บล.กรุงศรี เปิด 3 ปัจจัยทุบหุ้นไทยดิ่งหนัก 24 จุด วิตกทรัมป์เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินตั้งกำแพงภาษี-กกต. ระบุอดีตนายกฯ ใช้นโยบายรัฐขึ้นปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. เสี่ยงผิดกฏหมายเลือกตั้ง-ก.ล.ต. เข้มงวดการซื้อขายบัญชีมาร์จิ้น
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) รายงานสรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้พบว่า SET Index ปิดร่วง 24.75 จุด (-1.78%) ปิดที่ระดับ 1,362.97 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.68 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 481 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 71 บริษัท)
ดัชนีปรับลงจาก 3 ปัจจัยลบคือ
1.วิตกข่าวทรัมป์เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้า
2.ข่าวการเมืองหลัง กกต. ระบุอดีตนายกฯ ใช้นโยบายรัฐขึ้นปราศัยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. เสี่ยงผิดกฏหมายเลือกตั้ง และ
3.กังวลข่าว ก.ล.ต. เข้มงวดการซื้อขายบัญชีมาร์จิ้น โดมีเซ็กเตอร์ที่ปรับลงกดดัชนีคือ กลุ่ม Oil & Gas (PTTEP), กลุ่มปิโตรฯ (IVL, PTTGC), กลุ่มไอซีที (ADVANC, TRUE) และกลุ่มค้าปลีก (CPAXT) ส่วนเซ็กเตอร์ที่ปรับขึ้นคือ อิเล็กฯ (DELTA)
โดยหุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นคือ PTTEP (-2.79%) ปรับลงในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบ หลังเมื่อคืนราคาพลิกร่วงเป็นวันแรก โดยราคาน้ำมัน WTI ลดลง 93 เซนต์ (-1.25%) ปิดที่ระดับ 73.32 เหรียญต่อบาร์เรล จากข่าว EIA รายงานสต๊อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 6.3 ล้านบาร์เรล มากกว่า Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5 แสนบาร์เรลเท่านั้น
IVL (-9.5%), PTTGC (-6.05%), IRPC (-5.13%) ราคาปิโตรฯ และส่วนต่างผลิตภัณฑ์ (Spread) ลดลงต่อเนื่อง เสี่ยงกดดันผู้ประกอบการตั้งสำรองด้อยค่าเงินลงทุนเพิ่ม แนวโน้มกำไรเสี่ยงฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยประเมิน โดยล่าสุด Spread HDPE-Naphtha ร่วงสู่ระดับ 302 เหรียญต่อตัน ต่ำกว่าระดับ Breakeven ของผู้ประกอบการที่ระดับ 400 เหรียญต่อตัน
SCC (-4.05%), SCGP (-3.80%) จาก 2 ปัจจัยลบคือ ผิดหวังกิจกรรมเศรษฐกิจจีนอ่อนแอ สะท้อนผ่านเงินเฟ้อที่ต่ำมาก หรือเข้าใกล้ภาวะเงินฝืด เป็นลบกับหุ้น China play โดยกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรฯ และธุรกิจ Packaging ของ SCC และ SCGP
MINT (-3.53%), CENTEL (-5.38%), ERW (-2.79%), AAV (-4.65%) มีกระแสข่าวโทนลบ กังวลปัญหาความปลอดภัยในไทย อาจกระทบภาคการท่องเที่ยวจากกรณีดาราจีนหายตัวในเขตชายแดนไทยเมียนมา (แม้จะพบตัวแล้วก็ตาม)
DELTA (+0.65%) มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รับข่าว DELTA ไต้หวันรายงานยอดขายประจำเดือน ธ.ค. 2567 เพิ่มขึ้น 5.7% MOM และ 22.2% YOY...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/finance/news-1731440
เปิด 3 ปัจจัย ทุบหุ้นไทยดิ่งหนัก 24 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) รายงานสรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้พบว่า SET Index ปิดร่วง 24.75 จุด (-1.78%) ปิดที่ระดับ 1,362.97 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.68 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 481 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 71 บริษัท)
ดัชนีปรับลงจาก 3 ปัจจัยลบคือ
1.วิตกข่าวทรัมป์เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้า
2.ข่าวการเมืองหลัง กกต. ระบุอดีตนายกฯ ใช้นโยบายรัฐขึ้นปราศัยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. เสี่ยงผิดกฏหมายเลือกตั้ง และ
3.กังวลข่าว ก.ล.ต. เข้มงวดการซื้อขายบัญชีมาร์จิ้น โดมีเซ็กเตอร์ที่ปรับลงกดดัชนีคือ กลุ่ม Oil & Gas (PTTEP), กลุ่มปิโตรฯ (IVL, PTTGC), กลุ่มไอซีที (ADVANC, TRUE) และกลุ่มค้าปลีก (CPAXT) ส่วนเซ็กเตอร์ที่ปรับขึ้นคือ อิเล็กฯ (DELTA)
โดยหุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นคือ PTTEP (-2.79%) ปรับลงในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบ หลังเมื่อคืนราคาพลิกร่วงเป็นวันแรก โดยราคาน้ำมัน WTI ลดลง 93 เซนต์ (-1.25%) ปิดที่ระดับ 73.32 เหรียญต่อบาร์เรล จากข่าว EIA รายงานสต๊อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 6.3 ล้านบาร์เรล มากกว่า Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5 แสนบาร์เรลเท่านั้น
IVL (-9.5%), PTTGC (-6.05%), IRPC (-5.13%) ราคาปิโตรฯ และส่วนต่างผลิตภัณฑ์ (Spread) ลดลงต่อเนื่อง เสี่ยงกดดันผู้ประกอบการตั้งสำรองด้อยค่าเงินลงทุนเพิ่ม แนวโน้มกำไรเสี่ยงฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยประเมิน โดยล่าสุด Spread HDPE-Naphtha ร่วงสู่ระดับ 302 เหรียญต่อตัน ต่ำกว่าระดับ Breakeven ของผู้ประกอบการที่ระดับ 400 เหรียญต่อตัน
SCC (-4.05%), SCGP (-3.80%) จาก 2 ปัจจัยลบคือ ผิดหวังกิจกรรมเศรษฐกิจจีนอ่อนแอ สะท้อนผ่านเงินเฟ้อที่ต่ำมาก หรือเข้าใกล้ภาวะเงินฝืด เป็นลบกับหุ้น China play โดยกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรฯ และธุรกิจ Packaging ของ SCC และ SCGP
MINT (-3.53%), CENTEL (-5.38%), ERW (-2.79%), AAV (-4.65%) มีกระแสข่าวโทนลบ กังวลปัญหาความปลอดภัยในไทย อาจกระทบภาคการท่องเที่ยวจากกรณีดาราจีนหายตัวในเขตชายแดนไทยเมียนมา (แม้จะพบตัวแล้วก็ตาม)
DELTA (+0.65%) มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รับข่าว DELTA ไต้หวันรายงานยอดขายประจำเดือน ธ.ค. 2567 เพิ่มขึ้น 5.7% MOM และ 22.2% YOY...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/finance/news-1731440