คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ผบช.น.ยืนยัน สามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมได้ โดยจะใช้กำลังตามสถานการณ์ความจำเป็น และไม่มีนโยบายใช้กระสุนจริง
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ระบุว่า ที่ผ่านมา ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ส่งหนังสือถึงกองทัพบก ขอสนับสนุนกำลังทหารให้มาช่วยปฎิบัติการ เพราะตามประกาศของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เจ้าหน้าที่ทหาร จัดเป็นหนึ่งในเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ มีสิทธิตามกฎหมาย
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/6614239951934802
ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ บุกค้นรถพยาบาลการ์ด พบอาวุธหลายชนิด ยึดเป็นของกลางเร่งตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.54 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปราม สน.สำราญราษฎร์ ได้ทำการเข้าตรวจสอบภายในรถพยาบาลของกลุ่มการ์ด We Volunteer ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถ วัดมหรรณพารามวรวิหาร เขตพระนคร กทม. ผลจากการตรวจค้นเบื้องต้นพบสิ่งเทียมวัตถุระเบิด หัวน็อต หนังสติ๊ก วิทยุสื่อสาร และ เกราะอ่อนพลาสติก ฯลฯ
พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ เผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมดรวมทั้งรถพยาบาลดังกล่าวไปยังโรงพัก โดยยังอยู่ระหว่างการตรวจค้นเพิ่มเติมอย่างละเอียด
Cr.จิตอาสาข่าว
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/6614140418611422
ตำรวจสรุปภาพรวมการชุมนุม 7 สิงหา จับผู้กระทำผิดเบื้องต้น 12 คนตระเตรียมสิ่งเทียมอาวุธ ยิงหนังสติ๊กหัวนอตใส่ จนท.ฝังในคอ อาการสาหัส!! พร้อมยืนยันปฏิบัติการทุกขั้นตอนตามหลักสากล
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. แถลงสรุปภาพรวมการชุมนุม วันที่ 7 ส.ค.2564 ไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่การประกาศรวมตัวชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเคลื่อนไปยังพระบรมมหาราชวัง มีความพยายามรื้อสิ่งกีดขวาง แต่ไม่สามารถฝ่าแนวกั้นได้
จึงประกาศเชิญชวนให้ไปรวมตัวที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนไปยังกรมทหารราบที่ 1 แต่ตำรวจได้ตั้งแนวเหนี่ยวรั้งบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามรื้อสิ่งกีดขวาง ขว้างปาลูกแก้ว และหัวนอต รวมถึงการเผาทำลายรถควบคุมผู้ต้องหาและทุบทำลายทรัพย์สินของทางราชการอื่นๆ โดยตำรวจได้แจ้งเตือนให้ยุติการชุมนุมเป็นระยะ และปฏิบัติการตามหลักสากล
ตลอดทั้งวัน ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมได้เบื้องต้น 12 คนส่วนใหญ่มีการพกพาสิ่งเทียมอาวุธ รวมถึงรถเครื่องขยายเสียง ซึ่งแจ้งข้อหาไปตามความผิด ทั้ง อั้งยี่ ซ่องโจร พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อนความวุ่นวายในบ้านเมือง และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และจะเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติม
“จากการชุมนุม มีตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ถูกยิงด้วยหนังสติ๊กและหัวนอต ฝังในลำคอ อาการสาหัส อยู่ระหว่างการผ่าตัด และรักษาที่ รพ.ตำรวจ” รอง ผบช.น. ระบุ
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก สตช. ย้ำว่า การดำเนินการเข้าควบคุมสถานการณ์การชุมนุม พบมีการเผาทำลายทรัพย์สินทางราขการ มีการเตรียมการใช้อาวุธ หรือสิ่งเทียมอาวุธกับ จนท. และภายหลังประกาศยุติการชุมนุม ยังมีบางส่วนพากันทำลายทรัพย์สินราชการ ผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะได้ประสานกับกรมประชาสัมพันธ์ จัดสัญลักษณ์ให้กับสื่อมวลชน และแจ้งพื้นที่ปลอดภัย เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/6616141511744646
ผบช.น.ยืนยัน สามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมได้ โดยจะใช้กำลังตามสถานการณ์ความจำเป็น และไม่มีนโยบายใช้กระสุนจริง
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ระบุว่า ที่ผ่านมา ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ส่งหนังสือถึงกองทัพบก ขอสนับสนุนกำลังทหารให้มาช่วยปฎิบัติการ เพราะตามประกาศของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เจ้าหน้าที่ทหาร จัดเป็นหนึ่งในเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ มีสิทธิตามกฎหมาย
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/6614239951934802
ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ บุกค้นรถพยาบาลการ์ด พบอาวุธหลายชนิด ยึดเป็นของกลางเร่งตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.54 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปราม สน.สำราญราษฎร์ ได้ทำการเข้าตรวจสอบภายในรถพยาบาลของกลุ่มการ์ด We Volunteer ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถ วัดมหรรณพารามวรวิหาร เขตพระนคร กทม. ผลจากการตรวจค้นเบื้องต้นพบสิ่งเทียมวัตถุระเบิด หัวน็อต หนังสติ๊ก วิทยุสื่อสาร และ เกราะอ่อนพลาสติก ฯลฯ
พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ เผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมดรวมทั้งรถพยาบาลดังกล่าวไปยังโรงพัก โดยยังอยู่ระหว่างการตรวจค้นเพิ่มเติมอย่างละเอียด
Cr.จิตอาสาข่าว
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/6614140418611422
ตำรวจสรุปภาพรวมการชุมนุม 7 สิงหา จับผู้กระทำผิดเบื้องต้น 12 คนตระเตรียมสิ่งเทียมอาวุธ ยิงหนังสติ๊กหัวนอตใส่ จนท.ฝังในคอ อาการสาหัส!! พร้อมยืนยันปฏิบัติการทุกขั้นตอนตามหลักสากล
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. แถลงสรุปภาพรวมการชุมนุม วันที่ 7 ส.ค.2564 ไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่การประกาศรวมตัวชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเคลื่อนไปยังพระบรมมหาราชวัง มีความพยายามรื้อสิ่งกีดขวาง แต่ไม่สามารถฝ่าแนวกั้นได้
จึงประกาศเชิญชวนให้ไปรวมตัวที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนไปยังกรมทหารราบที่ 1 แต่ตำรวจได้ตั้งแนวเหนี่ยวรั้งบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามรื้อสิ่งกีดขวาง ขว้างปาลูกแก้ว และหัวนอต รวมถึงการเผาทำลายรถควบคุมผู้ต้องหาและทุบทำลายทรัพย์สินของทางราชการอื่นๆ โดยตำรวจได้แจ้งเตือนให้ยุติการชุมนุมเป็นระยะ และปฏิบัติการตามหลักสากล
ตลอดทั้งวัน ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมได้เบื้องต้น 12 คนส่วนใหญ่มีการพกพาสิ่งเทียมอาวุธ รวมถึงรถเครื่องขยายเสียง ซึ่งแจ้งข้อหาไปตามความผิด ทั้ง อั้งยี่ ซ่องโจร พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อนความวุ่นวายในบ้านเมือง และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และจะเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติม
“จากการชุมนุม มีตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ถูกยิงด้วยหนังสติ๊กและหัวนอต ฝังในลำคอ อาการสาหัส อยู่ระหว่างการผ่าตัด และรักษาที่ รพ.ตำรวจ” รอง ผบช.น. ระบุ
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก สตช. ย้ำว่า การดำเนินการเข้าควบคุมสถานการณ์การชุมนุม พบมีการเผาทำลายทรัพย์สินทางราขการ มีการเตรียมการใช้อาวุธ หรือสิ่งเทียมอาวุธกับ จนท. และภายหลังประกาศยุติการชุมนุม ยังมีบางส่วนพากันทำลายทรัพย์สินราชการ ผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะได้ประสานกับกรมประชาสัมพันธ์ จัดสัญลักษณ์ให้กับสื่อมวลชน และแจ้งพื้นที่ปลอดภัย เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/6616141511744646
แสดงความคิดเห็น
💜มาลาริน/ทำได้ดีค่ะ..นายกฯขอบคุณทุกฝ่าย-ตร.ดูแลการชุมนุม พร้อมยึดหลักสากล/ศาลยกคำร้องห้ามใช้กระสุนยาง/ประมวลภาพม็อบ
วันที่ 7 ส.ค.นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ดูแลการชุมนุม ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการเข้าระงับเหตุและควบคุมฝูงชน ยึดหลักสากล ปฏิบัติการตามสถานการณ์และความจำเป็นเท่านั้น พร้อมทั้งขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ หลีกเลี่ยง ไม่เข้าร่วมหรือไปยังพื้นที่ชุมนุม
“นายกฯ รู้สึกเสียใจที่การชุมนุมก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน สร้างความเดือดร้อนและสร้างผลกระทบให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่และผู้ที่เดินทางทั่วไปด้วย” นายอนุชา กล่าว
นายอนุชา กล่าวว่า นายกฯ ย้ำว่าการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงถือเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ทั้งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งยังได้มีประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่องการห้ามชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 9 ที่ห้ามชุมนุม ซึ่งมีความผิดจำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท จึงอยากให้กลุ่มผู้ชุมนุม และผู้ที่ต้องการแสดงออกทางการเมืองเสนอความคิดเห็นหรือข้อร้องเรียนมายังรัฐบาลด้วยแนวทางอย่างสุจริต หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและใช้ช่องทางตามกฎหมายที่มีอยู่
https://siamrath.co.th/n/269256
ศาลแพ่งยกคำร้อง ไม่ห้ามตำรวจใช้กระสุนยาง ตามคำขอคุ้มครองชั่วคราวของ 2 นักข่าวม็อบ
ศาลแพ่งยกคำร้องไม่คุ้มครองชั่วคราว 2 นักข่าวม็อบ ขอศาลสั่งห้ามตำรวจยิงกระสุนยางกับม็อบ หลังได้รับบาดเจ็บ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย คนละ 7 แสน
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก กรณี น.ส.จันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ทนายความภาคีนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วย นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์ ผู้สื่อข่าวจาก PLUS SEVEN และ นายชาญณรงค์ เอื้ออุดมโชติ ช่างภาพประจำสำนักข่าว The MATTER ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกตำรวจยิงกระสุนยางเข้าใส่ระหว่างไปทำข่าวการชุมนุม เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายรายละ 700,000 บาท จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เป็นจำเลย ที่ใช้กระสุนยางเข้าสลายการชุมนุม โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่ใส่เครื่องหมายแสดงตัว ปลอกแขน บัตรสื่อมวลชน และไม่มีท่าทีคุกคามหรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ใดๆ
นายธนาพงศ์ กล่าวว่า ได้เรียกร้องค่าเสียหาย กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน รวมถึงเรียกร้องเสรีภาพของสื่อมวลชนด้วย การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อต้องได้รับการคุ้มครอง สื่อไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร รัฐอาจปฏิบัติหน้าที่หละหลวมทำให้เราได้รับผลกระทบ วันนี้จึงมาเรียกร้องค่าเสียหาย และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้ตำรวจใช้กระสุนยาง
โดยภายหลัง นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์ ผู้สื่อข่าวจาก PLUS SEVEN และ นายชาญณรงค์ เอื้ออุดมโชติ ช่างภาพประจำสำนักข่าว The MATTER ยื่นฟ้อง สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ พร้อมขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวเเล้ว ศาลได้ไต่สวนผู้ร้องทั้ง 2 คนเสร็จแล้ว
ต่อมาเวลา 17.43 น.ศาลจึงได้มีคำสั่งว่าพิเคราะห์แล้วกรณีนี้โจทก์ทั้งสองเชื่อว่า วันที่ 7 สิงหาคม และอีกต่อไปโจทก์ทั้งสองสื่อมวลชนและประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐดั่งหลายเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ศาลเห็นว่า กรณีเป็นเหตุการณ์ในอนาคตไม่แน่นอนว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ภายใต้เงื่อนไขใดความเสียหายที่โจทก์ทั้งสองกล่าวอ้างว่าจะได้รับเป็นเพียงการคาดคะเน คำร้องของโจทก์ทั้งสองไม่มีเหตุผลสมควรที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวมาใข้บังคับ กรณีจึงไม่มีเหตุฉุกเฉินตามคำร้องยกคำร้อง
https://mgronline.com/crime/detail/9640000077258
ประมวลภาพ จนท.เข้าเคลียร์พื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
วันเสาร์ ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 15.17 น.
https://www.naewna.com/politic/593333
ให้กำลังใจรัฐบาล ดูแลประชาชนทุกกลุ่มและทุกเรื่องค่ะ
สนับสนุนให้ใช้กฎหมายเอาผิดคนก่อความรุนแรง ฝ่าฝืนกฎหมายในขณะที่ใช้บังคับอยู่