ใครมีเทคนิคควบคุมอารมณ์ในการบริการลูกค้าที่พบข้อผิดพลาดการทำงานของเราพูดยังไงให้ดูสุภาพใส่ใจทำให้ลูกค้าเข้าใจ

ตอนนี้เราอยู่ปี 1 ค่ะ เราทำงานเป็นนักเรียนพาสทามที่ห้างแห่งหนึ่งมาตั่งเเต่ม 4 เลิกเรียนก็ไปทำเเต่เสาร์อาทิตย์ก็จะทำ7ช.ม. เเต่ช่วงนี้เราต้องไปทำ 7 ช.ม.ทุกวันเพราะว่าทางสาขาลดการรับพนักงานเเละลดนักเรียนออกเพราะยอดขายสาขาไม่ได้ แต่จำนวนเงินนั้นเกิน เเต่ทางหัวหน้าเราไม่เอาเราออกจึงเลือกที่จะมีพนักงาน1คน กับเราที่เป็นนักเรียน ซึ่งถ้าเอาเราออกก็จะได้พนักงานใหม่1คน แต่หัวหน้าเลือกเอาเราไว้ เรายอมรับว่าเรารู้มากค่ะ เราเป็นงานระดับหนึ่งซึ่งสำหรับเรา ไม่ได้มาทำเเค่หาเงินส่งตัวเองเรียน เรามาหาประสบกราณ์ หาสิ่งที่อยากจะเป็น เเต่วันนี้เราเจอเหตุกราณ์แบบนี้เรารู้สึกไม่ดี ไม่อยากที่จะทำต่อ เหมือนว่าเราเเยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกไม่ได้เลย เราเหนื่อยงาน เหนื่อยเรียน จนมาเอามาลงกับลูกค้าหรอ วันนี้เรามีปากเสียงกับลูกค้าเหตุเกิดจากว่า พนักงานจุดบริการเรียกพนักงาน......ไปที่เครื่องเเคทเชียรหมายเลข...ซึ่งเมื่อเราไปถึงก็พบว่า ลูกค้าได้ซื้อสินค้าทางแผนกเราเเต่ทางลูกค้าบอกว่าสินค้าวางอยู่ตรงป้ายราคา500บาท แต่คิดจริงๆราคา900บาท ซึ่งเราก็พูดไม่ได้คิดลืมคิดไปว่าควรเดินไปดูตรงจุดขายสินค้า เราก็พูดขึ้นมาว่า ขอโทษค่ะพอดีมีพนักงานคนเดียวเลยอาจจะเปลี่ยนป้ายไม่ทัน เราลืมคิดว่าเราควรพูดประโยคที่ไม่ใช่คำแก้ตัวเเต่ควรอธิบายไปเลยว่าเราจะแก้ไขอย่างไร เรากำลังจะพูดต่อ ลูกค้าสวนกลับเรามาว่า เเล้วยังไงเป็นความผิดลูกค้าหรอ มันเป็นความผิดพนักงานไม่ใช่ลูกค้า เราก็ตอบว่าค่ะ นั้นลูกค้าคืนสินค้าได้มั้ยค่ะเพราะทางหนูไม่สามารถทำลดราคาที่ลูกค้าเห็นได้ค่ะ สมมุติว่าถ้าลูกค้าไม่ซื้อราคานี้ลูกค้าก็คืนสินค้าค่ะ ซึ่งเราก็ผิดที่ไม่มีคำขอโทษเลยในประโยคนี้ หลังจากนั้นทางผู้หญิงที่มากับลูกค้าก็เดินมา พร้อมกับรูปถ่ายป้ายราคาในรูปคือสินค้าวางกระจายมากไม่ตรงบ้านไม่ตรงราคาซึ่งเราก็พึ่งนึกได้ว่าความผิดเราเต็มๆ เพราะก่อนหน้านี้มีลูกค้ามาซื้อสินค้าเดียวกันโดยเรากำลังลากเลทเฟอร์นิเจอร์มาเติมเเล้วลูกค้าเดินมาถามว่าตัวไหนนอนได้หลายคนเเล้วเเข็งเราก็แนะนำไป ซึ่งในใจเราก็คิดว่าต้องเละเเน่ๆเเต่เราก็ยังไม่เดินไปดูหรือไปจัดอีก ตอนนั้นพอเราดูรูปเเล้วนึก ภาพเสร็จ ผู้หญิงก็บอกว่าเรานี้เห็นไหมสินค้ามันวางตรง500 มันวางมั่วไปหมดป้าย900ร้อยก็ไม่มี มีเเต่1600 เราก็อธิบายทางผู้หญิงไปว่าอันนี้คือพนักงานเปลี่ยนป้ายเเล้วค่ะเเต่อาจจะมีลูกค้ามาหยิบจับบ้างเลยไม่ตรงบ้านสินค้า ความจริงเเล้วเป็นป้ายขาวสินค้าไม่ได้ลดราคาเลยผิดที่เราไม่ได้ไปดูตั่งเเต่เเรกไม่ควรพูดถึงเปลี่ยนป้ายสินค้าด้วยซ่ำเเละสินค้าก็ราคา899 มีป้ายอยู่เเต่วางมั่วไปทางผิดที่เราเต็มๆ ผู้หญิงก็สวนกลับว่าแล้วยังไงไม่คิดจะไปจัดบ้างหรอ เราก็ปากไวตอบไปอีกว่าค่ะหนูกำลังจะไล่ปิดงานค่ะ ปิดงานก็คือไล่โซนิ่งจัดเรียงสินค้าเเต่ละล็อคนั้นแหละ เราก็บอกลูกค้าอีกว่าหนูไม่สามารถทำราคา500ให้ได้ค่ะ ถ้าลูกค้าไม่ซื้อหรือไม่รับก็ต้องคืนค่ะเพราะหนูลดราคานั้นไม่ได้จริงๆ ซึ่งมีเเบบนี้บ่อย นี่เป็นลูกค้าคนเเรกเลยที่เรามีปากเสียงด้วย ตั้งเเต่ทำงานมาเราเจอลูกค้าหลายประเภทนะ บางคนก็ไม่เข้าใจเเต่สุดท้ายก็เข้าใจนะ บางคนก็คือเข้าใจเห็นใจเเบบมากๆยิ้มเเย้มเเจ่มใสกับเรามาก มันก็แยกเป็นเคสๆไป ถ้าไม่เปลี่ยนป้ายหรือเป็นเพราะความผิดพนักงานทางเราก็จะรับชอบโดยที่ทำเป็นราคาที่ลูกค้าเห็นให้กรณีที่จำนวนเงินน้อยซึ่งมันก็เสียเวลาลูกค้าเเต่ก้ต้องยอมรับคำติชมเพราะผิดที่เรา ถ้าจำนวนเงินมากเหมือนเคสนี้ เราในฐานะนักเรียนพาสทามหรือแม้แต่พนักงานอ่ะก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำเพราะเขาสอนงานมาเเบบนี้ถ้าจำนวนเงินเยอะไปก็ขอให้ลุกค้านั้นคืนสินค้าเเล้วรับเงินคืนๆไปหรือไม่รับไม่ซื้อ เพราะว่ามีการทุจริตตลอดเรียกว่าโจรได้ไหมทำเป็นขวบนการมีการนำป้ายสินค้าอื่นมาสับเปลี่ยนเเล้วก็จะว่าไม่เปลี่ยนป้ายให้ทำราคานั้นราคานี้ จับได้บ้างจับไม่ได้บ้าง เหมือนกับว่าคืนสินค้าเพื่อรักษาประโยชน์ให้กับห้างรึเปล่าเเต่มันคือสิ่งที่ต้องทำเราอยากให้ลูกค้าเข้าใจมากเราเข้าใจว่าเราทำตามหน้าที่เเต่เราก็ผิดจริงๆ แต่ลูกค้าไม่จบ พูดกลับมาหาเราว่าพูดแบบนี้ได้ยังไงก็จะซื้อในราคานี้ ก็คุณวางตรง500เอง มาพูดว่าไม่ซื้อก็คืนได้ยังไง ก็จะเอาราคา500อ่ะ ตอนนั้นอารมณ์เราเริ่มเปลี่ยน เราก็ตอบว่าหนูทำราคานั้นให้ไม่ได้จริงๆค่ะ ลูกค้าไม่ซื้อหรือไม่รับรบกวนคืนสินค้าค่ะ เเล้วลูกค้าก็พูดอีกว่า คุณพูดแบบนี้ไม่ได้ไม่ซื้อก็คืนคุณพูดได้ยังไงนี้มันงานบริการ ผมก็ทำงานบริการ ผมก็ทำงาน....มาก่อนคุณ ผมทำรุ่นเเรกรุ่น1เลยคุณพูดแบบนี้ไม่ได้นี้มันงานบริการ เราก็ตอบว่าค่ะหรอค่ะ ยอมรับนะว่าเราใช้อารมณ์เเต่ในใจเราคือมีเเต่คำถามปากบอกทำมาก่อนเเล้วเขาไม่รู้หรอว่ากรณีแบบนี้ต้องทำยังไงทำไมถึงไม่เข้าใจ เเถมตัวสินค้ากับบป้าย500 ก็คนละอัน ไม่ติดนิสัยดูบาร์โค้ดมาเลยหรอ แต่คือหลังจากนั้นทางผู้หญิงก็เสริมขึ้นมาอีกว่า นี้งานบริการคุณพูดแบบนี้ไม่ได้นี้ลูกค้า คุณควรแก้ไขปัญหา เสียงลูกค้าทั้งสองดังมากขึ้นเรื่อยๆ เเล้วลูกค้าผู้ชายก็พูดอีกว่า ดิวดี้อยู่ไหนคุณไปเรียกมาผู้จัดการร้านอ่ะอยู่ไหนก็ผมจะเอาราคานี้คุณต้องแก้ปัญหาให้ผมสิ เเล้ว601ล่ะอยู่ไหนไปเรียกมา เราก็ปากไวอีกยอมรับเลยว่าตอนนั้นพูดไม่คิดแล้ว เราก็บอกว่าเรื่องเเค่ราคาสินค้าต้องถึง601เลยหรอค่ะลูกค้า หลังจากนั้นทั้งสองก็เงียบ 601คือใหญ่กว่าดิวตี้ที่เป็นผู้จัดการร้านเเต่ก็จะเเยกไปอีก 601คือนั้นแหละเรียกว่าเป็นนายใหญ๋สาขา หลังจากนั้นก็เริ่มจบ หัวหน้าแผนกเเคทเชียรก็เลยเข้ามาวอยสินค้าออก เเล้วก็พูดขอโทษลูกค้าหลายรอบมากๆ เรารู้สึกผิดที่เขาต้องขอโทษเเทนเราเหมือนกันทั้งๆที่เราอยู่ตรงนั้นแต่ก็ไม่พูดขอโทษลูกค้าเเถมเรายังไม่จบพอผู้หญิงพูดว่าก็น้องพูดแบบนี้ไม่ได้มันเเย่มากค่ะควรแก้ไขปัญหาให้พี่ไม่ใช่มาให้พี่คืนสินค้า เราก็เลวอีกค่ะพูดอีกไปว่าหนูแค่เเนะนำให้ลูกค้าคืนสินค้าค่ะ ทำตามหน้าที่ ผู้หญิงก็บอกอีกว่า ดูนะคะ พี่จบเเเล้วเเต่น้องเขายังไม่จบเองยังเถียงต่อ เราก็เลวต่อไปค้ะตอบอีกว่า หนูรอรับสินค้าคืนค่ะ ทางผู้หญิงก็มองเราด้วยสายตาที่มองตั้งเเต่เท้าขึ้นบนหน้าเรา พอได้สินค้าเราคืนเราก็รีบเดินออกไปด้วยอารมณ์ที่โมโหค่ะ เรายอมรับเลยว่าเราควบคุมตัวเองไม่ได้เเถมไม่ควรทำงานบริการเลย ที่ผ่านเราเรารู้สึกชอบค่ะที่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เราบอกก่อนเลยว่าเราพร้อมบริการลูกค้าเเต่ละคนเเนะนำสนับสนุนได้เสมอ ทุกครั้งที่มีปัญหาเรากล่าวคำขอโทษ ยกมือไหว้ก็มี ยอมรับว่ามีบริการอาจจะไม่ดีไม่ทั่วถึงสำหรับใครค่ะ เเต่อยากให้ลูกค้ามองหลายๆมุมดูบ้างค่ะ ครั้งนี้รู้สึกว่าตัวเองควรปรับปรุงอย่างเเรงเราถือว่าเราเก็บเป็นบทเรียนเเละอยากได้คำเเนะนำที่ไม่ใช่การด่า ทุกวันนี้เราทำงานไม่ได้มีงานหน้าเดียวทำงานอย่างเดียวหรือเจอลูกค้าคนเดียวเเบบเดียวนะคะ อยากเเชร์ตัวอย่างของเราค่ะที่ในการทำงานในเเต่ละวันเราเจออะไรบ้าง อ่ะเจอลูกค้าเเล้วหนึ่งหลายประเภท อย่างที่บอกเราเป็นงานเยอะ ทั้งเปลี่ยนเเท็ปเปลี่ยนกอง ทำของคืน ทำ503 ทำRTV ปิดงาน ปิดโปรโมชั่น เปลี่ยนป้ายสินค้า-ยิงป้ายสินค้า จัดพาโรแกรม เก็บหลังเเบ็คจัดหลังเเบ็ค เติมของจัดท็อป นี่คือยังไม่หมดสำหรับคนที่มองเเค่มุมตัวเองนะคะ งานห้างไม่ใช่งานเติมของอย่างเดียวไม่ใช่งานที่บริการลูกค้าอย่างเดียว งานที่ต้องทำงานให้ห้างเเล้วได้ตังมีหน้าที่หลายอย่างที่ไม่ใช่เเค่บริการลูกค้าอย่างเดียว ใช่ค่ะคนเราต้องแยกงานกับเรื่องส่วนตัว เเต่ถามว่าเเล้วคนเราควรนึกถึงคนอื่นบ้างมั้ยคะ เรายอมรับว่าทั้งหมดเราผิด แต่เราไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราต้องกดหัวคนอื่น เหตุกราณ์ครั้งนี้ทำให้รู้สึกอยากที่จะออกมากค่ะ เเต่เราได้เเต่ทำใจเเละปรับปรุงเพราะเราไม่อยากที่จะออกตอนนี้เเล้วโบนัสทำงานครบ3ปีเราก็จะออกเเล้ว เราค่อยข้างชอบหัวหน้างานเเละพี่ที่ทำงานเราค่ะ ทั้งแผนกตอนนี้เรามีกัน3คน หัวหน้า1 พนักงาน1 นักเรียน1 บางวันทำงานแก้งานกันทั้งวันจนไม่ได้กินข้าว ถึงพักก็ไม่เคยเต็มชั่วโมง วันหยุดก็มาบ้าง งานไม่เสร๋๗ก็อยู่เลท เพราะงานเยอะเเต่คนไม่เพียงพอกับการทำงาน ห้างหายอดขายเพิ่มจุดวางสินค้ามากขึ้นจัดโปรโมชั่นลดสินค้าเกือบทั้งแผนก สินค้าเก่าลดล้างสต็อกก็ต้องมาจัดโปรโมชั่นจัดพาโรแกรมใหม่ บางวันมีคนทำงานเช้าคนบ่ายคน เเล้วแผนกเราคือสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ภายในบ้าน แถมเเบ่งเป็นสองฝั่งอีก รวมๆเเล้ว10กว่าล็อคที่พวกเราต้องดูแล ไหนจะตามแผนกหรือตรงที่ดันไปขายโปรโมชั่นอีกในบ้านอีก เวลาเรียกที่ไหนทีเราเเทบจะเเยกร่างเดี้ยวไปหาลูกค้าที่ซื้อ....เดี้ยวไปเครื่องเดี้ยวไปโน่นไปนี้เข้าห้องน้ำกินข้าวก็ต้องรีบมาเดี้ยวโดนด่าอีกถ้าไม่ไป เราอยากออกแต่ไม่กล้าที่จะออกตอนนี้จริงๆเพราะถ้าเราออกยังไงเขาก็ไม่รับคนเพิ่มก็หาพนักงานแผนกอื่นมาลงเเทนอีก เราสงสารพี่ที่แผนกเขาจะเหนื่อยกว่านี้เรายังช่วยยังสอนยังบอกเขาได้เยอะถ้าเราออกแขนขาเขาก็หายไปเราค่อยข้างสนิทเขาเป็นกันเองเเล้วเป็นพนักงานที่อยู๋นานที่สุดในบรรดาที่เราสอนงานมา ซึ่งเรารู้มากเราเป็นงานเยอะจริงๆเราเหมือนพนักงานคนหนึ่งเเต่เราไม่ได้จะเรียกร้องหรืออวดเพราะเราเต็มใจที่อยากจะทำเราไม่ต้องทำก็ได้เเต่เราเเค่อยากหาเงินเอง จุดเริ่มต้นก็คือพ่อเเม่ไม่เคยมีเวลาทำเเต่งานกลับบ้านก็เย็น เราเลยไปสมัครทำทีเดียวกับเเม่ส้ะเลย รู้ตัวอีกทีเราก็ชอบทำงานไปแล้วรู้สึกว่าปฎิบัติเเล้วเข้าใจมากจริงๆอย่างน้อยเรียนจบเราก็ยังทำมาหากินได้ เพราะเราก็อยากมีบ้านมีรถมีอะไรใหม่ๆให้ครอบครัว เเต่ตอนนี้เราเหมือนเหนื่อยจากการเรียนออนไลน์ที่ต้องเรียนเองเเถมยังเหนื่อยกับงานเหนื่อยกับคนมันทำให้เรารู้สึกแย่ เราเลยไม่อยากให้มีเรื่องแบบนี้อีก เราอยากควบคุมความรู้สึกอารมณ์ตัวเองได้ เราเหมือนเป็นวัยรุ่นที่พูดไม่คิดหรือเปล่าก็ไม่รู้เเต่ว่าเรื่องวันนี้ทำให้เราเฟลเเล้วหยุดคิดไม่ได้จริงๆ ถ้าเรายังทำงานต่อเราก็ไม่อยากเจอเเบบนี้อยากปรับปรุงเพราะที่ผ่านมา เราพูดแบบนี้กับลูกค้าทุกคนที่เจอแบบเดียวกันเพราะว่าพูดขอโทษทุกครั้งในครั้งที่ผิดหรือไม่ผิดก็พูด เเล้วก็ไม่เคยมีใครติหรือว่าเราเเบบนี้ ทุกคนเข้าใจถึงจะบ่นๆว่าเสียเวลาเเต่พอเราขอโทษทุกคนเข้าใจเราหมด เราเลยไม่รู้ว่าคำพูดเราควรปรับปรุงไหม เเต่ครั้งนี้เห็นแแล้วว่าเราควรปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพื่อตัวเองเเละรักษาหน้าเเม่เพราะเเม่เราก็เป็นหัวหน้า สังคมไทยก็ชอบเม้าส์มอยู่อยู่เเล้วเราไม่อยากให้ใครมาพูดอะไรมาก เเค่การกระทำของเราวันนี้ก็คือดูแย่เเล้วจริงๆ ขอบน้ำใจสำหรับคนที่เข้ามาอ่านเเล้วมีเทคนิคดีๆที่พอจะทำได้จริงๆขอบคุณที่มาเสียเวลาอ่านชีวิตอันไร้สาระของหนูด้วยนะค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่