หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ไม่ใช่หุ้นที่จะเอามาเล่นตัดหน้ารถสิบล้อหยิบแบงค์พัน ของสาย ViVi ถ้าเอามาเล่นแนวนี้จะผิดหวัง
แต่พี่แจ้แนะนำให้คนที่จะถือยาวๆ หรือ VI สายอดทนดอย สะสมไว้กินส่วนต่าง หรือปันผล ระยะยาว
ตอนพี่แจ้เข้าตลาดใหม่ๆหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ามีน้อย ราคาแพง เข้าถึงได้ยากสำหรับคนเงินน้อย
ช่วงหลังหุ้นโรงไฟฟ้ามีเข้ามาเยอะ ทั้งตัวจริง และโรงไฟฟ้าดูดวิญญาญเม่า ตอนนี้เหลือแต่ตัวจริง
แยกออกมาได้ตามขนาด
>>> ขนาดใหญ่เช่น EGCO RATCH GPSC GULF อันนี้ราคาเด้งเพราะเอาไว้ดันดัชนี
>>>ขนาดกลางก็ BGRIM BCPG CKP BPP อันนี้ราคาจะเด้งเป็นช่วงๆตามข่าวการลงทุน
>>>ขนาดเล็ก ชีวมวล ทดแทน ตอนนี้ TPIPP WHAUP อันนี้ราคาจะไม่ไปไหน สร้างความอึดอัดหาวเรอแก่ผู้ถือ
>>>สำหรับผมชมชอบหุ้นโรงไฟฟ้าเป็นพิเศษเพราะ<<<
1.ทุกคนต้องใช้พลังงานไฟฟ้าไม่ว่าบ้านเรือน โรงงานอุดสาหกรรม
2.ไฟฟ้าถูกจริตกับคนรักษ์โลก แต่การสร้างโรงไฟฟ้าเหล่า NGO ไม่ปลื่ม
3. กระแสการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังมา ในจีนใช้เยอะมากๆ ในไทยแค่เริ่มต้น
ข้อมูลจากเวปคุณ จิมมี่ แห่งHeadlightmag
สรุปยอดซื้อรถไฟฟ้าของประเทศไทยปี 2563 ดังนี้
ยอดขายรถรวม 792,146 คัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้า1,056 คัน หรือ 0.13% น้อยมากๆ แต่....
ในปัจจุบันค่ายรถจีน เกาหลี USA ดันรถไฟฟ้า BEV 100% กันอย่างจริงจัง เด่นๆก็ เทสล่า ของอีลอนมัส MG
ข้อดี/ด้อยของรถยนต์ไฟฟ้า 100%
ข้อจำกัดต่างๆ จะถูกแก้ไขให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามีคนใช้กันเยอะ บริษัทรถยนต์จากจีน พัฒนาแบตเตอรี การชาร์ท ได้ดีเป็นเบอร์ 1 ของรถยนต์ไฟฟ้า
แน่นอนตลาดกำลังมีกระแสมาทางนี้พี่จีนก็เอามาให้คนไทยได้เสพมากขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น ออร่า กู๊ดแคท นึ้จะเปิดตัว เดือน ตค ถ้าราคาไม่เกินล้านไปมากๆ ก็น่าจะปังคนชอปมากขึ้นแน่นอน
ค่าใช้จ่ายต่อเดือน ก็มีคนเอามารีวิวไว้ ไม่รู้ว่าจริงแท้แน่นอนไหม ถ้าใช่ก็น่าคิด
ค่าไฟจริงๆที่คิดชาร์ทที่บ้าน
>>>ตัดเข้ามาหุ้นโรงไฟฟ้า มีอนาคตแน่นอน (พี่แจ้มโนเอาเอง...นะจ๊ะ)
ถ้าภายใน 2-3 ปีมีคนใช้รถยนต์ไฟฟ้าสัก 10% ก็มีรถรวม 792,146*0.1= 79,215 คัน
คิดเร็วๆ จะมี ค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเพื่อการนี้ 79,215 คัน* 800 บาท* 12 เดือน = 760 ล้านบาท
ดูอาจไม่มากสำหรับ 10% แต่ถ้ามันฮิตติดตลาดปริมาณใช้ไฟฟ้าจะมากขึ้นทวีคูณ จนไฟฟ้าอาจจะตกได้ ถ้าไม่เพิ่มกำลังผลิต
แน่นอนก็ต้องมีการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม หุ้นไฟฟ้าขนาดใหญ่และกลางพร้อมขยาย รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ราคาเพิ่ม
ด้วยประการฉะนี้พี่แจ้จึงทะยอยเก็บหุ้นโรงไฟฟ้าเกือบ 70% ของพอร์ท ถือแล้วรออีกสัก 5 -10 ปี ค่อยกินเหลาตอนเกษียนน่ะนะ
สรุป หุ้นโรงไฟฟ้าที่พี่แจ้ชอบมีอยู่ 2 แบบ
1. โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ถ้าเกี่ยวดองกับกิจกรรมรถไฟฟ้าจะพิจารณาเป็นพิเศษ
2. โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เช่น พลังน้ำ พลังลม พลังความร้อน
อันนี้ชอบเพราะต้นทุนด้านพลังงานไม่แพง แต่ค่าก่อสร้างอาจแพง ช่วงแรกกำไรไม่มากค่าเสื่อมเงินลงทุนเยอะ นานเข้าเสือนอนกิน
อันนี้เป็นหุ้น โรงไฟฟ้า ที่พี่แจ้จะเอาปันผลเป็นเบี้ยชราภาพ ตอนเกษียน เพราะพี่แจ้เป็นมีอาชีพเป็นลูกจ้าง บริษัทเอกชน
แล้วท่านมีหุ้นโรงไฟฟ้าอยู่ในพอร์ทเอาไว้เป็นแหล่งเบี้ยยังชีพตอนเกษียนหรือยัง
>>>> ใหม่สูง..... อย่าลืม กดสับตะไคร้ กดไลท์ กดแชร์น้อง คำอี่เชียงตุงด้วย<<<<
#### ที่สุดของ....หุ้นโรงไฟฟ้า #### ถ้าจะซื้อ ถือ ทน ยันหลานบวชก็หุ้นมนุษย์ไฟฟ้านี่แหละ...พอพึ่งได้
แต่พี่แจ้แนะนำให้คนที่จะถือยาวๆ หรือ VI สายอดทนดอย สะสมไว้กินส่วนต่าง หรือปันผล ระยะยาว
ตอนพี่แจ้เข้าตลาดใหม่ๆหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ามีน้อย ราคาแพง เข้าถึงได้ยากสำหรับคนเงินน้อย
ช่วงหลังหุ้นโรงไฟฟ้ามีเข้ามาเยอะ ทั้งตัวจริง และโรงไฟฟ้าดูดวิญญาญเม่า ตอนนี้เหลือแต่ตัวจริง
แยกออกมาได้ตามขนาด
>>> ขนาดใหญ่เช่น EGCO RATCH GPSC GULF อันนี้ราคาเด้งเพราะเอาไว้ดันดัชนี
>>>ขนาดกลางก็ BGRIM BCPG CKP BPP อันนี้ราคาจะเด้งเป็นช่วงๆตามข่าวการลงทุน
>>>ขนาดเล็ก ชีวมวล ทดแทน ตอนนี้ TPIPP WHAUP อันนี้ราคาจะไม่ไปไหน สร้างความอึดอัดหาวเรอแก่ผู้ถือ
>>>สำหรับผมชมชอบหุ้นโรงไฟฟ้าเป็นพิเศษเพราะ<<<
1.ทุกคนต้องใช้พลังงานไฟฟ้าไม่ว่าบ้านเรือน โรงงานอุดสาหกรรม
2.ไฟฟ้าถูกจริตกับคนรักษ์โลก แต่การสร้างโรงไฟฟ้าเหล่า NGO ไม่ปลื่ม
3. กระแสการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังมา ในจีนใช้เยอะมากๆ ในไทยแค่เริ่มต้น
ข้อมูลจากเวปคุณ จิมมี่ แห่งHeadlightmag
สรุปยอดซื้อรถไฟฟ้าของประเทศไทยปี 2563 ดังนี้
ยอดขายรถรวม 792,146 คัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้า1,056 คัน หรือ 0.13% น้อยมากๆ แต่....
ในปัจจุบันค่ายรถจีน เกาหลี USA ดันรถไฟฟ้า BEV 100% กันอย่างจริงจัง เด่นๆก็ เทสล่า ของอีลอนมัส MG
ข้อดี/ด้อยของรถยนต์ไฟฟ้า 100%
ข้อจำกัดต่างๆ จะถูกแก้ไขให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามีคนใช้กันเยอะ บริษัทรถยนต์จากจีน พัฒนาแบตเตอรี การชาร์ท ได้ดีเป็นเบอร์ 1 ของรถยนต์ไฟฟ้า
แน่นอนตลาดกำลังมีกระแสมาทางนี้พี่จีนก็เอามาให้คนไทยได้เสพมากขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น ออร่า กู๊ดแคท นึ้จะเปิดตัว เดือน ตค ถ้าราคาไม่เกินล้านไปมากๆ ก็น่าจะปังคนชอปมากขึ้นแน่นอน
ค่าใช้จ่ายต่อเดือน ก็มีคนเอามารีวิวไว้ ไม่รู้ว่าจริงแท้แน่นอนไหม ถ้าใช่ก็น่าคิด
ค่าไฟจริงๆที่คิดชาร์ทที่บ้าน
>>>ตัดเข้ามาหุ้นโรงไฟฟ้า มีอนาคตแน่นอน (พี่แจ้มโนเอาเอง...นะจ๊ะ)
ถ้าภายใน 2-3 ปีมีคนใช้รถยนต์ไฟฟ้าสัก 10% ก็มีรถรวม 792,146*0.1= 79,215 คัน
คิดเร็วๆ จะมี ค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเพื่อการนี้ 79,215 คัน* 800 บาท* 12 เดือน = 760 ล้านบาท
ดูอาจไม่มากสำหรับ 10% แต่ถ้ามันฮิตติดตลาดปริมาณใช้ไฟฟ้าจะมากขึ้นทวีคูณ จนไฟฟ้าอาจจะตกได้ ถ้าไม่เพิ่มกำลังผลิต
แน่นอนก็ต้องมีการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม หุ้นไฟฟ้าขนาดใหญ่และกลางพร้อมขยาย รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ราคาเพิ่ม
ด้วยประการฉะนี้พี่แจ้จึงทะยอยเก็บหุ้นโรงไฟฟ้าเกือบ 70% ของพอร์ท ถือแล้วรออีกสัก 5 -10 ปี ค่อยกินเหลาตอนเกษียนน่ะนะ
สรุป หุ้นโรงไฟฟ้าที่พี่แจ้ชอบมีอยู่ 2 แบบ
1. โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ถ้าเกี่ยวดองกับกิจกรรมรถไฟฟ้าจะพิจารณาเป็นพิเศษ
2. โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เช่น พลังน้ำ พลังลม พลังความร้อน
อันนี้ชอบเพราะต้นทุนด้านพลังงานไม่แพง แต่ค่าก่อสร้างอาจแพง ช่วงแรกกำไรไม่มากค่าเสื่อมเงินลงทุนเยอะ นานเข้าเสือนอนกิน
อันนี้เป็นหุ้น โรงไฟฟ้า ที่พี่แจ้จะเอาปันผลเป็นเบี้ยชราภาพ ตอนเกษียน เพราะพี่แจ้เป็นมีอาชีพเป็นลูกจ้าง บริษัทเอกชน
แล้วท่านมีหุ้นโรงไฟฟ้าอยู่ในพอร์ทเอาไว้เป็นแหล่งเบี้ยยังชีพตอนเกษียนหรือยัง
>>>> ใหม่สูง..... อย่าลืม กดสับตะไคร้ กดไลท์ กดแชร์น้อง คำอี่เชียงตุงด้วย<<<<