[ความเดิม] ก่อนเจ้าพ่อจั๊บบาจะถึงแก่กรรม, เขาเคยกุมอำนาจเหนือเมืองท่ามอส เอสป้า ณ ดาวทาทูอิน
โดยมีรายได้หลักจากการซื้อขายสารเสพติด ที่เรียกว่าสไปซ์
หลังจั๊บบาสิ้นใจ, อาณาเขตมอส เอสป้าถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วน ล้วนมีมาเฟียระดับรองปกครองอยู่
นักล่าเงินรางวัลโบบ้า เฟตต์ เกือบชะตาขาดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับจั๊บบ้า
หากแต่รอดตาย เพราะความช่วยเหลือจากพวกทัสเค่น (มนุษย์ทราย)
โบบ้า เฟตต์ตอบแทนพวกนั้น ด้วยการสอนวิธีสู้กับอาวุธสมัยใหม่ แก่ชนเผ่าโบราณ, เมื่อถูกองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ (ไพค์) รังแก
มนุษย์ทรายจึงยอมรับ ในฐานะพวกพ้อง
ไพค์อยากลงมายึด เส้นทางขนส่งสไปซ์บนทาทูอินทั้งหมด ในภายภาคหน้า
และเห็นทัสเคน เป็นเพียงชนเผ่าหลังเขาอวดดี ที่ดันริขอเก็บค่าผ่านทาง
จึงสังหารหมู่ทัสเคนกลุ่มดังกล่าว รวมถึงป้ายความผิดแก่แก๊งนักเลงบ้านนอก
โบบ้าที่ไม่ทราบความจริง จึงนึกว่าการชำระแค้นของตน จบแล้วที่การฆ่าเหล่านักเลงหัวไม้บ้าน ๆ
โบบ้า เฟตต์ อยากเปลี่ยนอาชีพเป็นเจ้าพ่อบ้าง, เพราะเอือมพฤติกรรมของผู้ใช้อำนาจและความแข็งแกร่ง ในทางโฉด
จึงยึดบัลลังก์เก่าของจั๊บบ้า สถาปนาตนเองเป็นไดเมียวคนใหม่
พร้อมกับเริ่มรวบรวมสมัครพรรคพวก เพื่อเตรียมรับศึกใหญ่กับไพค์
แมนดาลอเรี่ยนนาม 'ดิน จาริน' เองก็เป็นหนึ่งในนั้น
ก่อนร่วมทำสงครามกับไพค์ ดิน จาริน ได้ขอเวลาไปทำธุระส่วนตัว, คือส่งของขวัญอำลาให้ 'โกรกู' เด็กน้อยที่เคยอยู่ภายใต้การดูแล
แต่ลุค สกายวอล์คเกอร์ ที่รื้อฟื้นทักษะเจไดให้เจ้าหนู
เกรงว่าของขวัญจากจาริน จะทำให้โกรกูตัดสัมพันธ์เก่าไม่ขาด, รบกวนการสอนศาสตร์แห่งพลังตามวิถีเก่า
จึงบอกว่าที่ลูกศิษย์ให้เลือกเอา ว่าจะกลับไปอยู่กับจาริน, หรือฝึกตนกับลุคต่อยาว ๆ ดี
ด้านจาริน บึ่งยานอวกาศกลับทาทูอิน และไปทาบทาม 'คอบบ์ แวนท์' นายอำเภอแห่งเมืองเสรี ให้ร่วมรบ
เพราะทั้งเขากับพลเมืองแถวนั้น เคยผ่านการต่อสู้เพื่อปลดแอกนคร จากมาเฟียท้องถิ่น
แถมตัวคอบบ์ แวนท์เอง ก็รังเกียจธุรกิจซื้อขายสไปซ์
แต่ในระหว่างที่แวนท์ กำลังคิดว่าจะเอาด้วยมั้ย
ยอดฝีมือรับจ้างนาม "แคด เบน" ได้โผล่ไปยิงปืนใส่เขา จนบาดเจ็บสาหัส
-
-
-
[สปอยล์] 3 ขั้วอำนาจระดับรองของมอส เอสป้า, ให้คำมั่นกับโบบ้า ว่าจะไม่แทรกแซงศึก
โบบ้าที่เชื่อว่าพวกนี้เอง ก็ไม่อยากให้ไพค์มายึดทุกอย่าง จึงมุ่งความสนใจสู่ไพค์เต็มพิกัด
และไม่ยอมใช้ปราสาทไดเมียวตั้งรับ, แต่กลับลงไป ณ ใจกลางเมือง
เพื่อยึดซากบาร์แซงชัวรี่ (ซึ่งโดนไพค์ก่อการร้าย ระเบิดทิ้งเมื่อตอนก่อน) เป็นฐานที่มั่น
เพราะการทำแบบนี้ สามารถปกป้องชาวเมืองผู้บริสุทธิ์ ได้ด้วย
อีกด้าน เพลิ มอตโต/เจ้าของอู่จอดยาน ที่เป็นร้านประจำของจาริน, ได้ต้อนรับการมาเยือน ของแขกสุดเซอร์ไพรส์
ดรอยด์ R2-D2 ขับยานปีกรูปตัวเอ็กซ์ของลุค ที่บรรทุก 'โกรกู' มาส่ง
ย้อนกลับไปทางโบบ้า, เขาจัดสรรกำลังพล แยกออกไปเฝ้าระวังรอบนคร
เนื่องจากมิทราบว่า การสนับสนุนจากเมืองเสรี อาจไม่มีมา
ฟากศัตรูเริ่มเดินหมาก เปิดกระดาน, แคด เบน โผล่มาที่ซากบาร์ เพื่อดึงดูดความสนใจจากโบบ้า
และยั่วโมโหด้วยการเฉลยว่า พวกทัสเคนเปล่าโดน แก๊งนักเลงบ้าน ๆ ฆ่าล้างบาง, ความจริงฝีมือไพค์ต่างหาก...
อย่างไรก็ตาม โบบ้าควบคุมอารมณ์ได้ และไม่ยอมซี้ซั้วเข้าสู้
แคด เบน กับกองกำลังไพค์บางส่วน จึงล่าถอยชั่วคราวก่อน
พวกลูกน้องโบบ้า ที่กระจายตัวออก 3 ทาง ประกอบด้วยชาวม็อด (มนุษย์ดัดแปลง), วู้กกี้ดำคราสซานทาน และองครักษ์หมูป่าสองนาย
ทั้งสามด้านต่างประสบกับ การจู่โจมอันไม่คาดฝัน
เพราะ 3 ขั้วอำนาจรอง รวมหัวกันทรยศโบบ้า, ส่งไพร่พลโจมตีกะทันหัน พร้อมกัน
ชาวม็อดจึงเสียเพื่อนบางคน, คราสซานทานโดนรุมสกรัม และองครักษ์หมูป่าสองนาย ถูกผลักตกจากหน้าผาสูง
แม้เดินเกมพลาดถนัด แต่เพราะโบบ้าไม่เผลอหลงคารมแคด เบน, จึงน่าจะยังเหลือโอกาสพลิกอยู่
เขาให้เฟนเนก แชนด์ ตรงดิ่งไปลอบสังหารหัวหน้าของไพค์, ที่น่าจะกะลังกบดาน ในรังซึ่งห่างออกไป
ระหว่างทาง, แชนด์ แวะช่วยพรรคพวกได้ทางนึง นั่นคือชาวม็อดที่เกือบพลาดท่ายกก๊วน
ฝั่งซากบาร์, เหลือนักสู้เพียงจาริน & โบบ้า ทว่าทั้งคู่พยายามต้านรับกองทัพลิ่วล้อไพค์ สุดกำลัง
นักรบชุดเกราะสองนายเก่งกว่ามาก แต่พวกเขาอาจสิ้นท่า เพราะความต่างด้านจำนวน
อย่างไรก็ตาม พลเมืองแห่งนครเสรี, ยกพลมาช่วยทำศึกกันเอง แม้ขาดศูนย์รวมจิตใจแบบนายอำเภอ
คราสซานทานที่อึดเวอร์ ราวกับ T-800 (คนเหล็กเทอร์มิเนเตอร์) และชาวม็อด ก็มาสมทบเช่นกัน
ลิ่วล้อไพค์เจอรวมพลขนาดนี้ สุดท้ายคือ บ่ไหว, ไม่ตายก็ถอยหนีจ้าละหวั่น
แต่มันเร็วเกินสำหรับพวกพระเอก ที่จะโล่งใจ (เพราะตอนนี้ยาวเกือบชั่วโมง จบไวเหรอ ? ฝันเหอะ)
สกอร์ปิเนค (Scorpenek) ดรอยด์ยักษ์ 2 ตัว ที่มาพร้อมปืนกระบอกเบ้อเร่อ และโล่กางรอบตัว, ถูกส่งลงสนาม
ทุกคนลองประเคนทุกอย่างใส่ แต่โล่หุ่นนี่หนาจัด ป้องกันได้หมด
แม้กระทั่งการโจมตีทางกายภาพ โดยดาร์คเซเบอร์ของจาริน
ระหว่างโบบ้าหายหัว ไปล้วงไพ่ตายมาใช้
จารินคอยก่อกวน ดึงดูดความสนใจของสกอร์ปิเนค, เพื่อช่วยมิให้แก๊งของโบบ้าโดนบดขยี้
และปะเข้ากับป้าเพลิ มอตโต ซึ่งนั่งรถพาโกรกูมาส่ง
ฉากพบกันอีกครั้งชวนซาบซึ้ง จึงเกิดขึ้นท่ามกลางสงคราม
ป้าที่แค่กะพาเด็กมา ดันต้องเอาตัวรอด ในสมรภูมิกลางเมืองด้วย
เลยบ่นว่าพลังจะทำอะไร เราเดาเอาไม่ออกหรอก
แต่ดูเหมือนโกรกูจะเดา เจตจำนงของพลังออก, จึงยกฝ่ามือขึ้น และหยุดหุ่นยนต์ลากพาหนะ ซึ่งโดยสารอยู่
จนป้า, โกรกู, จาริน เจอโบบ้าที่ควบอสูรยักษ์ 'แรนคอร์' มุ่งมาพอดี
สกอร์ปิเนคต้องโอนถ่ายโล่ ไปด้านหน้าเยอะ ๆ เพื่อยันกรงเล็บแรนคอร์
จารินจึงสบช่อง ใช้ดาร์คเซเบอร์บุกตีผ่านแนวโล่บาง ๆ ด้านหลัง
ส่วนโกรกูใช้พลัง ถอดน๊อตยึดขาหุ่นเหล็ก จนมันโงนเงน
การเผด็จศึก ด้วยสามประสาน เลยสำเร็จ
โบบ้าขี่แรนคอร์ พาไปลอบเล่นงานสกอร์ปิเนคอีกตัว ซึ่งมัวไล่บี้ชาวเมืองเสรี, ตัวที่สองจึงเสร็จตาม
ทว่าแคด เบน กลับสืบเท้าเข้าหาต่อ อย่างไม่ครั่นคร้าม
แคดใช้ไฟขู่แรนคอร์ จนขวัญกระเจิง, มันสลัดโบบ้าลงจากหลัง และเตลิดหนี
โบบ้าดวลปืน ตัวต่อตัวกับแคด และแพ้พ่าย
ทว่าการเข้าใกล้เพื่อปลิดชีพ ของแคด, ดันเข้าทางโบบ้าแทนเสียนี่
โบบ้าใช้วิชารำกระบอง ที่ร่ำเรียนจากสำนักทัสเคน จนช่ำชอง
กระหน่ำตีแคด ก่อนจะหันด้านปลายแหลม แทงเข้าร่างอีกฝ่าย เพื่อปิดบัญชี
จารินพยายามหยุดการอาละวาด ทำลายตึกรามบ้านช่อง โดยแรนคอร์ของโบบ้า
แต่ขณะพลาดพลั้ง เข้าสู่ภาวะคับขัน... โกรกูช่วยชีวิตเขา โดยการใช้พลังสะกดอสูร จนมันสงบ
ด้าน นายกเทศมนตรีมอส เอสป้า, หัวหน้า 3 ขั้วอำนาจรอง, และหัวหน้าไพค์, ที่มุดหัวหลบภัย อยู่สถานที่เดียวกันหมด
โดนเฟนเนก แชนด์ใช้ทักษะมือสังหาร กวาดคนเดียวตายเรียบ
โบบ้า เฟตต์กลายเป็นที่สรรเสริญ ของชาวบ้านชาวเมือง
จารินพาโกรกูขึ้นยานอวกาศ ออกเดินทางร่วมกันต่อ
ส่วนคอบบ์ แวนท์ ได้นอนแช่อ่างเยียวยาของโบบ้า, โดยมีช่างม็อดที่คันไม้คันมือ อยากใส่เครื่องจักรลงร่างเค้า อยู่ข้าง ๆ
[Spoil+Review] The Book of Boba Fett Ep.7 >>สงครามกลางเมือง
โดยมีรายได้หลักจากการซื้อขายสารเสพติด ที่เรียกว่าสไปซ์
หลังจั๊บบาสิ้นใจ, อาณาเขตมอส เอสป้าถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วน ล้วนมีมาเฟียระดับรองปกครองอยู่
นักล่าเงินรางวัลโบบ้า เฟตต์ เกือบชะตาขาดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับจั๊บบ้า
หากแต่รอดตาย เพราะความช่วยเหลือจากพวกทัสเค่น (มนุษย์ทราย)
โบบ้า เฟตต์ตอบแทนพวกนั้น ด้วยการสอนวิธีสู้กับอาวุธสมัยใหม่ แก่ชนเผ่าโบราณ, เมื่อถูกองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ (ไพค์) รังแก
มนุษย์ทรายจึงยอมรับ ในฐานะพวกพ้อง
ไพค์อยากลงมายึด เส้นทางขนส่งสไปซ์บนทาทูอินทั้งหมด ในภายภาคหน้า
และเห็นทัสเคน เป็นเพียงชนเผ่าหลังเขาอวดดี ที่ดันริขอเก็บค่าผ่านทาง
จึงสังหารหมู่ทัสเคนกลุ่มดังกล่าว รวมถึงป้ายความผิดแก่แก๊งนักเลงบ้านนอก
โบบ้าที่ไม่ทราบความจริง จึงนึกว่าการชำระแค้นของตน จบแล้วที่การฆ่าเหล่านักเลงหัวไม้บ้าน ๆ
โบบ้า เฟตต์ อยากเปลี่ยนอาชีพเป็นเจ้าพ่อบ้าง, เพราะเอือมพฤติกรรมของผู้ใช้อำนาจและความแข็งแกร่ง ในทางโฉด
จึงยึดบัลลังก์เก่าของจั๊บบ้า สถาปนาตนเองเป็นไดเมียวคนใหม่
พร้อมกับเริ่มรวบรวมสมัครพรรคพวก เพื่อเตรียมรับศึกใหญ่กับไพค์
แมนดาลอเรี่ยนนาม 'ดิน จาริน' เองก็เป็นหนึ่งในนั้น
แต่ลุค สกายวอล์คเกอร์ ที่รื้อฟื้นทักษะเจไดให้เจ้าหนู
เกรงว่าของขวัญจากจาริน จะทำให้โกรกูตัดสัมพันธ์เก่าไม่ขาด, รบกวนการสอนศาสตร์แห่งพลังตามวิถีเก่า
จึงบอกว่าที่ลูกศิษย์ให้เลือกเอา ว่าจะกลับไปอยู่กับจาริน, หรือฝึกตนกับลุคต่อยาว ๆ ดี
ด้านจาริน บึ่งยานอวกาศกลับทาทูอิน และไปทาบทาม 'คอบบ์ แวนท์' นายอำเภอแห่งเมืองเสรี ให้ร่วมรบ
เพราะทั้งเขากับพลเมืองแถวนั้น เคยผ่านการต่อสู้เพื่อปลดแอกนคร จากมาเฟียท้องถิ่น
แถมตัวคอบบ์ แวนท์เอง ก็รังเกียจธุรกิจซื้อขายสไปซ์
แต่ในระหว่างที่แวนท์ กำลังคิดว่าจะเอาด้วยมั้ย
ยอดฝีมือรับจ้างนาม "แคด เบน" ได้โผล่ไปยิงปืนใส่เขา จนบาดเจ็บสาหัส
-
-
-
[สปอยล์] 3 ขั้วอำนาจระดับรองของมอส เอสป้า, ให้คำมั่นกับโบบ้า ว่าจะไม่แทรกแซงศึก
โบบ้าที่เชื่อว่าพวกนี้เอง ก็ไม่อยากให้ไพค์มายึดทุกอย่าง จึงมุ่งความสนใจสู่ไพค์เต็มพิกัด
และไม่ยอมใช้ปราสาทไดเมียวตั้งรับ, แต่กลับลงไป ณ ใจกลางเมือง
เพื่อยึดซากบาร์แซงชัวรี่ (ซึ่งโดนไพค์ก่อการร้าย ระเบิดทิ้งเมื่อตอนก่อน) เป็นฐานที่มั่น
เพราะการทำแบบนี้ สามารถปกป้องชาวเมืองผู้บริสุทธิ์ ได้ด้วย
อีกด้าน เพลิ มอตโต/เจ้าของอู่จอดยาน ที่เป็นร้านประจำของจาริน, ได้ต้อนรับการมาเยือน ของแขกสุดเซอร์ไพรส์
ดรอยด์ R2-D2 ขับยานปีกรูปตัวเอ็กซ์ของลุค ที่บรรทุก 'โกรกู' มาส่ง
เนื่องจากมิทราบว่า การสนับสนุนจากเมืองเสรี อาจไม่มีมา
ฟากศัตรูเริ่มเดินหมาก เปิดกระดาน, แคด เบน โผล่มาที่ซากบาร์ เพื่อดึงดูดความสนใจจากโบบ้า
และยั่วโมโหด้วยการเฉลยว่า พวกทัสเคนเปล่าโดน แก๊งนักเลงบ้าน ๆ ฆ่าล้างบาง, ความจริงฝีมือไพค์ต่างหาก...
อย่างไรก็ตาม โบบ้าควบคุมอารมณ์ได้ และไม่ยอมซี้ซั้วเข้าสู้
แคด เบน กับกองกำลังไพค์บางส่วน จึงล่าถอยชั่วคราวก่อน
พวกลูกน้องโบบ้า ที่กระจายตัวออก 3 ทาง ประกอบด้วยชาวม็อด (มนุษย์ดัดแปลง), วู้กกี้ดำคราสซานทาน และองครักษ์หมูป่าสองนาย
ทั้งสามด้านต่างประสบกับ การจู่โจมอันไม่คาดฝัน
เพราะ 3 ขั้วอำนาจรอง รวมหัวกันทรยศโบบ้า, ส่งไพร่พลโจมตีกะทันหัน พร้อมกัน
ชาวม็อดจึงเสียเพื่อนบางคน, คราสซานทานโดนรุมสกรัม และองครักษ์หมูป่าสองนาย ถูกผลักตกจากหน้าผาสูง
แม้เดินเกมพลาดถนัด แต่เพราะโบบ้าไม่เผลอหลงคารมแคด เบน, จึงน่าจะยังเหลือโอกาสพลิกอยู่
เขาให้เฟนเนก แชนด์ ตรงดิ่งไปลอบสังหารหัวหน้าของไพค์, ที่น่าจะกะลังกบดาน ในรังซึ่งห่างออกไป
ระหว่างทาง, แชนด์ แวะช่วยพรรคพวกได้ทางนึง นั่นคือชาวม็อดที่เกือบพลาดท่ายกก๊วน
ฝั่งซากบาร์, เหลือนักสู้เพียงจาริน & โบบ้า ทว่าทั้งคู่พยายามต้านรับกองทัพลิ่วล้อไพค์ สุดกำลัง
นักรบชุดเกราะสองนายเก่งกว่ามาก แต่พวกเขาอาจสิ้นท่า เพราะความต่างด้านจำนวน
อย่างไรก็ตาม พลเมืองแห่งนครเสรี, ยกพลมาช่วยทำศึกกันเอง แม้ขาดศูนย์รวมจิตใจแบบนายอำเภอ
คราสซานทานที่อึดเวอร์ ราวกับ T-800 (คนเหล็กเทอร์มิเนเตอร์) และชาวม็อด ก็มาสมทบเช่นกัน
แต่มันเร็วเกินสำหรับพวกพระเอก ที่จะโล่งใจ (เพราะตอนนี้ยาวเกือบชั่วโมง จบไวเหรอ ? ฝันเหอะ)
สกอร์ปิเนค (Scorpenek) ดรอยด์ยักษ์ 2 ตัว ที่มาพร้อมปืนกระบอกเบ้อเร่อ และโล่กางรอบตัว, ถูกส่งลงสนาม
ทุกคนลองประเคนทุกอย่างใส่ แต่โล่หุ่นนี่หนาจัด ป้องกันได้หมด
แม้กระทั่งการโจมตีทางกายภาพ โดยดาร์คเซเบอร์ของจาริน
ระหว่างโบบ้าหายหัว ไปล้วงไพ่ตายมาใช้
จารินคอยก่อกวน ดึงดูดความสนใจของสกอร์ปิเนค, เพื่อช่วยมิให้แก๊งของโบบ้าโดนบดขยี้
และปะเข้ากับป้าเพลิ มอตโต ซึ่งนั่งรถพาโกรกูมาส่ง
ฉากพบกันอีกครั้งชวนซาบซึ้ง จึงเกิดขึ้นท่ามกลางสงคราม
ป้าที่แค่กะพาเด็กมา ดันต้องเอาตัวรอด ในสมรภูมิกลางเมืองด้วย
เลยบ่นว่าพลังจะทำอะไร เราเดาเอาไม่ออกหรอก
แต่ดูเหมือนโกรกูจะเดา เจตจำนงของพลังออก, จึงยกฝ่ามือขึ้น และหยุดหุ่นยนต์ลากพาหนะ ซึ่งโดยสารอยู่
จนป้า, โกรกู, จาริน เจอโบบ้าที่ควบอสูรยักษ์ 'แรนคอร์' มุ่งมาพอดี
สกอร์ปิเนคต้องโอนถ่ายโล่ ไปด้านหน้าเยอะ ๆ เพื่อยันกรงเล็บแรนคอร์
จารินจึงสบช่อง ใช้ดาร์คเซเบอร์บุกตีผ่านแนวโล่บาง ๆ ด้านหลัง
ส่วนโกรกูใช้พลัง ถอดน๊อตยึดขาหุ่นเหล็ก จนมันโงนเงน
การเผด็จศึก ด้วยสามประสาน เลยสำเร็จ
ทว่าแคด เบน กลับสืบเท้าเข้าหาต่อ อย่างไม่ครั่นคร้าม
แคดใช้ไฟขู่แรนคอร์ จนขวัญกระเจิง, มันสลัดโบบ้าลงจากหลัง และเตลิดหนี
โบบ้าดวลปืน ตัวต่อตัวกับแคด และแพ้พ่าย
ทว่าการเข้าใกล้เพื่อปลิดชีพ ของแคด, ดันเข้าทางโบบ้าแทนเสียนี่
โบบ้าใช้วิชารำกระบอง ที่ร่ำเรียนจากสำนักทัสเคน จนช่ำชอง
กระหน่ำตีแคด ก่อนจะหันด้านปลายแหลม แทงเข้าร่างอีกฝ่าย เพื่อปิดบัญชี
แต่ขณะพลาดพลั้ง เข้าสู่ภาวะคับขัน... โกรกูช่วยชีวิตเขา โดยการใช้พลังสะกดอสูร จนมันสงบ
ด้าน นายกเทศมนตรีมอส เอสป้า, หัวหน้า 3 ขั้วอำนาจรอง, และหัวหน้าไพค์, ที่มุดหัวหลบภัย อยู่สถานที่เดียวกันหมด
โดนเฟนเนก แชนด์ใช้ทักษะมือสังหาร กวาดคนเดียวตายเรียบ
โบบ้า เฟตต์กลายเป็นที่สรรเสริญ ของชาวบ้านชาวเมือง
จารินพาโกรกูขึ้นยานอวกาศ ออกเดินทางร่วมกันต่อ
ส่วนคอบบ์ แวนท์ ได้นอนแช่อ่างเยียวยาของโบบ้า, โดยมีช่างม็อดที่คันไม้คันมือ อยากใส่เครื่องจักรลงร่างเค้า อยู่ข้าง ๆ