[CR] รีวิว Okonomiyaki Teppanyaki Morimoto บุฟเฟ่ต์ไก่ทอดคาราอาเกะเพียงคนละ 100 บ. อยู่ภายในซอยธนิยะ-สีลม

สืบเนื่องจากครั้งที่แล้วนั่งเล่นมือถือเลื่อนหาร้านอร่อยเด็ดใกล้ๆบ้านจนไปพบกับบุฟเฟ่ต์ยากิโทริราคาถูก วันนี้ก็มาตามจุดประสงค์เดิมแต่มาพบกับร้านแห่งใหม่ชื่อว่า "Okonomiyaki Teppanyaki Morimoto" อยู่ภายในซอยพัฒน์พงศ์ ปกติอาหารหลักของที่ร้านนี้เป็นโอโคโนมิยากิ/เทปันยากิและอาหารทานเล่นสไตล์อิซากายะแต่ถ้าหากมาทานมื้อกลางวันเวลา 11.00-13.30 จะมีโปรโมชั่นพิเศษก็คือ "บุฟเฟ่ต์คาราอาเกะทานได้ไม่อั้นตลอด 1 ชั่วโมงเต็มจ่ายเพียงคนละ 100 บาท" (ไม่รวม Vat. 7%) ตอนแรกคิดว่าน่าจะเลี่ยนมากและทานได้ไม่เยอะแต่ดูจากรีวิวเก่าๆก็ไม่ได้มีแค่ไก่ทอดให้ทานเพียงอย่างเดียวจึงเพิ่มความน่าสนใจให้อยากทานขึ้นไปอีกขั้น ก่อนอื่นเราต้องขอแจ้งก่อนว่าทางร้านไม่รับลูกค้า Walk In ทุกกรณี ต้องโทรมาจองก่อนและมาตามช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้นเพราะจำนวนโต๊ะในร้านมีจำกัด-จะได้เตรียมวัตถุดิบให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันและแน่นอนว่าเราโทรมาจองเอาไว้แล้ว วิธีการเดินทางหากนำรถยนต์ส่วนตัวมาเองให้ปักหมุดแล้วขับมาตามแผนที่บนมือถือจอดรถภายในอาคารวอลล์สตรีททาวเวอร์ฟรี 2 ชม.เมื่อมีประทับตราร้าน (ยกเว้นมื้อเที่ยงร้านจะไม่ประทับตราให้ต้องเสียค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาท) หรือจะจอดหน้าอาคารนัมเบอร์วันก็คิดเงินเช่นเดียวกัน ถ้าเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ลง BTS สถานีศาลาแดง หรือ MRT สถานีสีลม เดินเข้ามาภายในถนนพัฒน์พงศ์จนเกือบสุดซอยก่อนทะลุถนนสุรวงศ์ทางด้านขวามือจะพบกับอาคารนัมเบอร์วัน (ตึกสีน้ำตาลหน้าตาคล้ายๆกับคอนโดมิเนียม) พร้อมกับมีป้ายเล็กๆเขียนหน้าอาคารว่า "เลขที่ 1 ถนนพัฒน์พงศ์ / No. 1 Patpong Road" แบบนี้แสดงว่ามาถูกแล้วครับ ประตูทางเข้าจะพบกับป้ายชื่อร้านพร้อมเมนูเด็ดบนพื้นสีขาวดูสะอาดตาเชิญชวนให้กดลิฟต์ขึ้นไปชั้น 4 ออกจากลิฟต์มาก็พบหน้าร้านเลยครับ

บรรยากาศภายในร้านอย่างที่บอกไปเบื้องต้นแล้วว่าเมนูหลักนั่นคือโอโคโนมิยากิ/เทปันยากิและอาหารทานเล่นสไตล์อิซากายะ ทุกโต๊ะเลยมีเตาไฟฟ้าอยู่ตรงกลางเพื่อจะได้ทานอาหารบนกระทะร้อนๆตลอดเวลา โดยมีเค้าท์เตอร์ขนาดใหญ่ใจกลางร้านเป็นจุดปรุงอาหารแล้วค่อยนำไปเสิร์ฟตามจุดต่างๆ แบ่งที่นั่งหลักๆออกเป็น 3 โซนนั่นก็คือ 1. โต๊ะแนวยาวมีเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเดี่ยวสำหรับ 1 คนนั่งหน้าเค้าท์เตอร์พร้อมชมการแสดงปรุงอาหารสดๆจากเชฟมืออาชีพ 2. โต๊ะสำหรับครอบครัวสามารถนั่งได้ตั้งแต่ 4-8 คนพร้อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบคู่สำหรับวางเมนูที่ปรุงเสร็จไว้ตรงกลางได้ทานแบบร้อนๆจนถึงคำสุดท้าย 3. ห้องรับรองส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับคนที่ต้องการใช้เสียงดังและต้องการความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยมื้อกลางวันทางร้านจะเปิดให้บริการแค่โซนที่ 1 กับ 2 เท่านั้นเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเสิร์ฟเพราะมีเวลาในการทานเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น วันนี้เราได้นั่งโซนหน้าเค้าท์เตอร์กันครับผม

มาถึงน้องพนักงานก็จะนำเล่มเมนูอาหารกลางวันมาให้เราเลือกสั่งเริ่มจากชุดเมนูราคาสุดคุ้ม 1. ชุดข้าวไก่ทอดคาราอาเกะราคา 129 บาท 2. ชุดข้าวชุบแป้งทอด 3 อย่าง (กุ้ง/ไก่และโคโรเกะไส้ครีม) ราคา 159 บาท 3. ชุดข้าวแฮมเบอร์เกอร์ (แฮมเบอร์เกอร์/กุ้งชุบแป้งทอดและไก่ทอด) ราคา 219 บาท ส่วนเมนูที่เราตั้งใจจะมาทานกันในวันนี้นั่นก็คือ 4. ไก่ทอดคาราอาเกะทานได้ไม่อั้นตลอด 1 ชั่วโมง ราคาเพียงคนละ 100 บาท หากต้องการข้าวกับซุปเพิ่มอีกคนละ 50 บาท (เติมได้ไม่อั้นเช่นเดียวกัน) นอกจากนี้ยังมีเบียร์-น้ำอัดลมให้สั่งเพิ่มแต่ไม่รวมในราคาบุฟเฟ่ต์ ซึ่งเมนูนี้สามารถสั่งได้ทุกวันจันทร์-เสาร์เริ่มตั้งแต่เวลา 11.00-13.30 น. รับออเดอร์สุดท้ายเวลา 13.40 น. ถ้าทานยังไม่หมดสามารถนั่งทานต่อไปได้เรื่อยๆแต่ไม่สามารถสั่งเพิ่มได้อีก ส่วนเครื่องดื่มในบุฟเฟ่ต์มีน้ำชาจืดให้ฟรีมาเป็นเหยือกใหญ่เทได้ตามใจ (กลิ่นชาอ่อนๆดื่มได้เรื่อยๆแช่เย็นสดชื่น) บนโต๊ะมีซอส 3 สูตร/เกลือและพริกป่นให้ทานกับไก่ทอดคาราเกะได้ตามใจแต่ถ้าเทซอสจนเหลือเยอะเกินไปคิดค่าปรับขั้นต่ำ 30 บาท (ยังไงก็เทแต่พอดีด้วยนะครับ)

เมื่อเราสั่งชุดบุฟเฟ่ต์ไก่ทอดราคา 100 บาทพนักงานจะไม่ถามว่าเอาไก่ทอดกี่ชิ้นแต่จะเสิร์ฟเป็นชุดเริ่มต้นมาให้ก่อนประกอบไปด้วย 1. ไก่ทอดคาราอาเกะ 5 ชิ้น เป็นส่วนสะโพกเลาะกระดูกออกก่อนจะหมักด้วยซอสสูตรพิเศษ/จับม้วนเป็นก้อนแล้วทอดจนเป็นสีน้ำตาลประกายน้ำมันสวยงาม 2. เครื่องเคียงหลากหลายในชุดที่ดูแปลกตาเพราะไม่เคยเห็นร้านอื่นๆเขาเสิร์ฟกัน 3. ชุดข้าวกับซุป (เพิ่มอีก 50 บาทเติมได้ไม่อั้น) เป็นข้าวสวยญี่ปุ่นโรยงาดำเสิร์ฟกับกระหล่ำปลีดองเกลือที่ถูกบีบน้ำส่วนเกินออกและซุปสาหร่ายใส่ไข่โรยด้วยต้นหอมที่ซดแล้วมีความคล้ายกับซุปของเกาหลีมากกว่าญี่ปุ่นรสเค็มอ่อนละมุน สำหรับใครที่รู้ตัวแล้วว่ามื้อนี้ต้องทานได้เยอะแน่นอนก็สามารถสั่งไก่ทอดเพิ่มได้เลยทันทีแต่ถ้ายังไม่ชัวร์แนะนำว่าให้ทานชุดนี้หมดก่อนแล้วกะปริมาณพื้นที่เหลือในกระเพาะค่อยสั่งเพิ่มดีกว่าครับ

กัดทำแรกสิ่งที่รู้สึกได้เลยคือร้อนมากเพราะเขาทอดมาใหม่ๆ ด้านนอกพื้นผิวสีน้ำตาลสุกกรอบด้วยแป้งกับหนังไก่ส่วนตรงแกนกลางชุ่มฉ่ำเพราะเกิดจากการม้วนเป็นก้อนทำให้น้ำเนื้ออัดแน่นอยู่ภายในมีความอมชมพูอยู่นิดๆเกิดจาก "มายโอโกลบิน" ซึ่งเป็นโปรตีนที่เก็บออกซิเจนไว้ในเซลล์กล้ามเนื้อของไก่ รสชาติเค็มอ่อนๆมีกลิ่นหอมของโชยุผสมกับผงกะหรี่/พริกไทย/ผงกระเทียม/มิรินและสาเกบางๆพอกลมกล่อม สำหรับคนที่เกลียดกลิ่นขิงในไก่คาราอาเกะสามารถทานสูตรของร้านนี้ได้แบบสบายๆ เพิ่มรสชาติด้วยซอสทั้ง 3 สูตรของทางร้านก็คือ 1. ซอสศรีราชามาโย เป็นซอสพริกศรีราชาผสมมายองเนสให้รสเปรี้ยว-มันนุ่มนวลและเผ็ดพออ่อนๆ 2. ซอสโอโคโนมิยากิมาโย เป็นซอสพิซซ่าญี่ปุ่นสูตรเฉพาะของทางร้านผสมมายองเนสรสหวานมันทานง่ายมีกลิ่นหอมๆเฉพาะตัว 3. ซอสสวีทชิลลี่มาโย หรือน้ำจิ้มไก่สไตล์ไทยผสมกับมายองเนสช่วยให้รสหวานนำเผ็ดตามเปรี้ยวกลมกล่อมทานง่ายมากขึ้น สำหรับใครที่อยากทานไก่ทอดคาราอาเกะคู่กับน้ำจิ้มไก่ไทยสูตรปกติก็สามารถขอเพิ่มได้ฟรี (พนักงานไปหยิบมาให้จากหลังร้าน)

ถ้าใครอยากทานสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมสามารถปรุงรสชาติเพิ่มเติมได้รูป 3 แบบนั่นก็คือ 1. เกลือสาหร่ายสูตรพิเศษรสเค็มอ่อนๆผสมสาหร่ายแห้งป่นละเอียดที่ผสมอยู่ในเนื้อเกลือสีเทาใช้โรยหรือจิ้มช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้ความอูมามิเพิ่มยิ่งขึ้นโดยไม่รบกวนรสชาติที่แท้จริงของไก่คาราอาเกะ 2. พริกป่นละเอียดสไตล์ญี่ปุ่นให้รสเผ็ดร้อนบางๆช่วยตัดเลี่ยนไขมันไก่ทกให้ทานได้เยอะยิ่งขึ้น 3. เป็นน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่ต้องสั่งเพิ่มนั่นคือ "ซอสกระเทียม" ทางร้านขายราคาถ้วยละ 20 บาท (แต่เราไม่ได้สั่งมาลองเพราะไม่รู้ว่ามีจนมาคุยกับเจ้าของตอนจะปิดร้าน) ถือว่ามีซอสและวิธีการทานหลายอย่างให้เปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆ ใครที่กลัวว่าจะเบื่อเพราะมีให้ทานแต่ไก่ทอดสบายใจได้ครับ

มาต่อกันด้วยเครื่องเคียงต่างๆหน้าตาค่อนข้างประหลาดจากร้านอาหารญี่ปุ่นอื่นๆที่เคยทานมาเรียงจากซ้ายไปขวา 1. สลัดไข่ต้มมาโย เป็นไข่ต้มสับผสมกับสลัดครีมรสหวานมันโรยพาสลี่ย์สับ 2. โคลสลอว์กระหล่ำปลีซอยโรยคัตสึโอะได้ความเป็นตะวันตกผสมตะวันออกได้อย่างลงตัว 3. ส้มตำปูปลาร้ารสเผ็ดแซ่บนัวเส้นมะละกอกรุบกรอบช่วยตัดเลี่ยนไก่ทอดได้เป็นอย่างดี 4. สปาเก็ตตี้ผัดน้ำมันมะกอกและพริกไทยดำรสเผ็ดร้อนอ่อนๆทานง่าย และ 5. ไก่เทอริยากิรสหวานเค็มกลมกล่อมหอมกลิ่นโชยุและขิงไว้ทานคู่กับข้าวสวยคือดีงาม 6. เมนูลับหลังร้านสามารถขอเพิ่มได้ฟรีคือ "แกงกะหรี่ไก่" ซึ่งเราไม่ได้สั่งมาเพราะเพิ่งรู้ว่ามีตอนได้คุยกับเจ้าของร้านเช่นเดียวกัน โดยเครื่องเคียงทุกอย่างที่เห็นก็สามารถขอเติมได้เรื่อยๆเช่นเดียวกับไก่ทอดคาราอาเกะและอาจมีการปรับเปลี่ยนไปตามเจ้าของร้านกำหนด (หน้าตาเลยดูประหลาดๆไม่เหมือนใครอย่างที่เห็น) ส่วนไก่ทอดคาราอาเกะเมื่อเราสั่งเพิ่มอาจจะต้องใช้เวลารอหน่อยเพราะทางร้านจะนำไปทอดให้ใหม่แต่ก็ไม่นานจนเกินไปเพราะใช้เทคนิคการทอด 2 รอบ โดยทอดที่ครัวหลังร้านให้สุกมาประมาณ 70% แล้วนำมาทอดอีกครั้งด้วยไฟแรงเพื่อไล่น้ำมันส่วนเกินและให้สีสันสวยงามด้วยไฟแรงที่หน้าเค้าท์เตอร์จนสุก 100 % ก่อนเสิร์ฟ สามารถสั่งได้ตามใจไม่จำกัดจำนวนชิ้นต่อครั้งแต่ถ้าทานเหลือทางร้านปรับจริงนะครับ (โดยไก่แต่ละชิ้นมีขนาดประมาณลูกปิงปอง 1 ลูก) สถิติสูงสุด 1 คนตอนนี้ทานได้สูงสุด 20 ชิ้น แต่มื้อนี้ผมมากัน 2 คนทานได้แค่ 36 ชิ้น บุฟเฟ่ต์คนละ 150 บาท ตกราคาชิ้นละ 8.30 บาท ก็ถือว่าคุ้มมากแล้วครับผม

ทานเสร็จก่อนกลับเหลือบไปเห็นเล่มเมนูปกติของทางร้านเลยถ่ายรูปมาให้ดูกัน (เจ้าของร้านแอบกระซิบมาด้วยว่ามีบุฟเฟ่ต์โอโคโนมิยากิแต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมจะประกาศอีกทีในหน้าเพจของทางร้าน) หน้าแรกเป็นเทปันยากิเนื้อวัววากิวและปลาไหลญี่ปุ่นราคา 380-690 บาท เมนูพิเศษพวกสลัด-ทานเล่นง่ายๆ 130-350 บาท ซาชิมิจัดเป็นชุด 230-390 บาท เทมปุระเป็นชุดและคอร์ส 290-590 บาท เมนูหม้อไฟกับชาบูชาบู 490-1,390 บาท เมนูอาหารทานเล่นแบบอิซากายะมีให้สั่งกว่า 39 เมนูราคาเริ่มต้นที่ 80-290 บาท ลูกค้าหลักที่นี่น่าจะเป็นสายดื่มแน่นอนครับ

******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ *******
ชื่อสินค้า:   Okonomiyaki Teppanyaki Morimoto
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่