ออมเงินเยอะ แต่ไม่ใช้ชีวิต กับออมเงินน้อย แต่ได้ใช้ชีวิต แบบไหนดีกว่ากันคะ

ระหว่างออมเงิน 15% ของรายได้ แต่ไม่ได้กิน ไม่ได้เที่ยว เต็มที่ ในวัยที่สามารถเที่ยวได้สนุก 
กับออมเงิน 3% ของรายได้ แต่ได้กิน ได้เที่ยว เต็มที่ ในวัยที่สามารถเที่ยวได้สนุก แต่ไปหนาวๆร้อนๆตอนแก่แทน

แบบไหนดีกว่ากันคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ออมเยอะๆไม่ได้แปลว่าจะต้องทำแบบนั้นไปตลอดจนชีวิตไม่มีความสุข คิดแบบนั้นไม่ได้

ตอนผมเริ่มทำงานใหม่ๆ ออม 20%ของเงินเดือน พอปีถัดๆไปเงินเดือนเพิ่มก็เก็บทั้งหมด จนไปมากสุดคือออม 60%ของเงินเดือน ส่วนเงินพิเศษอื่นๆเช่น OT โบนัส เบี้ยเลี้ยง และอื่นๆ ได้ประมาณ 50%ของเงินเดือน เงินส่วนนี้ผมเก็บ 100% เลย

แล้วเอาเงินทั้งหมดไปลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งก็ได้กำไรดีมาก ผ่านไปประมาณสิบปี พอร์ตลงทุนของผมโตขึ้นเป็นหลายสิบล้าน เดี๋ยวนี้แต่ละปีผลตอบแทนจากการลงทุนเยอะกว่ารายได้จากเงินเดือนซะอีก ผมก็เอาเงินปันผลและกำไรต่างๆมาใช้จ่ายได้สบายๆโดยไม่ต้องออกแรงทำงาน

นี่คือความต่างระหว่างการเก็บเงินไปลงทุน แล้วค่อยเอาผลกำไรมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือย กับการเอาเงินไปใช้จ่ายโดยตรง ผมไม่ได้ประหยัดไปตลอดชีวิต มันแค่ช่วงเดียวเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมว่า ออมมาก ออมน้อย ไม่สำคัญนะ
สำคัญที่ เวลามีปัญหาอย่าไปลำบากคนอื่นก็พอ

เพราะจุดมุ่งหมายของการออม คือมีเงินเหลือเผื่อเวลาเกิดปัญหา
บางคนออมเยอะ แต่เวลามีปัญหาเที่ยวหยิบยืมคนอื่น (แล้วไม่คืนด้วย)
บางคนออมน้อย เวลามีปัญหากัดฟันหาทางแก้ปัญหาเองได้
ผมว่าแบบหลังยังดีกว่าอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่