กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า “ขนมหวานแลนด์” มีร้านขนมชื่อดังชื่อว่า “อบอุ่น” คุณนายอบอุ่น ผู้เป็นเจ้าของร้านชอบทำขนมทุกชนิด แต่ที่เธอทำเก่งที่สุดคือคุกกี้ขิง วันหนึ่งเธอตัดสินใจทำคุกกี้ขิงพิเศษ แล้วตกแต่งให้เป็นรูปมนุษย์ขนมปังขิงที่น่ารักและมีชื่อว่า “เจ้าขิงกล้า”
เมื่อเจ้าขิงกล้าเสร็จสิ้น คุณนายอบอุ่นวางมันไว้บนถาดแล้วไปพักผ่อน แต่ตอนกลางคืน เจ้าขิงกล้ากลับมีชีวิตขึ้นมาและพูดว่า
ข้าคือเจ้าขิงกล้า ข้าจะไปผจญภัยในโลกกว้าง!
เจ้าขิงกล้าวิ่งออกจากร้านขนมหวานและมุ่งหน้าเข้าสู่ป่าใหญ่ ในป่านั้น มันพบกับกระต่ายชื่อว่า “จอมฉลาด” กระต่ายถามว่า
“เจ้าคุกกี้ขิง เจ้ามาทำอะไรในป่านี้”
เจ้าขิงกล้าตอบว่า
“ข้าจะไปผจญภัยในโลกกว้าง!”
กระต่ายจอมฉลาดเตือนว่า
“ระวังนะ เจ้าคุกกี้ขิง ในป่านี้มีสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เจ้าต้องระวังให้ดี”
เจ้าขิงกล้าขอบคุณกระต่ายและเดินทางต่อไปจนพบกับแม่น้ำใหญ่ ที่นั่นมันพบกับเต่าน้อย เต่าถามว่า
“เจ้าคุกกี้ขิง เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
เจ้าขิงกล้าตอบว่า
“ข้าจะไปผจญภัยในโลกกว้าง!”
เต่าน้อยบอกว่า
“ข้าจะช่วยเจ้า ข้าจะพาเจ้าข้ามแม่น้ำไป ข้าแข็งแรงและว่ายน้ำเก่ง”
เจ้าขิงกล้าดีใจและข้ามแม่น้ำไปกับเต่าน้อยอย่างปลอดภัย เมื่อถึงฝั่งอีกฝั่ง เจ้าขิงกล้าขอบคุณเต่าน้อยและเดินทางต่อไป
ระหว่างการเดินทาง เจ้าขิงกล้าพบกับนกน้อย เจ้านกน้อยได้ถามออกมาว่า
“เจ้าคุกกี้ขิง เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
เจ้าขิงกล้าตอบว่า
“ข้าจะไปผจญภัยในโลกกว้าง!”
นกบินสูงบอกว่า
“ข้าจะบินนำทางเจ้า ข้าจะพาเจ้าไปยังที่ที่ปลอดภัย ข้าจะเฝ้าระวังภัยให้เจ้า”
เจ้าขิงกล้าดีใจและเดินทางตามนกบินสูง จนมาถึงหมู่บ้านใหม่ ที่นั่นเจ้าขิงกล้าพบกับเด็กๆ ที่ตื่นเต้นที่ได้เห็นคุกกี้ขิงยักษ์ เด็กๆ บอกว่า
“เรายินดีที่ได้เจ้าเป็นเพื่อนใหม่!”
แต่ทันใดนั้น สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏตัวขึ้น และพูดว่า
“เจ้าคุกกี้ขิง ฉันขอพาเจ้าไปที่ซ่อนปลอดภัยในป่าลึก ฉันรู้ว่าที่นั่นเจ้าจะปลอดภัย”
เจ้านกน้อยรีบบอกว่า
“อย่าเชื่อสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เจ้าขิงกล้า! เขาจะหลอกเจ้าไปกิน!”
เด็กๆ ก็ตะโกนว่า
“ใช่ อย่าไปกับเขา!”
เจ้าขิงกล้าตัดสินใจฟังคำเตือนจากเพื่อนๆ ใหม่ของมันและตอบสุนัขจิ้งจอกว่า
“ข้าจะไม่ไปกับเจ้า ข้ามีเพื่อนที่นี่ที่ข้าสามารถไว้ใจได้”
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์โกรธจัดและวิ่งหนีไป เจ้าขิงกล้ารอดพ้นจากอันตรายและเรียนรู้ว่าความเชื่อใจและมิตรภาพที่แท้จริงนั้นสำคัญแค่ไหน
จากนั้น เจ้าขิงกล้าก็อยู่ในหมู่บ้านนั้นและช่วยเด็กๆ ทำขนมและเรียนรู้จากกันและกัน ทุกคนในหมู่บ้านนั้นก็รักและเคารพเจ้าขิงกล้าอย่างมาก
คติสอนใจ: ความเชื่อใจและมิตรภาพที่แท้จริงจะช่วยให้เราผ่านพ้นอุปสรรคและอันตรายได้
เรื่อง: คุกกี้ขิงผู้กล้าหาญ
วันคุกกี้ขิงแห่งชาติ 21 พฤศจิกายน National Gingerbread Cookie Day
มีการเฉลิมฉลองในวันที่ 21 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเพลิดเพลินกับคุกกี้ขิงที่กรอบและหอมกลิ่นเครื่องเทศ คุกกี้ขิงไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย แต่ยังทำให้เรารู้สึกอบอุ่นและสะดวกสบายอีกด้วย ไม่ว่าจะกินมากแค่ไหนก็มักจะยังอยากกินอีก รสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมของคุกกี้ขิงทำให้เราหลงใหลและอยากกลับมาลิ้มลองอีกครั้ง คุกกี้ขิงมีหลายรูปร่างและขนาด แต่คุกกี้รูปมนุษย์ขนมปังขิงเป็นที่นิยมมากที่สุด
ขนมปังขิงมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษ ชาวกรีกและอียิปต์โบราณมักใช้ขนมปังขิงในพิธีกรรมต่างๆ ต่อมาในศตวรรษที่ 11 นักรบครูเสดได้นำขิงเข้ามาในยุโรปจากตะวันออกกลาง และในศตวรรษที่ 16 บิสกิตรูปมนุษย์ขนมปังขิงก็ปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษทรงขอให้พนักงานของพระองค์ทำขนมปังขิงรูปบุคคลสำคัญและแขกผู้มีเกียรติอื่นๆ และทรงนำไปถวายเป็นของขวัญ
ขนมปังขิงถือเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ที่เยอรมันเรียกว่า lebkuchen มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี ขนมปังขิงมักมีรูปร่างเป็นหัวใจและตกแต่งด้วยชื่อ รวมทั้งข้อความรักที่เขียนด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ขนมปังขิงยังได้รับการยกย่องให้เป็นงานศิลปะในเมืองโตรูนในโปแลนด์ เมืองตูลาในรัสเซีย เมืองเปสต์ในฮังการี เมืองปาร์ดูบิซ เมืองปรากในสาธารณรัฐเช็ก และเมืองลียงในฝรั่งเศส
เมื่อเวลาผ่านไป ขนมปังขิงที่ผูกด้วยริบบิ้นก็กลายเป็นของยอดนิยมในงานออกร้านในท้องถิ่น และยังถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักอีกด้วย
.
คุกกี้ขิงในปัจจุบันได้รับความนิยมในหลายประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุด คุณสามารถทำคุกกี้ขิงเป็นรูปบ้าน เค้ก บิสกิต หรือคุกกี้ธรรมดาๆ แล้วเคี้ยวเพลินๆ ในช่วงวันหยุด และดื่มด่ำไปกับรสชาติอันอบอุ่นและเผ็ดร้อน คุกกี้ขิงไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีและวัฒนธรรมที่มีความหมายในช่วงเทศกาลวันหยุด และเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการสร้างความทรงจำที่อบอุ่นและหอมหวาน
.
พูดถึงคุกกี้ขิง ก็ต้องมาดูหน้าตาของคุกกี้ขิงแต่ละประเทศกันว่ามีน่าตาน่ากินขนาดไหน
1. Classic Lebkuchen
ขนมปังขิงคริสต์มาส ของเยอรมนีอันเก่าแก่ เนื้อนุ่มเหมือนเค้ก หวานด้วยน้ำผึ้ง เข้มข้นด้วยเครื่องเทศอุ่นๆ อย่าง ขิง อบเชย กานพลู
2. Gingersnaps and Gingerbread Men
ขนมคลาสสิกอเมริกัน เคี้ยวหนึบ กัดแล้วอบอุ่นด้วยขิง อบเชย กานพลู
3. Dutch Speculaas
คุกกี้ขิงกรอบแต่เคี้ยวหนึบจากเนเธอร์แลนด์ มีส่วนผสม เช่น ขิง อบเชย ลูกจันทน์เทศ พริกไทยขาว
4. Pepparkakor
คุกกี้จิงบางกรอบของนอร์เวย์ ที่ในยุคหลังจะใส่พริกไทยเพิ่มความเผ็ดร้อน
5. Pryaniks/Pryaniki
คุกกี้ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานสืบย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 9 เคยได้รับชื่อว่า “pryanosti” ในช่วงศตวรรษที่ 12 และ 13 ซึ่งหมายถึง “ปรุงรสอย่างดี” คำว่า “pryanik” มาจากคำสลาฟโบราณที่แปลว่า “พริกไทย” (แต่สูตรเดิ่มจะไม่มีพริกไทย)
เอาส่วนผสมมาฝาก
- เนย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วยตวง
- ไข่ตี 1 ฟอง
- แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง
- เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
- กระวานป่น 1/4 ช้อนชา
- ขิงป่น 1/4 ช้อนชา
- ลูกจันทน์เทศป่น 1/4 ช้อนชา
- อบเชย 1/4 ช้อนชา
- อัลมอนด์ลวกบด 2 ช้อนโต๊ะ
- แยมพลัม 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำมะนาวคั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ
...
ของขิงปิดท้ายด้วย ไก่ผัดขิง..
.
ว่าแต่เพื่อนๆ ชอบกินคุ๊กกี้ขิงกันไหม แล้วชอบของยี่ห้ออะไรกันครับผม
.
ขอขอบคุณข้อมูล
: nationaldayfood
.
LookAt
มีใครชอบกินคุ๊กกี้ขิงไหมครับ แล้วชอบของยี่ห้ออะไรกันครับผม
เมื่อเจ้าขิงกล้าเสร็จสิ้น คุณนายอบอุ่นวางมันไว้บนถาดแล้วไปพักผ่อน แต่ตอนกลางคืน เจ้าขิงกล้ากลับมีชีวิตขึ้นมาและพูดว่า
ข้าคือเจ้าขิงกล้า ข้าจะไปผจญภัยในโลกกว้าง!
เจ้าขิงกล้าวิ่งออกจากร้านขนมหวานและมุ่งหน้าเข้าสู่ป่าใหญ่ ในป่านั้น มันพบกับกระต่ายชื่อว่า “จอมฉลาด” กระต่ายถามว่า
“เจ้าคุกกี้ขิง เจ้ามาทำอะไรในป่านี้”
เจ้าขิงกล้าตอบว่า
“ข้าจะไปผจญภัยในโลกกว้าง!”
กระต่ายจอมฉลาดเตือนว่า
“ระวังนะ เจ้าคุกกี้ขิง ในป่านี้มีสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เจ้าต้องระวังให้ดี”
เจ้าขิงกล้าขอบคุณกระต่ายและเดินทางต่อไปจนพบกับแม่น้ำใหญ่ ที่นั่นมันพบกับเต่าน้อย เต่าถามว่า
“เจ้าคุกกี้ขิง เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
เจ้าขิงกล้าตอบว่า
“ข้าจะไปผจญภัยในโลกกว้าง!”
เต่าน้อยบอกว่า
“ข้าจะช่วยเจ้า ข้าจะพาเจ้าข้ามแม่น้ำไป ข้าแข็งแรงและว่ายน้ำเก่ง”
เจ้าขิงกล้าดีใจและข้ามแม่น้ำไปกับเต่าน้อยอย่างปลอดภัย เมื่อถึงฝั่งอีกฝั่ง เจ้าขิงกล้าขอบคุณเต่าน้อยและเดินทางต่อไป
ระหว่างการเดินทาง เจ้าขิงกล้าพบกับนกน้อย เจ้านกน้อยได้ถามออกมาว่า
“เจ้าคุกกี้ขิง เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
เจ้าขิงกล้าตอบว่า
“ข้าจะไปผจญภัยในโลกกว้าง!”
นกบินสูงบอกว่า
“ข้าจะบินนำทางเจ้า ข้าจะพาเจ้าไปยังที่ที่ปลอดภัย ข้าจะเฝ้าระวังภัยให้เจ้า”
เจ้าขิงกล้าดีใจและเดินทางตามนกบินสูง จนมาถึงหมู่บ้านใหม่ ที่นั่นเจ้าขิงกล้าพบกับเด็กๆ ที่ตื่นเต้นที่ได้เห็นคุกกี้ขิงยักษ์ เด็กๆ บอกว่า
“เรายินดีที่ได้เจ้าเป็นเพื่อนใหม่!”
แต่ทันใดนั้น สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏตัวขึ้น และพูดว่า
“เจ้าคุกกี้ขิง ฉันขอพาเจ้าไปที่ซ่อนปลอดภัยในป่าลึก ฉันรู้ว่าที่นั่นเจ้าจะปลอดภัย”
เจ้านกน้อยรีบบอกว่า
“อย่าเชื่อสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เจ้าขิงกล้า! เขาจะหลอกเจ้าไปกิน!”
เด็กๆ ก็ตะโกนว่า
“ใช่ อย่าไปกับเขา!”
เจ้าขิงกล้าตัดสินใจฟังคำเตือนจากเพื่อนๆ ใหม่ของมันและตอบสุนัขจิ้งจอกว่า
“ข้าจะไม่ไปกับเจ้า ข้ามีเพื่อนที่นี่ที่ข้าสามารถไว้ใจได้”
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์โกรธจัดและวิ่งหนีไป เจ้าขิงกล้ารอดพ้นจากอันตรายและเรียนรู้ว่าความเชื่อใจและมิตรภาพที่แท้จริงนั้นสำคัญแค่ไหน
จากนั้น เจ้าขิงกล้าก็อยู่ในหมู่บ้านนั้นและช่วยเด็กๆ ทำขนมและเรียนรู้จากกันและกัน ทุกคนในหมู่บ้านนั้นก็รักและเคารพเจ้าขิงกล้าอย่างมาก
คติสอนใจ: ความเชื่อใจและมิตรภาพที่แท้จริงจะช่วยให้เราผ่านพ้นอุปสรรคและอันตรายได้
เรื่อง: คุกกี้ขิงผู้กล้าหาญ
ขนมปังขิงถือเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ที่เยอรมันเรียกว่า lebkuchen มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี ขนมปังขิงมักมีรูปร่างเป็นหัวใจและตกแต่งด้วยชื่อ รวมทั้งข้อความรักที่เขียนด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ขนมปังขิงยังได้รับการยกย่องให้เป็นงานศิลปะในเมืองโตรูนในโปแลนด์ เมืองตูลาในรัสเซีย เมืองเปสต์ในฮังการี เมืองปาร์ดูบิซ เมืองปรากในสาธารณรัฐเช็ก และเมืองลียงในฝรั่งเศส
เมื่อเวลาผ่านไป ขนมปังขิงที่ผูกด้วยริบบิ้นก็กลายเป็นของยอดนิยมในงานออกร้านในท้องถิ่น และยังถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักอีกด้วย
.
คุกกี้ขิงในปัจจุบันได้รับความนิยมในหลายประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุด คุณสามารถทำคุกกี้ขิงเป็นรูปบ้าน เค้ก บิสกิต หรือคุกกี้ธรรมดาๆ แล้วเคี้ยวเพลินๆ ในช่วงวันหยุด และดื่มด่ำไปกับรสชาติอันอบอุ่นและเผ็ดร้อน คุกกี้ขิงไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีและวัฒนธรรมที่มีความหมายในช่วงเทศกาลวันหยุด และเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการสร้างความทรงจำที่อบอุ่นและหอมหวาน
.
พูดถึงคุกกี้ขิง ก็ต้องมาดูหน้าตาของคุกกี้ขิงแต่ละประเทศกันว่ามีน่าตาน่ากินขนาดไหน
1. Classic Lebkuchen
ขนมปังขิงคริสต์มาส ของเยอรมนีอันเก่าแก่ เนื้อนุ่มเหมือนเค้ก หวานด้วยน้ำผึ้ง เข้มข้นด้วยเครื่องเทศอุ่นๆ อย่าง ขิง อบเชย กานพลู
2. Gingersnaps and Gingerbread Men
ขนมคลาสสิกอเมริกัน เคี้ยวหนึบ กัดแล้วอบอุ่นด้วยขิง อบเชย กานพลู
3. Dutch Speculaas
คุกกี้ขิงกรอบแต่เคี้ยวหนึบจากเนเธอร์แลนด์ มีส่วนผสม เช่น ขิง อบเชย ลูกจันทน์เทศ พริกไทยขาว
4. Pepparkakor
คุกกี้จิงบางกรอบของนอร์เวย์ ที่ในยุคหลังจะใส่พริกไทยเพิ่มความเผ็ดร้อน
5. Pryaniks/Pryaniki
คุกกี้ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานสืบย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 9 เคยได้รับชื่อว่า “pryanosti” ในช่วงศตวรรษที่ 12 และ 13 ซึ่งหมายถึง “ปรุงรสอย่างดี” คำว่า “pryanik” มาจากคำสลาฟโบราณที่แปลว่า “พริกไทย” (แต่สูตรเดิ่มจะไม่มีพริกไทย)
เอาส่วนผสมมาฝาก
- เนย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วยตวง
- ไข่ตี 1 ฟอง
- แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง
- เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
- กระวานป่น 1/4 ช้อนชา
- ขิงป่น 1/4 ช้อนชา
- ลูกจันทน์เทศป่น 1/4 ช้อนชา
- อบเชย 1/4 ช้อนชา
- อัลมอนด์ลวกบด 2 ช้อนโต๊ะ
- แยมพลัม 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำมะนาวคั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ
ว่าแต่เพื่อนๆ ชอบกินคุ๊กกี้ขิงกันไหม แล้วชอบของยี่ห้ออะไรกันครับผม
.
ขอขอบคุณข้อมูล
: nationaldayfood
.
LookAt