'ธนาธร' สะท้อนปัญหาขิง โดนกดราคา หน้าสวนขายได้แค่ 4 บาท เร่งหาทางส่งสู่ตลาดโลก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6851818
‘ธนาธร’ สะท้อนปัญหาขิง โดนกดราคา หน้าสวนขายได้แค่ 4 บาท เร่งหาทางส่งสู่ตลาดโลก เล็งร่วมมือคนม้งในต่างประเทศ ขยายช่องทางการขาย
วันที่ 25 ม.ค.65 นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ความว่า
เรื่องขิง ๆ : ปัญหาปากท้องกับการเมืองท้องถิ่น
ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้เริ่มทำงานกับ อบต.ของคณะก้าวหน้าในหลายจังหวัดทั้งภาคอีสานและภาคเหนือ โดยในวันนี้ ผมได้เดินทางมาที่ ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มาพบปะปรึกษางานกับนายก อบต.เข็กน้อย คุณนราพงษ์ ทรงสวัสดิ์วงศ์ และทีมผู้บริหาร อบต.
เข็กน้อยเป็นพื้นที่ปลูกขิงใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ประชาชนมากกว่าครึ่งที่นี่ปลูกขิงเป็นพืชหลัก ปีที่แล้วราคาหน้าสวนได้กิโลกรัมละ 20 บาท มาปีนี้ราคาตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 4 บาทเท่านั้น จากการกดราคาจากพ่อค้าอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้เกษตรกรขิงขาดทุนเป็นจำนวนมากจากราคาหน้าสวน กิโลกรัมละ 4 บาท ไปอยู่ที่ตลาดสี่มุมเมือง ขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาท
เมื่อไปอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตที่กรุงเทพ เป็นกิโลกรัมละ 69 บาท และเมื่อไปถึงตลาดค้าปลีกที่ประเทศญี่ปุ่น ราคากิโลกรัมละ 580 บาท
นายกฯ นราพงษ์ รู้สึกเจ็บปวดไปพร้อมกับพี่น้องเกษตรกร ที่ต้องมาถูกกดราคาอย่างไม่เป็นธรรมเช่นนี้ จึงหาวิธีช่วยเหลือชาวบ้าน ด้วยการจัดงาน “มหกรรมขิงแห่งชาติ” ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถค้าขายได้โดยตรงกับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สัญจรผ่านไปมา
ปีนี้เป็นปีแรกที่มีการจัดมหกรรมขิงขึ้น ซึ่งนายกฯ นราพงษ์ ตั้งใจว่าจะจัดขึ้นทุกปี เพื่อสร้างความครึกครื้นให้กับทั้งเกษตรกรและผู้ค้าใน ต.เข็กน้อย เพื่อทำให้คนเห็นถึงศักยภาพทางการแพทย์ของขิง ไม่ว่าจะเป็นการขับลม หรือการละลายลิ่มเลือด และเพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรมีหน้าร้านของตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาการระบายสินค้าช่องทางเดียว
ในปีนี้ เนื่องจากยังมีการแพร่ระบาดของโควิด บวกกับนายกฯ นราพงษ์ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งมาได้สองสัปดาห์ มีเวลาประชาสัมพันธ์มหกรรมได้ไม่เต็มที่ แต่ก็ต้องนับว่านี่เป็นก้าวเล็ก ๆ ก้าวแรกของ อบต.คณะก้าวหน้าใน ต.เข็กน้อย ที่ต้องการให้เกษตรกรมีช่องทางการขายมากขึ้น
นอกจากนี้ คณะก้าวหน้ายังจะทำงานรวมกับ อบต.เข็กน้อย เพื่อหาช่องทางให้เกษตรกร ได้เป็นผู้นำขิงไทยสู่ตลาดโลกโดยตรงด้วย
จากข้อมูลของกรมศุลกากร ประเทศไทยส่งออกขิงและผงขิงสำเร็จรูปในปี 2564 เป็นมูลค่าถึงประมาณ 1,600 ล้านบาท (พิกัดกรมศุลกากร HS09101100) และ HS09101200) โดยมีตลาดส่งออกใหญ่อันดับหนึ่งคือปากีสถาน (739 ล้านบาท) อันดับสองคือญี่ปุ่น (434 ล้านบาท)
ประชากรเข็กน้อยมากกว่า 90% เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ซึ่งชาวม้งจากประเทศไทยหลายคนได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ อยู่กันเป็นชุมชน เช่นในสหรัฐฯและออสเตรเลีย เราจะลองใช้ศักยภาพชุมชนชาวม้งในต่างประเทศเพื่อเปิดตลาดขิงและผงขิงสำเร็จรูป เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงสุดในชุมชน ไม่ต้องผ่านหลายมือ โดยให้สหกรณ์หรือวิสาหกิจชุมชนเป็นผู้ส่งออกเอง
เช่น ที่วอลมาร์ทในสหรัฐฯ ขิงสองขีดขายอยู่ที่ 2.48 ดอลลาร์ หรือกิโลกรัมละ 400 บาท ต่างจากราคาหน้าสวนที่เข็กน้อยถึง 100 เท่า
ราคาขิงในญี่ปุ่นจาก http://amazon.co.jp ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,700 เยน หรือประมาณ 493 บาท ห่างกันถึง 123 เท่าจากราคาหน้าสวนที่เข็กน้อย
หากใครบังเอิญได้ขับรถผ่านไปผ่านมาบนถนนทางหลวงหมายเลข 12 จากพิษณุโลกไปหล่มสัก ผมขอเชิญชวนทุกท่านมาสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกขิงของเรา นี่คือโอกาสที่ท่านจะได้ขิงคุณภาพในราคาถูกยิ่งกว่าที่ไหน เป็นการช่วยเกษตรกรให้ไม่ต้องเป็นหนี้สิน ราคาขิงเทศกาลนี้ขายที่ 15 บาทต่อกิโลกรัม โดยในปีต่อ ๆ ไป หากการแพร่ระบาดของโควิดลดลง นายกฯ นราพงษ์ยังมีความตั้งใจจะจัดงานให้ครึกครื้นและยิ่งใหญ่กว่านี้ด้วย
ส่วนท่านใดที่มีประสบการณ์ส่งออกพืชผักผลไม้ หรือสมุนไพรไทยไปต่างประเทศ อยากช่วยขายหรือแนะนำช่องทางส่งออก สามารถส่งข้อความโดยตรงหาผมได้ทาง inbox ของเพจนี้นะครับ
พวกเราคณะก้าวหน้า ขอยืนยันในความตั้งใจจริงของพวกเรา ที่ต้องการใช้การเมืองท้องถิ่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยทุกคน
ประเทศไทยดีกว่านี้ได้ครับ
ปล.ฝากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ตรวจสอบด้วย ว่ามีการฮั้วกันของบริษัทผู้รับซื้อหรือไม่ เพราะการที่ราคาลงมาจาก 20 บาทเหลือเพียง 4 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากเหลือเกิน ร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้เกษตรกรด้วยครับ
https://www.facebook.com/ThanathornOfficial/posts/1250785078658497
หมูตลาดสดยังแพง220-280บาท/กก.
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_279548/
เนื้อหมูในตลาดสดยังแพง ไม่ขึ้น ไม่ลง กิโลกรัมละ 220-280 บาท แม่ค้ายังไม่มั่นใจตรุษจีนราคาพุ่ง
จากการลงพื้นที่สำรวจราคาเนื้อหมูที่ ตลาดพรานนกพบว่า ราคาเนื้อหมูยังทรงตัวจากเมื่อวานโดยราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 220-280 บาท ตามชนิดของเนื้อที่มีการตกแต่งแล้ว หมูสันนอก กิโลกรัมละ 250 บาท คอหมู 280 บาท สามชั้น 260 บาท หมูเนื้อแดง 220 บาท ไข่ไก่ ราคาขายแพงละ 86-107 บาท ตามขนาด ขายปลีก 10 ฟอง 32-43 บาท ด้านราคาไก่สดทั้งตัวยังคงทรงตัวที่กิโลกรัมละ 70 ถึง 75 บาท
ทั้งนี้จากการสอบถามร้านขายเนื้อหมูในตลาด เปิดเผยกับทีมข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ราคาหมูสดทรงตัวและรอบที่ผ่านมาหลังวันพระยังไม่ปรับราคาขึ้น
ขณะลูกค้าที่เคยมาซื้อช่วงนี้ลดลงทั้งขาจรและขาประจำทำให้ยอดขายลดลงทำให้ต้องลด ส่วนเนื้อหมูที่รับมาขายหน้าเคียงมีต้นทุนสูงขึ้น ส่วนเทศกาลตรุษจีนยังไม่มั่นใจว่าราคาจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่
‘อ.พรสันต์’ ถาม ส.ต.ต.บวชให้ ‘หมอกระต่าย’ ทำได้หรือไม่? ชี้ ต้องเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
https://ch3plus.com/news/category/276044
“อ.พรสันต์” จุฬาฯ โพสต์ตั้งคำถาม ส.ต.ต.ก่อเหตุแล้วบวชให้ “หมอกระต่าย” มี “พระอุปัชฌาย์” บวชให้ ทำได้หรือไม่ ชี้ ต้องเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
เฟซบุ๊ก Ponson Liengboonlertchai ของ ผศ.ดร.
พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แชร์โพสต์กรณี ส.ต.ต
นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน(กก.1 บก.อคฝ.) ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อ ดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1กผ9942 เชียงราย พุ่งชน พญ.
วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย จักษุแพทย์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งเหตุเกิดขึ้นบนทางม้าลายข้ามถนน หลังเกิดเหตุ ส.ต.ต.
นรวิชญ์ และพ่อจะปลงผมบวชอุทิศบุญกุศลให้หมอกระต่าย
โดย ผศ.ดร.
พรสันต์ ระบุข้อความว่า เราอาจต้องแยกแยะว่า แม้ว่า ส.ต.ต.
นรวิชญ์ จะสำนึกผิด และต้องการบวชให้คุณ
หมอกระต่ายจริง แต่คำถาม ณ ตอนนี้คือ
1. ส.ต.ต.
นรวิชญ์ บวชได้หรือไม่?
และ 2.พระอุปัชฌาย์ทำการบวชให้ ส.ต.ต.
นรวิชญ์ได้หรือไม่?
โดยหลักแล้ว กฎมหาเถรสมาคมจะมีการกำหนดหน้าที่ของพระอุปัชฌาย์ว่า ห้ามไม่ให้ทำการบวชให้แก่ผู้ต้องหาในคดีอาญา อีกทั้งในทางปฏิบัติแล้ว กรณีทั่วไป ผู้ที่จะเข้ารับการบวชจะต้องมีการกรอกทำนองใบสมัครเพื่อขอบวช ซึ่งจะมีการให้กรอกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอบรรพชาต่างๆ โดยหนึ่งในนั้นต้องระบุด้วยว่า "
เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาหรือไม่"
ผมคิดว่า 2 คำถามนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ต้องออกมาตอบคำถามครับ อันที่จริงแล้วไม่ใช่การตั้งคำถามเพื่อขอคำตอบเฉพาะกรณีของคุณ
หมอกระต่ายเท่านั้นหรอกนะครับ หากแต่มันเป็นคำถามถึงบรรทัดฐานที่ควรจะมีคำตอบสำหรับทุกกรณีต่างหาก
https://www.facebook.com/pornson.liengboonlertchai/posts/10160109916990979
JJNY : 'ธนาธร'สะท้อนปัญหาขิง│หมูยังแพง220-280บาท/กก.│‘อ.พรสันต์’ถามส.ต.ต.บวชให้หมอกระต่าย│เนื้อหมูราคาพุ่งรับตรุษจีน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6851818
‘ธนาธร’ สะท้อนปัญหาขิง โดนกดราคา หน้าสวนขายได้แค่ 4 บาท เร่งหาทางส่งสู่ตลาดโลก เล็งร่วมมือคนม้งในต่างประเทศ ขยายช่องทางการขาย
วันที่ 25 ม.ค.65 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ความว่า
เรื่องขิง ๆ : ปัญหาปากท้องกับการเมืองท้องถิ่น
ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้เริ่มทำงานกับ อบต.ของคณะก้าวหน้าในหลายจังหวัดทั้งภาคอีสานและภาคเหนือ โดยในวันนี้ ผมได้เดินทางมาที่ ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มาพบปะปรึกษางานกับนายก อบต.เข็กน้อย คุณนราพงษ์ ทรงสวัสดิ์วงศ์ และทีมผู้บริหาร อบต.
เข็กน้อยเป็นพื้นที่ปลูกขิงใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ประชาชนมากกว่าครึ่งที่นี่ปลูกขิงเป็นพืชหลัก ปีที่แล้วราคาหน้าสวนได้กิโลกรัมละ 20 บาท มาปีนี้ราคาตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 4 บาทเท่านั้น จากการกดราคาจากพ่อค้าอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้เกษตรกรขิงขาดทุนเป็นจำนวนมากจากราคาหน้าสวน กิโลกรัมละ 4 บาท ไปอยู่ที่ตลาดสี่มุมเมือง ขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาท
เมื่อไปอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตที่กรุงเทพ เป็นกิโลกรัมละ 69 บาท และเมื่อไปถึงตลาดค้าปลีกที่ประเทศญี่ปุ่น ราคากิโลกรัมละ 580 บาท
นายกฯ นราพงษ์ รู้สึกเจ็บปวดไปพร้อมกับพี่น้องเกษตรกร ที่ต้องมาถูกกดราคาอย่างไม่เป็นธรรมเช่นนี้ จึงหาวิธีช่วยเหลือชาวบ้าน ด้วยการจัดงาน “มหกรรมขิงแห่งชาติ” ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถค้าขายได้โดยตรงกับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สัญจรผ่านไปมา
ปีนี้เป็นปีแรกที่มีการจัดมหกรรมขิงขึ้น ซึ่งนายกฯ นราพงษ์ ตั้งใจว่าจะจัดขึ้นทุกปี เพื่อสร้างความครึกครื้นให้กับทั้งเกษตรกรและผู้ค้าใน ต.เข็กน้อย เพื่อทำให้คนเห็นถึงศักยภาพทางการแพทย์ของขิง ไม่ว่าจะเป็นการขับลม หรือการละลายลิ่มเลือด และเพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรมีหน้าร้านของตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาการระบายสินค้าช่องทางเดียว
ในปีนี้ เนื่องจากยังมีการแพร่ระบาดของโควิด บวกกับนายกฯ นราพงษ์ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งมาได้สองสัปดาห์ มีเวลาประชาสัมพันธ์มหกรรมได้ไม่เต็มที่ แต่ก็ต้องนับว่านี่เป็นก้าวเล็ก ๆ ก้าวแรกของ อบต.คณะก้าวหน้าใน ต.เข็กน้อย ที่ต้องการให้เกษตรกรมีช่องทางการขายมากขึ้น
นอกจากนี้ คณะก้าวหน้ายังจะทำงานรวมกับ อบต.เข็กน้อย เพื่อหาช่องทางให้เกษตรกร ได้เป็นผู้นำขิงไทยสู่ตลาดโลกโดยตรงด้วย
จากข้อมูลของกรมศุลกากร ประเทศไทยส่งออกขิงและผงขิงสำเร็จรูปในปี 2564 เป็นมูลค่าถึงประมาณ 1,600 ล้านบาท (พิกัดกรมศุลกากร HS09101100) และ HS09101200) โดยมีตลาดส่งออกใหญ่อันดับหนึ่งคือปากีสถาน (739 ล้านบาท) อันดับสองคือญี่ปุ่น (434 ล้านบาท)
ประชากรเข็กน้อยมากกว่า 90% เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ซึ่งชาวม้งจากประเทศไทยหลายคนได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ อยู่กันเป็นชุมชน เช่นในสหรัฐฯและออสเตรเลีย เราจะลองใช้ศักยภาพชุมชนชาวม้งในต่างประเทศเพื่อเปิดตลาดขิงและผงขิงสำเร็จรูป เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงสุดในชุมชน ไม่ต้องผ่านหลายมือ โดยให้สหกรณ์หรือวิสาหกิจชุมชนเป็นผู้ส่งออกเอง
เช่น ที่วอลมาร์ทในสหรัฐฯ ขิงสองขีดขายอยู่ที่ 2.48 ดอลลาร์ หรือกิโลกรัมละ 400 บาท ต่างจากราคาหน้าสวนที่เข็กน้อยถึง 100 เท่า
ราคาขิงในญี่ปุ่นจาก http://amazon.co.jp ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,700 เยน หรือประมาณ 493 บาท ห่างกันถึง 123 เท่าจากราคาหน้าสวนที่เข็กน้อย
หากใครบังเอิญได้ขับรถผ่านไปผ่านมาบนถนนทางหลวงหมายเลข 12 จากพิษณุโลกไปหล่มสัก ผมขอเชิญชวนทุกท่านมาสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกขิงของเรา นี่คือโอกาสที่ท่านจะได้ขิงคุณภาพในราคาถูกยิ่งกว่าที่ไหน เป็นการช่วยเกษตรกรให้ไม่ต้องเป็นหนี้สิน ราคาขิงเทศกาลนี้ขายที่ 15 บาทต่อกิโลกรัม โดยในปีต่อ ๆ ไป หากการแพร่ระบาดของโควิดลดลง นายกฯ นราพงษ์ยังมีความตั้งใจจะจัดงานให้ครึกครื้นและยิ่งใหญ่กว่านี้ด้วย
ส่วนท่านใดที่มีประสบการณ์ส่งออกพืชผักผลไม้ หรือสมุนไพรไทยไปต่างประเทศ อยากช่วยขายหรือแนะนำช่องทางส่งออก สามารถส่งข้อความโดยตรงหาผมได้ทาง inbox ของเพจนี้นะครับ
พวกเราคณะก้าวหน้า ขอยืนยันในความตั้งใจจริงของพวกเรา ที่ต้องการใช้การเมืองท้องถิ่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยทุกคน
ประเทศไทยดีกว่านี้ได้ครับ
ปล.ฝากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ตรวจสอบด้วย ว่ามีการฮั้วกันของบริษัทผู้รับซื้อหรือไม่ เพราะการที่ราคาลงมาจาก 20 บาทเหลือเพียง 4 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากเหลือเกิน ร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้เกษตรกรด้วยครับ
https://www.facebook.com/ThanathornOfficial/posts/1250785078658497
หมูตลาดสดยังแพง220-280บาท/กก.
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_279548/
เนื้อหมูในตลาดสดยังแพง ไม่ขึ้น ไม่ลง กิโลกรัมละ 220-280 บาท แม่ค้ายังไม่มั่นใจตรุษจีนราคาพุ่ง
จากการลงพื้นที่สำรวจราคาเนื้อหมูที่ ตลาดพรานนกพบว่า ราคาเนื้อหมูยังทรงตัวจากเมื่อวานโดยราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 220-280 บาท ตามชนิดของเนื้อที่มีการตกแต่งแล้ว หมูสันนอก กิโลกรัมละ 250 บาท คอหมู 280 บาท สามชั้น 260 บาท หมูเนื้อแดง 220 บาท ไข่ไก่ ราคาขายแพงละ 86-107 บาท ตามขนาด ขายปลีก 10 ฟอง 32-43 บาท ด้านราคาไก่สดทั้งตัวยังคงทรงตัวที่กิโลกรัมละ 70 ถึง 75 บาท
ทั้งนี้จากการสอบถามร้านขายเนื้อหมูในตลาด เปิดเผยกับทีมข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ราคาหมูสดทรงตัวและรอบที่ผ่านมาหลังวันพระยังไม่ปรับราคาขึ้น
ขณะลูกค้าที่เคยมาซื้อช่วงนี้ลดลงทั้งขาจรและขาประจำทำให้ยอดขายลดลงทำให้ต้องลด ส่วนเนื้อหมูที่รับมาขายหน้าเคียงมีต้นทุนสูงขึ้น ส่วนเทศกาลตรุษจีนยังไม่มั่นใจว่าราคาจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่
‘อ.พรสันต์’ ถาม ส.ต.ต.บวชให้ ‘หมอกระต่าย’ ทำได้หรือไม่? ชี้ ต้องเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
https://ch3plus.com/news/category/276044
“อ.พรสันต์” จุฬาฯ โพสต์ตั้งคำถาม ส.ต.ต.ก่อเหตุแล้วบวชให้ “หมอกระต่าย” มี “พระอุปัชฌาย์” บวชให้ ทำได้หรือไม่ ชี้ ต้องเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
เฟซบุ๊ก Ponson Liengboonlertchai ของ ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แชร์โพสต์กรณี ส.ต.ต นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน(กก.1 บก.อคฝ.) ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อ ดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1กผ9942 เชียงราย พุ่งชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย จักษุแพทย์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งเหตุเกิดขึ้นบนทางม้าลายข้ามถนน หลังเกิดเหตุ ส.ต.ต.นรวิชญ์ และพ่อจะปลงผมบวชอุทิศบุญกุศลให้หมอกระต่าย
โดย ผศ.ดร.พรสันต์ ระบุข้อความว่า เราอาจต้องแยกแยะว่า แม้ว่า ส.ต.ต.นรวิชญ์ จะสำนึกผิด และต้องการบวชให้คุณหมอกระต่ายจริง แต่คำถาม ณ ตอนนี้คือ
1. ส.ต.ต.นรวิชญ์ บวชได้หรือไม่?
และ 2.พระอุปัชฌาย์ทำการบวชให้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ได้หรือไม่?
โดยหลักแล้ว กฎมหาเถรสมาคมจะมีการกำหนดหน้าที่ของพระอุปัชฌาย์ว่า ห้ามไม่ให้ทำการบวชให้แก่ผู้ต้องหาในคดีอาญา อีกทั้งในทางปฏิบัติแล้ว กรณีทั่วไป ผู้ที่จะเข้ารับการบวชจะต้องมีการกรอกทำนองใบสมัครเพื่อขอบวช ซึ่งจะมีการให้กรอกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอบรรพชาต่างๆ โดยหนึ่งในนั้นต้องระบุด้วยว่า "เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาหรือไม่"
ผมคิดว่า 2 คำถามนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ต้องออกมาตอบคำถามครับ อันที่จริงแล้วไม่ใช่การตั้งคำถามเพื่อขอคำตอบเฉพาะกรณีของคุณหมอกระต่ายเท่านั้นหรอกนะครับ หากแต่มันเป็นคำถามถึงบรรทัดฐานที่ควรจะมีคำตอบสำหรับทุกกรณีต่างหาก
https://www.facebook.com/pornson.liengboonlertchai/posts/10160109916990979