[ความเดิม] กาลครั้งหนึ่งตอนเดธสตาร์ดวงที่ 2 ของจักรวรรดิระเบิดบึ้ม
ชาวทาทูอีนธรรมดาๆ อย่าง "คอบบ์ แวนท์" ที่นึกว่ากองทัพเผด็จการล้มหาย ชีวิตจะสบายแฮ, กลับเผชิญสถานการณ์บ้านเมืองไร้กฎหมาย
กลุ่มอิทธิพลเหมืองแร่ (The Mining Collective) แห่มาเปลี่ยนมอส เพลโกให้กลายเป็นเมืองทาส ภายใต้การปกครอง
คอบบ์ แวนท์หนีเอาตัวรอดหัวซุกหัวซุน และหยิบกล่องอะไรไม่รู้ติดไม้ติดมือไปด้วยช่วงชุลมุน
เขาถูกพวกจาว่า/นักเก็บซากของเก่าช่วยเหลือ และเมื่อจาว่าพบว่าในกล่องนั่นมีแร่ธาตุล้ำค่า จึงคะยั้นคะยอขอตอบแทนให้สาสม
แวนท์ที่เหลือบมองไปเห็นเกราะเบสคาร์ ท่ามกลางกองขยะพอดี เลยขอมัน
เขาสวมชุดรบของชาวแมนดาลอร์ แล้วใช้ลูกเล่นเจ๋งๆ ของสิ่งนั้น
เล่นงานนักเลงเหมืองแร่, ปกป้องชาวมอส เพลโกจากสารพัดภยันตราย แลถูกนับถือในฐานะ 'นายอำเภอ' จากพลเมือง
ต่อมา แมนดาลอเรี่ยนนามดิน จาริน, ซึ่งพยายามตามหาเจได เพื่อฝากฝัง "โกรกู" เด็กน้อยอายุ 50 ที่เขาดูแลอยู่
ได้พบกับนายอำเภอและช่วยปราบ 'มังกร' อสูรยักษ์แห่งทะเลทราย ที่กำลังคุกคามท้องถิ่น
หลังภารกิจเสร็จสิ้น, นายอำเภอยอมมอบเกราะแก่ชาวแมนดาลอร์ เป็นของตอบแทน
แล้วจารินก็เจอเจไดหญิงชื่อ "อาโซก้า ทาโน่" อดีตลูกศิษย์ของอนาคิน สกายวอล์คเกอร์
เธอไม่สะดวกใจ จะรับเจ้าหนูโกรกูเป็นศิษย์, แต่แนะว่าควรจับเด็กน้อยไปหย่อนแถวซากวิหารเจได
เพราะอาจมีเจไดคนอื่น ตระหนักถึงตัวตนของเด็ก เมื่อสัมผัสพลังบนพื้นที่
ขณะจาริน ทำตามคำแนะนำของอาโซก้า
โบบ้า เฟตต์/เจ้าของเกราะที่คอบบ์ แวนท์ เคยสวมใส่
ได้มาทวงมันคืน พร้อมอดีตทหารรับจ้างหญิงมือดี, ผู้เป็นมือขวา (เฟนเนก แชน)
จนจาริน เผลอห่างเด็กนานเกิน, โกรกูจึงถูกซากทัพจักรวรรดิลักพาตัว
โบบ้าอาสา ช่วยทวงเด็กน้อยคืนจากกองทหารโฉด และขับยานรบไปคอยสนับสนุนอยู่ภายนอก, ขณะจารินมุ่งลึกสู่รังศัตรู
ตอนคับขันถึงขีดสุด บุรุษในตำนานที่สำคัญยิ่ง ต่อการล้มล้างจักรวรรดิ, โผล่มาฟาดฟันอริสิ้น
บุตรแห่งอนาคิน 'ลุค สกายวอล์คเกอร์' ช่วยชีวิตจาริน และรับเป็นครูสอนวิชาเจได ให้โกรกู
จารินกลับไปรวมตัว กับพวกพ้องแมนดาลอเรี่ยนที่เหลือไม่มาก
ส่วนโบบ้ายึดอำนาจเหนือบัลลังก์เก่า ของไดเมียวผู้ล่วงลับ แห่งเมืองท่ามอส เอสป้า (จั๊บบ้า เดอะ ฮัตต์)
ทว่าเพื่อสงครามกับ "ไพค์" หนึ่งในองค์กรอาชญากรรมใหญ่สุด ของกาแล็คซี่, ที่ใกล้เปิดฉาก
เฟนเนก แชนด์ จึงชักชวนจารินเข้าปาร์ตี้
อย่างไรก็ตาม จารินขอเวลาเคลียร์ธุระตนก่อน, นั่นคือเยี่ยมเยือนเด็กน้อยคราสุดท้าย
เพื่อยืนยันให้ชัวร์ว่า เค้าจะปลอดภัยดีในสภาพแวดล้อมใหม่
-
-
-
[สปอยล์] ณ มอส เพลโก ที่เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองเสรี (Freetown)
คอบบ์ แวนท์ต้องโชว์ทักษะสิงห์ปืนไว เพื่อไล่ตะเพิดพวกไพค์
ซึ่งขนย้ายสารเสพติด (สไปซ์) ผ่านเมือง โดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้านจารินขับยานอวกาศลำใหม่ เยือนดินแดนแห่งป่า, ไผ่ และธารา
เขาแจ้งธุระ แก่เจ้าดรอยด์สีน้ำเงิน R2-D2, ทว่าแทนที่จะได้พบลุค สกายวอล์คเกอร์ทันที
กลับกลายเป็นต้องนั่งแกร่วรอ อยู่หน้าสำนักเจไดที่กะลังก่อสร้างซะนี่ (ใช้แรงงานหุ่นยนต์ ขนก้อนหินมาเรียง)
อีกฟากหนึ่งของไพร, การสอนของบุรุษในตำนาน ดำเนินไป
ลุคนำสิ่งที่เคยเรียนรู้ จากชายชราสปีชีส์เดียวกับโกรกู (ปรมาจารย์โยดา) มาส่งต่อ
เขาถ่ายทอดวิธีใช้ 'พลัง' หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเสริมการเคลื่อนไหว, หยั่งรู้ภัย, ยกสิ่งของ
รวมถึงแสดงท่วงท่า ร่ายรำกระบี่แสง ให้เด็กน้อยอายุ 50 ทัศนา
ย้อนคืนสู่ทางจาริน, อาโซก้า ทาโน่ โผล่มาพาคุณพ่อ ไปแอบดูลูกน้อยตอนอยู่โรงเรียนประจำ
และเตือนว่าหากทั้งสองได้พานพบหน้า อาจไม่กล้าแยกกันซ้ำสอง
จารินจึงยอมทำแค่มองห่างๆ อย่างอาลัย, และฝากอาโซก้าเอาของขวัญอำลา ไปมอบให้เด็ก
จารินบ่ายหน้าขึ้นยานประจำกาย ย้ายกลับทาทูอิน
เขาเข้าร่วมการประชุมที่วังเก่าจั๊บบ้า, มีการปรึกษากันว่าเรายังขาดกำลังพล และหัวหมู่ทะลวงฟัน
ดังนั้นจารินจึงขันอาสา เดินทางสู่เมืองเสรี, เพื่อเกณฑ์คอบบ์ แวนท์กับพลเมืองใจสู้ เข้าร่วมศึก
แต่เพราะภัยจากไพค์ ยังไม่เดือดร้อนถึงคนเมืองนี้, นายอำเภอจึงปฏิเสธ ในเบื้องต้น
เมื่อจารินจากไปแล้ว, คอบบ์ แวนท์ที่เข้าใจอยู่ว่า ไพค์จะอันตรายต่อทาทูอินทั้งดาวในอนาคต
ตั้งใจจะเรียกรวมพลชาวเมือง, อธิบายสถานการณ์ และหยั่งมติประชาชน
แต่ยังไม่ทัน ทำสิ่งใดตามความคะเน
ชายสวมหมวกปีกกว้างผู้นึง ก็เดินอาดๆ มาปรากฏกายตรงหน้า พร้อมแผ่ออร่าคุกคามขั้นสุด
"แคด เบน" คือยอดฝีมือรับจ้าง ที่มาเตือนเมืองเสรีว่า
จงอย่าแส่เข้ามายุ่งกับสงคราม ระหว่างไพค์กับไดเมียวโบบ้า
เค้าเล่นงาน นายอำเภอคนเก่งจนบาดเจ็บ ก่อนตีจาก
ฝั่งอาโซก้า, เธอส่งมอบของอำลาจากจาริน แก่ลุค สกายวอล์คเกอร์
ก่อนลาเพื่อนร่วมวงการผู้ใช้พลัง ไปทำสิ่งใดไม่ทราบต่อ
ส่วนลุคผู้ตระหนักว่า การสวมใส่เกราะโซ่ถักเบสคาร์ไซส์มินิ จะก่ออะไรขึ้นในใจโกรกู
เสนอให้เจ้าหนูเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง, ไม่ของขวัญจากลุค ที่เป็นกระบี่แสงของโยดา... ก็ของขวัญจากจาริน
หากโกรกูเลือกกระบี่แสง เขาจะกลายเป็นศิษย์คนแรกของลุคเต็มขั้น และมุ่งสู่วิถีสุดยอดเจได
หากเลือกเกราะโซ่ถักหมายความว่า จะได้กลับไปอยู่กับชาวแมนดาลอร์
-
-
-
[วิจารณ์] ผู้สร้างเปลี่ยนซีรีส์โบบ้าทั้งตอน ให้กลายเป็นช่วงเวลาของ The Mandalorian อีกหน
เท่ากับคัมภีร์แห่งโบบ้า เฟตต์ มีเรื่องราวของตัวเอง แค่ราว 5 ตอน
ซ้ำร้ายการมีอัตราส่วนของช่วงอดีต (ที่เปลี่ยนบุคลิกเขา) พอๆ กับเส้นทางเจ้าพ่อในช่วงปัจจุบัน
ยังส่งผลให้เหตุการณ์ เกี่ยวกะวงการอาชญากรรม น้อยลงอีก
เมื่อพาร์ทที่ควรเป็นจุดขาย หรือเนื้อหาหลักของผลงาน, ดันเบาบางเช่นนี้
จึงรู้สึกว่าซีรีส์ขาดความเข้มข้น, กดดัน หรือชวนลุ้น
ทว่าเพราะการทำตัวแบบ The Mandalorian ซีซั่น 2.5 ในระยะนี้
และเซอร์วิสแฟนๆ ด้วยการพามาทัศนา, ช่วงเวลาที่ลุค สกายวอล์คเกอร์ พยายามฟื้นฟูนิกายเจได หลายสิบนาที
โดยรวมแล้วก็เลยยัง, ให้คะแนนในทางดี มากกว่าแย่
แต่สมมติมีคนถามว่า ชอบคัมภีร์โบบ้าฯ หรือเปล่า ? ผมคงตอบไม่ถูก ขอรอดูตอนจบอีกที
-
-
[ปล.1] นี่คือครั้งแรกที่ตัวเอกภาพยนตร์ Star Wars (ลุค) กับอนิเมชั่นซีรีส์ The Clone Wars (อาโซก้า) โคจรมาพบกัน
ปฏิกิริยาของแฟนๆ ฝรั่งคือดี๊ด๊าใหญ่... แต่เรื่อง 2 คนนี้รู้จักกันได้ไงนี่ สงสัยต้องรอคำอธิบายจากซีรีส์อื่น
[ปล.2] แคด เบน (Cad Bane) คือหนึ่งในตัวละครเก่งเทพ ที่แจ้งเกิดจากซีรีส์ The Clone Wars
ถึงในตอนนี้แคด นินทาว่า, โบบ้า เฟตต์เคยทำงานให้จักรวรรดิโฉด
แต่ตัวแกเองคือ นักล่าเงินรางวัลมือฉมัง, ซึ่งรับงานจาก 'ฝ่ายตรงข้ามของตัวเอก' ในทุกคอนเทนท์สตาร์วอร์ส ที่ปรากฏตัว
แคด เบน เคยเป็นทั้งลูกจ้างของดาร์ธ ซีเดียส, เคาน์ทดูกู และสมาชิกตระกูลฮัตต์ ทำภารกิจที่ส่งผลเสียต่อสาธารณรัฐ
เขาเคยงัดกับเฟนเนก แชน (สมัยสาวกว่านี้) ใน The Bad Batch (อนิเมชั่นภาคแยกของ The Clone Wars) ด้วย
[ปล.3] จารินคือคุณพ่อประเภท มอบสิ่งที่คิดว่ามีประโยชน์ให้ลูก
มากกว่าอยากเห็นเด็กลิงโลด ตอนได้ของเล่นถูกใจสินะ
[Spoil+Review] The Book of Boba Fett Ep.6 >>การสอนของบุรุษในตำนาน
ชาวทาทูอีนธรรมดาๆ อย่าง "คอบบ์ แวนท์" ที่นึกว่ากองทัพเผด็จการล้มหาย ชีวิตจะสบายแฮ, กลับเผชิญสถานการณ์บ้านเมืองไร้กฎหมาย
กลุ่มอิทธิพลเหมืองแร่ (The Mining Collective) แห่มาเปลี่ยนมอส เพลโกให้กลายเป็นเมืองทาส ภายใต้การปกครอง
คอบบ์ แวนท์หนีเอาตัวรอดหัวซุกหัวซุน และหยิบกล่องอะไรไม่รู้ติดไม้ติดมือไปด้วยช่วงชุลมุน
เขาถูกพวกจาว่า/นักเก็บซากของเก่าช่วยเหลือ และเมื่อจาว่าพบว่าในกล่องนั่นมีแร่ธาตุล้ำค่า จึงคะยั้นคะยอขอตอบแทนให้สาสม
แวนท์ที่เหลือบมองไปเห็นเกราะเบสคาร์ ท่ามกลางกองขยะพอดี เลยขอมัน
เขาสวมชุดรบของชาวแมนดาลอร์ แล้วใช้ลูกเล่นเจ๋งๆ ของสิ่งนั้น
เล่นงานนักเลงเหมืองแร่, ปกป้องชาวมอส เพลโกจากสารพัดภยันตราย แลถูกนับถือในฐานะ 'นายอำเภอ' จากพลเมือง
ต่อมา แมนดาลอเรี่ยนนามดิน จาริน, ซึ่งพยายามตามหาเจได เพื่อฝากฝัง "โกรกู" เด็กน้อยอายุ 50 ที่เขาดูแลอยู่
ได้พบกับนายอำเภอและช่วยปราบ 'มังกร' อสูรยักษ์แห่งทะเลทราย ที่กำลังคุกคามท้องถิ่น
หลังภารกิจเสร็จสิ้น, นายอำเภอยอมมอบเกราะแก่ชาวแมนดาลอร์ เป็นของตอบแทน
เธอไม่สะดวกใจ จะรับเจ้าหนูโกรกูเป็นศิษย์, แต่แนะว่าควรจับเด็กน้อยไปหย่อนแถวซากวิหารเจได
เพราะอาจมีเจไดคนอื่น ตระหนักถึงตัวตนของเด็ก เมื่อสัมผัสพลังบนพื้นที่
ขณะจาริน ทำตามคำแนะนำของอาโซก้า
โบบ้า เฟตต์/เจ้าของเกราะที่คอบบ์ แวนท์ เคยสวมใส่
ได้มาทวงมันคืน พร้อมอดีตทหารรับจ้างหญิงมือดี, ผู้เป็นมือขวา (เฟนเนก แชน)
จนจาริน เผลอห่างเด็กนานเกิน, โกรกูจึงถูกซากทัพจักรวรรดิลักพาตัว
โบบ้าอาสา ช่วยทวงเด็กน้อยคืนจากกองทหารโฉด และขับยานรบไปคอยสนับสนุนอยู่ภายนอก, ขณะจารินมุ่งลึกสู่รังศัตรู
ตอนคับขันถึงขีดสุด บุรุษในตำนานที่สำคัญยิ่ง ต่อการล้มล้างจักรวรรดิ, โผล่มาฟาดฟันอริสิ้น
บุตรแห่งอนาคิน 'ลุค สกายวอล์คเกอร์' ช่วยชีวิตจาริน และรับเป็นครูสอนวิชาเจได ให้โกรกู
ส่วนโบบ้ายึดอำนาจเหนือบัลลังก์เก่า ของไดเมียวผู้ล่วงลับ แห่งเมืองท่ามอส เอสป้า (จั๊บบ้า เดอะ ฮัตต์)
ทว่าเพื่อสงครามกับ "ไพค์" หนึ่งในองค์กรอาชญากรรมใหญ่สุด ของกาแล็คซี่, ที่ใกล้เปิดฉาก
เฟนเนก แชนด์ จึงชักชวนจารินเข้าปาร์ตี้
อย่างไรก็ตาม จารินขอเวลาเคลียร์ธุระตนก่อน, นั่นคือเยี่ยมเยือนเด็กน้อยคราสุดท้าย
เพื่อยืนยันให้ชัวร์ว่า เค้าจะปลอดภัยดีในสภาพแวดล้อมใหม่
-
-
-
[สปอยล์] ณ มอส เพลโก ที่เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองเสรี (Freetown)
คอบบ์ แวนท์ต้องโชว์ทักษะสิงห์ปืนไว เพื่อไล่ตะเพิดพวกไพค์
ซึ่งขนย้ายสารเสพติด (สไปซ์) ผ่านเมือง โดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้านจารินขับยานอวกาศลำใหม่ เยือนดินแดนแห่งป่า, ไผ่ และธารา
เขาแจ้งธุระ แก่เจ้าดรอยด์สีน้ำเงิน R2-D2, ทว่าแทนที่จะได้พบลุค สกายวอล์คเกอร์ทันที
กลับกลายเป็นต้องนั่งแกร่วรอ อยู่หน้าสำนักเจไดที่กะลังก่อสร้างซะนี่ (ใช้แรงงานหุ่นยนต์ ขนก้อนหินมาเรียง)
ลุคนำสิ่งที่เคยเรียนรู้ จากชายชราสปีชีส์เดียวกับโกรกู (ปรมาจารย์โยดา) มาส่งต่อ
เขาถ่ายทอดวิธีใช้ 'พลัง' หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเสริมการเคลื่อนไหว, หยั่งรู้ภัย, ยกสิ่งของ
รวมถึงแสดงท่วงท่า ร่ายรำกระบี่แสง ให้เด็กน้อยอายุ 50 ทัศนา
ย้อนคืนสู่ทางจาริน, อาโซก้า ทาโน่ โผล่มาพาคุณพ่อ ไปแอบดูลูกน้อยตอนอยู่โรงเรียนประจำ
และเตือนว่าหากทั้งสองได้พานพบหน้า อาจไม่กล้าแยกกันซ้ำสอง
จารินจึงยอมทำแค่มองห่างๆ อย่างอาลัย, และฝากอาโซก้าเอาของขวัญอำลา ไปมอบให้เด็ก
จารินบ่ายหน้าขึ้นยานประจำกาย ย้ายกลับทาทูอิน
เขาเข้าร่วมการประชุมที่วังเก่าจั๊บบ้า, มีการปรึกษากันว่าเรายังขาดกำลังพล และหัวหมู่ทะลวงฟัน
ดังนั้นจารินจึงขันอาสา เดินทางสู่เมืองเสรี, เพื่อเกณฑ์คอบบ์ แวนท์กับพลเมืองใจสู้ เข้าร่วมศึก
แต่เพราะภัยจากไพค์ ยังไม่เดือดร้อนถึงคนเมืองนี้, นายอำเภอจึงปฏิเสธ ในเบื้องต้น
เมื่อจารินจากไปแล้ว, คอบบ์ แวนท์ที่เข้าใจอยู่ว่า ไพค์จะอันตรายต่อทาทูอินทั้งดาวในอนาคต
ตั้งใจจะเรียกรวมพลชาวเมือง, อธิบายสถานการณ์ และหยั่งมติประชาชน
แต่ยังไม่ทัน ทำสิ่งใดตามความคะเน
ชายสวมหมวกปีกกว้างผู้นึง ก็เดินอาดๆ มาปรากฏกายตรงหน้า พร้อมแผ่ออร่าคุกคามขั้นสุด
จงอย่าแส่เข้ามายุ่งกับสงคราม ระหว่างไพค์กับไดเมียวโบบ้า
เค้าเล่นงาน นายอำเภอคนเก่งจนบาดเจ็บ ก่อนตีจาก
ฝั่งอาโซก้า, เธอส่งมอบของอำลาจากจาริน แก่ลุค สกายวอล์คเกอร์
ก่อนลาเพื่อนร่วมวงการผู้ใช้พลัง ไปทำสิ่งใดไม่ทราบต่อ
ส่วนลุคผู้ตระหนักว่า การสวมใส่เกราะโซ่ถักเบสคาร์ไซส์มินิ จะก่ออะไรขึ้นในใจโกรกู
เสนอให้เจ้าหนูเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง, ไม่ของขวัญจากลุค ที่เป็นกระบี่แสงของโยดา... ก็ของขวัญจากจาริน
หากโกรกูเลือกกระบี่แสง เขาจะกลายเป็นศิษย์คนแรกของลุคเต็มขั้น และมุ่งสู่วิถีสุดยอดเจได
หากเลือกเกราะโซ่ถักหมายความว่า จะได้กลับไปอยู่กับชาวแมนดาลอร์
-
-
[วิจารณ์] ผู้สร้างเปลี่ยนซีรีส์โบบ้าทั้งตอน ให้กลายเป็นช่วงเวลาของ The Mandalorian อีกหน
เท่ากับคัมภีร์แห่งโบบ้า เฟตต์ มีเรื่องราวของตัวเอง แค่ราว 5 ตอน
ซ้ำร้ายการมีอัตราส่วนของช่วงอดีต (ที่เปลี่ยนบุคลิกเขา) พอๆ กับเส้นทางเจ้าพ่อในช่วงปัจจุบัน
ยังส่งผลให้เหตุการณ์ เกี่ยวกะวงการอาชญากรรม น้อยลงอีก
เมื่อพาร์ทที่ควรเป็นจุดขาย หรือเนื้อหาหลักของผลงาน, ดันเบาบางเช่นนี้
จึงรู้สึกว่าซีรีส์ขาดความเข้มข้น, กดดัน หรือชวนลุ้น
ทว่าเพราะการทำตัวแบบ The Mandalorian ซีซั่น 2.5 ในระยะนี้
และเซอร์วิสแฟนๆ ด้วยการพามาทัศนา, ช่วงเวลาที่ลุค สกายวอล์คเกอร์ พยายามฟื้นฟูนิกายเจได หลายสิบนาที
โดยรวมแล้วก็เลยยัง, ให้คะแนนในทางดี มากกว่าแย่
แต่สมมติมีคนถามว่า ชอบคัมภีร์โบบ้าฯ หรือเปล่า ? ผมคงตอบไม่ถูก ขอรอดูตอนจบอีกที
-
-
[ปล.1] นี่คือครั้งแรกที่ตัวเอกภาพยนตร์ Star Wars (ลุค) กับอนิเมชั่นซีรีส์ The Clone Wars (อาโซก้า) โคจรมาพบกัน
ปฏิกิริยาของแฟนๆ ฝรั่งคือดี๊ด๊าใหญ่... แต่เรื่อง 2 คนนี้รู้จักกันได้ไงนี่ สงสัยต้องรอคำอธิบายจากซีรีส์อื่น
ถึงในตอนนี้แคด นินทาว่า, โบบ้า เฟตต์เคยทำงานให้จักรวรรดิโฉด
แต่ตัวแกเองคือ นักล่าเงินรางวัลมือฉมัง, ซึ่งรับงานจาก 'ฝ่ายตรงข้ามของตัวเอก' ในทุกคอนเทนท์สตาร์วอร์ส ที่ปรากฏตัว
แคด เบน เคยเป็นทั้งลูกจ้างของดาร์ธ ซีเดียส, เคาน์ทดูกู และสมาชิกตระกูลฮัตต์ ทำภารกิจที่ส่งผลเสียต่อสาธารณรัฐ
เขาเคยงัดกับเฟนเนก แชน (สมัยสาวกว่านี้) ใน The Bad Batch (อนิเมชั่นภาคแยกของ The Clone Wars) ด้วย
[ปล.3] จารินคือคุณพ่อประเภท มอบสิ่งที่คิดว่ามีประโยชน์ให้ลูก
มากกว่าอยากเห็นเด็กลิงโลด ตอนได้ของเล่นถูกใจสินะ