สอบถามเเนวทางเเห่งการปฏิบัติต่อครับ

**เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริง เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงครับ เเต่จะเชือ่หรือไม่ก็เเล้วเเต่วิจารณญาณของทุกๆท่านครับ**

เมื่อ 6 ปีที่เเล้วตอนผมอายุ 18 ปี จิตของผมรวมเข้าอัปปนาสมาธิครั้งเเรก จู่ๆมันรวมเข้าไปเอง เหมือนถอยออกมาเป็นผู้รู้ผู้ดู ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตมาก่อนเลยครับ จิตพอถอยออกมา มันเห็นจิตอีกดวงนึกเกิดดับต่อกัน 2-3 ขณะเสร็จเเล้ว หมดไป ต่อจากนั้นมันความหยั่งรู้ขึ้นมาว่า สิ่งใดเกิดขึ้นล้วนเเล้วเเต่ดับไปตามธรรมดา เกิดเเสงว่างวาบ เหมือนโลกธาตุสั่นไปชั่วขณะหนึ่ง  ต่อจากนั้นผมพยายามที่ทบทวนความหยั่งรู้นี้อีกครั้งหนึ่ง ทว่ามันเหมือนมันหมดเเล้ว เเละจู่ๆก็ปรากฏนิมิตของพระสัมมาสุทธเจ้าขึ้นมาให้เห็น พระองค์นั่งขัดสมาธิอยุ่ใต้โพธิบัลลังก์ (นิมิตนี้อาจไม่จริงก็ได้ครับ ขอถามผู้รู้อีกที) หลังจากเหตุการณ์นี้จบ  อาการหยั่งรู้อนัตตายังติดต่อไปอีกประมาณ 7 วัน  สามารถเเยกธาตุเเยกขันธ์ออกได้ทันที เกิดความรู้สึกเป็นกลางอย่างมากครับ เเละที่สำคัญหลังจากประสบการณ์นี้จริง ผมกลับมั่นใจในพระรัตนตรัย 100% ไม่สงสัยเรื่องภพภูมิหรือหนทางการปฏิบัติให้หลุดพ้นเลย ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ผมไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าการเเยกธาตุเเยกขันธ์คืออะไร ไม่เข้าใจว่าอะไรคือวิปัสสนาญาณ ไม่เชื่อเลยว่ามีภพภูมิจริงๆ ไม่เชื่อเลยว่าคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดับทุกข์ ตอนนี้ผมเชื่อมั่นอย่างนสนิทใจครับ ที่น่าเเปลกกว่า คือ พอผมเริ่มค้นหาประสบการณ์นี้โดยเทียบเตียงกับตำราก็พบว่ามันน่าจะเป็นภาวะของพระโสดาบัน เเต่ว่ามันกลับไม่ใช่ เพราะศีล 5 ไม่ได้สมบูรณ์ เเบบพระอริยเจ้าครับ เพียงเเต่มีศรัทธาอย่างมากในคำสอนของพระพุทธเจ้า ถึงขนาดเอาตัวเองไปตายเพื่อเเลกกลับพระนิพพานก็ยอมได้ 5 ปีให้หลังจากประสบการณ์ ความมั่นใจในคำสอนอย่างเหมือนเดิม เเต่ด้วยความเป็นวัยรุ่นของผมทำให้ปฏิบัติได้บ้างไม่ได้บ้าง  ศึกษาบ้างเเละก็เล่นค่อนข้างมากครับ ในช่วงปีที่เเล้วผมพยายามเอาจริงเอาจังกับเรื่อง พยายามฝึกสติปัฏฐานเเละบ่มเพราะอินทรีย์ไปเรื่อยๆจนกว่าวิปัสสนาญาณจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เเต่ตอนหลังผมทราบว่าตนเองมุ่งมั่นที่จะเอาสัมมาสัมโพธิญาณ ปราถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าสักพระองค์หนึ่งครับ  การที่ผมพึ่งมาทราบเพราะไม่คิดว่าตนเองจะปราถนา มันไม่มีสัญญาอะไรมาบอกเลย นอกจาก ความกรุณาที่มีอยู่ตลอดในจิตตั้งเเต่เด็กๆครับ อย่างเช่น ตั้งใจเรียนต่อในสาขาที่ชั่วเหลือคนมากๆ ตั้งใจจะตั้งกองทุนเพื่อบำรุงพระศาสนา ตั้งใจจะเป็นอาจารย์ที่เก่งทั้งในทางโลกเเละทางธรรมเพื่อสอนผู้ที่ไม่มีความรู้ ผมคิดว่าด้วยความกรุณาเองที่เป็นเชื้อให้เกิดประสบการณ์ของจิตเมื่อตอนอายุ 18 เเละต่อมาก็เป็นเชื้อกล้าหาญที่จะยอมรับว่าตนเองปราถนาพุทธภูมิจริงๆ เเละไม่ได้อยากปราถนาเพราะอยากจะยิ่งใหญ่ เเต่มองว่าการเสียสละตนเอง เพื่อสัพพัญญุตญาณจะสามารถช่วยเหลือทุกคนได้ครับ ผมเคยคิดทบทวนไปมาบางครั้งว่า ถ้าเราสละชีวิตตนเองได้เเละคนสัก 1000 คนรอดผมก็ยอม มันเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก เสีย 1 ชีวิตเพื่อช่วยเหลืออีกหลายๆคนที่ทุกข์มากกว่า ปัจจุบันนี้ผมเรียนต่อระดับปริญญาโทครับ ตั้งใจว่าจะเรียนให้จบเเล้วเอางานวิจัยไปช่วยเหลือผุ้อื่น พร้อมกับฝึกตนเองบนหทางที่พระพุทธองค์วางเอาไว้ นั่นคือ สติปัฏฐานทั้ง 4 เเละบำเพ็ญพุทธการกธรรมเเละพรหมวิหาร 4 อย่างสม่ำเสมอ ใจจริงๆผมอยากออกบวชมาก เเต่ติดภาระทางโลกหลายอย่าง เเต่ก็ไมไ่ด้ท้อใจที่จะอยู่ในสภาพเเบบนี้ คิดว่าถ้าอยู่ในสภาพไหนเเล้วมันทำประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ก็โอเคครับ 

ตอนนี้มาถึงคำถามที่อยากจะถามเพื่อนๆเเล้วครับว่า 
1.สภาวะที่เคยเกิดขึ้นเมื่ออายุ 18 คืออะไรเหรอครับ? 
2.ถ้าผมกลับมาฝึกจริงๆจังๆอีกครั้งหนึ่ง ผมมีโอกาสจะพบกับสภาวะนั้นอีกครั้งไหมครับ ใจผมเชื่อมั่นว่าทำได้เเน่ๆ เเต่มันเคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวก็อยากจะถามผู้รู้ว่าเราควรจะปฏิบัติตนเองอย่างไรจึงจะได้พบกับสภาวะนั้นอีก 
3.ผมควรวางตัวอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งทางโลกเเละทางธรรมครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่