ปลาดิบตัวที่ 711 ขนย้ายจากญี่ปุ่นขึ้นฝั่งโชซ็อน
แล่ซาชิมิ(สรุปเป็นภาษาอังกฤษ)โดย jeeswag เจ้าเดิม
ลากซาซิมิมาให้ชิม(แปลเป็นไทย)โดยผมเอง
หากรสชาติมันเปลี่ยน(เน่า เพราะเอาซาชิมิไปดำน้ำส่วนหนึ่ง) ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
ถ้าต้องการซาชิมิแบบสดๆ ก็ไปตามที่อยู่ตามลิ้งค์นี้เลย
https://www.reddit.com/r/Kingdom/comments/t3ndo2/kingdom_711_kr_spoilers/
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-แม่ทัพอุดรที่มานำทัพที่เหลือหลังจากโจปังหวังสิ้น
(KR:풍범, pungbeom ดำจีน: 風衣,Fēngyī) ผมขอใช้เป็น เฟิ้งอี้ ละกัน
อุดร:
ก้านสื่อโหลวเอ่ยว่าโจปังหวังนั้นถือว่าเป็นที่ภาคภูมิใจในฐานะผู้บัญชาการทัพฉิน แต่เขาควรจะยอมจำนนซะแต่บัดนี้. โจปังหวังจึงขานกลับไปว่า อย่าริอาจมองเขาต่ำไป และฉินนั้นจักเป็นผู้กลืนกินจ้าว. เขาพุ่งตรงไปยังก้านสื่อโหลว แต่กลับต้องง้านของก้านสื่อโหลวตวัดขาดสบั้นในเพลงเดียว.
ทหารของก้านสื่อโหลวจึงบอกว่า เยี่ยมยอด และงานของพวกเขาทางด้านนี้ก็ลุล่วง. ก้านสื่อโหลวสงสัยว่าทางด้านเจี้ยเหรินเป็นอย่างไรบ้าง. เจี้ยเหรินนั้น หลังจากถล่มกลุ่มแต่แรกเริ่ม เขาก็บดขยี้โดยเริ่มจากกวาดทัพฉินที่เหลือไปแนวหนัง.
ทัพแนวหลังเห็นคนปลิวว่อน และได้รับรายงานว่าแม่ทัพที่บัญชาการทัพถูกสังหารแล้ว. ทัพหลังอยู่ในช่วงยากที่จะตัดสินใจว่าควรทำอันใด เพราะบางคนต้องการจะจัดกลุ่มใหม่ แต่เนื่องด้วยศัตรูที่ไม่ทราบจำนวน ในขณะที่คนอื่นๆต้องการที่จะพุ่งเข้าโจมตีและกำจัดศัตรูที่อยู่ตรงหน้า
เนื่องจากพวกเขาทั้งหลายต่างมาจากหลายๆหัวเมือง จึงไม่มีแม่ทัพคนใดตัดสินได้ว่ากองทัพทั้งกองที่อยู่ด้านหลังควรจักทำอย่างไร. ขณะที่พวกเขาโต้เถียงกันว่าจะทำอย่างไร ศัตรูก็ปรากฎตรงหน้าเชิงผาของพวกเขา. แม้บางส่วนต้องการที่จะสู้ แต่ส่วนใหญ่แนวหลังกลับตัดสินใจถอยกลับ. ในความเป็นจริงแล้วจ้าวที่อยู่บนนั้นมีกองทหารแค่ไม่กี่แถวเท่านั้น แต่จากด้านล่างพวกกลับไม่รู้ถึงจำนวนที่อยู่ด้านหลัง.
ก้านสื่อโหลวได้รับรายงานแจ้งว่าหลังจากที่เจี้ยเหรินโจมตีแนวหลัง แนวหลังทัพฉินจึงเริ่มถอยทัพ. ก้านสื่อโหลวจึงเอ่ยว่า งั้นทั้งหมดที่เหลืออยู่ก็เป็นทัพหน้าสินะ. เหล่าแม่ทัพขบวนหลังทราบข่าวหลังจากที่โจปังหวังถูกสังหาร ทัพหลังทั้งหมดจึงทำการถอยทัพ. เฟิ้งอี้สงสัยว่าทำไมพวกเขาจึงถอยกลับด้วยจำนวนมากมายเพียงนี้และพยายามคิดว่าควรทำอย่างไร
เฟิ้งอี้เอ่ยว่า เนื่องจากพวกเขายังมีอยู่ 50,000 นาย ดังนั้นพวกเขาจะยังเดินขบวนด้วยจำนวนเท่าที่พวกเขามี อันเพราะหกเทพขุนพลทั้งสองกำลังรอพวกเขาอยู่เบื้องหน้า. พวกเขาเดินขบวนในขณะที่ทำให้แน่ใจว่าจ้าวจักไม่มาไล่กวดหลังพวกเขา.
ข้อความเอ่ยไว้ว่า จ้าวบดขยี้ทหารฉิน 40,000 นาย 50,000 เคลื่อนพลต่อไป และที่เหลือถอยร่อนกลับไปไกลยังเมืองที่พวกเขาเริ่มเดินทัพ(ไท่หยวน)
ทัพร่วมหวนฉี:
ทัพเฟ่ยซิ่นกำลังรอในฐานะทัพทักษินสำหรับการมาถึงของทัพอุดร. คนส่งสาส์นมารายงานว่าทัพอุดรมาถึงแล้ว และพวกเขา(ซิ่น)ก็พูดอย่างขบขันว่า ตั้ง สองแสน มันก็ต้องช้ากันบ้างสิวะ. คนนำสาส์นจึงรายงานว่า ที่มาถึงมีเพียงแค่ 50,000 นายเท่านั้น แล้วซิ่นก็ถึงกับช็อค.
เอิ้นเหยา:
เถียนหลี่เว่ยรายงานว่าทัพอุดรของพวกเขานั้นถูกจ้าวจู่โจม และยังดีที่กลับไปยังจุดเริ่มต้นได้. หวังเจี้ยนจึงเอ่ยถามไปว่า ไปหมดเลยหรือ. เถียนหลี่เว่ยจึงกล่าวว่า แค่ 50,000 ที่ไปถึงยังทัพหวนฉีได้.
หวังเจี้ยนก็ขบคิดในขณะที่รำพึง "50,000..."
จุดรวมพลหวนฉี:
เหล่าแม่ทัพทักษินได้มาประชุมกัน และแม้ว่าพวกเขาต่างก็ขอบคุณที่ทัพอุดรมาถึงได้ แต่จำนวนก็ถือว่าไม่เพียงพอ. 50,000 ถึงจะไม่ใช่จำนวนน้อยนิด แต่เมื่อเทียบกับ 200,000 แล้ว พวกเขาถือว่ามันขาดตกไปมากโข. บี้จึงเอ่ยขึ้นว่าเป็นปัญหาเพราะพวกเขาแยกตัวออกจากกองทัพหวังเจี้ยน ด้วยเหตุนี้. เฟิ้งอี้จากทัพอุดรจึงกล่าวว่า พวกตนมิมีข้อแก้ตัว. เหมิงเถียนเลยกล่าวกลับไปว่า ที่พวกเขามาก็ไม่ได้อะไร และมันก็ยังดีที่พวกเขามาถึงทีนี่.
เตียวจึงเอ่ยถามไปว่า ส่วนที่ถอยกลับไปจะกลับมาไหม เฟิ้งอี้จึงกล่าว มันไม่ง่ายเลยที่จะรวมกำลังพลมากขนาดในคราเดียว จึงไม่มีโอกาสที่พวกตนจะสามารถจากไปได้ทันที แม้ว่าพวกเขาจะมาก็ตาม
หมอหลุนจึงเอ่ยกลับไปว่า พวกตนไม่มีเวลาที่จะรออีกอีกสองสามหมื่นมาถึง หรอก เพราะพวกตนรอแค่ทัพหวังเจี้ยนตั้งแต่แรกแล้ว.
บี้ก็เห็นด้วย แล้วเถียวก็เอ่ยว่า พวกเขากลับมาที่ตัวเลือก 2 ความเห็น หนึ่ง พวกตนจักเอา 50,000(รวมกับ 90,000)เนี่ยแหละ และทำการโจมตียี่อันต่อ หรือสอง ยอมแพ้ในการโจมตีและถอนกำลังกลับ.
หมอหลุนถามเตียวว่า คิดว่าอะไรเป็นทางเลือกที่ดีทีสุด เนื่องจากนางเป็นคนที่พูดมากที่สุด. เตียวจึงกล่าวว่า นางเองก็ไม่แน่ และนางเองก็อยากได้ยินความเห็นของหมอหลุน. นางคิดถึงวิธีที่จะโจมตีด้วยกำลัง 50,000 แต่ก็ไม่สามารถคิดถึงหนทางที่ดีที่จะเอาชนะได้. 50,000 ก็มิได้เลวร้ายพอที่พวกเขาจะล้มเลิกแผนในทันที แต่ก็ยังยากที่จะใช้จำนวนเท่านี้โจมตียี่อัน.
หมอหลุนเอ่ยว่า นางคิดว่าทางเลือกเดียวคือเดิมพันว่าการโจมตีของพวกเขานั้นจักสำเร็จหรือไม่แค่นั้น. นางจึงกล่าวว่า นางมิได้จักพูดอย่างงั้น.
เหมิงเถียนกล่าวว่าตามรายงานนั้น ยี่อันมีรี้พล 100,000 นาย ขณะที่พวกตนนั้นมี 140,000 นาย ที่รวมเข้ากับทัพอุดร. แม้จ้าวจักคาดการณ์ไว้แล้วว่า ยี่อันจักเป็นจุดที่ฉินนั้นโจมตีมากที่สุด พวกเขาก็จักมีทหารเพิ่มขึ้นอีกราว แสนถึงสองแสนนาย และสถานการณ์ของพวกตนในตอนนี้นั้นก็ไม่น่าจักเอิ้ออำนวยโดยแน่แท้. อ้ายส่านรองแม่ทัพของเหมิงเถียนเลยกล่าวว่า พอเทียบกับยี่อันอันอล้ว มันก็ดูค่อนข้างดี. บี้เองก็เห็นด้วย. เหมิงเถียนจึงเอ่ยอีกว่า หากพวกเขาถอยกลับเอิ้นเหยา ต่อมาจ้าวจักเตรียมพร้อมได้มากขึ้น มันจึงง่ายที่จักบุกยี่อัน ณ ตอนนี้ เมื่อเทียบกับภายหลัง ดังนั้นเขาจึงออกเสียงให้โจมตีตามที่รองแม่ทัพของเขาเห็นพ้อง. เตียว, บี้และเฟิ้งอี้ ทั้งหมดต่างลงขันให้ทำการบุกต่อไป.
หมอหลุนสังเกตุเห็นซิ่นไฉนถึงได้นิ่งเงียบจึงถามสิ่งที่เขาคิดอยู่. เขาคิดว่าซิ่นจักต้องพูดอย่างแน่นอนว่า พวกเขาควรจะเคลื่อนพลต่อ แต่คิดจะถามเขา แต่ซิ่นกลับเอ่ยว่า เขาเองก็ไม่แน่ใจ. ทุกคนต่างแปลกใจ. เมื่อถามว่าเขาหมายความเช่นไร ซิ่นจึงเอ่ยว่าตั้งแต่เอิ้นเหยาแล้วที่เขาสัมพัสได้ว่าไร้ซึ่งหนทาง.(อันนี้จะบอกเป็นนัยน์ๆว่า ซิ่นเองเหมือนรู้ว่าทัพหวนฉีนั้นกำลังเข้าไปยังหลุมพลาง เหมือนหวังเจี้ยนเองก็เริ่มสัมพัสได้จึงเตือนหวนฉีไป ผมเองก็ไม่แน่ใจนะ ว่าหวังเจี้ยนนอกจากเป็นสายที่วางแผนมองการไกลแบบล่วงหน้าโคตรๆ แต่เหมือนแกจะมีความเป็นแม่ทัพสัญชาตญาณในตัวที่)
หมอหลุนจึงกล่าวว่า หมอนี่ก็อารมณ์บูดอยู่เสมอนั่นแหละ. หวนฉีจึงเอ่ยว่า หากเริ่มหวาดกลัวขึ้นมา ก็กลับไปกับทัพตัวเองซะสิ. ซิ่นจึงกล่าวกลับไปว่า ตนนั้นมิได้หวาดกลัวอันใด แต่ให้พูดง่ายๆคือ หากพวกเขาไม่ระวังตัวละก็จะมีอันเป็นไป เลยถามหวนฉีว่ารู้สึกแบบเดียวกันไหม.
หมอหลุนก็เยาะเย้ยต่อคำแนะนำของซิ่น ทว่าหวนฉีกลับเอ่ยว่าตนนั้นก็สัมพัสได้เช่นนั้นเหมือนกัน ทุกๆคนต่างก็ตกใจไปตามๆกัน. หวนฉีกล่าวว่าเป็นเพราะการที่เขาก้าวไปข้างหน้าเพราะในสถานการณ์เหล่านั้นเท่านั้นจึงเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การมี.
จากนั้นเขาก็เอ่ยว่ามันเป็นอย่างนั้นเสมอและจักมิมีอะไรเปลี่ยนแปลง. อย่างไรก็ตามทีตระเตรียมไว้ เขาจักผ่านมันไปให้ได้ และทำหน้าที่รับผิดชอบ(ตรงนี้งงกับ eng อยู่หน่อยครับ ว่าเหมือนเขาจะเอาหัวตัวเองเป็นประกัน) ซึ่งหมายความว่าเขาจักชนะศึกนี้. แล้วเขาก็เอ่ยกับคนอื่นๆว่า "ไปกันได้แล้ว ไอพวกลูกเต่า".
ณ หัวเมืองระหว่างยี่อันและหานตาน:
หลี่มู่ได้รับรายงานแจ้งว่าหลังจากที่การโจมตีทัพอุดร ฉินจึงมีกำลังพลแค่ 50,000 นาย เคลื่อนขบวนทัพเพื่อผนวกรวมกับทัพหวนฉี. ฉินจึงมีกำลังพลรวมทั้งหมดคือ 140,000 และบัดนี้กำลังเคลื่อนพลมายังยี่อัน. หลี่มู่จึงเอ่ยว่าพวกเขากำลังเคลื่อนมาตามทางที่วางเอาไว้ และพวกตนนั้นจักโค้นหวนฉีลงที่ยี่อัน
สัปดาร์หน้ามีต่อ!
สปอย Kingdom 711 แปลเป็นไทยจากคนสรุปอิ้งแบบงูๆปลาๆ
แล่ซาชิมิ(สรุปเป็นภาษาอังกฤษ)โดย jeeswag เจ้าเดิม
ลากซาซิมิมาให้ชิม(แปลเป็นไทย)โดยผมเอง
หากรสชาติมันเปลี่ยน(เน่า เพราะเอาซาชิมิไปดำน้ำส่วนหนึ่ง) ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
ถ้าต้องการซาชิมิแบบสดๆ ก็ไปตามที่อยู่ตามลิ้งค์นี้เลย
https://www.reddit.com/r/Kingdom/comments/t3ndo2/kingdom_711_kr_spoilers/
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้