*****
ความเดิมจาก EP-70.2 *****
แอนดี้ 1 และ 2 พากันเหาะไปร่วมสมทบกับกองทัพแวร์วูลฟ์ของลาลูน่าซึ่งกำลังบุกโจมตีและสู้รบกับกองกำลังของอสูรเร็พไทเลี่ยนจากต่างดาว หลังจากที่เลโอนีดาสใช้เลเทพอร์เทชั่นหนีจากการจับกุมของทั้งสองกลับเข้าฐานทัพไปได้อย่างสะบักสะบอมต้องรับการรักษายกเครื่องอัพเกรดใหม่จากหัวหน้าอสูรต่างดาวชาวไซเมนนัส และเมื่อกลับไปก็รายงานให้เจ้านายทราบว่ามีแอนดี้อีกหนึ่งคนจากต่างจักรวาลเข้ามาร่วมสมทบกับฝ่ายศัตรูด้วย และการศึกด่านนอกฐานทัพในที่สุดฝ่ายตนก็สูญเสียมากกว่า จึงสั่งให้ที่เหลือถอยทัพกลับสู่ใต้พิภพและปิดทางเข้าทุกจุด
ทางฝ่ายลาลูน่าหลังจากคืนร่างจากราชืนีแวร์วูลฟ์กลับเป็นมนุษย์ ได้พบกับแอนดี้ทั้งสอง บรรจง ออเรเคิล และลาลูน่า 2 จากต่างจักรวาล ลาลูน่า 2 ชวนเธอขึ้นยาน THE FUGITIVE 2 กลับไปโลโคเทียโดยสัญญาว่าจะช่วยรักษาเธอ และทำให้เธอพ้นจากความทรมาณในการกลายร่าง ให้เธอควบคุมได้ แปลงร่างได้ทุกเวลาที่ต้องการเหมือนที่ตนเป็นอยู่ในจักรวาลของตน จากนั้นทุกคนจึงขึ้นยาน แยกทางกับออเรเคิล เดินทางสู่โลโคเทีย
อีกด้านหนึ่ง อีกอรัสใช้ชีวิตบนเกาะร้างแห่งหนึ่งซึ่งออเรเคิลปล่อยเขาลงมาและสั่งให้ฝึกบังคับจิตบังคับควบคุมพลังของตนจนสามารถเรียกใช้การได้ตามใจปรารถนา หลังจากนั้นเขาเข้าป่า ติดตามยานบินลึกลับลำหนึ่งซึ่งบินไปทางทิศเหนือของเกาะ และพบว่าเป็นยานของพวกมนุษย์ที่พาเหล่าเลมูรัสไปร่วมเสพกามกันกลางแจ้งหลังจากยานลงจอดบนเทือกเขา อีกอรัสลอบซุ่มดูและใช้พลังทำลายยานพินาศและลอบส่งโทรจิตสอนวิชาการใช้พลังจิตควบคุมพลังในตัวให้แก่บรรดาเลมูรัสทั้งหลายซึ่งถูกคุมตัวรายล้อมจนทุกคนสามารถกำจัดเหล่ามนุษย์ผู้ชั่วร้ายทั้งหมดได้ และทุกคนยกอีกอรัสให้เป็นผู้นำ และเขาคิดถึงการเดินทางกลับไปรับตัวหญิงคนรัก ลีน่า เพื่อร่วมขบวนกับชาวเลมูรัสในการต่อสู้ต่อไป
และต่อจากนี้ไป เชิญติดตาม "แดนศิวิไลซ์" (หลงกาล ภาค 2) ตอนที่ 72 ต่อไปได้เลยครับ.......
# # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # #
ณ ห้องบรรทมในพระตำหนักแห่งองค์จักรพรรดินี ในใจกลางพระมหาราชวังแห่งจักรพรรดิ ดินแดนแอตแลนติสใต้....
ยามดึกสงัด จักรพรรดินี ซึ่งสวมบทโดย ลีน่า รับสมอ้างเป็นออเรเคิลผู้จากไป กำลังพักผ่อนอิริยาบทผ่อนคลายตัวเองโดยการนั่งดื่มเหล้าองุ่นอยู่ที่โต๊ะใกล้บานหน้าต่างที่เปิดอ้ารับลมเย็นยะเยือก ส่งจิตใจคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยเปื่อย...
ช่วงเวลาที่ผ่านมา ลีน่า เสวยสุขอย่างเต็มที่ในฐานะองค์พระจักรพรรดินีแห่งจักรพรรดิเนรอส ซึ่งจะเสด็จมาพูดคุยกับนางเป็นครั้งคราว และพานางออกไปประทับนั่งคู่บนพระราชบัลลังก์ในยามออกว่าราชการประมาณสองสามครั้งต่อสัปดาห์ แต่เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสองในพระตำหนัก จักรพรรดิก็หาได้ทรงกระทำสิ่งใดๆ กับนางเยี่ยงสามีที่จะพึงกระทำกับภรรยาทั่วไปไม่ มีแต่สนทนาปราศัยด้วยเท่านั้น แล้วสุดท้ายก็จะเสด็จจากไป
ดังนั้น ลีน่าจึงยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้มลทิน!
และนั่นก็ทำให้นางตกเป็นที่หมายปองของทหารบางคนหรือบริวารบางตนของจอมอสูรซึ่งแปลงร่างเป็นจักรพรรดิเนรอส ว่าสักวันหนึ่งเมื่อนางไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่เป็นประโยชน์ต่อจักรพรรดิแล้ว นางจะต้องตกเป็นทาสปรนเปรอสวาทของพวกตนอย่างแน่นอน! ยิ่งการที่นางมีใบหน้าเหมือนกับออเรเคิล อดีตจักรพรรดินีตัวจริงที่จากไปด้วยแล้ว ความกระเหี้ยนกระหือหื่นกระหายของพวกนั้นก็ยิ่งมีมากทีเดียว!
แต่ก็คงไม่ง่าย...เพราะยิ่งเวลาผ่านพ้นไปมากเท่าไร ลีน่าก็ฉลาดมากขึ้น มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ตอนนี้นางพูดภาษาแอตแลนเชี่ยนได้อย่างคล่องแคล่วและรู้เรื่องราวความเป็นไปต่างๆเป็นอย่างดี ไม่เหมือนตอนที่เข้ามาแทนที่ออเรเคิลใหม่ๆ ซึ่งตอนนั้นนางไม่รู้อะไรเลย พูดอะไรก็ไม่ค่อยได้ ต่างจากขณะปัจจุบันนี้ราวกับฟ้ากับเหว...
ดังนั้นตอนนี้นางจึงสามารถสวมบทบาทเป็นองค์จักรพรรดินีได้อย่างแนบเนียน มีข้าราชบริพาร มีนางกำนัลรับใช้ใกล้ชิด และทุกคนล้วนเชื่อสนิทใจว่านางคือ องค์จักรพรรดินี ออเรเคิล!
"จักรพรรดิไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับตัวเราก็ดีแล้ว! เราก็ไม่อยากเป็นทาสบำเรอกามของเขาหรอก! อย่าว่าแต่...เรายังคง...คิดถึงอีกอรัสอยู่ ไม่เคยลืมเขาเลย ไม่รู้ตอนนี้เขาจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ...? จะดำเนินการตามแผนการ ตามความฝันของเขาได้ไปถึงไหนแล้ว....???"
ครั้นนึกถึงอีกอรัส...นางก็อดไม่ได้ที่จะส่งกระแสจิตออกไปในอากาศอันมืดมิดข้างนอก ขณะมองดูแสงดาวระยิบระยับพร่างพราวในนภายามราตรีนั้น
"อีกอรัส...ท่านอยู่ที่ไหนนะตอนนี้....ยังคงคิดถึงข้าอยู่หรือไม่ ? แต่ข้าว่า ทางที่ดีที่สุด ลืมข้าเสียเถิดนะ! ตอนนี้ข้าเป็นจักรพรรดินีแห่งแผ่นดิน มีความเป็นอยู่สุขสบายมากทีเดียว เมื่อข้าอยู่เป็นสุขสบายดีแล้ว ท่านก็ควรวางใจ จริงไหม ? อย่าห่วงใย อย่ายึดติดตัวข้าเลย ข้างนอกนั่น คงมีเลมูรัสสาวที่ดีๆ สักคน ที่คู่ควรกับท่าน...หรือบางทีไม่แน่..ท่านอาจพบรักกับมนุษย์หญิงที่ดีงาม สักคน ก็อาจเป็นได้...นะอีกอรัส....อย่าคิดถึงข้าเลย ข้าคงไม่ไปไหนหรอก นอกจากอยู่เป็นจักรพรรดินีในพระราชวังนี่ ตราบสิ้นสมหายใจ..."
แล้วก็ถอนใจเบาๆ พลางยกแก้วเหล้าองุ่นจากบนโต๊ะขึ้นมาดื่ม แล้ววางลง...ส่งกระแสจิตอันเลื่อนลอยออกไปอีก...
แต่แล้วก็ต้องสะดุดกึก! เมื่อได้รับโทรจิตตอบกลับมา อย่างไม่คาดหมาย!
"
ไม่มีวัน ที่ข้าจะลืมเจ้าได้หรอก ลีน่า!!"
"อีกอรัส !!!" เลมูรัสสาวในคราบองค์จักรพรรดินีเบิกตากว้าง แล้วส่งโทรจิตถามกลับไปทันที "ท่านอยู่ที่ไหนในตอนนี้ ? และทำอะไรมาบ้าง ??"
"ตอนนี้ ข้าอยู่บนเกาะร้างแห่งหนึ่ง กลางทะเล..." เขาตอบกลับมาทันทีเหมือนกัน "ส่วนที่เจ้าถามมาว่า ข้าทำอะไรมาบ้างนั้น มันมากมาย และค่อนข้างจะเรื่องยาว กว่าจะมาถึงจุดนี้..."
จากนั้นอีกอรัสจึงเล่าเรื่องราวของตนเองที่ผ่านมาทั้งหมดให้นางฟัง โดยพยายามสรุปความสำคัญๆ ตั้งแต่ต้น และจบด้วยการชักชวนให้นางออกมาร่วมการเดินทางของตนและชาวเลมูรัส
"ลีน่า...เจ้าก็ออกจากวังมาเสียเถิด มาร่วมเดินทางกับพวกเรา เพื่ออนาคตของพวกเรา และเราสองคนจะได้อยู่เคียงคู่กัน ไปไหนไปด้วยกัน อยู่ที่ไหนก็อยู่ด้วยกัน...ตลอดไป..."
นึกแล้วเขาจะต้องพูดเช่นนี้...เลมูรัสสาวคิด...ก่อนจะส่ายหน้าและส่งโทรจิตตอบปฏิเสธไปโดยพยายามให้นิ่มนวลที่สุด
"อีกอรัส...ข้ารู้ ว่าท่านปรารถนาดีและจริงใจต่อข้า แต่อย่าเลย...อีกอรัส, จักรพรรดิไม่ปล่อยให้ข้าออกไปไหนตามอำเภอใจหรอก และที่สำคัญที่สุด ตอนนี้ ข้าสุขสบายดี กับการเป็นจักรพรรดินีอยู่ในวังหลวงนี่ ข้าไม่อยากออกไปลำบากข้างนอก ในขณะที่ท่านก็ยังต้องต่อสู้ต่อไป ท่านยังไปไม่ถึงจุดหมาย และยังต้องต่อสู้อีกมาก มนุษย์หลายคนคงต้องตามล่าท่าน พวกเขาไม่ปล่อยให้ท่านลอยนวลแน่นอน และพวกที่สร้างพวกเรามา ก็เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิ เพราะเป็นคนที่ทำงานรับใช้วัง ท่านและพรรคพวกโปรดระมัดระวังตัวให้ดีด้วย จักรพรรดิต้องทรงกริ้วเป็นอย่างมากแน่หากทรงทราบว่าท่านและพรรคพวกร่วมกันสังหารมนุษย์เหล่านั้น และต้องสั่งให้บริวารออกตามล่าพวกท่านแน่ๆ"
"ก็มาซี่ !!!" อีกอรัสคำราม "อยากลองดีก็พากันมา ข้า และทุกคนที่อยู่ด้วยกันนี่ หาได้กลัวไม่ แม้แต่น้อย!!"
"อย่าได้ประมาท...อีกอรัส...จักรพรรดิมีข้าราชบริพารทั่วแผ่นดิน กองทัพเป็นแสนเป็นล้าน ท่านกับพรรคพวกไม่กี่สิบคนจะเอาชนะได้อย่างไร ? หากเขารู้ว่าท่านอยู่ที่ไหนในตอนนี้ แล้วส่งกองทหารไปหาพวกท่านในคืนนี้ พวกท่านก็ไม่รอดแล้ว ต่อให้มีพลังพิเศษก็เถอะ!!"
"ลีน่า !!!???" อีกอรัสร้องเรียกนางด้วยความทึ่ง ไม่อยากจะเชื่อ "นี่เจ้า...ถึงกับเข้าข้างพวกมันเลยหรือนี่ ??"
"ข้าพูดตามความจริง มิได้ตั้งใจจะเข้าข้าง..." เลมูรัสสาวปฏิเสธอย่างนิ่มนวลกับคำถามอันร้อนระอุด้วยความเคียดแค้นของอีกอรัส "เพราะข้าเป็นห่วงท่าน และพรรคพวกของท่านทุกคน ในฐานะที่เป็นเลมูรัสเหมือนกัน ข้าจึงต้องเตือนให้พวกท่านต้องระวังตัว อย่าประมาท"
อีกอรัสอึ้ง...ปล่อยให้เกิดบรรยากาศ "เดด แอร์" อยู่ชั่วครู่ แล้วจึงถามย้ำ
"สรุปแล้ว...เจ้ายืนยันว่า จะอยู่เป็นจักรพรรดินีในวังต่อไป ไม่ร่วมเดินทางไปกับข้า และชาวเลมูรัส ?"
"ใช่!!" ลีน่าตอบสั้นๆ อย่างเด็ดเดี่ยว
อีกอรัสใจห่อเหี่ยว รู้สึกแทบหมดแรง แต่ก็ยังขอถามคำถามสุดท้าย หวังให้ได้คำตอบที่เจือด้วยความหวัง แม้จะเลือนลาง...
"ต้องให้ข้าทำอย่างไร หรือเป็นอย่างไร เจ้าจึงจะยอมหนีออกจากวัง มาอยู่กับข้า ?"
เลมูรัสสาวทอดถอนใจอีกครั้ง ก่อนจะตอบ "เอาไว้ให้ท่านประสบความสำเร็จ เอาชนะอริราชศัตรู แล้วตั้งตัวเป็นใหญ่ในดินแดนแห่งใดแห่งหนึ่งได้อย่างมั่นคงได้เสียก่อนเถิด ข้าถึงจะอยู่เคียงคู่ท่านอย่างสุขสบายได้! อีกอรัส เข้าใจข้าหน่อย...ข้าไม่พร้อมที่จะออกไปเผชิญความยากลำบากข้างนอก!! ข้าเสพความสุขสำราญจนชินแล้วในวังหลวงนี่ ในฐานะพระจักรพรรดินี มีข้าราชบริพาร มีคนรับใช้ อยากได้อะไรก็สั่งได้ สุขสบายทุกอย่างทุกทิวาราตรี จะให้ข้าทิ้งความสุขสบายเช่นนี้ออกไปตกระกำลำบากข้างนอกได้อย่างไร ???"
"ลีน่า...." อีกอรัสยังไม่ยอมแพ้ "เจ้ารู้บ้างหรือไม่ ว่าจักรพรรดิของเจ้า รวมทั้งข้าราชบริพารใกล้ตัว ไม่ใช่คนธรรมดา!!"
"ไม่ใช่คนธรรมดา ??" เลมูรัสสาวย้อนคำ แล้วกล่าวต่อ "ก็แน่ละสิ พวกเขาเป็นคนในรั้วในวัง จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไรเล่า มันก็ต้องมีอะไรที่เหนือกว่าสามัญชนอยู่แล้ว"
"ข้ามิได้หมายความว่าอย่างนั้น! นี่เจ้ายังไม่รู้ความจริง จึงพูดแบบนี้"
"ความจริงอะไรกัน ?"
"พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา คือ ความจริง พวกเขา เป็นอสูรร้าย มาจากต่างพิภพ!! ภายนอกที่เจ้ามองเห็นนั้นคือร่างจำแลง ร่างจริงคือสัตว์ร้าย อสูรร้ายกระหายเลือด สักวันหนึ่งหากจักรพรรดิไม่ต้องการเจ้า มองเห็นว่าเจ้าไร้ประโยชน์ เจ้าจะมีอันตรายถึงชีวิต!!"
"นี่ท่านพูดเรื่องราวเพ้อเจ้ออะไรกันนี่ ?" ลีน่าสวนกลับ "รู้ได้ยังไง ว่าพวกเขาเป็นเช่นนั้น ??"
"ก็..." อีกอรัสหนุ่มอึกอัก "...ท่านพี่ ออเรเคิล บอกข้าอย่างนั้น...และข้า ก็เคยเห็นเขาแปลงร่างเป็นอสูรมาแล้ว"
"ท่านพี่ ออเรเคิล อะไรนั่น ของท่าน น่าเชื่อถือมากนักหรือ ? นางเป็นใคร มาจากไหน และทำไมท่านถึงได้เชื่อใจนางนัก ? แล้วท่านเคยเห็นจักรพรรดิแปลงร่างด้วยตาตนเองจริงหรือเปล่า ??"
เจอคำถามย้อนเข้าให้แบบนี้ อีกอรัสก็พูดไม่ออก เพราะเป็นการยากยิ่งที่จะพยายามพูดโน้มน้าวใจของนางให้ยอมรับนับถือในตัวออเรเคิล "ท่านพี่" ของตนอย่างสนิทใจได้ภายในเวลาอันสั้น แต่อย่างไรก็ตามเขายืนยันได้สำหรับเรื่องการแปลงร่างของจักรพรรดิ
"ใช่...ข้าเคยเห็น"
"เอาเถอะ พักเรื่องจักรพรรดิไว้ก่อน" นางเบรคเรื่องอสูรในคราบจักรพรรดิไว้เพราะไม่อยากเชื่อ "มาว่ากันถึงเรื่องท่านพี่ออเรเคิลของท่านนั่น นางมาได้ไง ท่านเชื่อคนง่ายถึงเพียงนี้เชียวหรือ อีกอรัส ???"
คำถามนี้เล่นเอาอีกอรัสหนุ่มสะอึก แต่ก็รู้สึกชักเคืองคนถามขึ้นมาด้วย
"ข้าเชื่อถือนาง เพราะนางช่วยเหลือข้า และข้าสัมผัสได้ว่านางมีความจริงใจ มิใช่หลอกลวง"
"อ้อ...สัมผัสความจริงใจของนางได้เสียด้วย! อย่างนั้นนางอาจจะชอบท่านก็เป็นได้นะ ดีแล้ว งั้นข้าก็มีตัวแทนแล้วหละ เจ้าจงคบหากับนางเถอะ! ได้ต่อสู้ร่วมกันด้วย ดีออก!!" ขณะที่ส่งโทรจิตบอกคำนี้ ใบหน้าของลีน่าก็ยิ้มละไม
"ข้ากับนางมิได้มีความสัมพันธ์กันอย่างนั้น!!!" อีกอรัสร้องออกมา เลมูรัสสาวสัมผัสถึงกระแสเสียงของเขาที่แผดร้องจนแทบระเบิดแก้วหูของนาง แม้จะเป็นการโทรจิตก็ตาม "ข้ายอมรับและนับถือนางเป็นพี่สาว ไม่เป็นอย่างอื่น!!"
"อืม...ก็ไม่แน่น๊า...ใกล้ชิดกันบ่อยๆ นานไป ก็อาจเปลี่ยนรูปแบบความสัมพันธ์กันได้..." ลีน่าแกล้งพูดยั่ว
"เจ้าแกล้งยั่วข้า...ข้ารู้หรอก!" อีกอรัสกล่าวหลังจากรู้ตัว
"เก่งอยู่แฮะ....นึกว่าจะไม่รู้เสียอีก..." ลีน่าตอบพร้อมกับยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ามาซีเรียสอีกครั้ง ..
(ต่อครับ) ^^
💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 71 🚀💫🕛💫
แอนดี้ 1 และ 2 พากันเหาะไปร่วมสมทบกับกองทัพแวร์วูลฟ์ของลาลูน่าซึ่งกำลังบุกโจมตีและสู้รบกับกองกำลังของอสูรเร็พไทเลี่ยนจากต่างดาว หลังจากที่เลโอนีดาสใช้เลเทพอร์เทชั่นหนีจากการจับกุมของทั้งสองกลับเข้าฐานทัพไปได้อย่างสะบักสะบอมต้องรับการรักษายกเครื่องอัพเกรดใหม่จากหัวหน้าอสูรต่างดาวชาวไซเมนนัส และเมื่อกลับไปก็รายงานให้เจ้านายทราบว่ามีแอนดี้อีกหนึ่งคนจากต่างจักรวาลเข้ามาร่วมสมทบกับฝ่ายศัตรูด้วย และการศึกด่านนอกฐานทัพในที่สุดฝ่ายตนก็สูญเสียมากกว่า จึงสั่งให้ที่เหลือถอยทัพกลับสู่ใต้พิภพและปิดทางเข้าทุกจุด
ทางฝ่ายลาลูน่าหลังจากคืนร่างจากราชืนีแวร์วูลฟ์กลับเป็นมนุษย์ ได้พบกับแอนดี้ทั้งสอง บรรจง ออเรเคิล และลาลูน่า 2 จากต่างจักรวาล ลาลูน่า 2 ชวนเธอขึ้นยาน THE FUGITIVE 2 กลับไปโลโคเทียโดยสัญญาว่าจะช่วยรักษาเธอ และทำให้เธอพ้นจากความทรมาณในการกลายร่าง ให้เธอควบคุมได้ แปลงร่างได้ทุกเวลาที่ต้องการเหมือนที่ตนเป็นอยู่ในจักรวาลของตน จากนั้นทุกคนจึงขึ้นยาน แยกทางกับออเรเคิล เดินทางสู่โลโคเทีย
อีกด้านหนึ่ง อีกอรัสใช้ชีวิตบนเกาะร้างแห่งหนึ่งซึ่งออเรเคิลปล่อยเขาลงมาและสั่งให้ฝึกบังคับจิตบังคับควบคุมพลังของตนจนสามารถเรียกใช้การได้ตามใจปรารถนา หลังจากนั้นเขาเข้าป่า ติดตามยานบินลึกลับลำหนึ่งซึ่งบินไปทางทิศเหนือของเกาะ และพบว่าเป็นยานของพวกมนุษย์ที่พาเหล่าเลมูรัสไปร่วมเสพกามกันกลางแจ้งหลังจากยานลงจอดบนเทือกเขา อีกอรัสลอบซุ่มดูและใช้พลังทำลายยานพินาศและลอบส่งโทรจิตสอนวิชาการใช้พลังจิตควบคุมพลังในตัวให้แก่บรรดาเลมูรัสทั้งหลายซึ่งถูกคุมตัวรายล้อมจนทุกคนสามารถกำจัดเหล่ามนุษย์ผู้ชั่วร้ายทั้งหมดได้ และทุกคนยกอีกอรัสให้เป็นผู้นำ และเขาคิดถึงการเดินทางกลับไปรับตัวหญิงคนรัก ลีน่า เพื่อร่วมขบวนกับชาวเลมูรัสในการต่อสู้ต่อไป
และต่อจากนี้ไป เชิญติดตาม "แดนศิวิไลซ์" (หลงกาล ภาค 2) ตอนที่ 72 ต่อไปได้เลยครับ.......
ยามดึกสงัด จักรพรรดินี ซึ่งสวมบทโดย ลีน่า รับสมอ้างเป็นออเรเคิลผู้จากไป กำลังพักผ่อนอิริยาบทผ่อนคลายตัวเองโดยการนั่งดื่มเหล้าองุ่นอยู่ที่โต๊ะใกล้บานหน้าต่างที่เปิดอ้ารับลมเย็นยะเยือก ส่งจิตใจคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยเปื่อย...
ช่วงเวลาที่ผ่านมา ลีน่า เสวยสุขอย่างเต็มที่ในฐานะองค์พระจักรพรรดินีแห่งจักรพรรดิเนรอส ซึ่งจะเสด็จมาพูดคุยกับนางเป็นครั้งคราว และพานางออกไปประทับนั่งคู่บนพระราชบัลลังก์ในยามออกว่าราชการประมาณสองสามครั้งต่อสัปดาห์ แต่เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสองในพระตำหนัก จักรพรรดิก็หาได้ทรงกระทำสิ่งใดๆ กับนางเยี่ยงสามีที่จะพึงกระทำกับภรรยาทั่วไปไม่ มีแต่สนทนาปราศัยด้วยเท่านั้น แล้วสุดท้ายก็จะเสด็จจากไป
ดังนั้น ลีน่าจึงยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้มลทิน!
และนั่นก็ทำให้นางตกเป็นที่หมายปองของทหารบางคนหรือบริวารบางตนของจอมอสูรซึ่งแปลงร่างเป็นจักรพรรดิเนรอส ว่าสักวันหนึ่งเมื่อนางไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่เป็นประโยชน์ต่อจักรพรรดิแล้ว นางจะต้องตกเป็นทาสปรนเปรอสวาทของพวกตนอย่างแน่นอน! ยิ่งการที่นางมีใบหน้าเหมือนกับออเรเคิล อดีตจักรพรรดินีตัวจริงที่จากไปด้วยแล้ว ความกระเหี้ยนกระหือหื่นกระหายของพวกนั้นก็ยิ่งมีมากทีเดียว!
แต่ก็คงไม่ง่าย...เพราะยิ่งเวลาผ่านพ้นไปมากเท่าไร ลีน่าก็ฉลาดมากขึ้น มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ตอนนี้นางพูดภาษาแอตแลนเชี่ยนได้อย่างคล่องแคล่วและรู้เรื่องราวความเป็นไปต่างๆเป็นอย่างดี ไม่เหมือนตอนที่เข้ามาแทนที่ออเรเคิลใหม่ๆ ซึ่งตอนนั้นนางไม่รู้อะไรเลย พูดอะไรก็ไม่ค่อยได้ ต่างจากขณะปัจจุบันนี้ราวกับฟ้ากับเหว...
ดังนั้นตอนนี้นางจึงสามารถสวมบทบาทเป็นองค์จักรพรรดินีได้อย่างแนบเนียน มีข้าราชบริพาร มีนางกำนัลรับใช้ใกล้ชิด และทุกคนล้วนเชื่อสนิทใจว่านางคือ องค์จักรพรรดินี ออเรเคิล!
"จักรพรรดิไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับตัวเราก็ดีแล้ว! เราก็ไม่อยากเป็นทาสบำเรอกามของเขาหรอก! อย่าว่าแต่...เรายังคง...คิดถึงอีกอรัสอยู่ ไม่เคยลืมเขาเลย ไม่รู้ตอนนี้เขาจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ...? จะดำเนินการตามแผนการ ตามความฝันของเขาได้ไปถึงไหนแล้ว....???"
ครั้นนึกถึงอีกอรัส...นางก็อดไม่ได้ที่จะส่งกระแสจิตออกไปในอากาศอันมืดมิดข้างนอก ขณะมองดูแสงดาวระยิบระยับพร่างพราวในนภายามราตรีนั้น
"อีกอรัส...ท่านอยู่ที่ไหนนะตอนนี้....ยังคงคิดถึงข้าอยู่หรือไม่ ? แต่ข้าว่า ทางที่ดีที่สุด ลืมข้าเสียเถิดนะ! ตอนนี้ข้าเป็นจักรพรรดินีแห่งแผ่นดิน มีความเป็นอยู่สุขสบายมากทีเดียว เมื่อข้าอยู่เป็นสุขสบายดีแล้ว ท่านก็ควรวางใจ จริงไหม ? อย่าห่วงใย อย่ายึดติดตัวข้าเลย ข้างนอกนั่น คงมีเลมูรัสสาวที่ดีๆ สักคน ที่คู่ควรกับท่าน...หรือบางทีไม่แน่..ท่านอาจพบรักกับมนุษย์หญิงที่ดีงาม สักคน ก็อาจเป็นได้...นะอีกอรัส....อย่าคิดถึงข้าเลย ข้าคงไม่ไปไหนหรอก นอกจากอยู่เป็นจักรพรรดินีในพระราชวังนี่ ตราบสิ้นสมหายใจ..."
แล้วก็ถอนใจเบาๆ พลางยกแก้วเหล้าองุ่นจากบนโต๊ะขึ้นมาดื่ม แล้ววางลง...ส่งกระแสจิตอันเลื่อนลอยออกไปอีก...
แต่แล้วก็ต้องสะดุดกึก! เมื่อได้รับโทรจิตตอบกลับมา อย่างไม่คาดหมาย!
"ไม่มีวัน ที่ข้าจะลืมเจ้าได้หรอก ลีน่า!!"
"อีกอรัส !!!" เลมูรัสสาวในคราบองค์จักรพรรดินีเบิกตากว้าง แล้วส่งโทรจิตถามกลับไปทันที "ท่านอยู่ที่ไหนในตอนนี้ ? และทำอะไรมาบ้าง ??"
"ตอนนี้ ข้าอยู่บนเกาะร้างแห่งหนึ่ง กลางทะเล..." เขาตอบกลับมาทันทีเหมือนกัน "ส่วนที่เจ้าถามมาว่า ข้าทำอะไรมาบ้างนั้น มันมากมาย และค่อนข้างจะเรื่องยาว กว่าจะมาถึงจุดนี้..."
จากนั้นอีกอรัสจึงเล่าเรื่องราวของตนเองที่ผ่านมาทั้งหมดให้นางฟัง โดยพยายามสรุปความสำคัญๆ ตั้งแต่ต้น และจบด้วยการชักชวนให้นางออกมาร่วมการเดินทางของตนและชาวเลมูรัส
"ลีน่า...เจ้าก็ออกจากวังมาเสียเถิด มาร่วมเดินทางกับพวกเรา เพื่ออนาคตของพวกเรา และเราสองคนจะได้อยู่เคียงคู่กัน ไปไหนไปด้วยกัน อยู่ที่ไหนก็อยู่ด้วยกัน...ตลอดไป..."
นึกแล้วเขาจะต้องพูดเช่นนี้...เลมูรัสสาวคิด...ก่อนจะส่ายหน้าและส่งโทรจิตตอบปฏิเสธไปโดยพยายามให้นิ่มนวลที่สุด
"อีกอรัส...ข้ารู้ ว่าท่านปรารถนาดีและจริงใจต่อข้า แต่อย่าเลย...อีกอรัส, จักรพรรดิไม่ปล่อยให้ข้าออกไปไหนตามอำเภอใจหรอก และที่สำคัญที่สุด ตอนนี้ ข้าสุขสบายดี กับการเป็นจักรพรรดินีอยู่ในวังหลวงนี่ ข้าไม่อยากออกไปลำบากข้างนอก ในขณะที่ท่านก็ยังต้องต่อสู้ต่อไป ท่านยังไปไม่ถึงจุดหมาย และยังต้องต่อสู้อีกมาก มนุษย์หลายคนคงต้องตามล่าท่าน พวกเขาไม่ปล่อยให้ท่านลอยนวลแน่นอน และพวกที่สร้างพวกเรามา ก็เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิ เพราะเป็นคนที่ทำงานรับใช้วัง ท่านและพรรคพวกโปรดระมัดระวังตัวให้ดีด้วย จักรพรรดิต้องทรงกริ้วเป็นอย่างมากแน่หากทรงทราบว่าท่านและพรรคพวกร่วมกันสังหารมนุษย์เหล่านั้น และต้องสั่งให้บริวารออกตามล่าพวกท่านแน่ๆ"
"ก็มาซี่ !!!" อีกอรัสคำราม "อยากลองดีก็พากันมา ข้า และทุกคนที่อยู่ด้วยกันนี่ หาได้กลัวไม่ แม้แต่น้อย!!"
"อย่าได้ประมาท...อีกอรัส...จักรพรรดิมีข้าราชบริพารทั่วแผ่นดิน กองทัพเป็นแสนเป็นล้าน ท่านกับพรรคพวกไม่กี่สิบคนจะเอาชนะได้อย่างไร ? หากเขารู้ว่าท่านอยู่ที่ไหนในตอนนี้ แล้วส่งกองทหารไปหาพวกท่านในคืนนี้ พวกท่านก็ไม่รอดแล้ว ต่อให้มีพลังพิเศษก็เถอะ!!"
"ลีน่า !!!???" อีกอรัสร้องเรียกนางด้วยความทึ่ง ไม่อยากจะเชื่อ "นี่เจ้า...ถึงกับเข้าข้างพวกมันเลยหรือนี่ ??"
"ข้าพูดตามความจริง มิได้ตั้งใจจะเข้าข้าง..." เลมูรัสสาวปฏิเสธอย่างนิ่มนวลกับคำถามอันร้อนระอุด้วยความเคียดแค้นของอีกอรัส "เพราะข้าเป็นห่วงท่าน และพรรคพวกของท่านทุกคน ในฐานะที่เป็นเลมูรัสเหมือนกัน ข้าจึงต้องเตือนให้พวกท่านต้องระวังตัว อย่าประมาท"
อีกอรัสอึ้ง...ปล่อยให้เกิดบรรยากาศ "เดด แอร์" อยู่ชั่วครู่ แล้วจึงถามย้ำ
"สรุปแล้ว...เจ้ายืนยันว่า จะอยู่เป็นจักรพรรดินีในวังต่อไป ไม่ร่วมเดินทางไปกับข้า และชาวเลมูรัส ?"
"ใช่!!" ลีน่าตอบสั้นๆ อย่างเด็ดเดี่ยว
อีกอรัสใจห่อเหี่ยว รู้สึกแทบหมดแรง แต่ก็ยังขอถามคำถามสุดท้าย หวังให้ได้คำตอบที่เจือด้วยความหวัง แม้จะเลือนลาง...
"ต้องให้ข้าทำอย่างไร หรือเป็นอย่างไร เจ้าจึงจะยอมหนีออกจากวัง มาอยู่กับข้า ?"
เลมูรัสสาวทอดถอนใจอีกครั้ง ก่อนจะตอบ "เอาไว้ให้ท่านประสบความสำเร็จ เอาชนะอริราชศัตรู แล้วตั้งตัวเป็นใหญ่ในดินแดนแห่งใดแห่งหนึ่งได้อย่างมั่นคงได้เสียก่อนเถิด ข้าถึงจะอยู่เคียงคู่ท่านอย่างสุขสบายได้! อีกอรัส เข้าใจข้าหน่อย...ข้าไม่พร้อมที่จะออกไปเผชิญความยากลำบากข้างนอก!! ข้าเสพความสุขสำราญจนชินแล้วในวังหลวงนี่ ในฐานะพระจักรพรรดินี มีข้าราชบริพาร มีคนรับใช้ อยากได้อะไรก็สั่งได้ สุขสบายทุกอย่างทุกทิวาราตรี จะให้ข้าทิ้งความสุขสบายเช่นนี้ออกไปตกระกำลำบากข้างนอกได้อย่างไร ???"
"ลีน่า...." อีกอรัสยังไม่ยอมแพ้ "เจ้ารู้บ้างหรือไม่ ว่าจักรพรรดิของเจ้า รวมทั้งข้าราชบริพารใกล้ตัว ไม่ใช่คนธรรมดา!!"
"ไม่ใช่คนธรรมดา ??" เลมูรัสสาวย้อนคำ แล้วกล่าวต่อ "ก็แน่ละสิ พวกเขาเป็นคนในรั้วในวัง จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไรเล่า มันก็ต้องมีอะไรที่เหนือกว่าสามัญชนอยู่แล้ว"
"ข้ามิได้หมายความว่าอย่างนั้น! นี่เจ้ายังไม่รู้ความจริง จึงพูดแบบนี้"
"ความจริงอะไรกัน ?"
"พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา คือ ความจริง พวกเขา เป็นอสูรร้าย มาจากต่างพิภพ!! ภายนอกที่เจ้ามองเห็นนั้นคือร่างจำแลง ร่างจริงคือสัตว์ร้าย อสูรร้ายกระหายเลือด สักวันหนึ่งหากจักรพรรดิไม่ต้องการเจ้า มองเห็นว่าเจ้าไร้ประโยชน์ เจ้าจะมีอันตรายถึงชีวิต!!"
"นี่ท่านพูดเรื่องราวเพ้อเจ้ออะไรกันนี่ ?" ลีน่าสวนกลับ "รู้ได้ยังไง ว่าพวกเขาเป็นเช่นนั้น ??"
"ก็..." อีกอรัสหนุ่มอึกอัก "...ท่านพี่ ออเรเคิล บอกข้าอย่างนั้น...และข้า ก็เคยเห็นเขาแปลงร่างเป็นอสูรมาแล้ว"
"ท่านพี่ ออเรเคิล อะไรนั่น ของท่าน น่าเชื่อถือมากนักหรือ ? นางเป็นใคร มาจากไหน และทำไมท่านถึงได้เชื่อใจนางนัก ? แล้วท่านเคยเห็นจักรพรรดิแปลงร่างด้วยตาตนเองจริงหรือเปล่า ??"
เจอคำถามย้อนเข้าให้แบบนี้ อีกอรัสก็พูดไม่ออก เพราะเป็นการยากยิ่งที่จะพยายามพูดโน้มน้าวใจของนางให้ยอมรับนับถือในตัวออเรเคิล "ท่านพี่" ของตนอย่างสนิทใจได้ภายในเวลาอันสั้น แต่อย่างไรก็ตามเขายืนยันได้สำหรับเรื่องการแปลงร่างของจักรพรรดิ
"ใช่...ข้าเคยเห็น"
"เอาเถอะ พักเรื่องจักรพรรดิไว้ก่อน" นางเบรคเรื่องอสูรในคราบจักรพรรดิไว้เพราะไม่อยากเชื่อ "มาว่ากันถึงเรื่องท่านพี่ออเรเคิลของท่านนั่น นางมาได้ไง ท่านเชื่อคนง่ายถึงเพียงนี้เชียวหรือ อีกอรัส ???"
คำถามนี้เล่นเอาอีกอรัสหนุ่มสะอึก แต่ก็รู้สึกชักเคืองคนถามขึ้นมาด้วย
"ข้าเชื่อถือนาง เพราะนางช่วยเหลือข้า และข้าสัมผัสได้ว่านางมีความจริงใจ มิใช่หลอกลวง"
"อ้อ...สัมผัสความจริงใจของนางได้เสียด้วย! อย่างนั้นนางอาจจะชอบท่านก็เป็นได้นะ ดีแล้ว งั้นข้าก็มีตัวแทนแล้วหละ เจ้าจงคบหากับนางเถอะ! ได้ต่อสู้ร่วมกันด้วย ดีออก!!" ขณะที่ส่งโทรจิตบอกคำนี้ ใบหน้าของลีน่าก็ยิ้มละไม
"ข้ากับนางมิได้มีความสัมพันธ์กันอย่างนั้น!!!" อีกอรัสร้องออกมา เลมูรัสสาวสัมผัสถึงกระแสเสียงของเขาที่แผดร้องจนแทบระเบิดแก้วหูของนาง แม้จะเป็นการโทรจิตก็ตาม "ข้ายอมรับและนับถือนางเป็นพี่สาว ไม่เป็นอย่างอื่น!!"
"อืม...ก็ไม่แน่น๊า...ใกล้ชิดกันบ่อยๆ นานไป ก็อาจเปลี่ยนรูปแบบความสัมพันธ์กันได้..." ลีน่าแกล้งพูดยั่ว
"เจ้าแกล้งยั่วข้า...ข้ารู้หรอก!" อีกอรัสกล่าวหลังจากรู้ตัว
"เก่งอยู่แฮะ....นึกว่าจะไม่รู้เสียอีก..." ลีน่าตอบพร้อมกับยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ามาซีเรียสอีกครั้ง ..
(ต่อครับ) ^^