ส่วนตัวเรายังคงคิดว่าตัวเองเป็นมะเร็งหรือเป็นชิ้นส่วนเกินของโลกใบนี้
พื้นที่นี้อาจจะเป็นพื้นที่ที่เราอยากจะบอกความรู้สึกของเราหน่อยนะ ซึ่งเราไม่เคยบอกใครแม้กระทั่งคนใกล้ตัวเรา เราไม่รู้ว่าเราควรจะจัดการยังไงและตอนนี้เราก็รู้สึกเหนื่อยมากๆที่จะต้องมานั่งใช้ชีวิตไปวันๆ การที่เรามีชีวิตอยู่มันเหมือนเป็นข้อผิดพลาดขึ้นทุกวัน เราเริ่มคุมไม่อยู่ การที่ต้องมานอนร้องไห้ นั่งร้องไห้แทบจะทุกวันมันดูทรมานมาก จนกระทั่งวันนี้เรากำลังยับยั้งชั่งใจเหมือนเรากำลังยืนอยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย เรารู้สึกเหมือนเราเคว้ง เรายืนอยู่ท่ามกลางความมืดที่โอบล้อมเราเอาไว้ ในส่วนของเรื่องครอบครัวเราขอพิมพ์เลยว่าเราไม่ได้รู้สึกถึงการมีครอบครัวเลย เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถเรียกคนเหล่านั้นว่าเป็นคนในครอบครัวได้หรือเรียกว่าพ่อ พี่ อะไรทำนองนั้นแต่เราต้องเรียกเพื่อให้รู้ว่าบุคคลนั้นทำหน้าที่อะไร(ขออภัยหากเราอธิบายอย่างงงๆ) ในส่วนของแม่ แม่ของเราเสียไปได้5ปีแล้ว พ่อก็แต่งงานใหม่แล้วมีครอบครัวใหม่แล้ว ถามว่าเราเสียใจมั้ย ก็คงจะเสียใจที่ว่าเราถูกเลี้ยงดูให้เหมือนคนนอกมานั่นแหละ เราเป็นบุคคลที่เราทำอะไรลงไปก็จะกลายเป็นถูกเบลม ไม่เคยถูก เราเหนื่อย เหนื่อยทุกครั้ง เหนื่อยตั้งแต่ตื่นจนกระทั่งนอน ทุกอย่างกำลังฉุดเราให้เราลงไปจมปลักกับความทุกข์ทรมาน เราเคยไปหาจิตแพทย์แต่กลับไปไม่สุดเนื่องด้วยพ่อบอกว่ามันเปลืองเงิน ไปทำไม? เราก็เลยหยุดพักและเราก็คิดว่าต่อให้เราทานยาไปแต่หากเรายังคงอยู่ในที่แบบนี้มันก็คงไม่ได้ช่วยอะไรเรา มันคงจะดีกว่านี้แล้วแหละถ้าในช่วงเวลานี้เราเลือกความตายมากกว่า ความสุขที่แท้จริงของเราอาจจะเป็นสิ่งนี้ก็ได้ ผิดที่เราเองที่มันอ่อนแอจนเกินไป เราอยากหยุดความคิดแบบนี้เต็มทีแล้ว อาจจะมีอีกหลายเรื่องแต่เราคงไม่สามารถอธิบายออกมาได้หมด
สุดท้ายนี้แล้ว ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านนะและขอโทษตัวเองที่ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
ขอให้ทุกคนมีความสุขนะ
ใครเคยคิดว่าตัวเองเหมือนเป็นมะเร็งของโลกใบนี้บ้าง?
พื้นที่นี้อาจจะเป็นพื้นที่ที่เราอยากจะบอกความรู้สึกของเราหน่อยนะ ซึ่งเราไม่เคยบอกใครแม้กระทั่งคนใกล้ตัวเรา เราไม่รู้ว่าเราควรจะจัดการยังไงและตอนนี้เราก็รู้สึกเหนื่อยมากๆที่จะต้องมานั่งใช้ชีวิตไปวันๆ การที่เรามีชีวิตอยู่มันเหมือนเป็นข้อผิดพลาดขึ้นทุกวัน เราเริ่มคุมไม่อยู่ การที่ต้องมานอนร้องไห้ นั่งร้องไห้แทบจะทุกวันมันดูทรมานมาก จนกระทั่งวันนี้เรากำลังยับยั้งชั่งใจเหมือนเรากำลังยืนอยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย เรารู้สึกเหมือนเราเคว้ง เรายืนอยู่ท่ามกลางความมืดที่โอบล้อมเราเอาไว้ ในส่วนของเรื่องครอบครัวเราขอพิมพ์เลยว่าเราไม่ได้รู้สึกถึงการมีครอบครัวเลย เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถเรียกคนเหล่านั้นว่าเป็นคนในครอบครัวได้หรือเรียกว่าพ่อ พี่ อะไรทำนองนั้นแต่เราต้องเรียกเพื่อให้รู้ว่าบุคคลนั้นทำหน้าที่อะไร(ขออภัยหากเราอธิบายอย่างงงๆ) ในส่วนของแม่ แม่ของเราเสียไปได้5ปีแล้ว พ่อก็แต่งงานใหม่แล้วมีครอบครัวใหม่แล้ว ถามว่าเราเสียใจมั้ย ก็คงจะเสียใจที่ว่าเราถูกเลี้ยงดูให้เหมือนคนนอกมานั่นแหละ เราเป็นบุคคลที่เราทำอะไรลงไปก็จะกลายเป็นถูกเบลม ไม่เคยถูก เราเหนื่อย เหนื่อยทุกครั้ง เหนื่อยตั้งแต่ตื่นจนกระทั่งนอน ทุกอย่างกำลังฉุดเราให้เราลงไปจมปลักกับความทุกข์ทรมาน เราเคยไปหาจิตแพทย์แต่กลับไปไม่สุดเนื่องด้วยพ่อบอกว่ามันเปลืองเงิน ไปทำไม? เราก็เลยหยุดพักและเราก็คิดว่าต่อให้เราทานยาไปแต่หากเรายังคงอยู่ในที่แบบนี้มันก็คงไม่ได้ช่วยอะไรเรา มันคงจะดีกว่านี้แล้วแหละถ้าในช่วงเวลานี้เราเลือกความตายมากกว่า ความสุขที่แท้จริงของเราอาจจะเป็นสิ่งนี้ก็ได้ ผิดที่เราเองที่มันอ่อนแอจนเกินไป เราอยากหยุดความคิดแบบนี้เต็มทีแล้ว อาจจะมีอีกหลายเรื่องแต่เราคงไม่สามารถอธิบายออกมาได้หมด
สุดท้ายนี้แล้ว ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านนะและขอโทษตัวเองที่ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
ขอให้ทุกคนมีความสุขนะ