............ ชุมชนกลางหุบเขา ไม่เคยเจือจางจากม่านหมอก แม้คนนั่งอยู่ใต้หลังคามุมบัง รอบตัวยังขาวมัว มองลายมือไม่เห็น ภูมิอากาศแทบจะมีฤดูกาลเดียว ฝนโชย ลมฉ่ำ พัดเอาความหนาวเหน็บเล็ดลอดฝาไม้ทำจากไม้ไผ่สานขัด กระท่อมของชาวชนบทบ้านป่าสร้างอย่างเรียบง่าย จากวัสดุธรรมชาติ ใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ทำกระบะดินไว้ก่อไฟไล่หนาว
พ่อตากับลูกเขยนั่งผิงไฟกันอยู่สองคน มองหม้อยากำลังเดือดปุด เถาเอ็นอ่อน เถาวัลย์เปรียง มีสรรพคุณรักษาโรคเกี่ยวกับข้อและเส้นเอ็น ส่วนผู้เป็นเมีย เอาลูกแดงใส่ห่อผ้าคล้องบ่า นั่งทำกับข้าวอยู่ในครัวไฟ
เมื่อยาได้ที่ ส่งกลิ่นสมุนไพรขจร ลูกเขยรินน้ำยาเข้มข้นให้พ่อตาดื่ม แกเป่าพรวดเดียวแล้วยกซด ได้รสฝาด รู้สึกชุ่มลิ้น บอกยาดี
พ่อเฒ่าพะตี้ อดีตแกเป็นพรานเก่า เคยไปนั่งห้างที่โป่งแห่งหนึ่ง ถูกผีโป่งใส่ยา หรือเป็นโรคโป่ง อาการคือหัวเข่าข้างหนึ่งบวมเป่ง บางคนเป็นแล้วจะเกิดแผลพุพอง กระดูกผิดรูป ได้รับความเจ็บปวดทรมานมาก
แม้พ่อเฒ่าจะได้หมอยาดีรักษาจนอาการบวมยุบลง แต่ขาข้างนั้นไม่สมประกอบดังเดิม เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าช่วยค้ำ วัน ๆ ทำได้แค่จับจอบเสียม ขุดดินปลูกผัก และสานกระบุง ของใช้ในครัวเรือน
หัวเรี่ยวหัวแรงในการหาเลี้ยงครอบครัวคือลูกเขย ชื่อพรานแสงถา พื้นเพเป็นคนจากพื้นราบ มาเป็นลูกเขยกะเหรี่ยงได้ปีกว่าแล้ว มีลูกชายหนึ่ง วัยกำลังออดอ้อน
เนื้อแห้งทำเก็บไว้เริ่มร่อยหรอ จำเป็นต้องเข้าป่าหาเนื้อมาสะสม ส่วนที่เกินจะขาย นำเงินมาใช้ซื้อของจำเป็น ภายหลังจากหยุดพักไปหลายวัน ต้องรอจนกว่าเมียจะคลอดลูก พรานจึงจะออกป่าได้
วันนี้แสงถา ตั้งใจจะออกล่าสัตว์ เป้าหมายคือโป่งดำ
“ฉันจะไปนั่งห้างที่โป่งดำนะพ่อ ได้ยินจากพรานพะชุ บอกว่าเก้งชุม”
คำพูดนั้นทำเอาเฒ่าพะตี้สะอึก ต้องวางถ้วยยาลง ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินชื่อโป่งแห่งนี้ แกเอามือลูบหัวเข่าไปด้วย มันเจ็บมาข้ามปี ทุกวันนี้ยังไม่หายดี โป่งดำคือจุดจบอาชีพพรานของแก
“อย่าเลย ไอ้พะชุมันไม่ได้หวังดีกับเรา โป่งดำคือโป่งผี ไม่มีพรานคนไหนกล้าไปนั่งห้างหรอก ผีมันจะใส่ยา”
“ไม่ต้องห่วงพ่อ ฉันผจญมาหลายป่าแล้ว ฉันแก้อารรพ์มันได้”
ห้วยมรณะ ตอน นั่งห้างโป่งดำ
พ่อตากับลูกเขยนั่งผิงไฟกันอยู่สองคน มองหม้อยากำลังเดือดปุด เถาเอ็นอ่อน เถาวัลย์เปรียง มีสรรพคุณรักษาโรคเกี่ยวกับข้อและเส้นเอ็น ส่วนผู้เป็นเมีย เอาลูกแดงใส่ห่อผ้าคล้องบ่า นั่งทำกับข้าวอยู่ในครัวไฟ
เมื่อยาได้ที่ ส่งกลิ่นสมุนไพรขจร ลูกเขยรินน้ำยาเข้มข้นให้พ่อตาดื่ม แกเป่าพรวดเดียวแล้วยกซด ได้รสฝาด รู้สึกชุ่มลิ้น บอกยาดี
พ่อเฒ่าพะตี้ อดีตแกเป็นพรานเก่า เคยไปนั่งห้างที่โป่งแห่งหนึ่ง ถูกผีโป่งใส่ยา หรือเป็นโรคโป่ง อาการคือหัวเข่าข้างหนึ่งบวมเป่ง บางคนเป็นแล้วจะเกิดแผลพุพอง กระดูกผิดรูป ได้รับความเจ็บปวดทรมานมาก
แม้พ่อเฒ่าจะได้หมอยาดีรักษาจนอาการบวมยุบลง แต่ขาข้างนั้นไม่สมประกอบดังเดิม เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าช่วยค้ำ วัน ๆ ทำได้แค่จับจอบเสียม ขุดดินปลูกผัก และสานกระบุง ของใช้ในครัวเรือน
หัวเรี่ยวหัวแรงในการหาเลี้ยงครอบครัวคือลูกเขย ชื่อพรานแสงถา พื้นเพเป็นคนจากพื้นราบ มาเป็นลูกเขยกะเหรี่ยงได้ปีกว่าแล้ว มีลูกชายหนึ่ง วัยกำลังออดอ้อน
เนื้อแห้งทำเก็บไว้เริ่มร่อยหรอ จำเป็นต้องเข้าป่าหาเนื้อมาสะสม ส่วนที่เกินจะขาย นำเงินมาใช้ซื้อของจำเป็น ภายหลังจากหยุดพักไปหลายวัน ต้องรอจนกว่าเมียจะคลอดลูก พรานจึงจะออกป่าได้
วันนี้แสงถา ตั้งใจจะออกล่าสัตว์ เป้าหมายคือโป่งดำ
“ฉันจะไปนั่งห้างที่โป่งดำนะพ่อ ได้ยินจากพรานพะชุ บอกว่าเก้งชุม”
คำพูดนั้นทำเอาเฒ่าพะตี้สะอึก ต้องวางถ้วยยาลง ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินชื่อโป่งแห่งนี้ แกเอามือลูบหัวเข่าไปด้วย มันเจ็บมาข้ามปี ทุกวันนี้ยังไม่หายดี โป่งดำคือจุดจบอาชีพพรานของแก
“อย่าเลย ไอ้พะชุมันไม่ได้หวังดีกับเรา โป่งดำคือโป่งผี ไม่มีพรานคนไหนกล้าไปนั่งห้างหรอก ผีมันจะใส่ยา”
“ไม่ต้องห่วงพ่อ ฉันผจญมาหลายป่าแล้ว ฉันแก้อารรพ์มันได้”