บีบหัวใจ! ยายแบ่งขนมให้อาสาฯ บอกไม่มีคนช่วยกินแล้วหลังโควิดพรากคู่ชีวิต ยัน นี่เรื่องจริงไม่จัดฉาก
https://ch3plus.com/news/program/251129
กลุ่มจิตอาสาเส้นดาย เปิดเผยเรื่องราวสุดบีบหัวใจผ่านเฟซบุ๊ก เส้นด้าย – Zendai หลังเข้าไปรับคุณยายที่ติดเชื้อโควิด-19 ไปรักษา โดยคุณยายได้แบ่งขนมปังให้กับกลุ่มจิตอาสา เพราะกินคนเดียวไม่หมด เนื่องจากคุณตาซึ่งเป็นคู่ชีวิตได้จากไปเพราะโรคโควิด-19 พร้อมยืนยันว่านี่คือเรื่องจริง ไม่ใช่การจัดฉากแต่อย่างใด
โดยเล่าผ่านเฟซบุ๊กว่า
ยายยื่นขนมปังให้พวกเราห่อหนึ่ง พร้อมถามว่า...กินไหม ยายกินคนเดียวก็คงไม่หมด ไม่มีคนช่วยกินแล้ว วันนี้ นอกจากเหตุการณ์ประชาสงเคราะห์ 6 ที่หลายๆท่านคงได้ทราบข่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ท่านแล้ว...ถัดออกมาอีกเพียงไม่กี่ซอย ก็มีคุณยายก็พึ่งสูญเสียคุณตาที่ร่วมชีวิตกันมาเช่นกัน ขณะที่ เส้นด้าย เข้าไปรับ คุณยายก็ขอเวลาเก็บเสื้อผ้าและยาที่ต้องนำไปด้วย คุณยายเดินโผเผเล็กน้อย ทีมงานเลยช่วยประคองคุณยายและช่วยใส่เข็มขัดพยุงหลัง
พอใส่เสร็จ อยู่ๆ คุณยายก็ยื่นขนมปังให้พวกเราห่อหนึ่ง พร้อมถามว่า...กินไหม ยายกินคนเดียวก็คงไม่หมด ไม่มีคนช่วยกินแล้ว ความรู้สึกบางอย่างแทงเข้ามาในใจพวกเรา คู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันมานาน วันที่ต้องจากกันกลับไม่ได้ร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย เรานำส่งคุณยายเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสนามบุษราคัมเรียบร้อย ในระหว่างทางบนรถ คุณยายเล่าแต่เรื่องดีๆ ของคุณตาให้พวกเราฟัง บางเรื่องทำให้คุณยายหัวเราะถึงความทรงจำนั้น แต่แล้วคุณยายก็เงียบ เมื่อคืนวันเหล่านั้นมันจะไม่มีอีกแล้ว
เส้นด้าย ขอฝากคนข้างในโรงพยาบาลสนามช่วยดูแลคุณยายต่อให้ด้วยนะครับ ผู้เสียชีวิตไม่ใช่แค่ตัวเลข ไม่ใช่แค่สถิติผู้เสียชีวิตทุกคน เป็นที่รักของใครสักคนทั้งนั้น ปล.เส้นด้ายไม่เคย "จัดฉาก" สร้างเรื่องว่ามีผู้เสียชีวิตนะครับ ไม่ว่าง และเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องสร้างแต่อย่างใด
ที่มา Facebook : เส้นด้าย - Zendai
https://www.facebook.com/zendai.org/posts/148307224084966
ฝ่ายค้านวอล์กเอาต์! หลัง กมธ.รัฐบาล โหวตอุ้มทัพเรือ ตัดงบแค่ 8 ล้าน จาก 1.5 หมื่นล้าน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6538189
กมธ.ซีกรัฐบาล 36 คน โหวตอุ้มกองทัพเรือ ตัดแค่งบรถประจำตำแหน่ง 8 ล้านกว่าบาท จากงบทั้งหมด 1.5 หมื่นล้านบาท ทำฝ่ายค้านวอล์กเอาต์
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564 รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 แจ้งว่า ที่ประชุมมีการพิจารณารายงานของคณะอนุกรรมาธิการ ทั้ง 9 คณะ โดยในส่วนของคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์และไอซีที เข้ารายงานเป็นคณะสุดท้าย ที่ก่อนหน้าคณะอนุฯ แขวนงบจัดซื้อยุทโธปกรณ์อื่น ที่ไม่ใช่เรือดำน้ำลำที่ 2-3 เพราะกองทัพเรือได้ถอนเรื่องออกไป โดยไม่มีตัวแทนของกองทัพเรือเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกมธ.ชุดใหญ่ทราบ
ทำให้นาย
เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.ซีกพรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ที่ประชุมโหวตด้วยการยกมือว่าปรับลดงบกองทัพเรือหรือไม่ ซึ่งขณะนั้นนาง
นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ในฐานะรองประธานกมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก็เห็นชอบด้วยกับข้อเสนอของนาย
เรืองไกร
แต่ทางฝ่ายค้าน โดยนาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กมธ.งบฯ พยายามเจรจากับนาย
สันติ พร้อมพัฒน์ และนาย
วิเชียร ชวลิต รองประธานกมธ. เพื่อให้ชะลอการพิจารณาออกไป เพราะงบของกองทัพเรือมีถึง 15,858,040,000 บาท แต่ตัดไปเพียง 8 ล้านกว่าบาทเท่านั้น
แต่การคัดค้านของซีกฝ่ายค้านไม่เป็นผล ทำให้ฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ทั้งหมด ทำให้กมธ.ซีกรัฐบาล ทั้ง 36 คน ยกมือให้ปรับลดเพียงรายการเดียว คือ รถประจำตำแหน่ง จำนวน 5 คัน คันละ 1.67 ล้านบาท รวม 8.38 ล้านบาท ส่วนรายการจัดซื้ออื่นๆ ยังอยู่ครบ เช่น โครงการอากาศยานไร้คนขับ เพื่อลาดตระเวนชายฝั่ง ซึ่งจัดซื้อจากจีนจำนวน 3 ตัว ใช้งบ 4,100 ล้านบาท เรือดำน้ำลำที่หนึ่ง ซึ่งเป็นงบผูกพัน 1,145 ล้านบาท เรือยกพลขึ้นบก หรือแอลพีดี จำนวน 1,700 ล้านบาท และโดรนเอนกประสงค์(ยูเอวี) มูลค่า 570 ล้านบาท ทั้งนี้ การประชุมเสร็จสิ้นในเวลา 16.30 น.
‘หมอหม่อง’ชี้ปชช.ไม่ไว้ใจสูตรฉีดไขว้ หากบังคับอาจเกิดปัญหาใหญ่
https://www.dailynews.co.th/news/107294/
นพ.
รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ มช. ชี้ประชาชนไม่น้อยไม่ไว้ใจสูตรฉีดวัคซีนไขว้ หากบังคับอาจทำชาวบ้านรอ จนอาจพบปัญหาใหญ่ แนะควรให้เลือกได้ใครอยากฉีดสูตรไหน
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นพ.
รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ
หมอหม่อง อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit ระบุข้อความว่า
เท่าที่ ฟังเสียงประชาชน ผมคิดว่า ประชาชนจำนวนไม่น้อย ไม่ไว้วางใจสูตรวัคซีนไขว้ หากรัฐบังคับให้ใช้สูตรนี้ต่อไป เราอาจพบกับปัญหาใหญ่ที่ประชาชนจะรีรอการสร้างภูมิคุ้มกัน จนไม่ทันการกับสถานการณ์วิกฤต
ผมคิดว่า เราควรให้ทางเลือกประชาชนใครจะฉีดแบบไขว้ก็ฉีด ใครจะฉีดแบบไม่ไขว้ก็เลือกได้ อาจจะจัดการยากกว่า แต่ก็อยู่ในวิสัยที่น่าจะทำได้ เราทำแบบนี้กันไปก่อน ระหว่างที่รอรัฐจัดหาวัคซีนที่เป็นที่ต้องการของประชาชนเข้ามาเพียงพอ
https://www.facebook.com/rungsrit.kanjanavanit/posts/10209205381688029
'ภาคีพยาบาล' ยื่น 5,000 ชื่อ เสนอ 3 ข้อเรียกร้องปมวัคซีน-สวัสดิภาพ
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_2857934
‘ภาคีพยาบาล’ ยื่น 5,000 ชื่อ เสนอ 3 ข้อเรียกร้องปมวัคซีน-สวัสดิภาพ
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่สภาการพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนกลุ่ม ‘
ภาคีพยาบาล’ เข้ายื่นแถลงการณ์พร้อมข้อเรียกร้อง 3 ข้อ รวมถึงรายชื่อพยาบาลที่ร่วมลงนามจากทั่วประเทศกว่า 5,000 ราย โดยมีตัวแทนสภาการพยาบาล 3 รายออกมารับเอกสาร รวมถึงรับฟังปัญหา
สำหรับข้อเรียกร้องเบื้องต้นจากภาคีพยาบาลทั้ง 3 ข้อ ได้แก่
1. ขอให้มีการจัดสรรวัคซีนประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคโควิด เช่น วัคซีน mRNA และProtein subunit vaccine อย่างทั่วถึงและรวดเร็วแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชน
2. ขอให้มีนโยบายสร้างเสริมสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานที่ดีของวิชาชีพพยาบาล เพื่อปกป้องสวัสดิภาพทางกายและจิตใจของผู้ประกอบวิชาชีพ
3. สภาการพยาบาลต้องมีมาตรการในการคุ้มครองเยียวยาเพื่อพิทักษ์สิทธิ เสรีภาพ และสวัสดิภาพของสมาชิกสภาการพยาบาล ทั้งค่าตอบแทนที่เป็นธรรม และการเยียวยาสมาชิกเมื่อได้รับผลกระทบจสกการปฏิบัติงาน
ผู้สื่อข่าวรานงานว่า หลังรับเอกสาร ตัวแทนสภาการพยาบาล กล่าวว่า เรื่องของเอ็มอาร์เอ็นเอวัคซีน และวัคซีนทั้งหมด เป็นการทำงานร่วมกับภาครัฐ หากพยาบาลคนใดไม่ได้รับวัคซีน ต้องแจ้งให้สภาการพยาบาลรับทราบ เพื่อจะได้หาวิธีการดำเนินการ ในขณะที่ทางสภาการพยาบาลทำงานกับพี่น้องประชาชนด้วย และพยาบาลด้วย เมื่อภาครัฐประกาศว่าต้องได้ ถ้าไม่ได้ สภาฯ จะเป็นแรงผลักหลักในการจัดการ ขอให้พยาบาลที่ยังไม่ได้รับวัคซีนปรากฏตัวออกมา จะต้องมีการดำเนินการให้ได้
จากนั้น ตัวแทนภาคีพยาบาล 2 ราย กล่าวกับตัวแทนสภาการพยาบาลว่า ด้านค่าตอบแทนของพยาบาล หากมีสิ่งที่จะสามารถยืนยันได้ว่าพยาบาลจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยไม่ต้องทำงานหนักเท่านี้ เช่น การปรับฐานเงินเดือน เพิ่มค่าเวร และโอที เชื่อว่าพยาบาลจะสามารถดึงศักยภาพในตัวเองออกมาใช้ในการทำงานวิจัย และการปฏิบัติงานได้มากกว่าเดิม รวมถึงไปไกลในระดับนานาชาติอีกด้วย นอกจากนี้ ประเด็นค่าความเสี่ยง ได้รับทราบข้อมูลจากพยาบาลหลายคนว่าไม่ได้รับค่าความเสี่ยง ซึ่งแท้จริงแล้ว พยายาลควรได้รับทุกรายในสถานการณ์เช่นนี้ แม้จะอยู่ในส่วนของผู้ป่วนนอก ฉุกเฉิน หรือส่วนอื่นก็ตาม เพราะต้องเจอผู้ป่วยก่อน จึงถือเป็นด่านหน้า
JJNY : 5in1 ยายแบ่งขนมให้อาสาฯ│กมธ.รบ.โหวตอุ้มทร.│หมอชี้ปชช.ไม่ไว้ใจสูตรฉีดไขว้│ภาคีพยาบาลเสนอ3ข้อ│TTBหวั่นส่งออกเสียหาย
https://ch3plus.com/news/program/251129
โดยเล่าผ่านเฟซบุ๊กว่า
ยายยื่นขนมปังให้พวกเราห่อหนึ่ง พร้อมถามว่า...กินไหม ยายกินคนเดียวก็คงไม่หมด ไม่มีคนช่วยกินแล้ว วันนี้ นอกจากเหตุการณ์ประชาสงเคราะห์ 6 ที่หลายๆท่านคงได้ทราบข่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ท่านแล้ว...ถัดออกมาอีกเพียงไม่กี่ซอย ก็มีคุณยายก็พึ่งสูญเสียคุณตาที่ร่วมชีวิตกันมาเช่นกัน ขณะที่ เส้นด้าย เข้าไปรับ คุณยายก็ขอเวลาเก็บเสื้อผ้าและยาที่ต้องนำไปด้วย คุณยายเดินโผเผเล็กน้อย ทีมงานเลยช่วยประคองคุณยายและช่วยใส่เข็มขัดพยุงหลัง
พอใส่เสร็จ อยู่ๆ คุณยายก็ยื่นขนมปังให้พวกเราห่อหนึ่ง พร้อมถามว่า...กินไหม ยายกินคนเดียวก็คงไม่หมด ไม่มีคนช่วยกินแล้ว ความรู้สึกบางอย่างแทงเข้ามาในใจพวกเรา คู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันมานาน วันที่ต้องจากกันกลับไม่ได้ร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย เรานำส่งคุณยายเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสนามบุษราคัมเรียบร้อย ในระหว่างทางบนรถ คุณยายเล่าแต่เรื่องดีๆ ของคุณตาให้พวกเราฟัง บางเรื่องทำให้คุณยายหัวเราะถึงความทรงจำนั้น แต่แล้วคุณยายก็เงียบ เมื่อคืนวันเหล่านั้นมันจะไม่มีอีกแล้ว
เส้นด้าย ขอฝากคนข้างในโรงพยาบาลสนามช่วยดูแลคุณยายต่อให้ด้วยนะครับ ผู้เสียชีวิตไม่ใช่แค่ตัวเลข ไม่ใช่แค่สถิติผู้เสียชีวิตทุกคน เป็นที่รักของใครสักคนทั้งนั้น ปล.เส้นด้ายไม่เคย "จัดฉาก" สร้างเรื่องว่ามีผู้เสียชีวิตนะครับ ไม่ว่าง และเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องสร้างแต่อย่างใด
ที่มา Facebook : เส้นด้าย - Zendai
https://www.facebook.com/zendai.org/posts/148307224084966
ฝ่ายค้านวอล์กเอาต์! หลัง กมธ.รัฐบาล โหวตอุ้มทัพเรือ ตัดงบแค่ 8 ล้าน จาก 1.5 หมื่นล้าน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6538189
กมธ.ซีกรัฐบาล 36 คน โหวตอุ้มกองทัพเรือ ตัดแค่งบรถประจำตำแหน่ง 8 ล้านกว่าบาท จากงบทั้งหมด 1.5 หมื่นล้านบาท ทำฝ่ายค้านวอล์กเอาต์
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564 รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 แจ้งว่า ที่ประชุมมีการพิจารณารายงานของคณะอนุกรรมาธิการ ทั้ง 9 คณะ โดยในส่วนของคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์และไอซีที เข้ารายงานเป็นคณะสุดท้าย ที่ก่อนหน้าคณะอนุฯ แขวนงบจัดซื้อยุทโธปกรณ์อื่น ที่ไม่ใช่เรือดำน้ำลำที่ 2-3 เพราะกองทัพเรือได้ถอนเรื่องออกไป โดยไม่มีตัวแทนของกองทัพเรือเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกมธ.ชุดใหญ่ทราบ
ทำให้นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.ซีกพรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ที่ประชุมโหวตด้วยการยกมือว่าปรับลดงบกองทัพเรือหรือไม่ ซึ่งขณะนั้นนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ในฐานะรองประธานกมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก็เห็นชอบด้วยกับข้อเสนอของนายเรืองไกร
แต่ทางฝ่ายค้าน โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กมธ.งบฯ พยายามเจรจากับนายสันติ พร้อมพัฒน์ และนายวิเชียร ชวลิต รองประธานกมธ. เพื่อให้ชะลอการพิจารณาออกไป เพราะงบของกองทัพเรือมีถึง 15,858,040,000 บาท แต่ตัดไปเพียง 8 ล้านกว่าบาทเท่านั้น
แต่การคัดค้านของซีกฝ่ายค้านไม่เป็นผล ทำให้ฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ทั้งหมด ทำให้กมธ.ซีกรัฐบาล ทั้ง 36 คน ยกมือให้ปรับลดเพียงรายการเดียว คือ รถประจำตำแหน่ง จำนวน 5 คัน คันละ 1.67 ล้านบาท รวม 8.38 ล้านบาท ส่วนรายการจัดซื้ออื่นๆ ยังอยู่ครบ เช่น โครงการอากาศยานไร้คนขับ เพื่อลาดตระเวนชายฝั่ง ซึ่งจัดซื้อจากจีนจำนวน 3 ตัว ใช้งบ 4,100 ล้านบาท เรือดำน้ำลำที่หนึ่ง ซึ่งเป็นงบผูกพัน 1,145 ล้านบาท เรือยกพลขึ้นบก หรือแอลพีดี จำนวน 1,700 ล้านบาท และโดรนเอนกประสงค์(ยูเอวี) มูลค่า 570 ล้านบาท ทั้งนี้ การประชุมเสร็จสิ้นในเวลา 16.30 น.
‘หมอหม่อง’ชี้ปชช.ไม่ไว้ใจสูตรฉีดไขว้ หากบังคับอาจเกิดปัญหาใหญ่
https://www.dailynews.co.th/news/107294/
นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ มช. ชี้ประชาชนไม่น้อยไม่ไว้ใจสูตรฉีดวัคซีนไขว้ หากบังคับอาจทำชาวบ้านรอ จนอาจพบปัญหาใหญ่ แนะควรให้เลือกได้ใครอยากฉีดสูตรไหน
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ หมอหม่อง อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit ระบุข้อความว่า
เท่าที่ ฟังเสียงประชาชน ผมคิดว่า ประชาชนจำนวนไม่น้อย ไม่ไว้วางใจสูตรวัคซีนไขว้ หากรัฐบังคับให้ใช้สูตรนี้ต่อไป เราอาจพบกับปัญหาใหญ่ที่ประชาชนจะรีรอการสร้างภูมิคุ้มกัน จนไม่ทันการกับสถานการณ์วิกฤต
ผมคิดว่า เราควรให้ทางเลือกประชาชนใครจะฉีดแบบไขว้ก็ฉีด ใครจะฉีดแบบไม่ไขว้ก็เลือกได้ อาจจะจัดการยากกว่า แต่ก็อยู่ในวิสัยที่น่าจะทำได้ เราทำแบบนี้กันไปก่อน ระหว่างที่รอรัฐจัดหาวัคซีนที่เป็นที่ต้องการของประชาชนเข้ามาเพียงพอ
https://www.facebook.com/rungsrit.kanjanavanit/posts/10209205381688029
'ภาคีพยาบาล' ยื่น 5,000 ชื่อ เสนอ 3 ข้อเรียกร้องปมวัคซีน-สวัสดิภาพ
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_2857934
‘ภาคีพยาบาล’ ยื่น 5,000 ชื่อ เสนอ 3 ข้อเรียกร้องปมวัคซีน-สวัสดิภาพ
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่สภาการพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนกลุ่ม ‘ภาคีพยาบาล’ เข้ายื่นแถลงการณ์พร้อมข้อเรียกร้อง 3 ข้อ รวมถึงรายชื่อพยาบาลที่ร่วมลงนามจากทั่วประเทศกว่า 5,000 ราย โดยมีตัวแทนสภาการพยาบาล 3 รายออกมารับเอกสาร รวมถึงรับฟังปัญหา
สำหรับข้อเรียกร้องเบื้องต้นจากภาคีพยาบาลทั้ง 3 ข้อ ได้แก่
1. ขอให้มีการจัดสรรวัคซีนประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคโควิด เช่น วัคซีน mRNA และProtein subunit vaccine อย่างทั่วถึงและรวดเร็วแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชน
2. ขอให้มีนโยบายสร้างเสริมสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานที่ดีของวิชาชีพพยาบาล เพื่อปกป้องสวัสดิภาพทางกายและจิตใจของผู้ประกอบวิชาชีพ
3. สภาการพยาบาลต้องมีมาตรการในการคุ้มครองเยียวยาเพื่อพิทักษ์สิทธิ เสรีภาพ และสวัสดิภาพของสมาชิกสภาการพยาบาล ทั้งค่าตอบแทนที่เป็นธรรม และการเยียวยาสมาชิกเมื่อได้รับผลกระทบจสกการปฏิบัติงาน
ผู้สื่อข่าวรานงานว่า หลังรับเอกสาร ตัวแทนสภาการพยาบาล กล่าวว่า เรื่องของเอ็มอาร์เอ็นเอวัคซีน และวัคซีนทั้งหมด เป็นการทำงานร่วมกับภาครัฐ หากพยาบาลคนใดไม่ได้รับวัคซีน ต้องแจ้งให้สภาการพยาบาลรับทราบ เพื่อจะได้หาวิธีการดำเนินการ ในขณะที่ทางสภาการพยาบาลทำงานกับพี่น้องประชาชนด้วย และพยาบาลด้วย เมื่อภาครัฐประกาศว่าต้องได้ ถ้าไม่ได้ สภาฯ จะเป็นแรงผลักหลักในการจัดการ ขอให้พยาบาลที่ยังไม่ได้รับวัคซีนปรากฏตัวออกมา จะต้องมีการดำเนินการให้ได้
จากนั้น ตัวแทนภาคีพยาบาล 2 ราย กล่าวกับตัวแทนสภาการพยาบาลว่า ด้านค่าตอบแทนของพยาบาล หากมีสิ่งที่จะสามารถยืนยันได้ว่าพยาบาลจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยไม่ต้องทำงานหนักเท่านี้ เช่น การปรับฐานเงินเดือน เพิ่มค่าเวร และโอที เชื่อว่าพยาบาลจะสามารถดึงศักยภาพในตัวเองออกมาใช้ในการทำงานวิจัย และการปฏิบัติงานได้มากกว่าเดิม รวมถึงไปไกลในระดับนานาชาติอีกด้วย นอกจากนี้ ประเด็นค่าความเสี่ยง ได้รับทราบข้อมูลจากพยาบาลหลายคนว่าไม่ได้รับค่าความเสี่ยง ซึ่งแท้จริงแล้ว พยายาลควรได้รับทุกรายในสถานการณ์เช่นนี้ แม้จะอยู่ในส่วนของผู้ป่วนนอก ฉุกเฉิน หรือส่วนอื่นก็ตาม เพราะต้องเจอผู้ป่วยก่อน จึงถือเป็นด่านหน้า