ถอดรหัสหาหุ้นเติบโต ... “การกำเนิดเกิดขึ้นของยานยนต์ไฟฟ้า”
โลกกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีครั้งสำคัญ เพราะนอกจากเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่จะทำให้เกิด “หุ่นยนต์” ทำงานแทนมนุษย์แล้ว ยังมีสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงพลวัตรของโลกตัวใหญ่อีกตัวที่รอพวกเราอยู่ก็คือ การเกิดขึ้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
การเกิดขึ้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะเปลี่ยนชีวิตของคนบนโลกไปอย่างแน่นอน ด้วยชิ้นส่วนของรถยนต์ประเภทนี้ และการบริโภคพลังงานสมัยใหม่ อาจทำให้ธุรกิจเดิม ๆ ล้มหายตายจากไป แต่มันจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ให้นายแว่นลงทุนเล่าให้ฟังนะครับ
ประการแรก “การทำนายการเกิดขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า”
ในปัจจุบันมีรถยนต์อยู่บนโลกใบนี้กว่า 1,000 ล้านคัน และทุก ๆ ปี จะมีรถยนต์คันใหม่ถูกซื้อโดยมนุษย์บนโลกนี้ปีละกว่า 100 ล้านคัน โดยประเทศที่ประชากรถอยรถคันใหม่มากที่สุด ณ.ตอนนี้ ก็คือ “จีน” ครองสัดส่วนราว 10-20% หรือประมาณ 10 กว่าล้านคันต่อปี สำหรับคนทั่วโลกมีการถอยรถคันใหม่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าราว ๆ 1 ล้านคัน หรืออาจจะต่ำกว่านั้น แต่ในอนาคตนั้นไม่แน่แล้วล่ะครับ
จากภาพประกอบเราจะพบว่า จำนวนรถยนต์คันใหม่ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าแยกแต่ละประเภทจะมีพวก รถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอิน เป็นต้น
ซึ่งผมไม่ขอกล่าวในรายละเอียด แต่มองเป็นภาพรวมจะพบว่ารถยนต์ประเภทที่มีพลังงานไฟฟ้า และต้องใช้แบตเตอรี่มาประกอบในชิ้นส่วนจะเพิ่มขึ้น จนถึงปี 2040 เกินกว่า 100 ล้านคันทั่วโลก และนั่นก็ยังเทียบกับรถยนต์แบบเดิมที่ใช้น้ำมันที่แต่เดิมมีกว่า 1,000 ล้านคันไม่ได้อยู่ดี
สิ่งนี้บอกพวกเราว่า ... แม้จะเกิดรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาในโลกใบนี้ แต่กว่าจะทดแทนรถยนต์แบบใช้น้ำมันได้หมดมันไม่ได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยาก ภาพที่นำมาประกอบก็เป็นเพียงการทำนายทายทักเท่านั้น ของจริงเราต้องดูกันอีกทีว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน
ประการที่สอง “เจาะเฉพาะรถยนต์ประเภทไฟฟ้าล้วน หรือ EV”
หากจะเจาะข้อมูลเอาเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียว ไม่รวมพวกไฮบริด เราจะพบว่า การเพิ่มจำนวนที่ได้ทำนายกันเอาไว้น้อยกว่าเดิมเข้าไปอีก ด้วยตัวเลขทำนายว่าภายในปี 2040 จะมีรถยนต์ประเภท EV บนโลกใบนี้ราว ๆ 40 ล้านคัน ถือว่ายังห่างไกลรถยนต์ประเภทใช้น้ำมันอยู่หลายช่วงตัวเหมือนกันครับ
สิ่งนี้กำลังบอกพวกเราว่า ... การเกิดขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้านั้นอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการใช้รถยนต์แบบเดิม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ผลกระทบอาจไม่รุนแรงมากอย่างที่คิด และต้องใช้เวลาในการปรับตัวปรับใจกันซักระยะหนึ่ง
ประการสุดท้าย “สิ่งที่จะตามมาก็คือ”
สิ่งที่จะตามมาก็คือ การเริ่มต้นยุคใหม่ของกระแสไฟฟ้าน่าจะเป็นอนาคตที่ต้องจับตามองให้ดี แน่นอนที่สุดว่ารถยนต์ไฟฟ้าต้องใช้ที่ชาร์ทไฟ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงการเติมพลังงานของคนรุ่นต่อไป “ปั้มน้ำมัน” อาจเป็นธุรกิจที่ต้องปรับตัวเพื่อรองรับทั้งการชาร์ทไฟ และยังมีรถยนต์ที่ต้องเติมน้ำมันแบบเดิมมาใช้บริการ และน่าจะคึกคักขึ้นถ้าคนใช้เวลากับการชาร์ทไฟฟ้าที่นานขึ้น กลุ่มนี้ได้แก่ BCP TTG PTT SUSCO
กลุ่มที่จะกระทบต่อมาก็คือ กลุ่มพลังงาน และโรงกลั่น อันได้แก่ ESSO BCP PTTEP SPRC IRPC TOP เป็นต้น กลุ่มเหล่านี้คงได้รับผลกระทบจากการมาของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก และกลุ่มยานยนต์อย่าง SAT ก็เป็นกลุ่มที่ต้องปรับตัว ที่จริงน่าจะมีอีกเยอะแต่ขอกล่าวไว้คร่าว ๆ เท่านี้ก่อน
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ ... การมาของรถยนต์ไฟฟ้าน่าจะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันทันที แต่จะค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาอย่างช้า ๆ ให้ธุรกิจเก่า ๆ ได้มีเวลาปรับตัวปรับใจ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนอย่างเรา ๆ คงต้องพิจารณาให้ดี เพราะธุรกิจสมัยใหม่จะมาแทนธุรกิจเดิม ๆ อยู่เรื่อย ๆ หากเราไม่ปรับตัวเราก็จะเจ็บตัวได้ไม่ยากเลยครับ
#นายแว่นลงทุน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/NaiwaenTammada
“การกำเนิดเกิดขึ้นของยานยนต์ไฟฟ้า”
ถอดรหัสหาหุ้นเติบโต ... “การกำเนิดเกิดขึ้นของยานยนต์ไฟฟ้า”
โลกกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีครั้งสำคัญ เพราะนอกจากเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่จะทำให้เกิด “หุ่นยนต์” ทำงานแทนมนุษย์แล้ว ยังมีสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงพลวัตรของโลกตัวใหญ่อีกตัวที่รอพวกเราอยู่ก็คือ การเกิดขึ้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
การเกิดขึ้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะเปลี่ยนชีวิตของคนบนโลกไปอย่างแน่นอน ด้วยชิ้นส่วนของรถยนต์ประเภทนี้ และการบริโภคพลังงานสมัยใหม่ อาจทำให้ธุรกิจเดิม ๆ ล้มหายตายจากไป แต่มันจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ให้นายแว่นลงทุนเล่าให้ฟังนะครับ
ประการแรก “การทำนายการเกิดขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า”
ในปัจจุบันมีรถยนต์อยู่บนโลกใบนี้กว่า 1,000 ล้านคัน และทุก ๆ ปี จะมีรถยนต์คันใหม่ถูกซื้อโดยมนุษย์บนโลกนี้ปีละกว่า 100 ล้านคัน โดยประเทศที่ประชากรถอยรถคันใหม่มากที่สุด ณ.ตอนนี้ ก็คือ “จีน” ครองสัดส่วนราว 10-20% หรือประมาณ 10 กว่าล้านคันต่อปี สำหรับคนทั่วโลกมีการถอยรถคันใหม่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าราว ๆ 1 ล้านคัน หรืออาจจะต่ำกว่านั้น แต่ในอนาคตนั้นไม่แน่แล้วล่ะครับ
จากภาพประกอบเราจะพบว่า จำนวนรถยนต์คันใหม่ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าแยกแต่ละประเภทจะมีพวก รถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอิน เป็นต้น
ซึ่งผมไม่ขอกล่าวในรายละเอียด แต่มองเป็นภาพรวมจะพบว่ารถยนต์ประเภทที่มีพลังงานไฟฟ้า และต้องใช้แบตเตอรี่มาประกอบในชิ้นส่วนจะเพิ่มขึ้น จนถึงปี 2040 เกินกว่า 100 ล้านคันทั่วโลก และนั่นก็ยังเทียบกับรถยนต์แบบเดิมที่ใช้น้ำมันที่แต่เดิมมีกว่า 1,000 ล้านคันไม่ได้อยู่ดี
สิ่งนี้บอกพวกเราว่า ... แม้จะเกิดรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาในโลกใบนี้ แต่กว่าจะทดแทนรถยนต์แบบใช้น้ำมันได้หมดมันไม่ได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยาก ภาพที่นำมาประกอบก็เป็นเพียงการทำนายทายทักเท่านั้น ของจริงเราต้องดูกันอีกทีว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน
ประการที่สอง “เจาะเฉพาะรถยนต์ประเภทไฟฟ้าล้วน หรือ EV”
หากจะเจาะข้อมูลเอาเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียว ไม่รวมพวกไฮบริด เราจะพบว่า การเพิ่มจำนวนที่ได้ทำนายกันเอาไว้น้อยกว่าเดิมเข้าไปอีก ด้วยตัวเลขทำนายว่าภายในปี 2040 จะมีรถยนต์ประเภท EV บนโลกใบนี้ราว ๆ 40 ล้านคัน ถือว่ายังห่างไกลรถยนต์ประเภทใช้น้ำมันอยู่หลายช่วงตัวเหมือนกันครับ
สิ่งนี้กำลังบอกพวกเราว่า ... การเกิดขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้านั้นอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการใช้รถยนต์แบบเดิม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ผลกระทบอาจไม่รุนแรงมากอย่างที่คิด และต้องใช้เวลาในการปรับตัวปรับใจกันซักระยะหนึ่ง
ประการสุดท้าย “สิ่งที่จะตามมาก็คือ”
สิ่งที่จะตามมาก็คือ การเริ่มต้นยุคใหม่ของกระแสไฟฟ้าน่าจะเป็นอนาคตที่ต้องจับตามองให้ดี แน่นอนที่สุดว่ารถยนต์ไฟฟ้าต้องใช้ที่ชาร์ทไฟ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงการเติมพลังงานของคนรุ่นต่อไป “ปั้มน้ำมัน” อาจเป็นธุรกิจที่ต้องปรับตัวเพื่อรองรับทั้งการชาร์ทไฟ และยังมีรถยนต์ที่ต้องเติมน้ำมันแบบเดิมมาใช้บริการ และน่าจะคึกคักขึ้นถ้าคนใช้เวลากับการชาร์ทไฟฟ้าที่นานขึ้น กลุ่มนี้ได้แก่ BCP TTG PTT SUSCO
กลุ่มที่จะกระทบต่อมาก็คือ กลุ่มพลังงาน และโรงกลั่น อันได้แก่ ESSO BCP PTTEP SPRC IRPC TOP เป็นต้น กลุ่มเหล่านี้คงได้รับผลกระทบจากการมาของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก และกลุ่มยานยนต์อย่าง SAT ก็เป็นกลุ่มที่ต้องปรับตัว ที่จริงน่าจะมีอีกเยอะแต่ขอกล่าวไว้คร่าว ๆ เท่านี้ก่อน
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ ... การมาของรถยนต์ไฟฟ้าน่าจะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันทันที แต่จะค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาอย่างช้า ๆ ให้ธุรกิจเก่า ๆ ได้มีเวลาปรับตัวปรับใจ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนอย่างเรา ๆ คงต้องพิจารณาให้ดี เพราะธุรกิจสมัยใหม่จะมาแทนธุรกิจเดิม ๆ อยู่เรื่อย ๆ หากเราไม่ปรับตัวเราก็จะเจ็บตัวได้ไม่ยากเลยครับ
#นายแว่นลงทุน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้