ถอดรหัส(สมุนไพร)จานเด็ด.....ข้าวเหนียวน้ำกะทิลูกจันทน์

กระทู้สนทนา
สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะ

จั่วหัวให้ดูขลังไปอย่างนั้นเอง  ความจริงก็แค่จะกล่าวถึงสมุนไพรที่มีในจานนั้นๆ แบบเล็กๆน้อยๆพอกรุบกริบค่ะ

สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนเภสัชกรรมไทย  น้องส่งไลน์รูป"ลูกจันทน์"มา บอกว่า "มีต้นจันทน์ที่บ้าน ตอนนี้เป็นฤดูลูกจันทน์สุก  ร่วงเกลื่อนเลยครับพี่"

หนอนฯเห็นแล้วก็นึกถึงสมัยเด็ก  เลยบอกน้องไปว่า "ตอนพี่เด็กๆเคยชอบเอาลูกจันทน์มาดมเล่น และลูกจันทน์ที่สุกงอม เอามากินสดก็ได้ แต่ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่  แต่ทำน้ำกะทิกินกับข้าวเหนียวมูนอร่อยดี  ทำแบบข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน  ใช้ลูกที่สุกงอมนะ ไม่งั้นจะฝาด"

หายไปไม่กี่ชั่วโมง  คุณน้องส่งรูปข้าวเหนียวน้ำกะทิลูกจันทน์มายั่ว

ฮือ เห็นแล้วอยากกิน อยากกินจังงงงงงงง 

วันนี้โชคดี ไปเจอคนเก็บลูกจันทน์สุกมาขายที่ตลาดน้ำบางน้อย
ใส่กระจาดขนาดเล็กๆน่าเอ็นดู ขายราคา ๑๐ บาท มีอยู่สองกระจาด เลยเหมามาหมดเลยค่ะ



โดยปกติ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนปลูกต้นจันทน์กันแล้ว  โค่นทิ้งไปกันก็เยอะ
ต้นจันทน์เก่าแก่มักจะสูง สูงมากๆเป็น ๑๐ เมตรและอาจสูงได้มากกว่านั้น
คนส่วนใหญ่จะได้ลูกจันทน์มาก็จากการที่ผลสุกร่วงหล่น ดังนั้นที่หนอนฯได้มาจึงมีผลช้ำ ผลปริแตกนิดๆบ้าง  
แต่ที่แน่ๆคือสุกงอม หอมหวาน

กลิ่นลูกจันทน์จะหอมอ่อนๆ หอมแบบเยือกเย็นๆ   บรู๊ววววววววว์

เม่าตาสว่าง

อิอิ คนไม่ชอบก็มี คนชอบก็มาก

เราชอบเราจึงซื้อมา และเลือกเอาผลที่ไม่เน่าเสียมาใช้
วันนี้เราจะทำ"น้ำกะทิลูกจันทน์"ค่ะ  กินกับข้าวเหนียวมูนที่ซื้อมารอแล้ว

 

หยิบลูกจันทน์มาค่ะ  แม้ว่าจะเลือกลูกที่คิดว่าใช้ได้
แต่เพราะผลไม้ที่สุกงอมคาต้น เป็นที่ชื่นชอบของแมลง ดังนั้นสังเกตดูให้ดีว่าตรงขั้วผลเป็นอย่างไรบ้าง
ดูแต่ตาก็ไม่ชัด งั้นใช้ปลายมีดกรีด ปาดขั้วผลออกค่ะ

ฮั่นแน่  เจอแล้ว หนอนผลไม้ตัวน้อยๆ สีเดียวกับเนื้อลูกจันเลย
ที่ปลายมีดอ่ะ เขากระดุกกระดิกได้ค่ะ 



ดังนั้นจงคว้านลูกจันทน์แบบไม่ต้องเสียดาย  ก็ไม่อยากได้โปรตีนอ่ะนะ
ใช้มีดปาดออกเยอะๆไปเลยค่ะ เพราะส่วนใหญ่ตรงขั้วผลมีหนอนหมดล่ะ 
หนอนฯมีลูกจันทน์เยอะ  เลยปาดออกทีเกือบครึ่งผล อิอิ เอาให้ชัวร์

ปาดแล้วก็ลอกเปลือกออกค่ะ

เนื้อลูกจันทน์สีเหลืองนวลสวย กลิ่นหอมเย็น ลองชิมดูค่ะ
รสจะออกหวานอ่อนๆ หวานเย็นๆ



เนื้อผลจันทน์สุก  ถ้าไม่งอมจัดจะมีรสฝาดค่ะ
ยิ่งผลดิบยิ่งฝาดจัด  แต่.......โอ๋ย เอามาสับๆๆๆทำส้มตำปลาร้า แซ่บค่ะ 
ตอนไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ภาคอีสาน เพื่อนเคยตำให้กิน  ความฝาดหายไป ได้ความแซ่บมา
ก็เหมือนตำกล้วยดิบล่ะค่ะ  กล้วยดิบฝาดจะตาย แต่พอกลายร่างเป็นตำกล้วยแล้ว อย่างแซ่บ

แต่... จำได้ว่าตอนนั้นนั่งกินตำลูกจันทน์อย่างเมามัน แต่เพื่อนเบรคไว้ ว่าอย่ากินเยอะ เดี๋ยวอุนจิมาบ่อย จะต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆมันจะยุ่ง  เพราะตอนนั้นหนอนฯต้องขับรถไปต่ออีกจังหวัดหนึ่งค่ะ

ทำไมหนอนฯใช้คำว่า"ลูกจันทน์"

คือว่า..... ตามตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป  ในหนังสือที่หนอนฯเรียนกล่าวไว้ว่า

จันทน์ลูกหอม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่
เนื้อไม้ รสขมหวาน สรรพคุณบำรุงประสาท บำรุงเนื้อหนังให้สดชื่น แก้ไข้ตับ ปอดพิการ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้เหงื่อตกหนัก ขับพยาธิ

ผลสุก รสหวานฝาด สรรพคุณ รับประทานกับน้ำกะทิสด บำรุงกำลัง แก้ท้องเสีย 

ดังนั้นผลจันท์ที่สุกงอมจึงได้รับความนิยมมากในอดีต นำมากินกับน้ำกะทิ

ที่หนอนฯเคยกิน เขาจะทำน้ำกะทิอยู่สองแบบคือ
กะทิสด โดยคั้นกะทิแล้วขยำเนื้อลูกจันทน์ใส่ลงไป  แต่จะเก็บได้ไม่นาน
ถ้าจะเก็บนานหน่อย ต้องตั้งไฟให้กะทิเดือดแล้วใส่เนื้อลูกจันทน์ลงไป



หนอนฯเป็นคนไม่กินกะทิสดมาแต่ไหนแต่ไร เพราะกลัวเรื่องไม่สะอาด กลัวท้องเสีย
วันนี้จึงทำแบบน้ำกะทิทุเรียนค่ะ

ใช้กะทิขวด ตั้งไฟ ใส่น้ำตาลมะพร้าว และเกลือเล็กน้อย
เมื่อกะทิเดือดและน้ำตาลละลาย ชิมรสได้ที่แล้วจึงขยำลูกจันทน์ใส่ลงไป มีทั้งแบบเละๆและยังเป็นชิ้นเป็นอัน

หนอนฯทำเยอะ จะเก็บไว้กินวันอื่นด้วย ก็จะตั้งไฟนานหน่อย เอาให้เนื้อลูกจันทน์สุกด้วยความร้อนและชุ่มน้ำกะทิ
ถ้าเราเคี่ยวนาน ความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของลูกจันทน์จะลดลง  ใครชอบแนวเนื้อลูกจันท์ยังสดหอม ก็แค่หย่อนลงกะทิแป๊บเดียวก็พอค่ะ

เสิร์ฟด้วยการตักราดบนข้าวเหนียวมูนค่ะ



ขออวยพรให้ทุกท่าน อยู่รอดปลอดภัย ไม่ติดโควิดนะคะ จะได้ไม่ลำบากทั้งตนเอง ครอบครัว และไม่เป็นภาระทีมแพทย์

เม่าอดีต
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่