ตำนานพื้นบ้าน พระลอตามไก่ มาเป็นนวนิยาย 'อลเวงรักสองภพ' ตอนที่ 19


ตอนเดิม


ตอนที่ 19

เนตรนภิสหายไปนาน คงจะยังไม่เสร็จธุระ ช่อชบาก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ เห็นว่าใกล้จะเที่ยงแล้ว มื้อเที่ยงวันนี้จะต้องทำยังไงกับหมอนั่นล่ะ ต้องเข้าไปถามไหมว่าจะกินข้าวที่ไหน หรือต้องไปซื้อมาให้กินหรือเปล่า เห็นพี่เนตรบอกว่าเจ้านายไม่ค่อยได้เข้ามาที่บริษัท เลยไม่ถนัดออกไปหาร้านกินข้าวเอง 
ให้ตาย...อาคารก็ของตัวเอง ร้านอาหารก็มีให้เลือกตั้งหลายร้าน เรียงรายอยู่บนชั้นสองของห้างสรรพสินค้า ทำไมไม่ไปหากินเอง ไม่อยากดูแลเขาเลย แต่ต้องทำตามคำสั่งของเนตรนภิส ชะเง้อมองไปรอบบริษัทคิดจะพึ่งพาคนรู้จัก แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะทุกคนแยกย้ายออกไปกินข้าวกันหมด เหลือแต่ชมพูนุท พนักงานบัญชีสาวร่างท้วมที่ตัวเองเริ่มคุ้นเคยด้วยหน่อย ช่อชบารีบเดินเกร่เข้าไปหา หวังชวนหญิงสาวไปเป็นเพื่อน

“จะเที่ยงแล้ว ไปชวนบอสใหญ่กินข้าวกัน” สาวบัญชียิ้มให้เพื่อนใหม่

“ขอโทษนะ วันนี้เราห่อข้าวมากิน อยากเคลียร์งานให้เสร็จไว ๆ น่ะ เพราะเราจะลาพักจ้ะ”

ช่อชบาหน้าแห้งลงทันที เธอพึมพำบอกเพื่อนร่วมงานว่า ไม่เป็นไร แล้วหันซ้ายแลขวา ก่อนตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหารุ่นพี่สาว

“อ้อ! ศรเข้ามาแล้วเหรอ วันนี้เขามีประชุมหุ้นส่วนบริษัทของพ่อเขานี่นะ เห็นบ่นว่าเหนื่อย นึกว่าจะไม่เข้ามาแล้วเสียอีก สงสัยคงคิดจะค้างที่นี่เสียละมั้ง...เออนี่ พี่ยังไม่เสร็จธุระดี เดี๋ยวช่อช่วยไปกินข้าวเป็นเพื่อนศรเขาหน่อย กินที่ฟู้ดเซ็นเตอร์นั่นแหละ ไม่ต้องพาไปร้านหรูหราอะไรหรอก ศรเค้าไม่เรื่องมาก วันนี้อุตส่าห์แวะเข้าบริษัทมาทั้งทีฝากเทคแคร์เขาด้วยล่ะ ลำบากช่อหน่อยนะ เดี๋ยวพี่ทำธุระเสร็จแล้วจะรีบกลับเข้าไป โอเคนะน้องรัก”

ผู้จัดการสาวสั่งเสียยืดยาว ก่อนตัดสายไป ไม่ทันให้คนกำลังตั้งท่าจะค้านได้ทันอ้าปากพูด ช่อชบามองมือถือตัวเองเหมือนโดนผีหลอก

นี่ชั้นต้องไปกินข้าวกับหมอนั่นจริงเหรอ...โอ้..แม่จ้าว!

ไม่อยากข้องแวะกับน้อยศิลป์ไชยในร่างของผู้ชายขี้เก๊กคนนี้เลย เม้มปากครุ่นคิด ในที่สุดก็ต้องตัดสินใจเดินไปเคาะประตูห้องทำงาน แล้วผลักมันเข้าไป เจ้านายใหญ่ของเธอลดโทรศัพท์ในมือลง เลิกคิ้วหนาขึ้นเชิงถาม

...แหม เกลียดขี้หน้านักเชียว ขี้วีน ชอบข่มขู่ ไม่มีมารยาท แถมตั้งแต่เข้าบริษัทมาก็ไม่เห็นทำงานทำการ เอาแต่คุยโทรศัพท์อยู่นั่นแหละ ทำงานแบบนี้บริษัทคุณคงเจริญฮวบ ๆ เลยล่ะ...

แอบเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันบ่นว่าเขาในใจ

“เอิ่ม...ดิฉันได้รับคำสั่งจากผู้จัดการเนตร ให้มาเชิญคุณศรไปทานอาหารมื้อเที่ยงค่ะ”

เดินตัวตรงเข้ามายืนหน้าโต๊ะทำงานของเขาพลางบอก...บอกแล้วก็กลั้นใจฟังคำตอบ หวังว่าจะได้ยินเขาปฏิเสธ คนระดับนี้น่าจะต้องมีนัดไปกินข้าวข้างนอกกับใครสักคน ในร้านหรูที่ไหนสักแห่ง

ศรศิลป์นิ่งมองใบหน้าบ้องแบ๊วของช่อชบาอย่างนึกชั่งใจ เมื่อสักครู่เขาเพิ่งวางสายจากนลินี อุดมสิน ว่าที่คู่หมั้นของตัวเอง ที่บิดาคอยลุ้นให้ชอบอยู่ เขาไม่เคยนึกชอบหล่อนเลย นลินีเป็นลูกสาวของอาดำเกิง หุ้นส่วนใหญ่บริษัทของคุณพ่อ ที่ท่านสนับสนุนให้เขากลับมาเมืองไทยเพื่อหมั้นหมายด้วย

วันนี้หลังเจอกันในที่ประชุมใหญ่ของบริษัทในเครือแล้ว นลินีก็พยายามจะตามเขาเข้ามาที่บริษัทนี้ด้วย หล่อนอ้างว่าอยากมาดูบริษัทเปิดใหม่ของเขา เพราะสงสัยว่าทำไมลูกชายของประธานใหญ่แห่ง เอส.พี.แอล กรุ๊ป ถึงเลือกมาตั้งบริษัทเล็ก ๆ อยู่ที่นี่ ทั้งที่คุณศุภฤกษ์ผู้เป็นบิดามีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ซึ่งกำลังรอให้ศรศิลป์ผู้เป็นลูกชายคนเดียวเข้าไปบริหารอยู่ 

ศรศิลป์รู้ดีว่านลินีจะมาไม้ไหนกับตน เขาเคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อนขณะเรียนอยู่ที่อังกฤษ ตอนนั้นนลินีเป็นสาวสวยที่ฮ็อตมาก หล่อนสวยและร้อนแรงชนิดที่หนุ่มคนไหนเดินผ่านเป็นต้องพากันเหลียวหลังมามอง จากความสวยและเก่งสารพัดของหล่อนนี่เอง นลินีจึงชอบคบแต่กับคนมีเงิน หล่อนเคยพยายามตามตื้อเขาอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะไปเจอกับเศรษฐีชาวอังกฤษคนหนึ่งเข้า หลังจากนั้นเขาก็กลับเมืองไทย ส่วนนลินีก็หายไปจากชีวิตของเขาโดยสิ้นเชิง

ได้ข่าวอีกทีว่าหล่อนถูกเศรษฐีเมืองผู้ดีจอมปลอมหลอก จึงกลับมาเมืองไทยเหมือนนกปีกหัก สังคมไฮโซเมืองไทยมันแคบ นลินีจึงพยายามจะหวนกลับมาหาเขาใหม่ โดยใช้สายสัมพันธ์ทางธุรกิจที่พ่อของตัวเองกับพ่อของเขามีหุ้นส่วนร่วมกันอยู่ เป็นสะพานทอดข้าม และพ่อของเขาก็ดันไปเห็นดีเห็นงามกับหล่อนด้วย

เขาไม่เคยนึกชอบผู้หญิงแบบนลินีมาก่อน ในชีวิตนี้ไม่เคยสนใจคิดอยากจะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น พอใจในความโสดที่เป็นอิสระของตัวเองมากที่สุด แต่นลินียังพยายามจะเข้ามาตอแยอยู่ 

เมื่อเช้านี้เอง ศรศิลป์ก็เพิ่งทำความเข้าใจกับบิดาทางโทรศัพท์ เรื่องที่นลินีจะขอเข้ามาช่วยงานในบริษัทศรศิลป์โปรดักชั่น แต่ถูกเขาปฏิเสธไป ยังความโมโหเป็นฟืนเป็นไฟมาให้แก่บิดาเป็นอันมาก

(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่