แพงสุดในรอบ60ปี! หมูกรอบ กก.ละ700บาท หมูสามชั้นต้มราคาพุ่งอีก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6849696
  
 
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจการจำหน่ายสินค้าประเภทต่าง ๆ หลังพบว่าราคาจำหน่ายยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อไก่ อาหารทะเล ไข่ไก่ และน้ำมันปาล์ม โดยล่าสุดพบว่า หมูสามชั้น มีการปรับขึ้นราคารับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง
 
ซึ่งจากการตรวจสอบที่ตลาดสดเทศบาล 1 ถ.กลางเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่า ราคาเนื้อหมูเช้าวันนี้มีการปรับขึ้นราคา โดยเฉพาะหมูสามชั้นต้ม ที่ปรับขึ้นราคาเป็นกิโลกรัมละ 400 บาท แพงที่สุดในรอบ 60 ปี ทำให้ลูกค้าไม่กล้าที่จะเลือกซื้อหมูสามชั้นในระยะนี้อย่างเห็นได้ชัด
 
จากการสอบถาม น.ส.รุ่งรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี เจ้าของร้าน “อรพิน เจ๊อี่ ขอนแก่น” กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยขายหมูสามชั้นต้มแพงขนาดนี้มาก่อน ซึ่งยอมรับว่าปีนี้เป็นปีแรกที่หมูราคาแพง และเป็นราคาสูงที่สุดเท่าที่เคยขายมา โดยที่ร้านเปิดจำหน่ายมาตั้งแต่รุ่นคุณยายหรือกว่า 60 ปี ก็ไม่เคยพบหมู หรือวัตถุดิบต่าง ๆ ที่แพงขนาดนี้ และไม่เคยขายหมูต้มที่แพงเท่านั้น โดยเฉพาะกับช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง
 
น.ส.รุ่งรัตน์ กล่าวต่อว่า เฉพาะของไหว้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง ร้านได้กำหนดราคาจำหน่ายแยกเป็น เป็ดเชอรี่ต้มตัวละ 380-400 บาท, เป็ดปักกิ่งต้มตัวละ 300-320 บาท, เป็ดบ้านต้มตัวละ 220-250 บาท, ไก่บ้านต้มตัวละ 330 บาท, ไก่เนื้อต้มตัวละ 200-240 บาท, หมูสามชั้นต้ม กก.ละ 400 บาท, หมูกรอบ กก.ละ 700 บาท, หมูตั้ง กก.ละ 500 บาท และหัวหมู กก.ละ 140 บาท
 
น.ส.รุ่งรัตน์ กล่าวอีกว่า การปรับขึ้นราคาดังกล่าว ยอมรับว่าลูกค้าเข้าใจสถานการณ์ในช่วงนี้ที่ทุกอย่างปรับราคาแพงขึ้น ซึ่งลูกค้าก็ต้องปรับตัวด้วยการซื้อขนาดชิ้นหมูที่ลดลง จากเดิมเคยซื้อ 1 กิโลกรัม ก็ปรับลงเหลือครึ่งกิโลกรัม
 
ขณะที่จากการสอบถามยังคงพบอีกว่า ลูกค้าบางคนปีนี้เลือกที่จะไม่ไหว้ตรุษจีน เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และกลัวกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 แต่ส่วนใหญ่ยังคงที่จะไหว้ตรุษจีนเช่นเดิม แต่ก็ลดจำนวนลง จากเดิมเคยไหว้หลายจุดก็เหลือเพียงไหว้ 2 จุด คือ ไหว้บรรพบุรุษและการไหว้เจ้า
 
น.ส.รุ่งรัตน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนราคาเป็ด และไก่ต้มก็ปรับราคาขึ้นเหมือนกันแต่ไม่หนักมากเท่ากับราคาหมู ขณะเดียวกันเมื่อราคาหมูแพง คนหันมากินไก่เยอะขึ้น ดังนั้นร้านยังไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้ว่า ตรุษจีนจะมีของเพียงพอกับความต้องหรือไม่ ยิ่งถ้าช่วงวันจ่ายตรุษจีนราคาของสดมีการขยับราคาขึ้น ร้านก็ต้องขอปรับราคาขึ้นเช่นกัน แต่การปรับขึ้นราคานั้นต้องขอดูสถานการณ์กันแบบวันต่อวันเพราะเห็นใจลูกค้าและผู้บริโภคอย่างมาก
 

---

ธปท.หวั่นราคาสินค้าแพง ซ้ำเติมผู้มีรายได้น้อย เปราะบางเพิ่ม
https://www.bangkokbiznews.com/business/984209

ธปท.หวั่นราคาสินค้าแพง ซ้ำเติมผู้บริโภค ผู้มีรายได้น้อย เปราะบางเพิ่ม ฉุดเศรษฐกิจยิ่งฟื้นตัวไม่ทั่วถึง ยันเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบ พร้อมมอนิเตอร์พัฒนาการใกล้ชิด ฟากกสิกรไทยชี้ ราคาสินค้าแพง ฉุดบริโภค กดเศรษฐกิจต่ำกว่าคาด

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ธปท. ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะโจทย์ใหญ่ของ ธปท.คือ การดูแลให้เศรษฐกิจไทยฟื้นแบบไม่สะดุด เรื่อง “เงินเฟ้อ” ถือเป็นหนึ่งใน 4 ปัจจัย ที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ทำให้ต้องเฝ้าระวังพัฒนาการเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง 
     
สำหรับคำถามที่ว่า เงินเฟ้อในเดือน ธ.ค. ที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.17% มองว่าเป็นปัญหาเงินเฟ้อแล้วหรือไม่ ต้องมองว่าอัตราเงินเฟ้อ เป็นการวัดเปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นของระดับราคา ซึ่งตัวเลขนี้ดูยังไม่สูงมาก และยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย แต่ก็ต้องดูจากหลายจุด เพื่อให้เห็นว่ามีปัญหาหรือไม่ หากมีต้นเหตุที่แท้จริงคืออะไร 
 
ชี้ราคาสินค้าแพงซ้ำผู้บริโภค - ผู้มีรายได้น้อย
     
อย่างไรก็ตาม มองว่าในระยะสั้น ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นนี้กระทบต่อผู้บริโภคแน่นอน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เพราะสินค้าที่บริโภคจะมีสัดส่วนของกลุ่มอาหารเยอะ อีกทั้งวันนี้เศรษฐกิจไทย ยังฟื้นตัวไม่ทั่วถึง ไม่เท่าเทียม หรือเป็น K shape ดังนั้น คนที่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว จะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ซ้ำเติมลงไปอีก ทำให้ K ขาล่างแยกลงไปต่ำกว่าเดิม 
     
ธปท. มองว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องรีบแก้ไข เพื่อไม่ให้ส่งผลซ้ำเติมรุนแรงต่อปัญหาที่มีอยู่เดิม อย่างหนี้ครัวเรือน เศรษฐกิจที่กำลังฟื้นแบบไม่เท่าเทียม และหลุมรายได้ที่ยังไม่หายไป 
 
      ซึ่งล่าสุดการที่ภาครัฐพิจารณาเร่งเอาโครงการคนละครึ่งมาช่วยลดภาระตรงนี้มาสนับสนุนให้เร็วขึ้น ถือเป็นนโยบายที่ตรงจุดนโยบายหนึ่ง เพราะปัญหานี้ มองว่าต้องร่วมกันช่วยแก้ไข เป็นปัญหาที่ต้องอาศัยนโยบายทั้งระยะสั้น ที่ตรงจุด
     
โดยทางนโยบายการเงินต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และดูให้เงินเฟ้อไม่ทำให้เศรษฐกิจสะดุด“เป้าหมายของแบงก์ชาติในระยะนี้คือ การทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ รายได้ฟื้นตัวได้ ไม่สะดุด ปัญหานี้ จึงต้องมองให้รอบด้าน ทั้งปัญหาเฉพาะหน้าที่วันนี้เราพบว่าราคาสินค้าแม้ยังไม่ได้ขึ้นทุกตัว มีราคาพลังงาน หมู ที่แพงขึ้น ซึ่งต้องเร่งแก้ที่อุปทาน หรือการผลิต เพื่อเพิ่มปริมาณที่ขาดแคลนไป ซึ่งหากไม่สามารถแก้ได้เร็ว ก็ต้องเร่งเพิ่มความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งการนำคนละครึ่งเข้ามาช่วยลดภาระประชาชนก็ถือว่าเป็นมาตรการที่ตรงจุดนโยบายหนึ่ง”
  
 กสิกรไทยชี้ราคาสินค้าแพงฉุดกำลังซื้อคนดิ่ง - ฉุดศก.ฮวบ
 
     นายเชาว์ เก่งชน  ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ธนาคารกสิกรไทย ราคาสินค้าที่แพงขึ้น มีผลกระทบแน่นอน ต่อกำลังซื้อของคน เพราะเกิดในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเข้าสู่การเริ่มฟื้นตัว แต่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ การท่องเที่ยวก็ยังไม่ฟื้นตัว และใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะกลับเข้าไปสู่ภาวะปกติ ดังนั้นจากผลกระทบสินค้า อาหารที่แพงขึ้น สินค้าแพง จะทำให้การฟื้นตัวเศรษฐกิจฟื้นอย่างไม่ราบรื่น ไปได้ไม่เต็มกำลังมากขึ้น
     
โดยเฉพาะกับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ให้ยิ่งเปราะบางมากขึ้น ดังนั้นปัญหาสินค้าแพง ถือเป็นปัจจัยที่เข้ามาซ้ำเติม ซึ่งปัญหาจากสินค้าแพง หมูแพง ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ในระยะสั้นๆ 3-4 เดือนแล้วจะขยายไป แต่ต้องใช้เวลานาน ตามอายุการเลี้ยงหมู กว่าปัญหาจะคลี่คลาย
 
    ดังนั้นเชื่อว่ามีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยแน่นอน ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีนี้อาจไม่ดีอย่างที่คาดการณ์ แต่ขอประเมินตัวเลขให้ชัดเจนในกลางก.พ.ก่อนมีการปรับประมาณการอีกครั้ง 
 
    “เงินเฟ้อเราคาดว่าจะไม่เกิน 4% ปีนี้ในค่าเฉลี่ย ซึ่งถือว่าไม่ได้แย่ และไม่ได้สูงเกินไป และมองว่าไม่น่าจะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจไทยถดถอย แต่มาเกิดในช่วงที่เราเจอวิกฤตอยู่แล้ว
   ดังนั้นอาจทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตน้อยกว่าที่คาด จากเดิมที่เคยมองว่าเศรษฐกิจไทยในแง่ดีอาจไปถึง 4% แต่โควิดวันนี้ยังรุนแรง นักท่องเที่ยวก็มีความไม่แน่นอน ว่าจะเข้ามาได้กี่ล้านคน ดังนั้นความไม่แน่นอนตรงนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเข้ามาซ้ำเติม บวกกับกำลังซื้อที่หายไปจะทำให้ตัวเลขคต่ำกว่าที่คาดไว้” 
 
     ส่วนกรณีจะเกิดภาวะ เศรษฐกิจชะลอตัวร่วมกับเงินเฟ้อสูง (stagflation) หรือไม่นั้น มองว่า ไม่น่าเข้าสู่ภาวะนี้ เนื่องจากหากจะเกิดสถานการณ์นี้ได้ เศรษฐกิจต้องไม่โต หรือติดลบ แต่เศรษฐกิจไทยปีนี้แม้จะปรับประมาณการณ์ลง แต่เชื่อว่าจีดีพียังสามารถโตได้ระดับ 3-4% ไม่น่าจะขยายตัว 0% หรือติดลบ
  
    เช่นเดียวกันราคาน้ำมัน ที่ต้องปรับตัวขึ้นสูงเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลต่อเนื่องไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ถึงทำให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่การชะลอตัวแต่เงินเฟ้อสูง แต่ปัจจุบันราคาน้ำมัน แม้จะสูง แต่ยังขึ้นแรงมากนัก แต่อย่างไรก็ตามในด้านราคาน้ำมันต้องจับตาใกล้ชิด เพราะหากปรับขึ้นต่อเนื่อง อาจกระทบต่อกำลังซื้อและการปรับขึ้นของราคาสินค้าอื่นๆตามมาต่อเนื่อง 
 

---

 
‘เพื่อไทย’ เข้มอบรมผู้สังเกตการณ์ลต.ซ่อม หลักสี่-จตุจักร หวั่นซ้ำรอย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3147466

‘เพื่อไทย’ เข้มอบรมผู้สังเกตการณ์ลต.ซ่อม หลักสี่-จตุจักร หวั่นซ้ำรอยลต. 62 พร้อมชวนฟังปราศรัยใหญ่ 28 ม.ค.นี้
 
เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสรวงศ์ เทียนทอง ผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมเขต9 หลักสี่-จตุจักร พรรคพท. กล่าวว่า ผู้สมัครสามารถส่งรายชื่อผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งได้ ซึ่งทั้งหมดมี 280 หน่วย ซึ่งพรรคพท. ยืนยันส่งผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งครบทุกหน่วยเลือกตั้ง เพราะยอมรับว่าในการเลือกตั้งปี 2562 การดำเนินการเลือกตั้งเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย พรรคพท.จึงให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างมาก จะมีการรวบรวมหลักฐานและติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ด้วย จึงอยากให้ประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตา ไม่จำกัดเฉพาะประชาชนในพื้นที่หลักสี่-จตุจักรเท่านั้น ประชาชนทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งครั้งนี้
 
ทั้งนี้ ขอฝากไปถึง กกต.ใน 2 ประเด็นสำคัญที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมได้แก่ 
 
1. อยากให้ กกต.ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้งด้วยว่า พรรคการเมืองมีสิทธิ์ที่จะส่งผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้ง เข้าไปทำงานภายในหน่วยเลือกตั้งได้ 
 
และ 2. ขอให้ กกต.จัดที่นั่งให้ผู้สังเกตุการณ์การเลือกตั้งภายในหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งเบื้องต้นมี 2 พรรคที่ส่งผู้สังเกตการณืเข้าไปภายในหน่วยเลือกตั้ง จึงขอร้องให้จัดเตรียมเก้าอี้สำหรับเจ้าหน้าที่อย่างเพียงพอ เก้าอี้เพียง 2 ตัวตั้งในจุดที่เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์การเลือกตั้งสามารถมองเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างชัดเจนด้วย
 
“อยากให้ประชาชนติดตามการปราศรัยใหญ่ของนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 9 เบอร์ 3 พรรคพท. รวมทั้งผู้บริหาร ส.ส.และสมาชิกพรรคพท. ในวันที่ 28 มกราคม 2565 ที่สวนสาธารณะชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง รวมทั้งขอให้ประชาชนในพื้นที่ออกไปใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ เลือกคนที่ทำงาน ไม่เคยทิ้งพื้นที่ เลือกพรรคที่ตอบสนอง ตอบโจทย์ปัญหาปากท้อง ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีจุดเด่นในเรื่องนี้ และเราไม่เคยละทิ้งประชาชน เราเอาจริงกับการจับผิดในครั้งนี้ เราจะรวบรวมหลักฐานการทุจริตการเลือกตั้งซ่อมเขต 9 ผมทราบว่า กกต.มีรางวัลนำจับหากมีการแจ้งเบาะแส แต่ถ้าประชาชนไม่กล้าแจ้ง กกต.ด้วยตัวเอง สามารถมาแจ้งกับผู้สังเกตการณ์ของพรรคเพื่อไทยได้” นายสรวงศ์กล่าว