ธรรมชาติเมื่อสรุปลงแล้ว มี 2 ได้แก่ 1.สังขตะ 2.อสังขตะ
ดังนั้นธรรมชาติ อันไม่มีใดๆ จึงไม่มีในความหมายของพระพุทธเจ้า
และทั้ง สังขตะ อสังขตะ ล้วนเป็นธรรม(ธัมมา)
ดังนั้นทั้ง สังขตะ อสังขตะ ต่างก็มีคุณสมบัติเป็น อนัตตา
ด้วยพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา.
นิพพาน เป็นสภาวะไม่มีแกนสาร ไม่เกิดเป็นสาระใดๆ ด้วยพ้นไปจากบัญญัตนิยามความหมายไปแล้ว เพราะเป็นความหมดสิ้นกิเลส ที่จะเกิดอวิชชาไปปรุงแต่งเป็นแกนสารใดๆ ที่จะเป็นสาระใดๆ ได้อีก ด้วยเป็น อสังขตะ
มีแต่ผู้ขาดปัญญาเท่านั้น ที่แสวงหาความเป็น อัตตา ในธรรมชาติที่เป็น อนัตตา
ธรรมชาติ อันไม่มีใดๆ จึงไม่มีในความหมายของพระพุทธเจ้า
ดังนั้นธรรมชาติ อันไม่มีใดๆ จึงไม่มีในความหมายของพระพุทธเจ้า
และทั้ง สังขตะ อสังขตะ ล้วนเป็นธรรม(ธัมมา)
ดังนั้นทั้ง สังขตะ อสังขตะ ต่างก็มีคุณสมบัติเป็น อนัตตา
ด้วยพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา.
นิพพาน เป็นสภาวะไม่มีแกนสาร ไม่เกิดเป็นสาระใดๆ ด้วยพ้นไปจากบัญญัตนิยามความหมายไปแล้ว เพราะเป็นความหมดสิ้นกิเลส ที่จะเกิดอวิชชาไปปรุงแต่งเป็นแกนสารใดๆ ที่จะเป็นสาระใดๆ ได้อีก ด้วยเป็น อสังขตะ
มีแต่ผู้ขาดปัญญาเท่านั้น ที่แสวงหาความเป็น อัตตา ในธรรมชาติที่เป็น อนัตตา