัน โอ้ลูกหลานจำจงดี”
หวังว่าหลายๆ ท่านยังคงจำบทกลอนในภาพยนตร์โฆษณาดังที่มีตัวละครคือ “อาเม้ง” 
ซึ่งเป็นลูกชายครอบครัวชาวไทยเสื้อสายจีนโดนคุณแม่หรือมาม้าซึ่งแก่มากแล้วดุเพราะสั่งอาหารมากินเยอะแยะจนกินไม่หมดเหลือเต็มโต๊ะ 
อาเม้งจึงถูกลงโทษโดยให้ท่องบทกลอนข้างต้นที่มาม้าเคยสอนลูกๆ ไว้ให้รู้จักกินอยู่อย่างประหยัดอย่าฟุ่มเฟือย 
สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิดของคนรุ่นเก่าอย่างมาม้าของอาเม้งที่เคยผ่านความยากลำบาก
แต่ก็อดทนและอดออมใช้สอยอย่างประหยัดจนเลี้ยงลูกให้ได้รับการศึกษาที่ดีเติบใหญ่มีงานมีการทำฐานะร่ำรวยมีอันจะกินแล้ว 
แต่กระนั้น ด้วยความเป็นห่วงของผู้เป็นแม่ที่มีต่อลูกตลอดเวลาไม่ว่าลูกจะโตแค่ไหนแล้วก็ยังเห็นว่าลูกยังเป็นเด็กอยู่เสมอ 
เมื่อเห็นว่าลูกทำอะไรไม่เข้าหูเข้าตาก็จึงอดไม่ได้ที่จะต้องคอยอบรมสั่งสอนให้อาเม้งระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายอย่าหลงลืมตัวเด็ดขาด
ดูโฆษณาเรื่องนี้ทีไรแม่นันก็อดคิดถึงครอบครัวของแม่นันไม่ได้ทุกที เพราะครอบครัวของแม่นันนั้นเป็นชาวจีนแท้ 100% 
อาป๊ะ (คุณพ่อ) กับอาอึ้ม (คุณแม่) นั้นเป็นจีนแต้จิ๋วที่บรรพบุรุษ (ฝ่ายอาป๊ะ) อพยพมาอยู่เมืองไทย 
ส่วน (ฝ่ายอาอึ้ม) อพยพมาอาศัยอยู่ที่เกาะสิงคโปร์ บุพเพสันนิวาสอาป๊ะได้มาพบรักกับอาอึ้มที่สิงคโปร์
และได้พาอาอึ้มข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาสร้างครอบครัวอยู่เมืองไทยอีกครั้ง จนออกลูกออกหลานจวบจนถึงปัจจุบันนี้ 
ครอบครัวพี่น้องของแม่นันและตัวแม่นันซึ่งเป็นทายาทสายตรงของอาป๊ะกับอาอึ้มได้ผลิตลูกหลานเหลนสิริรวมกันนับร้อยชีวิต 
เป็นไงคะอานุภาพแห่งความรักความโรแมนติกของคนคู่เดียว เพียงแค่ช่วงเวลา 70 กว่าปีได้สร้างประชากรขึ้นใหม่ให้โลกใบนี้เยอะไหมคะ
ด้วยความที่อาป๊ะกับอาอึ้มมีลูกมากถึง 10 คน ชาย 3 หญิง 7 ซึ่งก็เป็นธรรมดาของคนยุคเก่า 
แต่ละบ้านมีลูกกันเยอะๆ ไม่ใช่เรื่องแปลก ฐานะของครอบครัวเราไม่ได้ร่ำได้รวยอะไรแม่นันและพี่ๆ 
จึงถูกเลี้ยงดูมาอย่างให้รู้จักประหยัดและอดออม อาหารการกินก็ต้องแบ่งสันปันส่วนให้พอเพียงต่อปากท้อง
ของสมาชิกในครอบครัวได้กินอิ่มกันอย่างทั่วถึง ซึ่งอาตั่วแจ้ได้เคยเล่าถึงเรื่องการกินปลาทูของครอบครัวเราสมัยพวกอาแจ้ยังเด็กๆว่า 
อาป๊ะนั่งดูลูกๆทานเนื้อปลากันอย่างเอร็ดอร่อย ในขณะที่ตัวเองเก็บหัวปลาไว้ประทังชีวิต 
(แม่นันได้ฟังอาแจ้เล่าเรื่องนี้ทีไร ก็ให้รู้สึกลึกซึ้งกับคำว่า "รัก" ของพ่อแม่จริงๆ)
ต่อมาอาป๊ะก็ด่วนจากพวกเราไปตั้งแต่แม่นันในขณะนั้นอายุได้เพียง 4 ขวบ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก 
พอบ้านขาดหัวเรือใหญ่พี่สาวคนโต (อาตั่วแจ้) จึงต้องกลายเป็นผู้นำถือหางเสือแทนอาป๊ะ 
พวกเราจึงลำบากมากขึ้น แม่นันเป็นลูกสาวคนเล็กอายุห่างจากพี่สาวคนโตถึง 20 กว่าปีไม่เคยได้รับรู้ถึงความยากลำบากของพี่ๆ 
แต่ก็ถูกสอนให้รู้จักกินอยู่อย่างประหยัด แม่นันจึงติดนิสัยกินข้าวมากกินกับน้อยมาจนถึงบัดนี้ 
กับข้าวกับปลาในสมัยก่อนที่แม่นันกินบ่อยมากแล้วก็กลายเป็นของชอบของโปรดเลยอย่างหนึ่ง
จนโตเป็นสาวแต่งงานมีลูกมีเต้าแล้วก็ยังหลงใหลอยู่ ก็ได้แก่ปลาอินทรีย์เค็ม นับได้ว่าปลาเค็มเป็นแหล่ง
อาหารโปรตีนและด้วยความเค็มของมันทำให้ปลาตัวหนึ่งเราสามารถกินกันได้หลายคนหรือเก็บไว้กินได้หลายมื้อ 
เรียกว่าไม่มีอะไรก็ทอดปลาเค็มกินกับข้าวต้มร้อนๆ แค่นี้ก็อิ่มท้องไปหนึ่งมื้อแล้วค่ะ 
(แม่นันเป็นอย่างนี้จริงๆ ขอแค่มีปลาอินรีย์เค็มอยู่บนโต๊ะก็สวรรค์ของความอร่อยแล้วค่ะ รีบคว้าชามตักข้าวต้มในทันที)
ปลาเค็ม หรือที่ชาวจีนแต้จิ๋วเรียกว่า “เกี่ยมฮื้อ” นั้น ถือได้ว่าเป็นอาหารยอดนิยมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยนะคะ 
เพราะไม่ว่าไทย จีน พม่า เขมร ญวน ลาว ล้วนรู้จักทำปลาเค็มเก็บไว้รับประทานกันทุกชาติ ซึ่งก็มีทั้งปลาน้ำจืดและปลาทะเล 
ที่เราคุ้ยเคยก็อย่างเช่น ปลาสลิด ปลาช่อน ปลาตะเพียน ปลากุเลา ปลาอินทรีย์ ปลาทู ปลาสีเสียด 
คนไทยนำมาทำปลาเค็มอร่อยเด็ดนักใช่ไหมคะ
อย่างที่บอกแม่นันชอบปลาอินทรีย์เค็มมากค่ะ เรียกได้ว่าเป็นปลาคู่ใจคู่ครัวของแม่นันกันเลยทีเดียว 
แม่นันมีแผงอาหารทะเลเจ้าประจำมาจากหนองมน ชลบุรี แม่นันมักจะสั่งทีละหลายๆ ชิ้น นำมาห่อพลาสติกเก็บไว้ในช่องฟรีซ 
บางครั้งก็ยกตัวมาแบ่งแจกจ่ายพวกอาแจ้ เราสามารถนำปลาอินทรีย์เค็มมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู 
เช่น ผัดคะน้าปลาเค็ม หมูสับผสมปลาเค็มนึ่ง ข้าวผัดปลาเค็ม หรือเอาอย่างง่ายๆ เบสิคที่สุดก็คือ 
ทอดแล้วยำด้วยพริกขี้หนูสวนหอมแดงซอยและมะนาวกินกับข้าวต้มก็แซ่บถึงใจ
หลังจากเขียนเรื่องนี้เสร็จแล้วแม่นันก็เข้าครัวไปทำข้าวผัดปลาเค็มให้ลูกๆและสามี รับประทานกันเป็นมื้อค่ำ 
(ใครได้ดูวีดีโอสนทนาภาษาจีนกับแม่นัน ep6 ก็คือมื้อนั้นล่ะค่ะ) ครอบครัวเราอยู่ง่ายกินง่ายค่ะอาหารจานเดียวก็อิ่มอร่อยสบายท้องกันแล้ว
และก็อย่าลืมนะคะ “ป. ปลานั้นหายาก....” ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีของแพงขึ้นทุกอย่างโปรดใช้สอยอย่างประหยัดกันหน่อยนะคะ 
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนฝ่าฟันทุกปัญหาไปได้ด้วยดี เราจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันค่ะ

 
 
 
 
 
 
8,443
People reached
585
Engagements
Boost post
 
 
76You and 75 others
 
10 Comments
13 Shares
 
Like
 
 
 
Comment
 
 
Share
 
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่