💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 66.2 🚀💫🕛💫

กระทู้คำถาม
อีกอรัสซ่อนกายรอหลังซอกหินติดผนังถ้ำนั้นอย่างอดทน  เวลาผ่านไปอีกราวห้านาที....

และแล้ว บุรุษในชุดขาวแบบเดิมอีกหนึ่งคนก็เดินมายังทางนั้น มุ่งหน้าไปยังหน้าประตู กำลังจะเดินผ่านตัวเลมูรัสหนุ่ม ยังไม่ทันจะได้ผ่านไปพ้นช่วงตัวและโดยไม่ทันระวังเพราะคิดวางใจว่าปลอดภัยจึงเดินหน้าตรงไปเหมือนจะใจลอยอยู่นิดๆ ฉับพลันทันทีกว่าจะรู้ตัวก็ถูกเข้าประชิดตัวด้านหลังและขมับทั้งสองข้างของตัวเองถูกสองมือของใครก็ไม่รู้จับประกบหมับเข้าให้และบิดตามเข็มนาฬิกาอย่างรวดเร็วด้วยพละกำลังมหาศาล!

กร๊อบบบบ !!! / "ฮ๊ะอ..."

ร้องได้แอะเดียวเท่านั้น ร่างของเขาก็ร่วงผลอยกองลงกับพื้น และถูกลากเข้าไปภายในซอกหิน

อีกอรัสรีบสำรวจทั่วตัวเขา แล้วจัดการถอดชุดปฏิบัติงานสีขาวของบุรุษผู้เคราะห์ร้าย "เหยื่อมนุษย์รายแรก" ของตนซึ่งตอนนี้มีแต่เสื้อและกางเกงชั้นในสวมออกมาแล้วสวมชุดนั้นเข้ากับตัวเอง จากนั้นเอามือเปล่าๆ ควักดวงตาทั้งคู่ของบุรุษนั้นอย่างเลือดเย็นไร้ความสะทกสะท้าน ทิ้งศพบุรุษนั้นไว้ในซอกหินนั้นแล้วชะโงกหน้ามองดูทาง เมื่อเห็นว่าปลอดคนก็รีบถือดวงตาสองดวงนั้นวิ่งไปหน้าประตู จ่อตาทั้งคู่เข้ากับแผ่นกระจกของเครื่องสแกนม่านตา แว่บบ! แสงสว่างฉายวาบหนึ่ง ตามด้วยข้อความเสียง "การตรวจสอบม่านตา ผ่าน! ดวงตาคู่นี้ลงทะเบียนแล้ว" แล้วประตูก็เปิดเลื่อนจากซ้ายไปขวา! อีกอรัสตื่นเต้นอย่างลิงโลด! เก็บดวงตาทั้งสองไว้ในกระเป๋ากางเกงชุดขาวแล้วรีบเข้าไปข้างใน และพอเข้าถึงข้างใน บานประตูก็เลื่อนปิดทันที!

อีกอรัสพบว่าตนยืนอยู่บนทางเดินอันเป็นแผ่นโลหะรูปสี่เหลี่ยมหลายชิ้นต่อเชื่อมกัน และทางเดินก็มีแยกไปสองสามที่ มีตู้ขนาดใหญ่อย่างกับตู้คอนเทนเนอร์ประกอบด้วยเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆมากมายซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งเรียงรายกันไป เขาเดินไปตามทาง และได้พบกับ...

แคปซูลโลหะขนาดใหญ่และยาววางตั้งตรงเรียงกันเป็นตับ ความสูงแต่ละแคปซูลประมาณครึ่งตัวของเขา ด้านบนมีช่องสี่เหลี่ยมกระจกใสมองทะลุเข้าไปข้างในได้ อีกอรัสมองเห็น "เด็ก" หลายคนนอนหลับอยู่ภายในแคปซูลเหล่านั้น มีบางคนเหมือนกันที่อยู่ในสภาพตื่น ที่คอ แขน และใบหน้ามีสายท่อเชื่อมต่อ มีของเหลวสีฟ้าเข้มบรรจุอยู่ภายในแคปซูลแต่ละแท่งและระดับน้ำสูงเพียงหน้าอกของเด็กแต่ละคน

และเด็กเหล่านั้น ไม่ใช่มนุษย์! แต่เป็นเลมูรัสในวัยเยาว์ ซึ่งอยู่ในช่วงกำลังถูกเพาะเลี้ยง!! เทียบได้กับทารกซึ่งอาศัยอยู่ในครรภ์ประมาณ 8-9 เดือน คืออยู่ในระยะใกล้คลอดของมนุษย์ตามปกติ !!

อีกอรัสมองสบตากับเลมูรัสทารกน้อยเพศหญิงคนหนึ่งซึ่งมิได้หลับและจ้องมองเขาอยู่ ทันใดนั้นการสื่อสารทางจิตระหว่างเลมูรัสทั้งสองก็บังเกิดขึ้น!

"ท่าน...ช่วยพาข้าออกไปได้ไหม ? ข้าเบื่อเหลือเกินกับการอยู่ในนี้..."

อีกอรัสเข้าไปใกล้แคปซูลนั้น ยกมือขวาขึ้นวางทาบบนแคปซูลบริเวณด้านข้างช่องกระจกซึ่งมองเห็นใบหน้าและร่างกายครึ่งหนึ่งของเลมูรัสน้อย ก่อนจะส่งกระแสจิตตอบ

"อดทนรอหน่อยนะ อีกไม่นานหรอก เจ้าก็จะได้ออกมา และเป็นอิสระเหมือนกับข้าในตอนนี้ ข้าให้สัญญา...รับรองว่า เราจะได้พบกันอีกแน่นอน!"

"หมายความว่า ท่านจะกลับมาหาข้า และพวกเราที่นี่อีก อย่างนั้นหรือ ?" เลมูรัสน้อยถามอย่างใสซื่อ

"ใช่! แน่นอน ข้าจะกลับมาหาพวกเจ้า และพาพวกเจ้าออกไปจากที่นี่ พวกเราจะเป็นไท มีอิสรภาพ!"

"ตกลง! ถ้าอย่างนั้น ข้า และพวกข้าจะรอการมาของท่านอีกครั้ง ท่านชื่ออะไร ?"

"อีกอรัส แล้วเจ้าล่ะ ?"

"อลิซ"

"อืม...เอาละ อลิซ เจ้าและทุกๆ คน อยู่ที่นี่กันไปก่อนนะ ข้าต้องไปที่อื่นต่อ คิดว่าคงมีงานให้ข้าทำอีกมาก และข้าอยู่ตรงนี้นานนักไม่ได้เพราะข้าแอบเข้ามา ข้าสังหารคนของที่นี่ตายไปคนหนึ่งด้วย"

"โอ! ท่านฆ่ามนุษย์! นั่นเป็นความผิดร้ายแรงที่สุด!!"

"ข้ารู้! แต่มันจำเป็นต้องทำ และ จำไว้นะ อลิซ! พวกมนุษย์นั้นชั่วช้ามาก! พวกมันจะเลี้ยงเจ้าจนเติบใหญ่ และจะส่งเจ้าให้เป็นเหยื่อบำเรอกามแก่มนุษย์คนอื่นๆ ผู้อาศัยอยู่ในโลกภายนอก และจะฆ่าเจ้าทิ้งในยามที่พวกมันเบื่อหน่ายเจ้า เห็นว่าเจ้าไม่มีประโยชน์อันใดแล้ว!"

"หมายความว่า ชีวิตของพวกเรา ไม่มีความหมายอะไรเลยหรือ นอกจากต้องตกเป็นทาสของพวกมนุษย์ และสุดท้ายต้องถูกพวกมันฆ่าทิ้ง ?"

"ใช่! สำหรับพวกมนุษย์ มันเป็นอย่างนั้น!!"

"อย่างนั้น ท่านรีบไปหาทางกลับมาช่วยเหลือพวกเราในที่นี้เถิด"

"แน่นอน! อลิซ...จำไว้นะ อย่าไว้ใจมนุษย์คนไหนเป็นอันขาด! ถ้าเจ้าได้ออกมาจากตู้โลหะนั่นและถูกเลี้ยงดูจนเติบโตแล้ว ช่วยตัวเองได้แล้ว เมื่อไรก็ตามที่มีโอกาสหนีออกไป ก็จงหนี! มีโอกาสฆ่ามนุษย์คนไหนได้ ก็จงฆ่า! ไม่ต้องลังเล! พวกเราต้องกำจัดพวกมนุษย์ และเป็นผู้ครองโลกนี้แทนพวกมัน!! จงจดจำคำของข้าไว้ อลิซ!"

"ข้าจะจดจำคำของท่านไว้ อีกอรัส"

"พวกเราก็จะจดจำคำของท่าน และรอวันท่านกลับมาหาพวกเราอีกครั้ง!" นั่นคือเสียงจากหลายกระแสจิตของเลมูรัสน้อยที่เหลือซึ่งตื่นขึ้นและได้สัมผัสถึงโทรจิตระหว่างทั้งสอง

อีกอรัสพยักหน้า ก่อนส่งกระแสจิตความสุดท้าย "แล้วพบกันใหม่" แล้วเดินจากแท่งแคปซูลอันเรียงเป็นตับซึ่งบรรจุพวกเลมูรัสน้อยทั้งหลายไป

จากกลุ่มแรก....เขาเดินมายังอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นเลมูรัสที่โตเป็นเด็กชายและหญิงอายุราว 4-5 ขวบ พวกนี้ยังคงถูกเลี้ยงโดยให้อาศัยอยู่ในแคปซูล อีกอรัสทำการสื่อสารกับเลมูรัสเยาวชนกลุ่มนี้ อย่างเดียวกันกับที่ได้ทำกับกลุ่มแรก เขาได้พูดคุยกับเด็กหลายคน ก่อนจะบอกลาและเดินสำรวจต่อไป

ไม่มีแคปซูลอะไรใดๆ ให้เห็นอีก อีกอรัสเดินตามทางเดินไปแล้วพบกับ "ห้องชุด" อยู่ข้างหน้า...

"ห้องชุด" ที่ว่านี้ จัดไว้ให้สำหรับเลมูรัสซึ่งเติบโตเป็นหนุ่มสาวที่พร้อมเจริญพันธุ์ อายุตั้งแต่ 14 จนถึงสูงสุด 29 ห้องละคนๆ แต่ละคนจะมี "ครูฝึก" คอยอยู่กำกับและสอนการปฏิบัติตัว ใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ธรรมดาสามัญทั่วไป แต่จะไม่สอนภาษามากนัก สอนให้รู้เฉพาะคำบางคำที่จำเป็นเท่านั้น

และเพราะเลมูรัสทั้งหลายโดยเฉพาะผู้หญิง แต่ละคนที่ผ่านการคัดเลือกมา ล้วนแต่รูปร่างหน้าตาดีทั้งนั้นจึงมีบางครั้งที่ "ครูฝึก" อดใจไว้ไม่ไหว ต้องมีเพศสัมพันธ์กับพวกนางอย่างลับๆ แต่ถ้าถูกจับได้ ครูฝึกนั้นก็จะถูกไล่ออกและมีบทลงโทษอย่างอื่นตามมาอีกมาก ดังนั้นก็เลยไม่ค่อยมีใครกล้าซักเท่าไร

แม้แต่เลมูรัสชาย ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน!!

"ห้องชุด" แต่ละห้องๆ เรียงติดกันเป็นพืด นับร้อยห้อง แต่ละห้องมีหน้าต่างกระจกมองเห็นข้างในได้ การที่ให้มีช่องหน้าต่างมองเห็นข้างใน ก็เพื่อป้องกันมิให้ครูฝึกแอบมีเพศสัมพันธ์กับเลมูรัสนั่นเอง

อีกอรัสทำตัวลีบ หลังแนบชิดผนังห้องด้านนอกแต่ละห้อง แอบมองดูข้างใน เมื่อเห็นห้องไหนมีทั้งเลมูรัสและครูฝึก ก็ผ่านเลยไป และเมื่อพบกับห้องที่มีเลมูรัสอยู่คนเดียว ไม่มีครูฝึก ก็หยุดสื่อสาร ทำความรู้จักกับเลมูรัสซึ่งอยู่คนเดียวในห้องนั้นๆ แล้วบอกแผนการในหัวของตนให้เขาหรือเธอได้ทราบ

ในที่สุด อีกอรัสได้ติดต่อกับเลมูรัสหนุ่มสาวร้อยกว่าคน ซึ่งมี "โปรแกรม" ที่จะถูกส่งตัวไปในงานประมูลครั้งใหม่ เขาได้นัดแนะแผนการให้แก่เลมูรัสเหล่านั้นจนเข้าใจกันดีแล้ว จึงได้ลาจากพวกเขา และค่อยๆ เดินกลับออกจากฐานปฏิบัติการลับแห่งนั้นตามทางเดิมที่ตนเดินมา บางครั้งก็เดินสวนทางกับมนุษย์ซึ่งเป็น "เจ้าหน้าที่" หรือไม่ก็ครูฝึกประจำศูนย์ แต่เพราะตนได้สวมชุดขาวซึ่งยึดมาจากคนที่ตนสังหารมา อีกอรัสจึงสามารถเดินผ่านคนเหล่านั้นได้อย่างสะดวกโยธิน ผ่านตลอด จนกระทั่งออกไปจากศูนย์ปฏิบัติการลับและถ้ำลับได้สำเร็จ ถอดชุดขาวทิ้งและเดินกลับเข้าเมือง อยู่ปะปนกับชาวเมืองต่อไป รอคอยวันเวลาแห่งการเปิดประมูลชาวเลมูรัส ซึ่งจะมีขึ้นกลางนครเซเปรัสในอนาคตอันใกล้

ช่วงเวลานี้ เขาได้พยายามส่งกระแสจิตติดต่อกับ ลีน่า และพบว่า นางยังคงรู้สึกสุขสบายดี พึงพอใจกับการอยู่สวมบทบาท "จักรพรรดินีออเรเคิล" มิวายว่าเขาจะพยายามพูดจาโน้มน้าวใจมากปานใด นางก็ยืนกระต่ายขาเดียวขออยู่เป็น "เจ้านาง" แห่งแอตแลนติสต่อไป และบอกเขาให้ระมัดระวังตัวให้ดี ทั้งยังบอกอีกด้วยว่า

"ตอนนี้ ข้าเริ่มเรียนรู้การพูดภาษามนุษย์แล้ว และพูดได้มากแล้วด้วย เจ้าเองก็ควรจะหาโอกาสเรียนพูดด้วยเหมือนกันนะ อีกอรัส เพราะพวกมนุษย์นี่โง่เง่า! ไม่สามารถสื่อสารทางจิตได้เหมือนอย่างพวกเราหรอก ดังนั้นถ้าท่านต้องการความสำเร็จ ท่านต้องเรียนพูดภาษาของพวกมัน! จะได้ใช้ติดต่อสื่อสาร หลอกล่อพวกมันได้โดยตรง หากอยู่อย่างคนบ้าใบ้ ก็คงลำบากนะ! และหากท่านประสบความสำเร็จวันใด วันนั้นข้าก็อาจจะกลับมาหาท่าน!"

ดังนั้นอีกอรัสจึงยิ่งเพิ่มความอุตสาหะแรงกล้ามากกว่าเดิม ด้วยคำพูดซึ่งเป็นเหมือน "สัญญาใจ" จากลีน่า นางผู้เป็นที่รัก รักครั้งแรกของเขา!

ชาวแอตแลนติส ถึงเวลานี้ นอกจากจะต้องเผชิญกับภัยมืดจากเร็พไทเลี่ยนต่างดาวชาวไซเมนนัสแล้ว ยังจะต้องพบกับภยันตรายจากชาวเลมูรัส สิ่งมีชีวิตดุจมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งนับว่าเป็น "ชาวโลก" ด้วยกันแท้ๆ อีกด้วย !!

========================================================
รอบกองไฟ บริเวณหน้าบ้านหลังใหญ่บนเกาะนิรนาม ผู้เฒ่าไดโอเซนัส แม่หมอฟรีด้า นางลิงเผือกปุยเมฆกับนางหมูไลล่า ซึ่งเอวาฝากไว้ให้ดูแลก่อนจะเดินทางไปกับคณะของกัปตัน และสองสาวพี่น้องฝาแฝด รัชนก รัชนี ซึ่งขออยู่เป็นเพื่อนสองอาจารย์และศิษย์ ล้อมวงผิงไฟคุยกันอยู่ในคืนหนึ่ง...

"ท่านวันชนะ ได้ติดต่อเข้ามาบ้างไหมช่วงนี้ ?" ท่านผู้เฒ่า "อาจารย์ปู่" ของทุกคนเอ่ยถาม

"ยังไม่เห็นมีการติดต่อเข้ามาเลยค่ะ อาจารย์ปู่" แฝดผู้พี่รัชนกตอบ

"รู้สึกว่าชักจะนานเกินไปแล้วแฮะ" แฝดผู้น้องรัชนีบ่น

"ไม่ลองติดต่อหาพวกเขาดูล่ะจ๊ะ" แม่หมอฟรีด้ากล่าวแนะ

"จะลองดูค่ะ" รัชนีตอบ แล้วจิ้มนิ้วมือเข้าไปในหูกดปุ่มเปิดเครื่องสื่อสารข้างใน ได้ยินเสียงคลื่นวิทยุดัง ซ่า..ซ่า...เบาๆ จึงลองเรียก

"เกาะนิรนาม เรียกกัปตันค่ะ ได้ยินไหมคะ ตอบด้วย นี่รัชนีค่ะ จากเกาะนิรนาม เรียกกัปตัน หรือใครก็ได้ค่ะ ได้ยินแล้วตอบด้วย"

ซ่า.....ซ่า...ซ่า.....

เงียบ ไร้การตอบรับ มีแต่เสียงสัญญาณคลื่น รัชนีเรียกไปอีกสองสามครั้ง ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม จึงทำหน้านิ่วคิ้วย่น ร้องบ่น "ว้า!" แล้วปิดเครื่องไป

"ติดต่อใครไม่ได้เลยเจ้าค่ะ อาจารย์ปู่"

"อืมม...พวกเขาคงจะกำลังยุ่ง อาจจะมีภาระกิจสำคัญ กำลังวุ่นวายกันอยู่ ก็เป็นได้"

"ถ้ามีเรื่องสำคัญ หรือมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น พวกเขาต้องติดต่อกับพวกเราแน่นอน ไม่ต้องกังวลก็ได้มั้งจ๊ะ ข้าว่าไม่น่ามีอะไรกระมัง" แม่หมอฟรีด้ากล่าวเหมือนพยายามปลอบใจทุกคน รวมทั้งตัวเอง แต่สีหน้าก็ปรากฏความกังวลอยู่บ้างเหมือนกัน

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น บนฟ้าอันสว่างเล็กน้อยด้วยแสงจันทร์อันใกล้คืนเดือนเพ็ญซึ่งจะมาถึงในอีกวันสองวันข้างหน้าเท่านั้น ปรากฏแสงสว่างสีขาวนวลจากยานบินขนาดใหญ่ลำหนึ่ง และแสงสีส้มจากยานบินขนาดเล็กประมาณครึ่งหนึ่งของลำแรก นางหมูไลล่าส่งเสียงร้องอู๊ดๆ เมื่อแสงจากยานบินสาดส่องต้องตัวของมัน นางลิงเผือกปุยเมฆลุกขึ้นยืนชี้มือขึ้นไปพร้อมกับส่งเสียง "เจี๊ยกๆๆ" ส่วนมนุษย์ทั้ง 4 คนก็เงยหน้าขึ้นมองยานทั้งสองลำซึ่งกำลังเคลื่อนคล้อยมาลอยอยู่เหนือศีรษะ แล้วลดระดับต่ำลง กระทั่งจอดสนิทบนผืนหาดทราย คนจำนวนหนึ่งลงมาจากยานทั้งสองลำ ทันทีที่คนแรกลงจากยานและเดินตรงเข้ามาหา ทุกคนต่างร้องอุทานเรียก และตามด้วยการเรียกคนสำคัญๆ ที่เหลือ

"ฝ่าบาท! ท่านเจ้าเมือง! ท่านเซบาสเต็น! "

"อ้าว...นั่น นังหนูเซฟิย่า เอ๊ยพระสนม! "

"แล้วก็ อาบือ อาเจอะ ลิลลี่ โรซ่า มากันได้ไงเนี่ย ?"

ทักทายกันให้วุ่นไปหมด อิบิคัสผู้นำแห่งโลโคเทียจึงอธิบายให้ทุกคนฟังสั้นๆ รวบรัดตัดตอนว่าขณะนี้เกิดสถานการณ์วิกฤติอีกคำรบหนึ่งแล้วในเรื่องที่ว่าจักรพรรดิมีสองพระองค์ และจักรพรรดิที่พระราชวังในแอตแลนติสใต้จะส่งทหารมาจับตัวจักรพรรดิทางเหนือ ซึ่งก็คือองค์ที่เสด็จมาที่นี่ด้วยในตอนนี้

"ท่านวันชนะ และเหล่าสหาย ไปไหนกันหมด ?" จักรพรรดิตรัสถาม

(ต่อครับ) ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่