งานเก่าลองรีไรท์เอามาให้อ่านดูค่ะ ดูดีขึ้นไหม?
อยากบอกว่าคิดถึงคนทำปกเรื่องนี้ให้ หายไปนานมากกกกกก 🤣🤣🤣 ลืมถนนละมั้ง!!! 555555
***********************************************
ในที่สุดวันเสาร์ที่รอคอยก็มาถึงสักที แสงระวีแอบนับวันรอหนึ่งทุกวัน ทั้งสองคนคุยกันในช่วงพักเที่ยงเสมอ ในส่วนความรู้สึกลึก ๆ ของแสงระวีนั้นไม่ได้คิดจริงจังกับหนึ่งเลย แค่คุยสนุกไปวัน ๆ
แอบโกรธตนเองอยู่ไม่น้อย ทำไมต้องรอวันเสาร์ ทำไมเมื่อรู้ว่าหนึ่งจะมาต้องตื่นเต้นด้วย ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยด้วยสักนิดจะตื่นเต้นทำไม นึกเอ็ดตนเองที่เผลอไผล นอนคิดไปเรื่อยบนที่นอนในตอนเช้า ๆ ก่อนจะรีบลุกไปอาบน้ำ
เพราะเป็นวันหยุดแม่จึงไม่ปลุก ปล่อยให้นอนตื่นสาย ๆ ได้ ทว่าวันนี้มีนัดจึงรีบตื่นอาบน้ำแต่งตัวให้สวยดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอสวมกางเกงวอร์มสีดำเสื้อยืดคอกลมสีชมพู นี่แหละชุดที่สวยที่สุดแล้วตามสไตล์ของเธอเอง รีบแต่งตัวให้เสร็จรอหนึ่งที่บ้าน ยังไม่คิดจะไปบ้านสองฝาแฝดในเวลานี้ ไม่อยากให้ทั้งสองคนล้อหรือจับผิดตนเองเรื่องหนึ่ง
สิบโมงเช้าหนึ่งกับเพื่อน ๆ มาถึงบ้านของเจน เจนส่งข้อความมาบอกแทนการโทรคุย ไม่เข้าใจกับพี่สาวคนนี้นัก จะส่งข้อความมาทำไม โทรมาก็สิ้นเรื่อง เธอเปิดอ่านด้วยหัวใจเต้นแรง เขินหรือก็ไม่ใช่ อายหรือก็ไม่ ! เพราะคุยกันทุกวัน ทว่ามันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก รู้แค่ว่าตอนนี้ตนเองตื่นเต้นเหลือเกิน เดินวนไปวนมาบนบ้านแบบไม่รู้ตัวเลย
ไม่ได้ตอบกลับในทันที ไม่ได้โทรกลับไปถามด้วย ทำเพียงเปิดอ่านข้อความเท่านั้น ทราบว่าเพื่อนที่มาในวันนี้เป็นกลุ่มเดิมที่มาเมื่อสัปดาห์ก่อน มีหนึ่งและเพื่อนผู้ชายหนึ่งคนผู้หญิงอีกสองคน มาเท่าเดิมคนเดิม ทำไมต้องตื่นเต้นด้วยไม่เข้าใจอาการที่เป็นนัก การคุยกันทุกเที่ยงไม่ได้ช่วยอะไรในวันนี้เลย
แสงระวียังไม่กล้าไปบ้านของเจน ทั้งอายปนตื่นเต้นไม่มั่นใจในตนเอง ทั้งที่เป็นคนมั่นใจในตนเองเสมอมา ทำไมต้องมาแผ่วในเรื่องนี้วันนี้ด้วย แต่งตัวเสร็จเดินลงมาจากบนบ้าน มานั่งเล่นที่เปลใต้ถุนบ้านคนเดียว สายตาคอยมองไปทางบ้านของสองฝาแฝดอยู่ร่ำไป เพราะอยากเห็นหนึ่ง
จากบ้านของเธอไปถึงบ้านของสองฝาแฝดก็พอมองเห็นได้ชัด ไม่นานเห็นพี่มอสขับรถมาจอดหน้าบ้านเจน คงมาเล่นกับเจนด้วยตามเคยนั่นแหละ ปกติวันหยุดแบบนี้พี่มอสมาตลอด ไหนจะตอนหลังเลิกเรียนอีก ตอนค่ำพี่มอสก็มาหาเจนทุกวัน ชนิดที่ว่างไม่ได้ต้องมาหากันเสมอสำหรับสองคนนี้ เธอนั่งมองแอบยิ้มให้กับความรักของทั้งคู่ที่บ้านของตน
เป็นความโชคดีของเจน ทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่ ม.1 ยังไม่เลิกกันเลย ในขณะหลาย ๆ คู่ที่มีแฟนพร้อมกันเลิกกันไปแล้ว พี่มอสจริงใจกับเจนมาก ส่วนเจลคู่แฝดก็มีแฟนเป็นของตนเองแล้วเหมือนกัน รายนี้หน้าตาดีกว่าใคร ถึงแม้จะหน้าตาเหมือนกับเจนแต่ก็มีจุดที่แตกต่างกัน
แสงระวีนั่งเปลปรายตามองไปยังบ้านพี่สาว คิดอะไรเพลิน ๆ คิดไปถึงหนึ่ง อยากเดินไปเล่นด้วยมากแต่ไม่กล้า และแล้วสายตาก็พลันมองไปเห็นใครบางคนที่อยากเห็น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ตื่นเต้นอยากเดินขึ้นไปหลบบนบ้าน ทว่าอีกใจมันก็อยากเจอแม้จะเจอแบบทางไกลก็ตาม
วันนี้หนึ่งแต่งตัวดูดีมาก ผิวขาว จมูกโด่งเป็นสัน รับกับใบหน้าเรียวได้รูป ดูรวม ๆ หล่อเอาการเอางานพอสมควร ตัวสูง หุ่นดี รวมทั้งเพื่อนผู้ชายที่มาด้วยอีกคน รูปร่างหน้าตาหล่อไม่แพ้กัน ส่วนเพื่อนผู้หญิงทั้งสองคนก็สวยหุ่นดีมาก หน้าตาสะสวยมากแตกต่างกับเธอลิบลับ
พิจารณาดูการแต่งตัวของเพื่อนเจนที่มาในวันนี้ พอหันมามองตนเองช่างต่างกันเหลือเกิน ความมั่นใจหายไปจนหมด ยิ่งทำให้แสงระวีไม่กล้าเจอหน้าหนึ่ง วันนี้ยังไม่พร้อมวันหลังแล้วกัน เอาไว้รอบหน้าค่อยเจอกันนะ พูดกับตนเองก่อนจะตัดสินใจโดยไม่รีรอ คือ ไม่ไปบ้านเจนดีกว่า นั่งเล่นอยู่ที่บ้านคนเดียวก็ได้ แอบมองอยู่ห่าง ๆ
พวกเพื่อนของเจนชอบหันมามองเธออยู่บ่อย ๆ ทำให้สงสัยอยู่ไม่น้อย ครุ่นคิดว่ากำลังพูดถึงเธออยู่หรือเปล่า ทั้งที่ตนเองสามารถจะขึ้นไปหลบบนบ้านได้ แต่ก็ไม่ยอมไป เพราะเสียงของใจมันบอกอยากเจอหนึ่ง
เพื่อน ๆ ของเจนชอบมองมาบ่อยเหลือเกิน มันดูน่าคิดว่าต้องพูดเรื่องตนเองแน่ พอคิดได้แบบนี้จึงเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อหลบสายตา มองมาบ่อยจนขาดความมั่นใจหมดแล้ว เมื่อเธอขึ้นมาบนบ้านไม่ทันไร หนึ่งก็โทรหาหนึ่งอยากเห็นเธอ อยากเห็นหน้าของเธอ ขอร้องให้มาที่บ้านเจนได้ไหม มาเล่นด้วยกัน
“วีหายเข้าไปบนบ้านทำไมอ่ะ เค้าอยากเห็นหน้านะ ทำไมไม่มาบ้านเจน ไหนตกลงกันไว้แล้วไงเมื่อวานตอนเที่ยงอ่ะ” หนึ่งถาม พอเธอขึ้นมาบนบ้านหนึ่งก็โทรตามเลย
“ไม่กล้า อาย !” พูดยิ้ม ๆ ตอบไปตามตรง เพราะเธออายจริง ๆ นี่
“เอ้า ! จะอายทำไม ตอนคุยกับเค้าทำไมไม่อายล่ะ” นั่นแหนะยังจะมาทำเป็นพูด มันเหมือนกันที่ไหน ตอนนั้นแค่คุยโทรศัพท์ไม่ได้เห็นหน้ากันหนิ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น ใครจะไม่อาย มองค้อนให้โทรศัพท์
“ไม่เหมือนกัน แค่นี้แหละ” พูดตัดบทไป
“เดี๋ยว ! อย่าพึ่งวางจะมามั้ย ถ้าไม่มาเค้าไปหาที่บ้านนะ” เบิกตากว้างที่โดนขู่ ยิงฟันให้คนในโทรศัพท์อย่างตลก ไม่เข้าใจหรืออย่างไรว่าเธออาย ยังจะมาขู่ให้ไปเล่นด้วยอีก
“เออ ๆ เดี๋ยวเค้าไป แค่นี้แหละ” รับปากไปส่ง ๆ เพื่ออยากวางสาย
“สัญญาแล้วนะ ถ้ายังไม่มาไปหาที่บ้านแน่ ฮา” ตามด้วยเสียงหัวเราะอึกอักแทรกเข้ามา ทั้งเสียงหัวเราะของเพื่อน ๆ แทรกเข้ามาด้วย ยิ่งทำให้งอนเข้าไปอีก พากันตลกมากหรือไรถึงได้หัวเราะเธอ แล้วก็วางสายไป
แสงระวีไม่กล้าไปบ้านเจนทั้งที่อยากไปมาก ไม่นานเจลก็มาหาที่บ้าน เจลเป็นเมสเซนเจอร์คอยนำข้อมูลของหนึ่งมาบอกเสมอ เดินไปเดินมาด้วยความเต็มใจ
“วีทำไมไม่ไปบ้านกู อี่เจนก็รอ” เจลถามคงเหนื่อยเดินและอยากให้ไปเล่นที่บ้านตัวเองมาก “หนึ่งก็รอนะ ฮา” ไม่พอแถมล้อเธอไปอีก
“กูไม่กล้าไป อาย” สีหน้ามีความกังวลนิดหน่อย เจลไม่เข้าใจคำว่าอายเลยหรือ คะยั้นคะยอให้ไปอยู่ได้
“อายใคร อายหนึ่งเหรอ มืงคุยกันทุกวันยังอายอีกเหรอ” เจลทำหน้าเบื่อโลก “ทำไมต้องอายคุยกันทุกวันสมควรจะสนิทกันได้แล้ววี อีกอย่างไม่ได้ไปไหนหรืออยู่ด้วยกันสองต่อสองสักหน่อย กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง “ ออกอาการเอือมระอานิดหน่อย เธอเองก็เถียงไม่ออกสักคำ
“อายหมดแหละ อายเพื่อน ๆ เขาด้วย อีกอย่างกูกลัวมีคนไปพูดเข้าหูพ่อกับแม่” แสงระวีทำหน้าเศร้า ทำไมพ่อกับแม่ของเธอไม่เป็นเหมือนลุงจันทร์กับป้าก้อยบ้างนะ ทำไมพ่อแม่ไม่เข้าใจวัยรุ่นเหมือนลุงกับป้าเลย ขนาดเจนมีแฟนตั้งแต่จบ ป.6 ได้เดือนเดียวยังได้
“ใครจะพูด ก็มาเล่นกับกู เพื่อนอี่เจนก็ส่วนเพื่อนอี่เจน” เจลพูดด้วยความเข้าใจ ที่เจลพูดก็ถูก
“มันก็ต้องมีคนเอาไปพูดนั่นแหละเจล กูกลัว! กลัวพ่อกับแม่ถาม อีกอย่างอายเขาด้วยไม่กล้าไป” แสงระวีแสดงเจตจำนงว่าไม่ต้องการไปที่นั่น มันช่างขัดแย้งกับความรู้สึกของตนเองเหลือเกิน ใจหนึ่งอยากไปอีกใจหนึ่งก็ไม่อยากไป อีกอย่างได้สัญญากับหนึ่งไปแล้วว่าจะไปเจอ กลัวว่าหนึ่งจะมาหาตนเองที่นี่อีก ตอนนี้ความคิดปะทะกันในสองหนักมาก
“ตามใจมืงแล้วกัน เดี๋ยวกูมาอยู่เล่นเป็นเพื่อนมืงนะ กลับไปบอกพวกมันก่อนว่ามืงไม่มา” พูดจบเจลก็กลับบ้านของตน นำเรื่องไปบอกเจนกับหนึ่งพอตัดสินใจแบบนั้นทำเอาคิดมากไปอีก ทำไมต้องห่วงความรู้สึกหนึ่ง ทำไมต้องกลัวหนึ่งไม่พอใจ นี่ตนเองเป็นอะไรไป ทำไมต้องแคร์เรื่องพวกนี้ด้วย ทั้งที่ก็แค่คุยเท่านั้น ยังไม่ใช่แฟนกันสักหน่อย ทำไมต้องคิดมากล่ะ
กระวนกระวายใจอยู่คนเดียว ระหว่างรอเจลกลับมา หรือจะโทรไปขอโทษหนึ่งดี บอกว่าไม่ไป จะได้ไม่ต้องรอ มือกำโทรศัพท์เอาไว้จะโทรไปบอกดีหรือเปล่า สุดท้ายก็ไม่โทร ภาวนาว่าอย่าให้หนึ่งตามมาที่บ้านเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นเรื่องได้ถึงหูพ่อกับแม่แน่นอน
แสงระวีขึ้นไปบนบ้านรอเจล เปิดหน้าต่างฝั่งบ้านเจลเอาไว้ แอบยืนมองพวกเจนที่นั่งอยู่หน้าบ้าน หนึ่งหันมาเห็นเข้าพอดีพร้อมยิ้มให้ แสงระวีตกใจนั่งหลบลงที่พื้น พร้อมหัวเราะตนเองอย่างตลกจะหลบทำไม เป็นบ้าอะไร ทำไมต้องหลบ กลัวอะไรก็แค่ผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
พอโดนจับได้ก็หันมาเปิดทีวีดู มีสายโทรศัพท์เข้า ชื่อของหนึ่งโชว์หลาที่หน้าจอโทรศัพท์ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หรือว่าหนึ่งจะมาหาตนที่บ้าน จะทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะรับสายและคอยฟังว่าจะพูดอะไร
“วีทำไมไม่มาบ้านเจนอ่ะ เค้ามาเล่นด้วย เค้ารอวีนานแล้วนะจะมาตอนไหน” น้ำเสียงของปลายสายออกอาการงอนนิดหน่อย หลังจากที่หนึ่งมองเห็นเธอที่ขอบหน้าต่างของบ้านก็โทรเข้ามาถามทันที
“ก็บอกแล้วนี่ว่าไม่กล้าไป” ตอบไปแบบตรง ๆ คอยลุ้นไปด้วยว่าหนึ่งจะดื้อด้านมาที่บ้านของตนหรือเปล่า
“ทำไมไม่กล้าล่ะ พ่อกับแม่ว่าเหรอ ท่านทั้งสองคนไม่อยู่หนิเจนบอก” เขาเก็บข้อมูลของเธอมาหมด รู้ว่าทำอะไรไม่ได้บ้างเข้าใจดี “อยากให้เค้าไปหาที่บ้านใช่มั้ย” แสยะยิ้มปรายตามองไปยังบ้านของเธอ แค่ขู่ไม่คิดจะไปจริงสักนิด เข้าใจความรู้สึกของเธอดี เมื่อห้ามอะไรไว้ก็ไม่อยากก้าวก่าย
“ไม่ได้อย่ามาเชียวนะ ไม่งั้นเค้าโกรธจริง ๆ ด้วย “ อุทานออกมาเสียงแข็ง กลัวหนึ่งมาหาที่บ้านจริง ๆ “เค้าไม่กล้าไป อาย! อายเพื่อน ๆ ของหนึ่ง กลัวมีคนเอามาเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง” บอกเหตุผลบางส่วนไป
“วีฟังนะ วีมาเล่นกับเจน วีไม่ได้มาหาหนึ่ง ไม่มีใครเอาไปพูดหรอก เราไม่ได้จะมานั่งเล่นด้วยกันสองต่อสองสักหน่อย อ่อ เพื่อนหนึ่งจะอายทำไม อายใคร! อายเก้ากับแพมกับปุ้มเหรอ ไม่ต้องอายเลย สามคนนี้เพื่อนสนิทหนึ่งครับ” หนึ่งพูดยืดยาวแสงระวีฟังอย่างตั้งใจไม่พูดแทรกสักคำ “มาหาเค้าหน่อยนะวี” หนึ่งพูดเสียงออดอ้อน
“ขอตัดสินใจดูก่อน” แสงระวีลังเล อยากไปก็อยากไป ไม่กล้าก็ไม่กล้า
“วีอย่าคิดนานดิ ไหนบอกกลัวพ่อแม่รู้ไง จะบ่ายแล้วนา พ่อแม่กลับมาวีมาไม่ได้นะ เรากลับก่อนด้วย อีกนานกว่าจะได้เจอกัน” อมยิ้มมองไปยังบ้านของแสงระวีไม่ละสายตา หากว่าแสงระวีโผล่มาที่หน้าต่างจะต้องเห็นเข้าอย่างจังแน่นอน วันนี้ไม่ได้เจอ วันหลังหาทางมาเจอก็ได้ แต่ว่ามันก็อยากเจอวันนี้ด้วย อย่างไรก็จะเจอหน้าให้ได้ก่อนกลับ
นั่นสิ! แสงระวีคิดตามที่หนึ่งพูด สี่โมงห้าโมงเย็นก็จะเป็นเวลาพ่อกลับจากนา หนึ่งก็คงต้องกลับ พอมองดูนาฬิกาเป็นเวลาใกล้เที่ยงเอาไงดี “อือไปก็ได้” สุดท้ายก็ตัดสินใจตอบตกลงว่าจะไป
“ดีมาก ! มาจริง ๆ นะไม่ใช้หลอกเค้าวางสายเหมือนเมื่อกี้ล่ะ ไม่งั้นเดินไปบ้านเลยนะ แค่นี้นะครับรีบ ๆ มาเลย” ยิ้มปนหัวเราะอย่างชอบใจที่ขู่เธอได้สำเร็จ วางสายแล้วนั่งคอยอย่างสบายใจ เชื่อว่าคราวนี้เธอต้องมาหาตนเองที่บ้านของเจนแน่นอน
หลังวางสายยืนยันแน่วแน่กับตนเองแล้วว่าจะไปให้หนึ่งเห็นหน้า แสงระวียืนมองตัวเองที่ตู้กระจกหมุนตัวไปมาซ้ายขวา ตรวจความเรียบร้อยก่อนไปว่าดูดีหรือยัง เสื้อยืดกางเกงวอร์มสีดำรีดเป็นกลีบเงาวับแค่นี้ก็ดูดีแล้ว
ก่อนไปทาแป้งฝุ่นนิดหน่อยพอหน้าหายมัน เติมลิปมัน และทาอุทัยทิพย์ให้ปากมีสีแดงนิด ๆ เมื่อมั่นใจแล้วแสงระวีเดินลงมาจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังบ้านของเจน ถ้ามีผู้ใหญ่ถามก็จะบอกว่ามาทานข้าวเที่ยง นี่แหละคือแผนตื้น ๆ ที่คิดเอาไว้ ดีกว่าไม่มีคำแก้ตัวใด ๆ เลย
แสงระวี….บทที่ 6 (รีไรท์)
งานเก่าลองรีไรท์เอามาให้อ่านดูค่ะ ดูดีขึ้นไหม?
อยากบอกว่าคิดถึงคนทำปกเรื่องนี้ให้ หายไปนานมากกกกกก 🤣🤣🤣 ลืมถนนละมั้ง!!! 555555
***********************************************
ในที่สุดวันเสาร์ที่รอคอยก็มาถึงสักที แสงระวีแอบนับวันรอหนึ่งทุกวัน ทั้งสองคนคุยกันในช่วงพักเที่ยงเสมอ ในส่วนความรู้สึกลึก ๆ ของแสงระวีนั้นไม่ได้คิดจริงจังกับหนึ่งเลย แค่คุยสนุกไปวัน ๆ
แอบโกรธตนเองอยู่ไม่น้อย ทำไมต้องรอวันเสาร์ ทำไมเมื่อรู้ว่าหนึ่งจะมาต้องตื่นเต้นด้วย ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยด้วยสักนิดจะตื่นเต้นทำไม นึกเอ็ดตนเองที่เผลอไผล นอนคิดไปเรื่อยบนที่นอนในตอนเช้า ๆ ก่อนจะรีบลุกไปอาบน้ำ
เพราะเป็นวันหยุดแม่จึงไม่ปลุก ปล่อยให้นอนตื่นสาย ๆ ได้ ทว่าวันนี้มีนัดจึงรีบตื่นอาบน้ำแต่งตัวให้สวยดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอสวมกางเกงวอร์มสีดำเสื้อยืดคอกลมสีชมพู นี่แหละชุดที่สวยที่สุดแล้วตามสไตล์ของเธอเอง รีบแต่งตัวให้เสร็จรอหนึ่งที่บ้าน ยังไม่คิดจะไปบ้านสองฝาแฝดในเวลานี้ ไม่อยากให้ทั้งสองคนล้อหรือจับผิดตนเองเรื่องหนึ่ง
สิบโมงเช้าหนึ่งกับเพื่อน ๆ มาถึงบ้านของเจน เจนส่งข้อความมาบอกแทนการโทรคุย ไม่เข้าใจกับพี่สาวคนนี้นัก จะส่งข้อความมาทำไม โทรมาก็สิ้นเรื่อง เธอเปิดอ่านด้วยหัวใจเต้นแรง เขินหรือก็ไม่ใช่ อายหรือก็ไม่ ! เพราะคุยกันทุกวัน ทว่ามันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก รู้แค่ว่าตอนนี้ตนเองตื่นเต้นเหลือเกิน เดินวนไปวนมาบนบ้านแบบไม่รู้ตัวเลย
ไม่ได้ตอบกลับในทันที ไม่ได้โทรกลับไปถามด้วย ทำเพียงเปิดอ่านข้อความเท่านั้น ทราบว่าเพื่อนที่มาในวันนี้เป็นกลุ่มเดิมที่มาเมื่อสัปดาห์ก่อน มีหนึ่งและเพื่อนผู้ชายหนึ่งคนผู้หญิงอีกสองคน มาเท่าเดิมคนเดิม ทำไมต้องตื่นเต้นด้วยไม่เข้าใจอาการที่เป็นนัก การคุยกันทุกเที่ยงไม่ได้ช่วยอะไรในวันนี้เลย
แสงระวียังไม่กล้าไปบ้านของเจน ทั้งอายปนตื่นเต้นไม่มั่นใจในตนเอง ทั้งที่เป็นคนมั่นใจในตนเองเสมอมา ทำไมต้องมาแผ่วในเรื่องนี้วันนี้ด้วย แต่งตัวเสร็จเดินลงมาจากบนบ้าน มานั่งเล่นที่เปลใต้ถุนบ้านคนเดียว สายตาคอยมองไปทางบ้านของสองฝาแฝดอยู่ร่ำไป เพราะอยากเห็นหนึ่ง
จากบ้านของเธอไปถึงบ้านของสองฝาแฝดก็พอมองเห็นได้ชัด ไม่นานเห็นพี่มอสขับรถมาจอดหน้าบ้านเจน คงมาเล่นกับเจนด้วยตามเคยนั่นแหละ ปกติวันหยุดแบบนี้พี่มอสมาตลอด ไหนจะตอนหลังเลิกเรียนอีก ตอนค่ำพี่มอสก็มาหาเจนทุกวัน ชนิดที่ว่างไม่ได้ต้องมาหากันเสมอสำหรับสองคนนี้ เธอนั่งมองแอบยิ้มให้กับความรักของทั้งคู่ที่บ้านของตน
เป็นความโชคดีของเจน ทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่ ม.1 ยังไม่เลิกกันเลย ในขณะหลาย ๆ คู่ที่มีแฟนพร้อมกันเลิกกันไปแล้ว พี่มอสจริงใจกับเจนมาก ส่วนเจลคู่แฝดก็มีแฟนเป็นของตนเองแล้วเหมือนกัน รายนี้หน้าตาดีกว่าใคร ถึงแม้จะหน้าตาเหมือนกับเจนแต่ก็มีจุดที่แตกต่างกัน
แสงระวีนั่งเปลปรายตามองไปยังบ้านพี่สาว คิดอะไรเพลิน ๆ คิดไปถึงหนึ่ง อยากเดินไปเล่นด้วยมากแต่ไม่กล้า และแล้วสายตาก็พลันมองไปเห็นใครบางคนที่อยากเห็น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ตื่นเต้นอยากเดินขึ้นไปหลบบนบ้าน ทว่าอีกใจมันก็อยากเจอแม้จะเจอแบบทางไกลก็ตาม
วันนี้หนึ่งแต่งตัวดูดีมาก ผิวขาว จมูกโด่งเป็นสัน รับกับใบหน้าเรียวได้รูป ดูรวม ๆ หล่อเอาการเอางานพอสมควร ตัวสูง หุ่นดี รวมทั้งเพื่อนผู้ชายที่มาด้วยอีกคน รูปร่างหน้าตาหล่อไม่แพ้กัน ส่วนเพื่อนผู้หญิงทั้งสองคนก็สวยหุ่นดีมาก หน้าตาสะสวยมากแตกต่างกับเธอลิบลับ
พิจารณาดูการแต่งตัวของเพื่อนเจนที่มาในวันนี้ พอหันมามองตนเองช่างต่างกันเหลือเกิน ความมั่นใจหายไปจนหมด ยิ่งทำให้แสงระวีไม่กล้าเจอหน้าหนึ่ง วันนี้ยังไม่พร้อมวันหลังแล้วกัน เอาไว้รอบหน้าค่อยเจอกันนะ พูดกับตนเองก่อนจะตัดสินใจโดยไม่รีรอ คือ ไม่ไปบ้านเจนดีกว่า นั่งเล่นอยู่ที่บ้านคนเดียวก็ได้ แอบมองอยู่ห่าง ๆ
พวกเพื่อนของเจนชอบหันมามองเธออยู่บ่อย ๆ ทำให้สงสัยอยู่ไม่น้อย ครุ่นคิดว่ากำลังพูดถึงเธออยู่หรือเปล่า ทั้งที่ตนเองสามารถจะขึ้นไปหลบบนบ้านได้ แต่ก็ไม่ยอมไป เพราะเสียงของใจมันบอกอยากเจอหนึ่ง
เพื่อน ๆ ของเจนชอบมองมาบ่อยเหลือเกิน มันดูน่าคิดว่าต้องพูดเรื่องตนเองแน่ พอคิดได้แบบนี้จึงเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อหลบสายตา มองมาบ่อยจนขาดความมั่นใจหมดแล้ว เมื่อเธอขึ้นมาบนบ้านไม่ทันไร หนึ่งก็โทรหาหนึ่งอยากเห็นเธอ อยากเห็นหน้าของเธอ ขอร้องให้มาที่บ้านเจนได้ไหม มาเล่นด้วยกัน
“วีหายเข้าไปบนบ้านทำไมอ่ะ เค้าอยากเห็นหน้านะ ทำไมไม่มาบ้านเจน ไหนตกลงกันไว้แล้วไงเมื่อวานตอนเที่ยงอ่ะ” หนึ่งถาม พอเธอขึ้นมาบนบ้านหนึ่งก็โทรตามเลย
“ไม่กล้า อาย !” พูดยิ้ม ๆ ตอบไปตามตรง เพราะเธออายจริง ๆ นี่
“เอ้า ! จะอายทำไม ตอนคุยกับเค้าทำไมไม่อายล่ะ” นั่นแหนะยังจะมาทำเป็นพูด มันเหมือนกันที่ไหน ตอนนั้นแค่คุยโทรศัพท์ไม่ได้เห็นหน้ากันหนิ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น ใครจะไม่อาย มองค้อนให้โทรศัพท์
“ไม่เหมือนกัน แค่นี้แหละ” พูดตัดบทไป
“เดี๋ยว ! อย่าพึ่งวางจะมามั้ย ถ้าไม่มาเค้าไปหาที่บ้านนะ” เบิกตากว้างที่โดนขู่ ยิงฟันให้คนในโทรศัพท์อย่างตลก ไม่เข้าใจหรืออย่างไรว่าเธออาย ยังจะมาขู่ให้ไปเล่นด้วยอีก
“เออ ๆ เดี๋ยวเค้าไป แค่นี้แหละ” รับปากไปส่ง ๆ เพื่ออยากวางสาย
“สัญญาแล้วนะ ถ้ายังไม่มาไปหาที่บ้านแน่ ฮา” ตามด้วยเสียงหัวเราะอึกอักแทรกเข้ามา ทั้งเสียงหัวเราะของเพื่อน ๆ แทรกเข้ามาด้วย ยิ่งทำให้งอนเข้าไปอีก พากันตลกมากหรือไรถึงได้หัวเราะเธอ แล้วก็วางสายไป
แสงระวีไม่กล้าไปบ้านเจนทั้งที่อยากไปมาก ไม่นานเจลก็มาหาที่บ้าน เจลเป็นเมสเซนเจอร์คอยนำข้อมูลของหนึ่งมาบอกเสมอ เดินไปเดินมาด้วยความเต็มใจ
“วีทำไมไม่ไปบ้านกู อี่เจนก็รอ” เจลถามคงเหนื่อยเดินและอยากให้ไปเล่นที่บ้านตัวเองมาก “หนึ่งก็รอนะ ฮา” ไม่พอแถมล้อเธอไปอีก
“กูไม่กล้าไป อาย” สีหน้ามีความกังวลนิดหน่อย เจลไม่เข้าใจคำว่าอายเลยหรือ คะยั้นคะยอให้ไปอยู่ได้
“อายใคร อายหนึ่งเหรอ มืงคุยกันทุกวันยังอายอีกเหรอ” เจลทำหน้าเบื่อโลก “ทำไมต้องอายคุยกันทุกวันสมควรจะสนิทกันได้แล้ววี อีกอย่างไม่ได้ไปไหนหรืออยู่ด้วยกันสองต่อสองสักหน่อย กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง “ ออกอาการเอือมระอานิดหน่อย เธอเองก็เถียงไม่ออกสักคำ
“อายหมดแหละ อายเพื่อน ๆ เขาด้วย อีกอย่างกูกลัวมีคนไปพูดเข้าหูพ่อกับแม่” แสงระวีทำหน้าเศร้า ทำไมพ่อกับแม่ของเธอไม่เป็นเหมือนลุงจันทร์กับป้าก้อยบ้างนะ ทำไมพ่อแม่ไม่เข้าใจวัยรุ่นเหมือนลุงกับป้าเลย ขนาดเจนมีแฟนตั้งแต่จบ ป.6 ได้เดือนเดียวยังได้
“ใครจะพูด ก็มาเล่นกับกู เพื่อนอี่เจนก็ส่วนเพื่อนอี่เจน” เจลพูดด้วยความเข้าใจ ที่เจลพูดก็ถูก
“มันก็ต้องมีคนเอาไปพูดนั่นแหละเจล กูกลัว! กลัวพ่อกับแม่ถาม อีกอย่างอายเขาด้วยไม่กล้าไป” แสงระวีแสดงเจตจำนงว่าไม่ต้องการไปที่นั่น มันช่างขัดแย้งกับความรู้สึกของตนเองเหลือเกิน ใจหนึ่งอยากไปอีกใจหนึ่งก็ไม่อยากไป อีกอย่างได้สัญญากับหนึ่งไปแล้วว่าจะไปเจอ กลัวว่าหนึ่งจะมาหาตนเองที่นี่อีก ตอนนี้ความคิดปะทะกันในสองหนักมาก
“ตามใจมืงแล้วกัน เดี๋ยวกูมาอยู่เล่นเป็นเพื่อนมืงนะ กลับไปบอกพวกมันก่อนว่ามืงไม่มา” พูดจบเจลก็กลับบ้านของตน นำเรื่องไปบอกเจนกับหนึ่งพอตัดสินใจแบบนั้นทำเอาคิดมากไปอีก ทำไมต้องห่วงความรู้สึกหนึ่ง ทำไมต้องกลัวหนึ่งไม่พอใจ นี่ตนเองเป็นอะไรไป ทำไมต้องแคร์เรื่องพวกนี้ด้วย ทั้งที่ก็แค่คุยเท่านั้น ยังไม่ใช่แฟนกันสักหน่อย ทำไมต้องคิดมากล่ะ
กระวนกระวายใจอยู่คนเดียว ระหว่างรอเจลกลับมา หรือจะโทรไปขอโทษหนึ่งดี บอกว่าไม่ไป จะได้ไม่ต้องรอ มือกำโทรศัพท์เอาไว้จะโทรไปบอกดีหรือเปล่า สุดท้ายก็ไม่โทร ภาวนาว่าอย่าให้หนึ่งตามมาที่บ้านเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นเรื่องได้ถึงหูพ่อกับแม่แน่นอน
แสงระวีขึ้นไปบนบ้านรอเจล เปิดหน้าต่างฝั่งบ้านเจลเอาไว้ แอบยืนมองพวกเจนที่นั่งอยู่หน้าบ้าน หนึ่งหันมาเห็นเข้าพอดีพร้อมยิ้มให้ แสงระวีตกใจนั่งหลบลงที่พื้น พร้อมหัวเราะตนเองอย่างตลกจะหลบทำไม เป็นบ้าอะไร ทำไมต้องหลบ กลัวอะไรก็แค่ผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
พอโดนจับได้ก็หันมาเปิดทีวีดู มีสายโทรศัพท์เข้า ชื่อของหนึ่งโชว์หลาที่หน้าจอโทรศัพท์ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หรือว่าหนึ่งจะมาหาตนที่บ้าน จะทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะรับสายและคอยฟังว่าจะพูดอะไร
“วีทำไมไม่มาบ้านเจนอ่ะ เค้ามาเล่นด้วย เค้ารอวีนานแล้วนะจะมาตอนไหน” น้ำเสียงของปลายสายออกอาการงอนนิดหน่อย หลังจากที่หนึ่งมองเห็นเธอที่ขอบหน้าต่างของบ้านก็โทรเข้ามาถามทันที
“ก็บอกแล้วนี่ว่าไม่กล้าไป” ตอบไปแบบตรง ๆ คอยลุ้นไปด้วยว่าหนึ่งจะดื้อด้านมาที่บ้านของตนหรือเปล่า
“ทำไมไม่กล้าล่ะ พ่อกับแม่ว่าเหรอ ท่านทั้งสองคนไม่อยู่หนิเจนบอก” เขาเก็บข้อมูลของเธอมาหมด รู้ว่าทำอะไรไม่ได้บ้างเข้าใจดี “อยากให้เค้าไปหาที่บ้านใช่มั้ย” แสยะยิ้มปรายตามองไปยังบ้านของเธอ แค่ขู่ไม่คิดจะไปจริงสักนิด เข้าใจความรู้สึกของเธอดี เมื่อห้ามอะไรไว้ก็ไม่อยากก้าวก่าย
“ไม่ได้อย่ามาเชียวนะ ไม่งั้นเค้าโกรธจริง ๆ ด้วย “ อุทานออกมาเสียงแข็ง กลัวหนึ่งมาหาที่บ้านจริง ๆ “เค้าไม่กล้าไป อาย! อายเพื่อน ๆ ของหนึ่ง กลัวมีคนเอามาเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง” บอกเหตุผลบางส่วนไป
“วีฟังนะ วีมาเล่นกับเจน วีไม่ได้มาหาหนึ่ง ไม่มีใครเอาไปพูดหรอก เราไม่ได้จะมานั่งเล่นด้วยกันสองต่อสองสักหน่อย อ่อ เพื่อนหนึ่งจะอายทำไม อายใคร! อายเก้ากับแพมกับปุ้มเหรอ ไม่ต้องอายเลย สามคนนี้เพื่อนสนิทหนึ่งครับ” หนึ่งพูดยืดยาวแสงระวีฟังอย่างตั้งใจไม่พูดแทรกสักคำ “มาหาเค้าหน่อยนะวี” หนึ่งพูดเสียงออดอ้อน
“ขอตัดสินใจดูก่อน” แสงระวีลังเล อยากไปก็อยากไป ไม่กล้าก็ไม่กล้า
“วีอย่าคิดนานดิ ไหนบอกกลัวพ่อแม่รู้ไง จะบ่ายแล้วนา พ่อแม่กลับมาวีมาไม่ได้นะ เรากลับก่อนด้วย อีกนานกว่าจะได้เจอกัน” อมยิ้มมองไปยังบ้านของแสงระวีไม่ละสายตา หากว่าแสงระวีโผล่มาที่หน้าต่างจะต้องเห็นเข้าอย่างจังแน่นอน วันนี้ไม่ได้เจอ วันหลังหาทางมาเจอก็ได้ แต่ว่ามันก็อยากเจอวันนี้ด้วย อย่างไรก็จะเจอหน้าให้ได้ก่อนกลับ
นั่นสิ! แสงระวีคิดตามที่หนึ่งพูด สี่โมงห้าโมงเย็นก็จะเป็นเวลาพ่อกลับจากนา หนึ่งก็คงต้องกลับ พอมองดูนาฬิกาเป็นเวลาใกล้เที่ยงเอาไงดี “อือไปก็ได้” สุดท้ายก็ตัดสินใจตอบตกลงว่าจะไป
“ดีมาก ! มาจริง ๆ นะไม่ใช้หลอกเค้าวางสายเหมือนเมื่อกี้ล่ะ ไม่งั้นเดินไปบ้านเลยนะ แค่นี้นะครับรีบ ๆ มาเลย” ยิ้มปนหัวเราะอย่างชอบใจที่ขู่เธอได้สำเร็จ วางสายแล้วนั่งคอยอย่างสบายใจ เชื่อว่าคราวนี้เธอต้องมาหาตนเองที่บ้านของเจนแน่นอน
หลังวางสายยืนยันแน่วแน่กับตนเองแล้วว่าจะไปให้หนึ่งเห็นหน้า แสงระวียืนมองตัวเองที่ตู้กระจกหมุนตัวไปมาซ้ายขวา ตรวจความเรียบร้อยก่อนไปว่าดูดีหรือยัง เสื้อยืดกางเกงวอร์มสีดำรีดเป็นกลีบเงาวับแค่นี้ก็ดูดีแล้ว
ก่อนไปทาแป้งฝุ่นนิดหน่อยพอหน้าหายมัน เติมลิปมัน และทาอุทัยทิพย์ให้ปากมีสีแดงนิด ๆ เมื่อมั่นใจแล้วแสงระวีเดินลงมาจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังบ้านของเจน ถ้ามีผู้ใหญ่ถามก็จะบอกว่ามาทานข้าวเที่ยง นี่แหละคือแผนตื้น ๆ ที่คิดเอาไว้ ดีกว่าไม่มีคำแก้ตัวใด ๆ เลย