1เมื่อดอกรักบาน เรื่องย่อ สายไหม สาวเชียงใหม่วัยสิบแปดปีกำลังลังเลใจที่ถูก ชาย โชติรส เพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เล็กขอแต่งงาน เพราะเคยเป็นม่ายขันหมากเธอจึงไปขอคำปรึกษาจาก สายบัว ผู้เป็นแม่ซึ่งเห็นดีเห็นงามด้วย แต่การแต่งงานขอทั้งคู่ก็ต้องชะงัก เมื่อพ่อแม่ของฝ่ายชายอ้างว่าฤกษ์แต่งงานปีนี้ไม่มี แต่ความจริงแล้วมันไม่มีทางมีเลย เพราะคนทั้งคู่หาใช่เนื้อคู่กันไม่ ในเย็นวันนั้นสายไหมได้เจอกับ กานท์ การุณย์ นักศึกษาหนุ่มหล่อจากบางกอกผู้ซึ่งรู้สึกเหมือนถูกศรรักปักอกทันทีที่เห็นสายไหม กานท์รีบหาข้อมูลจากเพื่อนรักชื่อ ตะวัน และตื๊อให้พาไปที่บ้านของสายไหม ตะวันเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้พูดคุยกันตามลำพัง กานท์รีบบรรยายความรู้สึกและความรักให้สายไหมรับรู้ทันที แม้จะแสดงท่าทีว่าไม่เชื่อ แต่ในใจสายไหมรู้ดีว่าตนเกิดรักแรกพบเข้าให้แล้ว สายไหมโกหกแม่ว่าตะวันชวนไปงานเลี้ยง สายบัวไม่อนุญาตเพราะวันนั้นสายไหมต้องเข้าพิธีหมั้นกับชาย โดยที่สายไหมไม่รู้มาก่อน ชายเห็นท่าไม่ดีจึงขอคุยกับสายไหมตามลำพัง และต้องพบกับความจริงที่เจ็บปวดว่าเธอไม่เคยคิดจะรักเขาแบบชู้สาวเลย ชายยอมรับความจริง และเข้าใจว่าสายไหมชอบพออยู่กับตะวัน เคลีย หญิงสาวที่มาติดพันกานท์ เจอกานท์ระหว่างทางและต้องการให้เขาพาเธอไปรับชุดสำหรับงาน กานท์จึงขอให้ตะวันไปรับสายไหมแทน ตะวันรับปากโดยมีข้อแม้ว่า กานท์ต้องบอกความในในของตะวันที่หลงรักเคลียให้เธอรู้ กานท์รับปาก ในคืนนั้นกานท์มีความสุขมากที่ได้อยู่กับสายไหม เขาขอให้เธอตอบรับรัก ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มาเสนอหน้าให้เห็นอีก เคลียเห็นท่าทีที่กานท์แสดงออกต่อสายไหมเยี่ยงคนรักก็เจ็บใจ เลยบอกให้กานท์รู้ว่าสายไหมเป็นแม่ม่าย กานท์บอกให้เคลียกลับบ้าน เคลียวิ่งร้องไห้ออกไปโดยมีตะวันวิ่งตามไปด้วย ระหว่างทางฝนตกหนัก ตะวันพาเคลียไปหลบฝนในกระท่อมและพูดปลอบใจ ทำให้เคลียเคลิบเคลิ้มและตกเป็นของเขาในที่สุด หลังจากนั้นกานท์ถามตะวันเรื่องของสายไหมจนได้รู้ว่า สายไหมเคยแต่งงานกับ พ่อเลี้ยงอินทร เพราะต้องการช่วยแม่ แต่คืนวันส่งตัวพ่อเลี้ยงอินทรถูกคู่อริยิงตาย ถึงแม้เคลียจะเป็นของตะวันแล้ว แต่ใจของเคลียยังคงคิดถึงแต่กานท์ ทำให้เคลียหนีออกจากบ้านและขอตามกานท์ไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วย
โดยอ้างว่าพ่อเลี้ยงจะข่มขืน แต่ที่จริงแล้วเธอหนีตะวันที่พาพ่อแม่มาสู่ขอเธอนั่นเอง เมื่อตะวันได้ยินข่าวว่าเคลียหนีไปกับกานท์ ก็มาคาดคั้นเอากับสายไหมที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพื่อความสบายใจสายไหมจึงรับปากว่าจะเขียนจดหมายถึงกานท์ให้มายืนยันความบริสุทธิ์ หากเขาไม่มาเธอจะพาตะวันไปหาเขาเอง กานท์อ่านจดหมายของสายไหมแล้วจึงรีบออกเดินทาง เคลียลงทุนกราบขอร้องให้กานท์ปิดเรื่องของเธอไว้ เมื่อถึงเชียงใหม่ตะวันก็ซ้อมกานท์จนน่วม เมื่อตะวันถามกานท์ถึงเรื่องของเคลีย กานท์จึงโกหกไปว่าเคลียไม่ได้อยู่กับตน ตะวันจึงหยุดและขอโทษ พร้อมจะลงไปตามหาเคลียที่บางกอก สายไหมฝ่าสายฝนมาหากานท์ กานท์ถอดเสื้อของตนให้หญิงสาวเปลี่ยน ทันใดนั้นฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงลงมา สายไหมกระโดดเข้าหาชายหนุ่มด้วยความตกใจ บรรยากาศพาให้คนทั้งสองเดินตามทางที่หัวใจปรารถนา สายบัวออกมาตามหาสายไหม แต่ตะวันออกมาช่วยแก้ต่างให้ และชวนสายบัวเดินกลับทางอ้อม เพื่อให้สายไหมกลับถึงบ้านก่อน เมื่อกานท์กลับมากรุงเทพฯ พบว่า เคลียท้องและไม่ยอมบอกว่าใครเป็นพ่อ แม่ของกานท์คิดว่าเขาเป็นพ่อของเด็กเลยบังคับให้รับผิดชอบ ขณะนั้นสายไหมมาหากานท์ที่กรุงเทพฯ แต่กลับเจอเคลียมาต้อนรับในฐานะภรรยา และสภาพท้องโตใกล้คลอด สายไหมใจสลายเดินไปสลบหน้าบ้านชาย ทั้งชายและตะวันที่มาขอชายให้ช่วยตามหาสายไหม รีบพาสายไหมไปโรงพยายามและพบว่าเธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆ เมื่อได้สติสายไหมก็หนีกลับบ้าน และได้รู้ว่าแม่เธอป่วยเสียชีวิตแล้ว สายไหมคิดฆ่าตัวตาย แต่ตะวันตามมาช่วยไว้ทัน ตะวันรับปากสายไหมจะรับเป็นพ่อเด็กและดูแลเธอเอง ส่วนกานท์เมื่อคาดคั้นถามเคลียจึงรู้ว่าสายไหมมาหาตนที่บ้าน แต่เคลียโกหกว่าเด็กในท้องเคลียเป็นลูกของกานท์ กานท์จึงรีบขึ้นเชียใหม่ไปปรับความเข้าใจกับสายไหม แต่สายไปเพราะเธอกำลังจะแต่งงานกับตะวัน กานท์ถูกตะวันซ้อมจนนอนจมกองเลือดเหมือนหมาข้างถนน เหตุการณ์ทั้งหมดกานท์โทษเคลียคนเดียว กานท์บอกจะรับเป็นพ่อเด็ก ส่วนเคลียกานท์ขอไม่เกี่ยวข้องอีกต่อไป เคลียช้ำใจเมื่อคลอดลูกเสร็จก็หนีไปทิ้งแค่จดหมาย ที่บอกความจริงว่าตะวันคือพ่อของเด็ก และเคลียก็คิดจะฆ่าตัวตาย
ชายผ่านมาและได้ช่วยเธอไว้ ชายคอยเป็นเพื่อนและปลอบใจเคลียตลอด ส่วนกานท์ที่ตามหาเคลียเห็นรองเท้าของเคลียถอดทิ้งไว้ที่สะพานก็เข้าใจผิดว่าเธอตายแล้ว 22 ปีผ่านไป สุริยน ลูกชายของเคลียและตะวัน ได้เดินทางมาเชียงใหม่เพื่อทำงานและปราบปรามการทุจริต เขาได้รู้จักกับ พ่อเลี้ยงเรืองฤทธิ์ ซึ่งกำลังวางแผนใส่ร้ายว่าตะวันลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย เพื่อจะฮุบกิจการของตะวันและ สายน้ำผึ้ง ลูกสาวซึ่งแท้จริงแล้วคือลูกของกานท์กับสายไหมมาเป็นของตน ทำให้สุริยนและตะวันมีเรื่องบาดหมางถึงขั้นเลือดตกยางออกกันหลายครั้ง ระหว่างที่พยายามตามหาคนผิด สุริยนก็ได้ตกหลุมรักสายน้ำผึ้ง และพยายามทุกวิถีทางที่จะได้พบกับเธอ แต่เมื่อสายไหมและตะวันรู้ว่าเขาเป็นลูกกานท์ก็สั่งให้สายน้ำผึ้งเลิกคบ และบังคับให้เธอหมั้นกับพ่อเลี้ยงเรืองฤทธิ์ทันที ส่วนสุริยนถูก รัญจวน น้องสาวเรืองฤทธิ์และเมียเก็บของตะวันพยายามปล้ำในป่าแต่หนีมาได้ ทางด้านรัญจวนกลับโดน เมฆ ลูกน้องของเรืองฤทธิ์ข่มขืน และถูกยิงตายก่อนที่จะได้พูดความจริง ตะวันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นฝีมือของสุริยน สั่งให้ลูกน้องจับตัวสุริยนและซ้อมแทบปางตาย เมื่อกานท์ทราบข่าวก็รีบมาหาลูกชาย ระหว่างทางได้เจอกับเคลียที่ตอนนี้แต่งงานกับชายและย้ายไปอยู่เมืองนอก ทั้งสองจึงขอตามกานท์ไปด้วย เมื่อถึงเชียงใหม่ กานท์บอกความจริงเรื่องที่สุริยนคือลูกของตะวัน โดยมีเคลียช่วยยืนยันอีกคน ทันใดนั้นเรืองฤทธิ์ก็บุกยิงตะวัน แต่ก็ถูกสุริยนฆ่าตาย ตะวันได้กอดและตายในอ้อมกอดของลูกชายตัวเอง เคลียสารภาพความจริงทุกอย่างกับสายไหมว่าเธอและกานท์ไม่เคยมีอะไรกัน และสุริยนก็คือลูกของเธอกับตะวัน สายไหมจึงเผยความจริงว่าสายน้ำผึ้งก็มิใช่ลูกของเธอกับตะวัน แต่เป็นลูกของเธอกับกานท์ กานท์จึงทราบความจริง กานท์ตามง้อสายไหมและยืนยันกับเธอว่าเขายังรักเธอไม่เปลี่ยนแปลง ด้านสุริยนก็สัญญากับสายน้ำผึ้งว่าจะรักและภักดีกับเธอตลอดไป หนุ่มสาวสองวัยกำลังตกอยู่ในห้วงรักอีกครั้ง ใจจึงเบิกบานราวกับดอกรักยามได้สัมผัสกับฝนแรก และเมื่อเมฆฝนเคลื่อนผ่านไป ดอกรักจึงแย้มกลีบและบานสะพรั่งดูสะอาดหมดจดงดงามและมั่นคง ณ ที่แห่งนั้น "สันกำแพง"
2ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เรื่องย่อ
พุทธศักราช ๒๑๐๖ พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ทรงกรีฑาทัพเข้าตีราชอาณาจักรอยุธยา โดยได้เข้ายึดครองหัวเมืองฝ่ายเหนืออันมี “เมืองพิษณุโลก” เป็นราชธานี ได้เป็นผลสำเร็จ ครั้งนั้น “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” (เจ้าแผ่นดินครองเมืองพิษณุโลก - พระราชบิดาของสมเด็จพระนเรศวร หรือ พระองค์ดำ) จำต้องยอมอ่อนน้อมต่อพระเจ้าบุเรงนอง เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตอาณาประชาราษฎร์มิให้ต้องมีภัยอันตราย และจำต้องยอมร่วมกระบวนทัพพม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยา
ศึกครั้งนั้น “สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ” เจ้าแผ่นดินอยุธยา ทรงยอมเจรจาหย่าศึกกับพม่ารามัญ และ ถวายช้างเผือก ๔ เชือก ทั้งให้ “สมเด็จพระราเมศวร” (ราชโอรส) เสด็จไปประทับยังนครหงสาวดีตามพระประสงค์ของกษัตริย์พม่า ข้าง “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” ก็จำต้องถวายตัว “สมเด็จพระนเรศวร” ราชโอรสองค์โต ซึ่งมีพระชนมายุได้เพียง ๙ ชันษา ไปเป็นองค์ประกัน ประทับยังหงสาประเทศเช่นกัน
ด้วยพระปรีชาสามารถด้านพิชัยยุทธ ทั้งยังองอาจกล้าหาญ “สมเด็จพระนเรศวร” จึงทรงเป็นที่รักใคร่ของ “พระเจ้าหงสาวดี บุเรงนอง” ประดุจพระราชบุตรร่วมสายสันตติวงศ์ แลทรงมีสายพระเนตรยาวไกล เห็นว่าสืบไปเบื้องหน้า “สมเด็จพระนเรศวร” จะได้ขึ้นเป็นใหญ่ในอุษาคเนย์ประเทศ จึงทรงปลูกฝังให้สมเด็จพระนเรศวรผูกพระทัยรักแผ่นดินหงสา เพื่อจะได้อาศัยเป็นผู้สืบอำนาจอุปถัมภ์ค้ำชูราชอาณาจักรซึ่งพระองค์ทรงสถาปนาขึ้นด้วยความยากลำบาก แลหาได้วางพระทัยในพระราชโอรส “พระเจ้านันทบุเรง” และพระราชนัดดา “มังกยอชวา” ด้วยทรงเล็งเห็นว่าราชนิกุลทั้งสองพระองค์นั้น หาได้เป็นผู้ทรงคุณธรรม เหตุนี้จึงเป็นชนวนให้ “พระเจ้านันทบุเรง” และ “ราชโอรสมังกยอชวา” ขัดพระทัยทั้งผูกจิตริษยา “สมเด็จพระนเรศวร” ตลอดมา
นับแต่เริ่มเข้าประทับในหงสานคร พระเจ้าบุเรงนองทรงโปรดให้ “พระมหาเถรคันฉ่อง” พระรามัญผู้มากด้วยวิทยาคุณและเจนจบในตำราพิชัยสงคราม เป็นพระอาจารย์ถ่ายทอดศิลปะวิทยาการแก่ “สมเด็จพระนเรศวร” ยังผลให้ยุพราชอยุธยาเชี่ยวชาญการยุทธ กลช้าง กลม้า กลศึก ทั้งข้างอยุธยาและข้างพม่ารามัญหาผู้เสมอเหมือน
พุทธศักราช ๒๑๑๒ (๖ ปีต่อมา) “สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ” เจ้าแผ่นดินอยุธยาเสด็จออกผนวช แลสถาปนา “สมเด็จพระมหินทร์” ราชโอรสองค์รองขึ้นเสวยราชสมบัติสืบแทน “สมเด็จพระมหินทร์” ทรงคลางแคลงพระทัยในความจงรักภักดีของ “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” มาแต่ครั้งสงครามชิงช้างเผือก เมื่อ ๖ ปีก่อน ขณะที่เจ้าแผ่นดินพิษณุโลกก็หาได้ยำเกรงสมเด็จพระมหินทร์เช่นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
กษัติร์ย์อยุธยาพระองค์ใหม่ จึงหันไปสมคบกับ “สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช” พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตล้านช้างร่มขาว ร่วมกันเข้าตีเมืองพิษณุโลก แต่กระทำการมิสำเร็จ “พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง” เห็นเชิงสบโอกาสจึงยกทัพใหญ่เข้าตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ ครั้งนั้น “สมเด็จพระนเรศวร” ร่วมโดยเสด็จมากับทัพหงสา แลทรงประทับอยู่เพียงเมืองพิษณุโลก มีเพียง “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” โดยเสด็จกษัตริย์หงสาลงมากรุงศรีอยุธยา ด้วยตั้งพระทัยจะเกลี้ยกล่อมให้ “สมเด็จพระมหินทร์” ยอมสวามิภักดิ์พระเจ้าบุเรงนอง เพราะเล็งเห็นว่าอยุธยายากจะต่อรบเอาชัย แม้ศึกครั้งนั้น “สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ” ทรงลาผนวชมาบัญชาการรบด้วยพระองค์เอง แต่อยู่ได้มิช้านานก็เสด็จสวรรคตระหว่างศึก กรุงศรีอยุธยาก็เสียแก่พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง
ข้าง “สมเด็จพระนเรศวร” ซึ่งประทับอยู่ยั้งยังนครพิษณุโลกแต่ต้นศึก ทรงรู้ซึ้งว่า “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” พระราชบิดามิได้คิดคดเป็นกบฏต่อแผ่นดิน แต่ก็หาได้เห็นด้วยกับการอ่อนข้อสวามิภักดิ์พม่ารามัญ น้ำพระทัยอันมั่นคง เด็ดเดี่ยวนั้น ถึงแม้จะมิได้แพร่งพราย แต่ก็ประจักษ์อยู่ในหมู่ข้าราชบริพารใกล้ชิดผู้รักและหวงแหนในเอกราชของแผ่นดิน จึงพากันนิยมในน้ำพระทัย แลพร้อมใจถวายความจงรักภักดีแต่นั้นมา
ครั้นเสร็จศึกอยุธยาพุทธศักราช ๒๑๑๒ “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” ทรงถวาย “พระสุพรรณกัลยา” (พระพี่นางสมเด็จพระนเรศวร) แก่พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง และ “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา ครั้นลุปีพุทธศักราช ๒๑๑๔ “พระสุพรรณกัลยา” แลขอตัว “สมเด็จพระนเรศวร” จากพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เสด็จกลับยังเมืองพิษณุโลก เพื่อช่วยราชการข้างอยุธยา และโปรดให้สมเด็จพระนเรศวรเสวยราชย์ครอง “เมืองพิษณุโลก” เป็นใหญ่เหนือหัวเมืองเหนือทั้งปวง 3ศรีอโยธยา เรื่องย่อ ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะดำเนินเรื่องผ่านยุคปัจจุบันจากมุมมองของตัวละคร 4 คน คือ ' ดร.พิมาน ขัติยมงคล ' (อนันดา เอเวอริ่งแฮม) อาจารย์สอนวิชาโบราณคดี , ' วายุ เกรียงไกรฤทธิ์ ' ดารานักร้องแนว K-POP (จิรวิชญ์พงษ์ไพจิตร) , ' รองศาสตราจารย์ ม.ล.พวงแก้ว อุทัยวงษ์ ' อาจารย์สอนประวัติศาสตร์ (รัดเกล้า อามระดิษ) และ ' ดร.อาคม พงษ์อยุธย์' นักโบราณคดี (อาณัตพล ศิริชุมแสง) ซึ่งชะตากรรมได้นำพาทั้ง 4 ชีวิตเข้ามาพัวพันในเหตุการณ์ลึกลับอันน่าพิศวง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนต้องค้นหาข้อเท็จจริงอันยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์และ ค้นพบความจริงในอดีตชาติของตนเอง
ทั้งนี้ ในอดีตจะดำเนินเรื่องผ่าน ๓ รัชกาลสุดท้ายแห่งอาณาจักร "ศรีอยุธยา" จนถึงในปี พ.ศ.๒๓๑๐
ถ้าละครเรี่องนี้ถูกขึ้นมาในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นลองแคส(ในอนาคต)
โดยอ้างว่าพ่อเลี้ยงจะข่มขืน แต่ที่จริงแล้วเธอหนีตะวันที่พาพ่อแม่มาสู่ขอเธอนั่นเอง เมื่อตะวันได้ยินข่าวว่าเคลียหนีไปกับกานท์ ก็มาคาดคั้นเอากับสายไหมที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพื่อความสบายใจสายไหมจึงรับปากว่าจะเขียนจดหมายถึงกานท์ให้มายืนยันความบริสุทธิ์ หากเขาไม่มาเธอจะพาตะวันไปหาเขาเอง กานท์อ่านจดหมายของสายไหมแล้วจึงรีบออกเดินทาง เคลียลงทุนกราบขอร้องให้กานท์ปิดเรื่องของเธอไว้ เมื่อถึงเชียงใหม่ตะวันก็ซ้อมกานท์จนน่วม เมื่อตะวันถามกานท์ถึงเรื่องของเคลีย กานท์จึงโกหกไปว่าเคลียไม่ได้อยู่กับตน ตะวันจึงหยุดและขอโทษ พร้อมจะลงไปตามหาเคลียที่บางกอก สายไหมฝ่าสายฝนมาหากานท์ กานท์ถอดเสื้อของตนให้หญิงสาวเปลี่ยน ทันใดนั้นฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงลงมา สายไหมกระโดดเข้าหาชายหนุ่มด้วยความตกใจ บรรยากาศพาให้คนทั้งสองเดินตามทางที่หัวใจปรารถนา สายบัวออกมาตามหาสายไหม แต่ตะวันออกมาช่วยแก้ต่างให้ และชวนสายบัวเดินกลับทางอ้อม เพื่อให้สายไหมกลับถึงบ้านก่อน เมื่อกานท์กลับมากรุงเทพฯ พบว่า เคลียท้องและไม่ยอมบอกว่าใครเป็นพ่อ แม่ของกานท์คิดว่าเขาเป็นพ่อของเด็กเลยบังคับให้รับผิดชอบ ขณะนั้นสายไหมมาหากานท์ที่กรุงเทพฯ แต่กลับเจอเคลียมาต้อนรับในฐานะภรรยา และสภาพท้องโตใกล้คลอด สายไหมใจสลายเดินไปสลบหน้าบ้านชาย ทั้งชายและตะวันที่มาขอชายให้ช่วยตามหาสายไหม รีบพาสายไหมไปโรงพยายามและพบว่าเธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆ เมื่อได้สติสายไหมก็หนีกลับบ้าน และได้รู้ว่าแม่เธอป่วยเสียชีวิตแล้ว สายไหมคิดฆ่าตัวตาย แต่ตะวันตามมาช่วยไว้ทัน ตะวันรับปากสายไหมจะรับเป็นพ่อเด็กและดูแลเธอเอง ส่วนกานท์เมื่อคาดคั้นถามเคลียจึงรู้ว่าสายไหมมาหาตนที่บ้าน แต่เคลียโกหกว่าเด็กในท้องเคลียเป็นลูกของกานท์ กานท์จึงรีบขึ้นเชียใหม่ไปปรับความเข้าใจกับสายไหม แต่สายไปเพราะเธอกำลังจะแต่งงานกับตะวัน กานท์ถูกตะวันซ้อมจนนอนจมกองเลือดเหมือนหมาข้างถนน เหตุการณ์ทั้งหมดกานท์โทษเคลียคนเดียว กานท์บอกจะรับเป็นพ่อเด็ก ส่วนเคลียกานท์ขอไม่เกี่ยวข้องอีกต่อไป เคลียช้ำใจเมื่อคลอดลูกเสร็จก็หนีไปทิ้งแค่จดหมาย ที่บอกความจริงว่าตะวันคือพ่อของเด็ก และเคลียก็คิดจะฆ่าตัวตาย
ชายผ่านมาและได้ช่วยเธอไว้ ชายคอยเป็นเพื่อนและปลอบใจเคลียตลอด ส่วนกานท์ที่ตามหาเคลียเห็นรองเท้าของเคลียถอดทิ้งไว้ที่สะพานก็เข้าใจผิดว่าเธอตายแล้ว 22 ปีผ่านไป สุริยน ลูกชายของเคลียและตะวัน ได้เดินทางมาเชียงใหม่เพื่อทำงานและปราบปรามการทุจริต เขาได้รู้จักกับ พ่อเลี้ยงเรืองฤทธิ์ ซึ่งกำลังวางแผนใส่ร้ายว่าตะวันลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย เพื่อจะฮุบกิจการของตะวันและ สายน้ำผึ้ง ลูกสาวซึ่งแท้จริงแล้วคือลูกของกานท์กับสายไหมมาเป็นของตน ทำให้สุริยนและตะวันมีเรื่องบาดหมางถึงขั้นเลือดตกยางออกกันหลายครั้ง ระหว่างที่พยายามตามหาคนผิด สุริยนก็ได้ตกหลุมรักสายน้ำผึ้ง และพยายามทุกวิถีทางที่จะได้พบกับเธอ แต่เมื่อสายไหมและตะวันรู้ว่าเขาเป็นลูกกานท์ก็สั่งให้สายน้ำผึ้งเลิกคบ และบังคับให้เธอหมั้นกับพ่อเลี้ยงเรืองฤทธิ์ทันที ส่วนสุริยนถูก รัญจวน น้องสาวเรืองฤทธิ์และเมียเก็บของตะวันพยายามปล้ำในป่าแต่หนีมาได้ ทางด้านรัญจวนกลับโดน เมฆ ลูกน้องของเรืองฤทธิ์ข่มขืน และถูกยิงตายก่อนที่จะได้พูดความจริง ตะวันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นฝีมือของสุริยน สั่งให้ลูกน้องจับตัวสุริยนและซ้อมแทบปางตาย เมื่อกานท์ทราบข่าวก็รีบมาหาลูกชาย ระหว่างทางได้เจอกับเคลียที่ตอนนี้แต่งงานกับชายและย้ายไปอยู่เมืองนอก ทั้งสองจึงขอตามกานท์ไปด้วย เมื่อถึงเชียงใหม่ กานท์บอกความจริงเรื่องที่สุริยนคือลูกของตะวัน โดยมีเคลียช่วยยืนยันอีกคน ทันใดนั้นเรืองฤทธิ์ก็บุกยิงตะวัน แต่ก็ถูกสุริยนฆ่าตาย ตะวันได้กอดและตายในอ้อมกอดของลูกชายตัวเอง เคลียสารภาพความจริงทุกอย่างกับสายไหมว่าเธอและกานท์ไม่เคยมีอะไรกัน และสุริยนก็คือลูกของเธอกับตะวัน สายไหมจึงเผยความจริงว่าสายน้ำผึ้งก็มิใช่ลูกของเธอกับตะวัน แต่เป็นลูกของเธอกับกานท์ กานท์จึงทราบความจริง กานท์ตามง้อสายไหมและยืนยันกับเธอว่าเขายังรักเธอไม่เปลี่ยนแปลง ด้านสุริยนก็สัญญากับสายน้ำผึ้งว่าจะรักและภักดีกับเธอตลอดไป หนุ่มสาวสองวัยกำลังตกอยู่ในห้วงรักอีกครั้ง ใจจึงเบิกบานราวกับดอกรักยามได้สัมผัสกับฝนแรก และเมื่อเมฆฝนเคลื่อนผ่านไป ดอกรักจึงแย้มกลีบและบานสะพรั่งดูสะอาดหมดจดงดงามและมั่นคง ณ ที่แห่งนั้น "สันกำแพง"
2ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เรื่องย่อ
พุทธศักราช ๒๑๐๖ พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ทรงกรีฑาทัพเข้าตีราชอาณาจักรอยุธยา โดยได้เข้ายึดครองหัวเมืองฝ่ายเหนืออันมี “เมืองพิษณุโลก” เป็นราชธานี ได้เป็นผลสำเร็จ ครั้งนั้น “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” (เจ้าแผ่นดินครองเมืองพิษณุโลก - พระราชบิดาของสมเด็จพระนเรศวร หรือ พระองค์ดำ) จำต้องยอมอ่อนน้อมต่อพระเจ้าบุเรงนอง เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตอาณาประชาราษฎร์มิให้ต้องมีภัยอันตราย และจำต้องยอมร่วมกระบวนทัพพม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยา
ศึกครั้งนั้น “สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ” เจ้าแผ่นดินอยุธยา ทรงยอมเจรจาหย่าศึกกับพม่ารามัญ และ ถวายช้างเผือก ๔ เชือก ทั้งให้ “สมเด็จพระราเมศวร” (ราชโอรส) เสด็จไปประทับยังนครหงสาวดีตามพระประสงค์ของกษัตริย์พม่า ข้าง “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” ก็จำต้องถวายตัว “สมเด็จพระนเรศวร” ราชโอรสองค์โต ซึ่งมีพระชนมายุได้เพียง ๙ ชันษา ไปเป็นองค์ประกัน ประทับยังหงสาประเทศเช่นกัน
ด้วยพระปรีชาสามารถด้านพิชัยยุทธ ทั้งยังองอาจกล้าหาญ “สมเด็จพระนเรศวร” จึงทรงเป็นที่รักใคร่ของ “พระเจ้าหงสาวดี บุเรงนอง” ประดุจพระราชบุตรร่วมสายสันตติวงศ์ แลทรงมีสายพระเนตรยาวไกล เห็นว่าสืบไปเบื้องหน้า “สมเด็จพระนเรศวร” จะได้ขึ้นเป็นใหญ่ในอุษาคเนย์ประเทศ จึงทรงปลูกฝังให้สมเด็จพระนเรศวรผูกพระทัยรักแผ่นดินหงสา เพื่อจะได้อาศัยเป็นผู้สืบอำนาจอุปถัมภ์ค้ำชูราชอาณาจักรซึ่งพระองค์ทรงสถาปนาขึ้นด้วยความยากลำบาก แลหาได้วางพระทัยในพระราชโอรส “พระเจ้านันทบุเรง” และพระราชนัดดา “มังกยอชวา” ด้วยทรงเล็งเห็นว่าราชนิกุลทั้งสองพระองค์นั้น หาได้เป็นผู้ทรงคุณธรรม เหตุนี้จึงเป็นชนวนให้ “พระเจ้านันทบุเรง” และ “ราชโอรสมังกยอชวา” ขัดพระทัยทั้งผูกจิตริษยา “สมเด็จพระนเรศวร” ตลอดมา
นับแต่เริ่มเข้าประทับในหงสานคร พระเจ้าบุเรงนองทรงโปรดให้ “พระมหาเถรคันฉ่อง” พระรามัญผู้มากด้วยวิทยาคุณและเจนจบในตำราพิชัยสงคราม เป็นพระอาจารย์ถ่ายทอดศิลปะวิทยาการแก่ “สมเด็จพระนเรศวร” ยังผลให้ยุพราชอยุธยาเชี่ยวชาญการยุทธ กลช้าง กลม้า กลศึก ทั้งข้างอยุธยาและข้างพม่ารามัญหาผู้เสมอเหมือน
พุทธศักราช ๒๑๑๒ (๖ ปีต่อมา) “สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ” เจ้าแผ่นดินอยุธยาเสด็จออกผนวช แลสถาปนา “สมเด็จพระมหินทร์” ราชโอรสองค์รองขึ้นเสวยราชสมบัติสืบแทน “สมเด็จพระมหินทร์” ทรงคลางแคลงพระทัยในความจงรักภักดีของ “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” มาแต่ครั้งสงครามชิงช้างเผือก เมื่อ ๖ ปีก่อน ขณะที่เจ้าแผ่นดินพิษณุโลกก็หาได้ยำเกรงสมเด็จพระมหินทร์เช่นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
กษัติร์ย์อยุธยาพระองค์ใหม่ จึงหันไปสมคบกับ “สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช” พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตล้านช้างร่มขาว ร่วมกันเข้าตีเมืองพิษณุโลก แต่กระทำการมิสำเร็จ “พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง” เห็นเชิงสบโอกาสจึงยกทัพใหญ่เข้าตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ ครั้งนั้น “สมเด็จพระนเรศวร” ร่วมโดยเสด็จมากับทัพหงสา แลทรงประทับอยู่เพียงเมืองพิษณุโลก มีเพียง “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” โดยเสด็จกษัตริย์หงสาลงมากรุงศรีอยุธยา ด้วยตั้งพระทัยจะเกลี้ยกล่อมให้ “สมเด็จพระมหินทร์” ยอมสวามิภักดิ์พระเจ้าบุเรงนอง เพราะเล็งเห็นว่าอยุธยายากจะต่อรบเอาชัย แม้ศึกครั้งนั้น “สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ” ทรงลาผนวชมาบัญชาการรบด้วยพระองค์เอง แต่อยู่ได้มิช้านานก็เสด็จสวรรคตระหว่างศึก กรุงศรีอยุธยาก็เสียแก่พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง
ข้าง “สมเด็จพระนเรศวร” ซึ่งประทับอยู่ยั้งยังนครพิษณุโลกแต่ต้นศึก ทรงรู้ซึ้งว่า “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” พระราชบิดามิได้คิดคดเป็นกบฏต่อแผ่นดิน แต่ก็หาได้เห็นด้วยกับการอ่อนข้อสวามิภักดิ์พม่ารามัญ น้ำพระทัยอันมั่นคง เด็ดเดี่ยวนั้น ถึงแม้จะมิได้แพร่งพราย แต่ก็ประจักษ์อยู่ในหมู่ข้าราชบริพารใกล้ชิดผู้รักและหวงแหนในเอกราชของแผ่นดิน จึงพากันนิยมในน้ำพระทัย แลพร้อมใจถวายความจงรักภักดีแต่นั้นมา
ครั้นเสร็จศึกอยุธยาพุทธศักราช ๒๑๑๒ “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” ทรงถวาย “พระสุพรรณกัลยา” (พระพี่นางสมเด็จพระนเรศวร) แก่พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง และ “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา ครั้นลุปีพุทธศักราช ๒๑๑๔ “พระสุพรรณกัลยา” แลขอตัว “สมเด็จพระนเรศวร” จากพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เสด็จกลับยังเมืองพิษณุโลก เพื่อช่วยราชการข้างอยุธยา และโปรดให้สมเด็จพระนเรศวรเสวยราชย์ครอง “เมืองพิษณุโลก” เป็นใหญ่เหนือหัวเมืองเหนือทั้งปวง 3ศรีอโยธยา เรื่องย่อ ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะดำเนินเรื่องผ่านยุคปัจจุบันจากมุมมองของตัวละคร 4 คน คือ ' ดร.พิมาน ขัติยมงคล ' (อนันดา เอเวอริ่งแฮม) อาจารย์สอนวิชาโบราณคดี , ' วายุ เกรียงไกรฤทธิ์ ' ดารานักร้องแนว K-POP (จิรวิชญ์พงษ์ไพจิตร) , ' รองศาสตราจารย์ ม.ล.พวงแก้ว อุทัยวงษ์ ' อาจารย์สอนประวัติศาสตร์ (รัดเกล้า อามระดิษ) และ ' ดร.อาคม พงษ์อยุธย์' นักโบราณคดี (อาณัตพล ศิริชุมแสง) ซึ่งชะตากรรมได้นำพาทั้ง 4 ชีวิตเข้ามาพัวพันในเหตุการณ์ลึกลับอันน่าพิศวง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนต้องค้นหาข้อเท็จจริงอันยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์และ ค้นพบความจริงในอดีตชาติของตนเอง
ทั้งนี้ ในอดีตจะดำเนินเรื่องผ่าน ๓ รัชกาลสุดท้ายแห่งอาณาจักร "ศรีอยุธยา" จนถึงในปี พ.ศ.๒๓๑๐