[Spoil+Review] The Book of Boba Fett Ep.2 >>นี่แหละ วิธีหยุดรถไฟ

[ความเดิม] ในอดีต หลังจากตกลงกลางช่องปาก ของตัวซาลักก์, กระทาชายนายโบบ้า เฟตต์ ได้ทำการตะเกียกตะกาย เอาตัวรอดจนสำเร็จ
ขณะหมดแรงนอนแผ่หลาสองสลึง อยู่กลางผืนทราย, เขาถูกพวกหัวขโมยเปลื้องเกราะ, ถอดชุดรบออกจากร่างซะเกลี้ยง
โบบ้า เฟตต์ที่ไม่เหลือสิ่งใดไว้ปกป้องตัวเอง, โดนมนุษย์ทราย (ทัสเคน เรดเดอร์) เผ่านึงช่วยเหลือ
แต่นั่นคือในฐานะทาสประจำเรือนเบี้ย... ก่อนสถานการณ์เปลี่ยน เพราะเขาช่วยชีวิตทัสเคนคนหนึ่ง

ส่วนฟากปัจจุบัน, โบบ้า เฟตต์กับสาวกหญิง (เฟนเนก แชนด์) ยึดบัลลังก์เก่าของจั๊บบ้า เดอะ ฮัตต์
ต่อจากนายบิ๊บ ฟอร์ทูน่า (หัวหน้าพ่อบ้านของจั๊บบา) อีกที
โบบ้าหวังครองตำแหน่งไดเมียวแห่งมอส เอสป้า (เมืองท่าดาวทาทูอิน) ด้วยความเคารพยำเกรง
มิใช่แผ่ขยายความกลัว อวดศักดาด้วยการไปไหนมาไหน โดยใช้เสลี่ยงแบกหามแบบเจ้าพ่อคนเก่า

ทว่านโยบายนี้ทำท่าจะมีปัญหา เพราะนายกเทศมนตรี 'มอค ไชซ์' (Mok Shaiz) มิยอมส่งเครื่องบรรณาการ
และหลังเก็บส่วยจากบาร์ชื่อแซงชัวรี่ ของสตรีนาม 'การ์ซ่า วิป' ปุ๊บ ก็โดนดักฆ่าปั๊บ
อย่างไรก็ตาม โบบ้ายังคงรอดผ่านการลอบสังหาร และเฟนเนกสามารถจับศัตรูมาเป็นๆ ได้ 1 คน

[สปอยล์] มือสังหารที่ถูกจับตัว มาจากภาคีลมราตรี (Night Wind) ซึ่งชื่อเสียงเลื่องลือ
แต่แทนที่จะเสียเวลาสอบปากคำ แบบไม่ทราบว่าศัตรูจะยอมอ้าปากบอกหรือเปล่า
โบบ้ากับเฟนเนกจัดการส่งมือสังหาร ตรงสู่เขตคุมขังตัวแรนคอร์ (Rancor)
เจ้านั่นหวาดหวั่นสัตว์ร้ายของจั๊บบ้า ซึ่งเคยเป็นที่โจษจันกันอย่างหนาหู จึงรีบเปิดปากพูดว่า 'มอค ไชซ์' คือนายจ้าง
ทว่าแรนคอร์ บ่มีอยู่จริง, นักฆ่าจึงเสียรู้เผยไต๋อย่างไม่จำเป็น
สิ่งถัดมาที่โบบ้ากับเหล่าผู้ติดตามทำ คือเข็นพ่อนักฆ่าดวงกุด ไปจวนนายกฯ
โดยคาดไม่ถึงว่านอกจากอีตานายกฯ จะปฏิเสธความเกี่ยวข้องหน้าด้าน ๆ 
เขาดันสั่งคนคุ้มกัน ปลิดชีพมือสังหารดวงตกฉับพลัน เพื่อฆ่าปิดปากด้วย

นายกฯ แสร้งขอบอกขอบใจโบบ้า ว่าอุตส่าห์พาตัวอันตรายต่อสังคมมาส่ง, เดี๋ยวเบิกค่าหัวไอ้หมอนี่ให้ท่านละกัน
โบบ้าไม่สนสตางค์ค่าหัว แต่อยากถูกยอมรับในฐานะไดเมียวมากกว่า จึงปฏิเสธ
ทว่าเมื่อเรียกร้องความเคารพ อีกฝ่ายกลับออกอาการไม่สน อย่างไม่แคร์
มอค ไชซ์ทักว่าท่านไม่ได้ข่าวฝาแฝดหรือ ? และแนะนำให้บึ่งไปแซงชัวรี่ต่อ

เมื่อโบบ้า & คณะแวะแซงชัวรี่ขากลับ ก็ปะเข้ากับ "ฝาแฝด" ฮัตต์, ญาติของจั๊บบ้าผู้ล่วงลับ
ซึ่งประทับอยู่บนเสลี่ยง เพื่ออวดศักดาเต็มเปี่ยม และมีวู้กกี้ขนสีดำมาดขรึมคอยคุ้มครอง
ฝาแฝดคือผู้ประกาศอำนาจเหนือมอส เอสป้า, ทับอาณาเขตที่โบบ้าควรครองอยู่
แฝดตระกูลฮัตต์ลองข่มโบบ้าดู (แต่มีหรือเขาจะกลัว) ก่อนขอตัวแยกย้ายสลายโต๋
ณ ช่วงรำลึกความหลังของโบบ้า, เขาขยับจากทาสสู่แขกวีไอพี และเข้าคอร์สเรียนวิชากระบี่กระบอง ของมนุษย์ทราย
แต่ระหว่างปรับตัวใช้ชีวิตกับเหล่ามิตรสหายใหม่, จู่ๆ ดันเจอขบวนรถไฟอะไรไม่ทราบ
วิ่งผ่านมาสาดกระสุนปืนบลาสเตอร์ใส่ จนหนีแทบไม่ทัน, ทั้งปศุสัตว์กับชาวเผ่าพากันนอนตายเกลื่อน
พอเหตุการณ์จบลง โบบ้ารู้สึกแทน ถึงความอยุติธรรมต่อชาวเผ่า
เขาจึงขออนุญาตออกไปทำธุระ พร้อมอาวุธประจำกายอย่างสองอย่าง

โบบ้ากำราบนักเลงท้องถิ่นกลุ่มเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากค่ายพักแรมทัสเคนนัก
แล้วยึดเอามอเตอร์ไซค์ของพวกมัน มาแจกเหล่าชนเผ่าโบราณ
โบบ้าชี้แจงกับชาวทัสเคนว่า "นี่แหละ วิธีหยุดรถไฟ" ก่อนจะเริ่มเปิดสอน หลักสูตรสิงห์นักบิด
โบบ้าเปลี่ยนมนุษย์ทรายหลายนาย เป็นเด็กสายแว้น, และนัดแนะแผนการกับทุกคน

เมื่อขบวนยานยาววิ่งผ่านอีกรอบ แผนถล่มรถไฟจึงเริ่มต้น
โดยทัสเคนหลายคนจะรอดักซุ่มยิงปืนใส่ จากระยะไกล
เพื่อกดให้พลปืนทั้งหลายบนขบวน, ลดการสาดกระสุนเข้าหา แก๊งค์สิงห์นักบิด
และเพิ่มโอกาสให้เหล่าเด็กแว้น สามารถขี่มอเตอร์ไซค์ขนาบไปเทียบข้าง 
แล้วโดดเกาะรถไฟขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง ได้ง่ายขึ้น
หลังบาดเจ็บล้มตายทั้งสองฝั่ง, สุดท้ายรถไฟก็พังพินาศ
ชาวเผ่าจัดการค้นขบวน และตรวจเจอ 'สไปซ์'
ปรากฏว่ายานยาวนี่ คือขององค์กรอาชญากรรมไพค์ (Pyke Syndicate)
พวกเขายิงใส่ทัสเคนไม่ยั้งตอนรถไฟวิ่ง เพราะจะปกป้องเส้นทางขนสารเสพติด

โบบ้าไว้ชีวิตเชลยไพค์ เพื่อให้พวกมันกลับไปแจ้งเพื่อนว่า จากนี้ต้องจ่ายค่าผ่านทาง 
(ทัสเคนมีสิทธิ์ เนื่องจากอาศัยอยู่ถิ่นนี้มาก่อน ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ)
ผลลัพธ์ของวีรกรรมนี่ ทำให้ทัสเคนยิ่งปลื้มโบบ้า

พวกทัสเคนส่งกิ้งก่าน้อย ชอนไชเข้าหัวโบบ้า, เพื่อให้มันนำทางเขาไปหา พฤกษาศักดิ์สิทธิ์
หลังโบบ้าได้กิ่งพฤกษาติดมือมา, ทัสเคนก็นำกิ้งก่าออกจากตัวโบบ้า 
พวกเขามอบเครื่องแต่งกายแบบเดียวกับชาวเผ่า, สอนวิธีเหลากิ่งไม้เป็นอาวุธคู่ใจ 
และพาเข้าร่วมพิธีกรรมบางอย่าง เสมือนโบบ้าคือส่วนหนึ่งของเผ่าเต็ม 100
[วิจารณ์] คัมภีร์แห่งโบบ้า เฟตต์บทที่ 2 ยาวร่วม 50 นาที
ตอนรับชมก็เพลินดี และคาดว่าคงจุใจไม่เหมือนบทแรก ซึ่งยาวแค่ราว 30 นาที, แต่ความรู้สึกหลังดูจบนี่สิ ดันไม่ใช่...
มันเหมือนกินข้าวร้านอร่อยแพงหน่อย แล้วเขาให้น้อยจนไม่ค่อยอิ่ม แต่เราสั่งเพิ่มไม่ได้

สาเหตุหลักเกี่ยวกับความคาดหวังส่วนตัว (แต่หลายคนที่รอชม ก็น่าจะหวังเหมือนกัน) 
คือมาถึงตอน 2 แล้ว แต่ส่วนเนื้อหาปัจจุบัน เกี่ยวกับวงการเจ้าพ่อบนทาทูอิน, ยังมีความคืบหน้าน้อยมาก
ทั้งที่มันควรเป็นจุดขายหลักของซีรีส์, ให้สมกับที่ก่อนหน้านี้ออกตัวอย่างมาหลายตัว 
แต่ทุกครั้งแทบไม่มีฉากใหม่, แล้วรีรันใส่ซีนโบบ้า พูดเรื่องปกครองด้วยพระเดชพระคุณ มายั่วซ้ำๆ อยู่นั่นหน่อย

เวลาสำหรับการดูซีรีส์ 2 ตอนรวมกัน มันยาวเกือบเท่าหนังหนึ่งเรื่อง
ฉะนั้นเมื่อความคาดหวังไม่ถูกตอบสนองสักที จึงเริ่มไม่ต้องใจอย่างที่ควร...

แต่ยังดีที่ช่วงอดีต มาพร้อมมุกตลก (ช่วงสอนชนเผ่าหลังเขา ขับมอเตอร์ไซค์) 
รายละเอียดปลีกย่อย ที่สะท้อนความใส่ใจของผู้สร้าง (เช่น ภาษามือ, วัฒนธรรม, พิธีกรรม ของทัสเคน)
และฉากล่มยานยาว ที่เฉพาะความลุ้นผมให้เหนือกว่า, ฉากปล้นรถไฟในหนัง Solo: A Star Wars Story ซะอีก 
(เพราะของซีรีส์, ตัวประกอบทั้งสองฝั่งผลัดกันตาย จนสัมผัสความอันตรายได้ง่ายกว่าน่ะนะ)

ด้านความเชื่อมโยงกับส่วนอื่นของแฟรนไชส์ Star Wars ก็ชักมาจริงจัง
ชัดๆ เลยคือเรื่องของพวกไพค์กับสไปซ์ ที่เคยมีบทบาทใน Solo: A Star Wars Story
ฉะนั้นโดยรวมยังจัดให้ เป็นซีรีส์น่าติดตาม สมราคาภาคแยก The Mandalorian อยู่
รอผู้เขียนบท (ฟาฟโร) ลากช่วงปัจจุบันของโบบ้า, เข้าโซนตื่นเต้นน่าค้นหา ในตอนถัดๆ ไป

[ปล.] วู้กกี้ขนสีดำเขามีชื่อว่า Black Krrsantan (นิลกฤษณะ ?) 
เคยปรากฏตัวในคอมมิคชุด Darth Vader กับ Doctor Aphra
หรือก็คือเป็นตัวละคร จากเนื้อหาเสริมสตาร์วอร์สอันอื่น ที่เพิ่งได้ฤกษ์ข้ามมาโผล่ในซีรีส์คนแสดง

ประวัติก็ค่อนข้างเอาเรื่อง สรุปแบบรวบรัดคือ, เถื่อนจนโดนขับออกจากดาวบ้านเกิด ตั้งแต่อายุน้อย
วู้กกี้ดำโด่งดังในฐานะนักล่าค่าหัว แต่เคยทำงานรับใช้จั๊บบ้า เดอะ ฮัตต์ 
และปะทะกับ 'โอบีวัน เคโนบี' สมัยเร้นกายบนทาทูอิน (เพื่อคอยเฝ้าลุค)
รวมถึงเป็นลูกจ้างซิธลอร์ด ดาร์ธ เวเดอร์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่