.
“ทำไมนิ่งอ่ะ เป็นไรคะ “ ยกมือซ้ายมาลูบผมของเธอเบา ๆ หันมาจ้องหน้าและส่งยิ้มให้ “เป็นอะไรหรอ คิดอะไรอยู่คะ” ถามภรรยาสุดที่รักด้วยความเป็นห่วงปนเอ็นดู ปกตินิ่งแบบนี้ที่ไหนนอกจากจะกำลังระแวงพะวงอะไรอยู่เท่านั้น คุยกันระหว่างติดไฟแดง
“เปล่า ! อยากไปคาเฟ่อีก” ปฏิเสธไปก่อน ไม่อยากบอกว่าตนเองกำลังกลัวอะไรอยู่
“ไปน่ะพาไปแน่นอนค่ะถ้าเสร็จก่อนบ่ายสาม แต่ว่าตอนนี้พี่อยากรู้ว่าน้องคิดอะไรอยู่ กลัวเหรอ !” ในที่สุดเขาก็ลองโยนหินถามทางดู และ คิดว่าเดาไม่ผิดแน่นอน ก่อนที่จะขับรถไปต่อเมื่อสัญญาณไฟเขียวขึ้นมาแทนที่ไฟแดง
“อือ “ เธอตอบเบา ๆ นอนลงกับเบาะรถหันหน้ามาหาเมธี ระหว่างนั้นรถก็กำลังวิ่งเข้ามาในเขตโรงพยาบาล วันนี้เธอต้องมาหาหมอเพราะเป็นอะไรบางอย่าง แม้จะแน่ใจก่อนมาพบหมอแล้ว ทว่ามันจะหายเองไม่ได้ถ้าไม่พึ่งหมอ
เมธีเผยยิ้มเคยเดาผิดที่ไหน ยิ้มให้ภรรยาคราวลูกด้วยความเอ็นดูนัก ทว่าก็ไม่พูดอะไรอีก ตั้งใจขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลอย่างเงียบ ๆ ปล่อยให้พรนภานอนคิดอะไรเงียบ ๆ คนเดียวแบบนี้ไปก่อน ปล่อยให้อยู่กับความคิดของตนเองไปก่อนค่อยปลอบใจ
เสียงของไฟเลี้ยวมันดังกวนจิตใจเธอเหลือเกิน ทั้งที่มันเสียงดังแค่นิดเดียว แต่หัวใจของเธอกับเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ยิ่งรถวิ่งเข้ามายังอาณาเขตของโรงพยาบาลแล้ว หัวใจของเธอยิ่งกระสับกระส่ายไม่เป็นจังหวะจริง ๆ มันกลัวปนตื่นเต้นไปหมด ทั้งไม่เคยมามาที่นี่ด้วยทั้งกลัวปนกันไปหมด
“พี่เมธีนภากลัว” ในที่สุดก็ยอมปริปากพูดออกมา ยอมบอกความรู้สึกภายในใจจนได้ รถจอดสนิทที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล พวกเธอสองคนยังไม่ยอมลงจากรถ
“ทำไมถึงกลัว กลัวหมอ กลัวเข็ม หรือกลัวอะไรเอ่ย” พลิกตัวนั่งตะแคงหันหน้ามาคุยกับพรนภานิดหน่อย จ้องมองใบหน้ารูปไข่ที่กำลังเศร้าเพราะความกลัว พูดปนยิ้มสร้างความมั่นใจให้กับเธอให้มากที่สุด เรียกพรนภาคนที่ไม่เคยกลัวอะไรกลับให้กลับมา
“กลัวทุกอย่าง กลัวโรค !” ทำหน้าเศร้า ๆ พูดความรู้สึกจากใจของเธอเลย
“ไหนดูดิ พี่ขอดูหน่อยค่ะ” เมธีเอื้อมมือมาลูบตรงบริเวณคอของภรรยาเบา ๆ มันนูนขึ้นมาเล็กน้อยคล้ายลูกกระเดือกแต่ว่าไม่ได้อยู่ตรงกลางลำคอ “ไม่เป็นไรหรอก น้องเป็นไทรอยด์นั่นแหละ ไม่ต้องกลัวนะคะคนเป็นเยอะแยะ เดี๋ยวก็หาย น้องเจ็บมั้ย”
มือนิ่ม ๆ ของเขาสัมผัสที่ต้นคอของเธอ “ไม่เจ็บ ไม่ปวดเลยค่ะ” คอของเธอปูดขึ้นคล้ายลูกกระเดือกนานนับสองเดือนได้พึ่งจะมาหาหมอ เพราะมันไม่ยุบสักทีนี่แหละ สงสัยว่าตนเองเป็นไทรอยด์อยู่เหมือนกัน พอมันไม่ยุบสักทีจึงตัดสินใจชวนสามีพามาหาหมอในวันนี้
“ไม่มีอะไรหรอก หมอให้ยามาทานก็หายแล้ว ไม่ต้องกลัวไม่ต้องคิดมาก ไทรอยด์มันรักษาหายค่ะ ปะเข้าไปหาหมอกันเถอะ”
“พี่เมธีต้องอยู่กับนภาตลอดเวลานะ ห้ามห่าง”
“ค่ะ ปะเข้าไปกันเถอะ เรามาสายขนาดนี้เสร็จตอนไหนน้อ ได้ไปมั้ยน้อร้านกาแฟ”
“ได้ไป ! ฮ่วย “ เธอตอบมองค้อนทำสายตาดุให้ ทำเอาเขาหัวเราะชอบใจใหญ่ นี่ไงพรนภาคนเดิมกลับมาแล้ว ก่อนที่จะพากันเดินเข้าตึกไป
ภายในโรงพยาบาลแลดูวุ่นวายพอสมควร คนมาหาหมอเยอะมาก ๆ เมธีพาเธอเดินมากรอกประวัติส่วนตัว เธอพึ่งเคยมาใช้บริการที่โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นครั้งแรก จึงดูเก้ ๆ กัง ๆ กรอกประวัติส่วนตัวเสร็จก็เดินไปยื่นให้พยาบาลหน้าเค้าน์เตอร์
พยาบาลสอบถามรายละเอียดคร่าว ๆ เป็นอะไรมา เจ็บปวดไหม จากนั้นก็ให้เดินไปวัดความดันเองด้วยเครื่องวัดความดันอัตโนมัติ ทำทุกอย่างในด่านแรกเสร็จพยาบาลก็ให้ขึ้นไปยังชั้นสามห้องแปด
“คนไข้ถือเอกสารไปยื่นที่ชั้น 3 ห้อง 8 นะคะ”
“ค่ะ “ พรนภาตอบพร้อมรับเอาเอกสารคืนจากพยาบาล พร้อมเดินกลับมาหาเมธีที่ยืนคอยอยู่ใกล้ ๆ “พี่เมธีขึ้นไปที่ชั้น 3 ห้อง 8 ค่ะ”
“ปะ “ เขาตอบ ทางขึ้นเป็นบันไดเลื่อน สะดวกสบายมากแอร์เย็นฉ่ำ พวกเธอสองคนขึ้นไปยังชั้นสามด้วยสายตาหลายคู่ที่มองตาม คงจะคิดว่าพ่อพาลูกมาหาหมอมากกว่า พอได้ยินการใช้คำพูดก็คงจะพากันสงสัยน่าดู มาถึงชั้นสามกวาดสายตามองหาห้อง 8 ทันที “น้องทางนี้ค่ะ” เขาชี้ไปทางฝั่งซ้ายมือขณะยืนอยู่หัวมุมบันไดเลื่อน
ทั้งคู่เดินมาหยุดยืนมองเลข 8 ที่หน้าห้อง ยังไม่เข้าไป เขียนไว้ว่าห้องโรคผิวหนัง ! พรนภาอ่านแล้วงงนิดหน่อยทำไมถึงส่งตนเองมายังห้องโรคผิวหนัง เป็นเกี่ยวกับคอไม่ใช่หรือ
“น้องเข้าไปเถอะ เดี๋ยวพี่รออยู่หน้าห้องนะ” พูดยิ้มให้ แกล้งสักหน่อย
“ไม่ !” ขมวดคิ้วหน้าบึ้งจ้องหน้าเมธีอย่างเอาเรื่องที่สุด “เข้าไปเป็นเพื่อนนภาเดี๋ยวนี้ !”
“โอเคค่ะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ ดุจังเว้ย ! ปะ ๆ เค้าหยอกเฉย ๆ แหม... ปะเข้าไปยื่นเอกสารเลย จะได้กลับตอนไหนคะเนี่ย คนเยอะจัด !” แค่แกล้งเท่านั้นเอง แกล้งพรนภาสนุกดี อยู่เป็นความสนุกของเขานาน ๆ นะปรายนามองพร้อมพูดในใจก่อนจะเดินจูงมือเธอเข้าไปในห้องหมายเลข 8
เมธียืนรออยู่ห่าง ๆ ให้พรนภาไปยื่นเอกสารที่เค้าน์เตอร์อีกครั้ง “คอบวมหรอ มีไข้มั้ย ปวดมั้ยคะ น้ำหนักเท่าไหร่คะ ส่วนสูง และประจำเดือนล่าสุดมาวันไหนคะ” พยาบาลซักประวัติของเธอในด่านแรก พอซักประวัติเสร็จก็คืนเอกสารให้ “เอาไปยื่นห้อง 307 ค่ะ ตรงนู้นเลยเห็นมั้ย” พยาบาลผายมือไปยังห้องที่ว่า เธอกับเมธีมองตามเห็นเขียนว่า คอ หู จมูก เธอเข้าใจแล้ว ทีแรกนึกว่าจะให้เธอมาหาหมอโรคผิวหนัง จะบ้าตาย ! นึกตลกในใจ
เมธีจูงมือเธอเดินมายังห้อง 307 ภายใต้สายตาหลายคู่ที่มองมา พวกเธอก็ไม่ใส่ใจ ตอนนี้กำลังคิดเรื่องคอของเธออยู่ ไม่มีเวลาไปคิดถึงสายตาของหลาย ๆ คนที่มองมา เมธีนั่งคอยที่เก้าอี้ซึ่งถูกจัดระยะห่างเอาไว้ตัวเว้นตัว “น้องไปยื่นเอกสารให้พยาบาลตรงนั้นค่ะ” เข้าชี้มายังเค้าน์เตอร์หน้าห้องตรวจ 307
พรนภาเดินไปยื่นเอกสารให้พยาบาลหน้าห้อง แล้วกลับมานั่งลงข้าง ๆ เมธี รอเรียกชื่อ มือก็ลูบ ๆ คำ ๆ ที่บริเวณลำคอของตนเองเป็นระยะ ๆ “น้องอย่าจับมันบ่อยมาก ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ” โดนเมธีดุจนได้
“ก็มันติดนิสัยอ่ะ อดลูบไม่ได้”
“ไม่ต้องลูบมืออยู่นิ่ง ๆ “ ไม่พูดเฉยเอื้อมมือมาจับมือขวาของเธอเอาไว้
“มือซ้ายว่างนะ” ชูขึ้นมาให้ดูนิดหน่อย พูดกลั้วหัวเราะให้สามีคราวพ่อ ไม่สนใจเลยว่าที่นี่ที่ไหน ไม่สนใจสายตาของใครหลาย ๆ คนด้วย พวกเธอคุยกันระหว่างรอเรียกเข้าไปตรวจ
“หยุดเลย ! “
“พี่เมธี ถ้าพี่เมธีหิวข้าวไปทานก่อนนภาก็ได้นะ น่าจะนานอ่ะกว่าจะได้เข้าตรวจ เดินไปหาอะไรทานรองท้องข้างนอกรอเค้าก็ได้” เธอหันมาบอกสามีด้วยความเป็นห่วง เกรงว่าจะหิวกว่าเธอจะได้เข้าตรวจ ระหว่างนั้นก็คอยฟังชื่อของตัวเองเสมอ
“ไม่เป็นไรพี่ไม่ค่อยหิว รอทานพร้อมกัน”
“ก็ได้ค่ะ” ส่งยิ้มให้ พี่เมธีน่ารักที่สุด พยาบาลหน้าเค้าน์เตอร์มีชะเง้อมองบ้าง ภายในห้อง 8 นี้มีหลายห้องย่อย มีห้องหูคอจมูก ห้องหัตถการ ห้องตา และอะไรอีกสองห้องเธอก็ไม่ได้สังเกต แต่ละห้องมีเลขติดเอาไว้ชัดเจน “พี่เมธีห้องหัตถการมันคือห้องอะไรอ่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวถามจารย์กูให้” เธอชำเลืองเข้าไปยังห้องหัตถการเห็นคนป่วยสูงอายุนอนอยู่บนเตียง น่าจะเป็นห้องรักษาโรคทั่วไป
“คุณพรนภาค่ะ คุณพรนภา ” หมอห้อง 307 ยืนเรียกเธอที่หน้าประตู เป็นหมอผู้หญิง
เมื่อโดนเรียกชื่อถึงคิวตรวจเธอก็เดินเข้าไปในห้อง 307 นั่น นั่งคอยทำการตรวจ มีหมอสองคนในห้องนี้ เป็นผู้หญิงทั้งหมด สวย น่ารัก หมอซักถามประวัติอีกครั้ง แพ้ยาไหม โรคประจำตัวมีไหม พอถามจบหมอก็ทำการตรวจเลย
“หมอขอเจาะเลือดที่คอเพื่อทำการตรวจนิดหน่อยนะคะ” คุณหมอชี้แนะ เธอมีอาการเลิ่กลั่กนิดหน่อย คุณหมอทั้งสองคนยิ้มให้กับอาการเลิ่กลั่กของเธอ “ไม่ต้องกลัวค่ะ เจาะเลือดแป๊บเดียวไม่เจ็บนา”
“ค่ะ “ ตอบพร้อมยิ้มนิดหน่อย คุณหมอใช้มือคำที่บริเวณลำคอของเธอ กดเบา ๆ บริเวณที่มันเป็นก้อนขึ้นมา เจ็บแต่ทนได้
“เป็นไทรอยด์น้อ เป็นมาสองเดือนแล้วใช่มั้ย” หมอพูดไปพร้อมลูบคำบริเวณลำคอของเธอด้วย เธอพยักหน้าตอบ “เดี๋ยวหมอจะเจาะเลือดแล้วนะคะ”
จากนั้นหมอก็ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ทาบริเวณที่เป็นก้อน รู้สึกเย็นบริเวณนั้น แล้วหมอก็ใช้เข็มเจาะที่ลำคอของเธอตรงบริเวณที่มันเป็นก้อนนั่นแหละ
พรนภาสัมผัสได้ถึงความเจ็บและชา สัมผัสได้ถึงแรงดูดของเข็มฉีดยาถึงสามครั้งกว่าจะเต็มหลอด พอเลือดเต็มหลอดหมอก็เอาสำลีมาอุดรอยเข็มไว้ ให้เธอกดสำลีเอาไว้ก่อนจากนั้นหมอก็นำพลาสเตอร์มาแปะให้
พอได้เลือดของเธอแล้ว เธอหันไปมองหมอกำลังฉีดเลือดใส่แผ่นสไลด์ทั้งหมด 3 แผ่น กำลังทำการตรวจหาโรค หมอเทเลือดของเธอลงไป แล้วคอยดูปฏิกิริยา พอเห็นเลือดแล้วเธอก็เบือนหน้าหนี นึกขอบคุณตัวเองที่ไม่หลวมตัวไปเรียนวิทยาลัยพยาบาลกับเพื่อนเมื่อตอนเรียนมัธยมปลาย ไม่อย่างนั้นไม่จบแน่นอน
“เรียบร้อยค่ะ เดี๋ยวออกไปนั่งรอหน้าห้องเหมือนเดิมนะคะ”
“ค่ะ “ เมื่อตรวจเสร็จเธอก็เดินออกมา เห็นเมธีส่งยิ้มให้จากโต๊ะนั่งรอ เธอเดินมานั่งลงที่โต๊ะเดิม เล่าเหตุการณ์ที่เข้าไปตรวจให้เขาฟัง
“คุณพรนภาค่ะ” ไม่นานพยาบาลหน้าห้องก็เรียกชื่ออีกครั้ง เธอเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฟังพยาบาลอธิบาย “คุณหมอนัดอีกทีวันที่ 15 นะคะ มาฟังผลตรวจวันนี้น้อ ใบนี้ไปยื่นที่ช่อง 3 ชั้น 2 ส่วนใบนี้เป็นใบนัดเอ็กซเรย์ ได้คิววันที่ 10 กันยายนนะคะ เอาไปยื่นช่องที่ 28 ชั่น 1 ค่ะ”
“เอ่อ ช่วยโน๊ตให้หนูหน่อยได้มั้ยคะ จำไม่ได้” พูดยิ้ม ๆ ให้พยาบาล
“ได้จ้ะ !” พยาบาลก็ใจดีมาก ๆ โน๊ตบนหัวกระดาษให้เธอตามคำขอ แล้วเธอก็เดินกลับออกมา จากนั้นก็พาเมธีไปจ่ายเงินพร้อมไปยื่นใบรอคิวเอ็กซเรย์ในเดือนกันยายน
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ดูนาฬิกาเป็นเวลาบ่ายสองโมงเย็น เสร็จทันบ่ายสามโมงแฮะ ได้ไปร้านกาแฟตามที่วางแผนเอาไว้ เธอพกชุดที่จะใส่ไปร้านกาแฟมาด้วย
“พี่เมธีวันที่ 15 พี่เมธีต้องว่างนะ ไม่ว่างไม่ได้ แล้วใครจะพานภามาหาหมอ” มองหน้าคนตรงหน้าอย่างจริงจัง “นัดเอ็กซเรย์ตั้งเดือนกันยายนแหนะ ไกลเกิน”
“ค่ะ สำหรับน้องนภาพี่มีเวลาว่างให้เสมอ ไม่ได้ยาใช่มั้ย พี่ว่านะวันที่ 15 มาตรวจอีกนี่แหละจะได้ยามากิน ไทรอยด์กินยานานอยู่นะกว่าจะหาย”
“อือ”
พวกเธอคุยกันในรถก่อนจะขับออกไป มุ่งหน้าไปยังร้านกาแฟที่เคยไปมาแล้ว ไปรอบก่อนไม่เปิด คราวนี้เปิดแน่นอน พรนภาได้ทำการสืบค้นมาแล้วว่าทางร้านเปิดให้บริการแล้วเรียบร้อย
ระหว่างทางไปร้านกาแฟพรนภาสั่งให้เมธีแวะปั๊มน้ำมันก่อน ตนเองจะเปลี่ยนชุดและหาอะไรทานรองท้องกัน ที่ร้านอาหารตามสั่งในปั๊มน้ำมันนี่แหละ พวกเธอไม่ถืออะไร ไม่ได้ทำตัวไฮโซหรูหราอะไรมากมาย แค่ได้เที่ยว ได้กิน และได้ไปทุกที่ ๆ อยากไปก็พอ
ฝันหวาน (Sweet Dream) 44
.
“ทำไมนิ่งอ่ะ เป็นไรคะ “ ยกมือซ้ายมาลูบผมของเธอเบา ๆ หันมาจ้องหน้าและส่งยิ้มให้ “เป็นอะไรหรอ คิดอะไรอยู่คะ” ถามภรรยาสุดที่รักด้วยความเป็นห่วงปนเอ็นดู ปกตินิ่งแบบนี้ที่ไหนนอกจากจะกำลังระแวงพะวงอะไรอยู่เท่านั้น คุยกันระหว่างติดไฟแดง
“เปล่า ! อยากไปคาเฟ่อีก” ปฏิเสธไปก่อน ไม่อยากบอกว่าตนเองกำลังกลัวอะไรอยู่
“ไปน่ะพาไปแน่นอนค่ะถ้าเสร็จก่อนบ่ายสาม แต่ว่าตอนนี้พี่อยากรู้ว่าน้องคิดอะไรอยู่ กลัวเหรอ !” ในที่สุดเขาก็ลองโยนหินถามทางดู และ คิดว่าเดาไม่ผิดแน่นอน ก่อนที่จะขับรถไปต่อเมื่อสัญญาณไฟเขียวขึ้นมาแทนที่ไฟแดง
“อือ “ เธอตอบเบา ๆ นอนลงกับเบาะรถหันหน้ามาหาเมธี ระหว่างนั้นรถก็กำลังวิ่งเข้ามาในเขตโรงพยาบาล วันนี้เธอต้องมาหาหมอเพราะเป็นอะไรบางอย่าง แม้จะแน่ใจก่อนมาพบหมอแล้ว ทว่ามันจะหายเองไม่ได้ถ้าไม่พึ่งหมอ
เมธีเผยยิ้มเคยเดาผิดที่ไหน ยิ้มให้ภรรยาคราวลูกด้วยความเอ็นดูนัก ทว่าก็ไม่พูดอะไรอีก ตั้งใจขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลอย่างเงียบ ๆ ปล่อยให้พรนภานอนคิดอะไรเงียบ ๆ คนเดียวแบบนี้ไปก่อน ปล่อยให้อยู่กับความคิดของตนเองไปก่อนค่อยปลอบใจ
เสียงของไฟเลี้ยวมันดังกวนจิตใจเธอเหลือเกิน ทั้งที่มันเสียงดังแค่นิดเดียว แต่หัวใจของเธอกับเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ยิ่งรถวิ่งเข้ามายังอาณาเขตของโรงพยาบาลแล้ว หัวใจของเธอยิ่งกระสับกระส่ายไม่เป็นจังหวะจริง ๆ มันกลัวปนตื่นเต้นไปหมด ทั้งไม่เคยมามาที่นี่ด้วยทั้งกลัวปนกันไปหมด
“พี่เมธีนภากลัว” ในที่สุดก็ยอมปริปากพูดออกมา ยอมบอกความรู้สึกภายในใจจนได้ รถจอดสนิทที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล พวกเธอสองคนยังไม่ยอมลงจากรถ
“ทำไมถึงกลัว กลัวหมอ กลัวเข็ม หรือกลัวอะไรเอ่ย” พลิกตัวนั่งตะแคงหันหน้ามาคุยกับพรนภานิดหน่อย จ้องมองใบหน้ารูปไข่ที่กำลังเศร้าเพราะความกลัว พูดปนยิ้มสร้างความมั่นใจให้กับเธอให้มากที่สุด เรียกพรนภาคนที่ไม่เคยกลัวอะไรกลับให้กลับมา
“กลัวทุกอย่าง กลัวโรค !” ทำหน้าเศร้า ๆ พูดความรู้สึกจากใจของเธอเลย
“ไหนดูดิ พี่ขอดูหน่อยค่ะ” เมธีเอื้อมมือมาลูบตรงบริเวณคอของภรรยาเบา ๆ มันนูนขึ้นมาเล็กน้อยคล้ายลูกกระเดือกแต่ว่าไม่ได้อยู่ตรงกลางลำคอ “ไม่เป็นไรหรอก น้องเป็นไทรอยด์นั่นแหละ ไม่ต้องกลัวนะคะคนเป็นเยอะแยะ เดี๋ยวก็หาย น้องเจ็บมั้ย”
มือนิ่ม ๆ ของเขาสัมผัสที่ต้นคอของเธอ “ไม่เจ็บ ไม่ปวดเลยค่ะ” คอของเธอปูดขึ้นคล้ายลูกกระเดือกนานนับสองเดือนได้พึ่งจะมาหาหมอ เพราะมันไม่ยุบสักทีนี่แหละ สงสัยว่าตนเองเป็นไทรอยด์อยู่เหมือนกัน พอมันไม่ยุบสักทีจึงตัดสินใจชวนสามีพามาหาหมอในวันนี้
“ไม่มีอะไรหรอก หมอให้ยามาทานก็หายแล้ว ไม่ต้องกลัวไม่ต้องคิดมาก ไทรอยด์มันรักษาหายค่ะ ปะเข้าไปหาหมอกันเถอะ”
“พี่เมธีต้องอยู่กับนภาตลอดเวลานะ ห้ามห่าง”
“ค่ะ ปะเข้าไปกันเถอะ เรามาสายขนาดนี้เสร็จตอนไหนน้อ ได้ไปมั้ยน้อร้านกาแฟ”
“ได้ไป ! ฮ่วย “ เธอตอบมองค้อนทำสายตาดุให้ ทำเอาเขาหัวเราะชอบใจใหญ่ นี่ไงพรนภาคนเดิมกลับมาแล้ว ก่อนที่จะพากันเดินเข้าตึกไป
ภายในโรงพยาบาลแลดูวุ่นวายพอสมควร คนมาหาหมอเยอะมาก ๆ เมธีพาเธอเดินมากรอกประวัติส่วนตัว เธอพึ่งเคยมาใช้บริการที่โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นครั้งแรก จึงดูเก้ ๆ กัง ๆ กรอกประวัติส่วนตัวเสร็จก็เดินไปยื่นให้พยาบาลหน้าเค้าน์เตอร์
พยาบาลสอบถามรายละเอียดคร่าว ๆ เป็นอะไรมา เจ็บปวดไหม จากนั้นก็ให้เดินไปวัดความดันเองด้วยเครื่องวัดความดันอัตโนมัติ ทำทุกอย่างในด่านแรกเสร็จพยาบาลก็ให้ขึ้นไปยังชั้นสามห้องแปด
“คนไข้ถือเอกสารไปยื่นที่ชั้น 3 ห้อง 8 นะคะ”
“ค่ะ “ พรนภาตอบพร้อมรับเอาเอกสารคืนจากพยาบาล พร้อมเดินกลับมาหาเมธีที่ยืนคอยอยู่ใกล้ ๆ “พี่เมธีขึ้นไปที่ชั้น 3 ห้อง 8 ค่ะ”
“ปะ “ เขาตอบ ทางขึ้นเป็นบันไดเลื่อน สะดวกสบายมากแอร์เย็นฉ่ำ พวกเธอสองคนขึ้นไปยังชั้นสามด้วยสายตาหลายคู่ที่มองตาม คงจะคิดว่าพ่อพาลูกมาหาหมอมากกว่า พอได้ยินการใช้คำพูดก็คงจะพากันสงสัยน่าดู มาถึงชั้นสามกวาดสายตามองหาห้อง 8 ทันที “น้องทางนี้ค่ะ” เขาชี้ไปทางฝั่งซ้ายมือขณะยืนอยู่หัวมุมบันไดเลื่อน
ทั้งคู่เดินมาหยุดยืนมองเลข 8 ที่หน้าห้อง ยังไม่เข้าไป เขียนไว้ว่าห้องโรคผิวหนัง ! พรนภาอ่านแล้วงงนิดหน่อยทำไมถึงส่งตนเองมายังห้องโรคผิวหนัง เป็นเกี่ยวกับคอไม่ใช่หรือ
“น้องเข้าไปเถอะ เดี๋ยวพี่รออยู่หน้าห้องนะ” พูดยิ้มให้ แกล้งสักหน่อย
“ไม่ !” ขมวดคิ้วหน้าบึ้งจ้องหน้าเมธีอย่างเอาเรื่องที่สุด “เข้าไปเป็นเพื่อนนภาเดี๋ยวนี้ !”
“โอเคค่ะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ ดุจังเว้ย ! ปะ ๆ เค้าหยอกเฉย ๆ แหม... ปะเข้าไปยื่นเอกสารเลย จะได้กลับตอนไหนคะเนี่ย คนเยอะจัด !” แค่แกล้งเท่านั้นเอง แกล้งพรนภาสนุกดี อยู่เป็นความสนุกของเขานาน ๆ นะปรายนามองพร้อมพูดในใจก่อนจะเดินจูงมือเธอเข้าไปในห้องหมายเลข 8
เมธียืนรออยู่ห่าง ๆ ให้พรนภาไปยื่นเอกสารที่เค้าน์เตอร์อีกครั้ง “คอบวมหรอ มีไข้มั้ย ปวดมั้ยคะ น้ำหนักเท่าไหร่คะ ส่วนสูง และประจำเดือนล่าสุดมาวันไหนคะ” พยาบาลซักประวัติของเธอในด่านแรก พอซักประวัติเสร็จก็คืนเอกสารให้ “เอาไปยื่นห้อง 307 ค่ะ ตรงนู้นเลยเห็นมั้ย” พยาบาลผายมือไปยังห้องที่ว่า เธอกับเมธีมองตามเห็นเขียนว่า คอ หู จมูก เธอเข้าใจแล้ว ทีแรกนึกว่าจะให้เธอมาหาหมอโรคผิวหนัง จะบ้าตาย ! นึกตลกในใจ
เมธีจูงมือเธอเดินมายังห้อง 307 ภายใต้สายตาหลายคู่ที่มองมา พวกเธอก็ไม่ใส่ใจ ตอนนี้กำลังคิดเรื่องคอของเธออยู่ ไม่มีเวลาไปคิดถึงสายตาของหลาย ๆ คนที่มองมา เมธีนั่งคอยที่เก้าอี้ซึ่งถูกจัดระยะห่างเอาไว้ตัวเว้นตัว “น้องไปยื่นเอกสารให้พยาบาลตรงนั้นค่ะ” เข้าชี้มายังเค้าน์เตอร์หน้าห้องตรวจ 307
พรนภาเดินไปยื่นเอกสารให้พยาบาลหน้าห้อง แล้วกลับมานั่งลงข้าง ๆ เมธี รอเรียกชื่อ มือก็ลูบ ๆ คำ ๆ ที่บริเวณลำคอของตนเองเป็นระยะ ๆ “น้องอย่าจับมันบ่อยมาก ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ” โดนเมธีดุจนได้
“ก็มันติดนิสัยอ่ะ อดลูบไม่ได้”
“ไม่ต้องลูบมืออยู่นิ่ง ๆ “ ไม่พูดเฉยเอื้อมมือมาจับมือขวาของเธอเอาไว้
“มือซ้ายว่างนะ” ชูขึ้นมาให้ดูนิดหน่อย พูดกลั้วหัวเราะให้สามีคราวพ่อ ไม่สนใจเลยว่าที่นี่ที่ไหน ไม่สนใจสายตาของใครหลาย ๆ คนด้วย พวกเธอคุยกันระหว่างรอเรียกเข้าไปตรวจ
“หยุดเลย ! “
“พี่เมธี ถ้าพี่เมธีหิวข้าวไปทานก่อนนภาก็ได้นะ น่าจะนานอ่ะกว่าจะได้เข้าตรวจ เดินไปหาอะไรทานรองท้องข้างนอกรอเค้าก็ได้” เธอหันมาบอกสามีด้วยความเป็นห่วง เกรงว่าจะหิวกว่าเธอจะได้เข้าตรวจ ระหว่างนั้นก็คอยฟังชื่อของตัวเองเสมอ
“ไม่เป็นไรพี่ไม่ค่อยหิว รอทานพร้อมกัน”
“ก็ได้ค่ะ” ส่งยิ้มให้ พี่เมธีน่ารักที่สุด พยาบาลหน้าเค้าน์เตอร์มีชะเง้อมองบ้าง ภายในห้อง 8 นี้มีหลายห้องย่อย มีห้องหูคอจมูก ห้องหัตถการ ห้องตา และอะไรอีกสองห้องเธอก็ไม่ได้สังเกต แต่ละห้องมีเลขติดเอาไว้ชัดเจน “พี่เมธีห้องหัตถการมันคือห้องอะไรอ่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวถามจารย์กูให้” เธอชำเลืองเข้าไปยังห้องหัตถการเห็นคนป่วยสูงอายุนอนอยู่บนเตียง น่าจะเป็นห้องรักษาโรคทั่วไป
“คุณพรนภาค่ะ คุณพรนภา ” หมอห้อง 307 ยืนเรียกเธอที่หน้าประตู เป็นหมอผู้หญิง
เมื่อโดนเรียกชื่อถึงคิวตรวจเธอก็เดินเข้าไปในห้อง 307 นั่น นั่งคอยทำการตรวจ มีหมอสองคนในห้องนี้ เป็นผู้หญิงทั้งหมด สวย น่ารัก หมอซักถามประวัติอีกครั้ง แพ้ยาไหม โรคประจำตัวมีไหม พอถามจบหมอก็ทำการตรวจเลย
“หมอขอเจาะเลือดที่คอเพื่อทำการตรวจนิดหน่อยนะคะ” คุณหมอชี้แนะ เธอมีอาการเลิ่กลั่กนิดหน่อย คุณหมอทั้งสองคนยิ้มให้กับอาการเลิ่กลั่กของเธอ “ไม่ต้องกลัวค่ะ เจาะเลือดแป๊บเดียวไม่เจ็บนา”
“ค่ะ “ ตอบพร้อมยิ้มนิดหน่อย คุณหมอใช้มือคำที่บริเวณลำคอของเธอ กดเบา ๆ บริเวณที่มันเป็นก้อนขึ้นมา เจ็บแต่ทนได้
“เป็นไทรอยด์น้อ เป็นมาสองเดือนแล้วใช่มั้ย” หมอพูดไปพร้อมลูบคำบริเวณลำคอของเธอด้วย เธอพยักหน้าตอบ “เดี๋ยวหมอจะเจาะเลือดแล้วนะคะ”
จากนั้นหมอก็ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ทาบริเวณที่เป็นก้อน รู้สึกเย็นบริเวณนั้น แล้วหมอก็ใช้เข็มเจาะที่ลำคอของเธอตรงบริเวณที่มันเป็นก้อนนั่นแหละ
พรนภาสัมผัสได้ถึงความเจ็บและชา สัมผัสได้ถึงแรงดูดของเข็มฉีดยาถึงสามครั้งกว่าจะเต็มหลอด พอเลือดเต็มหลอดหมอก็เอาสำลีมาอุดรอยเข็มไว้ ให้เธอกดสำลีเอาไว้ก่อนจากนั้นหมอก็นำพลาสเตอร์มาแปะให้
พอได้เลือดของเธอแล้ว เธอหันไปมองหมอกำลังฉีดเลือดใส่แผ่นสไลด์ทั้งหมด 3 แผ่น กำลังทำการตรวจหาโรค หมอเทเลือดของเธอลงไป แล้วคอยดูปฏิกิริยา พอเห็นเลือดแล้วเธอก็เบือนหน้าหนี นึกขอบคุณตัวเองที่ไม่หลวมตัวไปเรียนวิทยาลัยพยาบาลกับเพื่อนเมื่อตอนเรียนมัธยมปลาย ไม่อย่างนั้นไม่จบแน่นอน
“เรียบร้อยค่ะ เดี๋ยวออกไปนั่งรอหน้าห้องเหมือนเดิมนะคะ”
“ค่ะ “ เมื่อตรวจเสร็จเธอก็เดินออกมา เห็นเมธีส่งยิ้มให้จากโต๊ะนั่งรอ เธอเดินมานั่งลงที่โต๊ะเดิม เล่าเหตุการณ์ที่เข้าไปตรวจให้เขาฟัง
“คุณพรนภาค่ะ” ไม่นานพยาบาลหน้าห้องก็เรียกชื่ออีกครั้ง เธอเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฟังพยาบาลอธิบาย “คุณหมอนัดอีกทีวันที่ 15 นะคะ มาฟังผลตรวจวันนี้น้อ ใบนี้ไปยื่นที่ช่อง 3 ชั้น 2 ส่วนใบนี้เป็นใบนัดเอ็กซเรย์ ได้คิววันที่ 10 กันยายนนะคะ เอาไปยื่นช่องที่ 28 ชั่น 1 ค่ะ”
“เอ่อ ช่วยโน๊ตให้หนูหน่อยได้มั้ยคะ จำไม่ได้” พูดยิ้ม ๆ ให้พยาบาล
“ได้จ้ะ !” พยาบาลก็ใจดีมาก ๆ โน๊ตบนหัวกระดาษให้เธอตามคำขอ แล้วเธอก็เดินกลับออกมา จากนั้นก็พาเมธีไปจ่ายเงินพร้อมไปยื่นใบรอคิวเอ็กซเรย์ในเดือนกันยายน
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ดูนาฬิกาเป็นเวลาบ่ายสองโมงเย็น เสร็จทันบ่ายสามโมงแฮะ ได้ไปร้านกาแฟตามที่วางแผนเอาไว้ เธอพกชุดที่จะใส่ไปร้านกาแฟมาด้วย
“พี่เมธีวันที่ 15 พี่เมธีต้องว่างนะ ไม่ว่างไม่ได้ แล้วใครจะพานภามาหาหมอ” มองหน้าคนตรงหน้าอย่างจริงจัง “นัดเอ็กซเรย์ตั้งเดือนกันยายนแหนะ ไกลเกิน”
“ค่ะ สำหรับน้องนภาพี่มีเวลาว่างให้เสมอ ไม่ได้ยาใช่มั้ย พี่ว่านะวันที่ 15 มาตรวจอีกนี่แหละจะได้ยามากิน ไทรอยด์กินยานานอยู่นะกว่าจะหาย”
“อือ”
พวกเธอคุยกันในรถก่อนจะขับออกไป มุ่งหน้าไปยังร้านกาแฟที่เคยไปมาแล้ว ไปรอบก่อนไม่เปิด คราวนี้เปิดแน่นอน พรนภาได้ทำการสืบค้นมาแล้วว่าทางร้านเปิดให้บริการแล้วเรียบร้อย
ระหว่างทางไปร้านกาแฟพรนภาสั่งให้เมธีแวะปั๊มน้ำมันก่อน ตนเองจะเปลี่ยนชุดและหาอะไรทานรองท้องกัน ที่ร้านอาหารตามสั่งในปั๊มน้ำมันนี่แหละ พวกเธอไม่ถืออะไร ไม่ได้ทำตัวไฮโซหรูหราอะไรมากมาย แค่ได้เที่ยว ได้กิน และได้ไปทุกที่ ๆ อยากไปก็พอ