ต้องทำยังไงให้ได้อิสระจากครอบครัว ที่เราไม่เคยได้รับมันมาตลอดอายุ20กว่าปี!

มีเรื่องอยากขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆชาวพันทิพค่ะ เป็นปัญหาที่อยากจะขอไอเดียในการหาทางแก้ไขหรือคำแนะนำ ไม่รู้จะไปปรึกษาใครแล้วจริงๆ 

     เราชื่อแอลค่ะอายุ24 รู้สึกอึกอัดและเก็บกดค่ะที่ต้องโดนกักตัวอยู่บ้าน อยากได้อิสระ ไม่สามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้เริ่มมาจากตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ที่บ้านจะเป็นคนที่ชอบให้เราทำอะไรในหูในตา ตีกรอบทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องการเรียนหรือเรื่องอะไร จะไปโรงเรียนก็ต้องขึ้นรถตู้โรงเรียนหรือไม่เขาก็จะมารับ ไม่ให้เราได้กลับเอง แม้กระทั่งเรื่องเพื่อนเราไม่สามารถออกไปเที่ยวกับเพื่อนได้เลย แต่ถ้าอยากไปคือต้องมีข้อแม้ว่าเขาต้องไปส่งเท่านั้น ทำให้เราไม่ค่อยมีเพื่อน จนเพื่อนๆเลิกคบค่ะ เขาบอกว่าชวนเราไปไหนก็ไปไม่ได้ ตามไม่ทันเขาว่าเขาพูดเรื่องอะไรกันอยู่ รู้สึกมีปัญหากับชีวิตอยากลาออกจากโรงเรียน แต่เราก็ทนยอมเขามาตลอด เราพยายามจะบอกกับครอบครัวว่าเกิดปัญหาขึ้น แต่เขาก็ไม่ค่อยสนใจค่ะ ว่าเราคิดไปเองต่างๆนาๆ แล้วมันทำให้เรากลายเป็นคนที่เก็บตัว ไม่กล้าที่จะพบปะ หรือพูดคุยกับผู้คน ไม่ค่อยมีเพื่อนที่อยู่ในชีวิต ตลอดช่วงชีวิตจะมีอาการซึมค่ะ อยู่ก็ร้องไห้เอง น้ำตาไหลเอง อยู่ก็กรี๊ดออกมาโดยไม่มีเหตุผลเพื่อระบายอารมณ์ เราทำได้เพียงแค่นั้น ไม่รู้เรียกว่าซึมเศร้ารึเปล่านะคะ (พึ่งมาหายๆช่วงที่คบกับแฟนค่ะ เพราะสามารถคุยระบายกับเขาได้ แต่ช่วงที่ใช้ชีวิตคนเดียวก็ต้องเก็บมันไว้ค่ะ)

    จนปัจจุบันค่ะ พึ่งเรียนจบ และตอนนี้กำลังหางานอยู่ เรามีแฟนคนนึงตั้งแต่เรียนมหาลัยคบมาตลอดจะ3ปีได้ เริ่มมีปัญหาค่ะเพราะตอนที่เรียนมหาลัยเราอยู่หอเราเลยได้มีอิสระ(บวกกับที่พ่อไปทำงานที่ต่างจังหวัดด้วย ทำให้เขาไม่มีเวลามาดู) จนปัจจุบันเราเรียนจบเราต้องมาอยู่บ้าน แล้วเป็นช่วงที่พ่อก็ได้ย้ายงานมาอยู่แถวบ้านพอดี

   เรากับแฟนอยู่คนละจังหวัด เพราะตอนนี้แฟนทำงานอยู่ต่างจังหวัดเจอกันแค่อาทิตย์ละครั้งซึ่งเราจะไปอยู่คอนโดแฟนวันอาทิตย์เย็นวันจันทร์กลับ แต่พอเรียนจบมาแล้วช่วงแรกๆก็อ้างบอกที่บ้านว่าโปรเจคยังไม่เสร็จ หรืออยู่หอเพื่อนช่วยเพื่อนทำงาน แต่พอนานๆไปมันเริ่มเกิดปัญหาที่บ้านเริ่มระแคะระคาย

    จนเมื่อไม่กี่วันก่อนพ่อยื่นคำขาดมาว่าต่อไปนี้ห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด เขาไม่สนไม่ว่าจะเรื่องอะไร แต่เราเริ่มดื้อเราอยากมีชีวิตของตัวเอง เราเลยทำเหมือนปกติทุกอาทิตย์ที่ไปค้างแล้วอีกวันนึงกลับ เรารีบออกไปเลย แล้วแม่ก็โทรมาบอกว่าพ่อเขาโมโหให้รีบกลับมา(แม่รู้เรื่องเรากับแฟนนะคะ เพราะมีอะไรเราเลือกที่จะบอกแม่) แต่เราคงคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก พอช่วงวันนั้นประมาณ4ทุ่มกว่า แม่ทักมาบอกให้กลับบ้านเดี๋ยวนี้ตอนนี้ ถ้าเราไม่กลับบ้านในตอนนี้พ่อขู่ว่าจะไล่เราและครอบครัวออกจากบ้าน ไม่ส่งเสียน้องและแม่ แมวที่บ้าน และที่บ้านมีคอนโดอยู่พ่อจะยกคอนโดให้เป็นที่ซุกหัวนอนให้ แล้วตัดขาดจากทุกคน จาก4ทุ่มกว่าเขาบอกให้เราหาทางกลับ เรามีเวลาไม่เกินเที่ยงคืน เราได้ต่อรองผ่านแม่ว่า แม่ช่วยคุยกับพ่อได้ไหมหนูขอกลับพน.เช้านะ หนูไม่อยากรบกวนแฟน แล้วนี่มันดึกมากด้วย ถ้ากลับเองก็อันตราย บอกพ่อว่าไม่มีคนมาส่ง แต่พ่อไม่ยอมยังไงเราก็ต้องกลับก่อนเที่ยงคืน ไม่สนอะไรทั้งนั้น  (นี่เราไม่อยากนึกเลยว่าถ้าวันนั้นเรานอนหอเพื่อนจริงๆ ไม่มีใครมาส่งแน่ๆคงต้องหาแท็กซี่กลับตอนเกือบเที่ยงคืน อันตรายมากแน่ๆ)

    ในใจรู้สึกว่าเราไม่อยากกลับเลย ถ้ายอมเราก็ต้องยอมเขาตลอดชีวิต เราจะไม่สามารถเลือกอะไรได้เลย และที่แน่ๆเราจะไม่ได้อิสระและจะสามารถเจอแฟนได้แค่ไม่เกิน6ชม.ต่อสัปดาห์ (พ่อไม่รู้นะคะว่าเรามีแฟน แต่เขาให้อิสระเพียงนิดเดียวคือให้ออกเช้าและเย็นก็รีบกลับ ซึ่งเราได้เจอแฟนเพียงอาทิตย์ละวันอยู่แล้ว คงไม่ค่อยมีเวลาเจอกัน) แต่เราสงสารแม่สงสารน้องที่ต้องมาเดือดร้อนกับเรื่องของเรา เราเลยต้องกลับ สุดท้ายก็ต้องปลุกแฟนให้มาส่งเรา (พร้อมสายที่โทรมาตามเกือบร้อยสาย ถ้าไม่กลับเขาก็จะโทรจนกว่าเราจะกลับ เรารู้สึกไม่อยากรับเพราะเขาดื่มคุยไม่รู้เรื่องแน่)

    พอเรากลับบ้านมาสภาพที่เราเห็นคือเปิดประตูบ้านทิ้งไว้แล้วคือที่บ้านเราเลี้ยงแมวอยู่2ตัว และมีลูกแมวที่พึ่งคลอดได้เดือนกว่าๆอยู่ แล้วเขาทำแบบนี้คือจงใจปล่อยแมวที่บ้านเรา แต่โชคดีเป็นช่วงที่เรารีบกลับมาพอดี แมวโตทั้ง2ตัวยังวนเวียนอยู่รอบตัวบ้าน แต่ตัวเล็กหาย เราพยายามหา โชคยังดีที่เขากินเหล้าเหมือนเขาอาระวาดอะไรสักอย่าง จนลูกแมวตกใจกลัวหนีไปใต้โซฟา เราจึงปาดน้ำตารีบเอาลูกแมวกลับเข้าห้องเรา หอบแมวโตวิ่งขึ้นห้องทันที ส่วนเขาพอเห็นเรากลับมาเขาก็กลับเข้าห้องนอนตัวเองเลย ไม่ได้คุยอะไรกันเหมือนแค่เรากลับมาเขาก็พอใจแล้ว เรารับไม่ได้ในใจเราโกรธเขามาก โกรธเราก็ลงที่เราสิ ไล่เราออกจากบ้านเลยก็ได้ เราไปเลยก็ได้ แต่อย่ามาลงกับครอบครัวและแมวแบบนี้!!

   จนตอนนี้เรารู้สึกซึมและเศร้ามากๆ เราไม่อยากที่จะอยู่บ้านไปทั้งชีวิตแล้วอึดอัดแบบนี้ แฟนก็รู้สึกไม่ค่อยโอเคมากๆและตอนนี้เรารู้สึกไม่ดีกับพ่อมากๆที่เขาพาลปัญหาทุกคน แม้กระทั่งแมวที่บ้าน เราไม่โอเคที่เขาไม่มีเหตุผลและตอนนี้ไม่สามารถคุยกะพ่อได้เหมือนเดิม

   ซึ่งจากที่เราวิเคราะห์และปรึกษาแม่แล้ว แม่แนะนำว่าให้รีบทำงาน แล้วบอกพ่อให้ฝั่งผู้ชายมาหมั้นแล้วแต่กันไปเลยเพราะพ่อหัวโบราณไม่ชอบการอยู่ก่อนแต่ง เขากลัวเสียหน้าด้วย อีกอย่างเรากลัวเขาเรียกค่าสินสอดที่มากไป กลัวแฟนจะไม่ไหวอีก (ตกลงกับฝั่งผู้ชายแล้วผู้ชายยินยอมที่จะรับผิดชอบเพื่อที่ให้เราคบกันต่อ) หรืออีกแง่มุมนึงคือไม่รู้ว่าเขาจะยอมรับไหม อาจจะให้เราเลิกไปเลยก็ได้ แล้วกลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิม บอกยังไม่ถึงเวลามีแฟนอย่างที่เคยทำมาตลอด (เคยมีคนมาจีบค่ะพ่อไม่อนุญาต ตลอดมาทำได้เพียงแอบคบไม่ให้เขารู้) เชื่อฟังเขา เป็นลูกที่ดีของเขาต่อไป

   ซึ่งในส่วนของเรา เรายังไม่พร้อมที่จะผูกมัดกับใคร เราแค่อยากได้ ”อิสระ” ของเราคืนเท่านั้นเอง ในความคิดเราอยากค่อยๆเป็นค่อยไป ออกไปเรียนรู้กัน ในวัยเท่านี้เราอยากลองทุกอย่างที่ไม่เดือดร้อนใคร อยากลองใช้ชีวิตในสิ่งที่เราไม่เคยได้มาทั้งชีวิต อยากค่อยๆเรียนรู้ในความสัมพันธ์ ที่ไม่ต้องมีการบังคับกันแบบนี้ ที่ผ่านมาเราตามใจเขาตลอด เชื่อฟังเขาตลอด ตอนนี้ลูกคนนี้ขอไปใช้ชีวิตของตัวเองไม่ได้เหรอ

ปล. - ที่ผ่านมาเขาเลี้ยงดูเราดีมากสนับสนุนทุกอย่างในการเรียน อยากได้อะไรบอกเขา อยากได้โน้ตบุ้คเขาก็ให้ อยากได้รถยนต์เขาก็ให้ อยากไปเรียนพิเศษหรืออะไรที่เกี่ยวกับการเรียนจะให้แทบทุกอย่างเท่าที่เขาจะให้ได้ และไม่เคยให้ทำงานอะไรหนักๆ ขอทำงานพาทไทม์ก็ไม่ให้ ทำงานบ้านก็แทบไม่เคยทำและทำไม่ค่อยเป็น
       - จากปัญหาทุกอย่างเราเข้าใจเขาว่าเขาหวังดี เขาคงกลัวว่าจะโดนผู้ชายหลอกมั้งคะ เราอยากพาแฟนมาคุย อยากเล่าปัญหาให้เขาฟัง แต่เราเข้าใจพ่อเราดีว่าเขาไม่มีเหตุผลเลย ถ้าไม่เป็นไปตามสิ่งที่เขาคิดหรืออยากให้ทำอยากให้เป็น เขาจะอาระวาดโวยวายขู่ทุกอย่างจนทำลายทุกอย่างได้อันนี้ไม่เข้าใจค่ะ
      - เราไม่ค่อยมีเพื่อนเลย แต่โชคดีที่ตั้งแต่เรามีแฟน เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมุมมองใหม่ๆ ที่บ้านไม่ค่อยพาเที่ยวพาอะไร ช่วงที่อยู่มหาลัยแฟนได้พาเที่ยวพาไปเปิดโลกกว้างอะไรหลายอย่าง ได้ไปเรียนรู้ชีวิต ที่เราไม่เคยได้รับรู้หรือไม่เคยได้เห็น เป็นช่วงชีวิตที่ดีมาก
     - แม่ไม่เคยรับรู้ปัญหาอะไรกับเราเลยที่ผ่านมา แต่ตอนใกล้จะเรียนจบเราบอกเขาว่าเรามีแฟน แม่ทำใจไม่ได้หรอกแต่สุดท้ายแม่ก็ยอมรับ ที่เรายอมเล่าเราอยากให้สักคนในบ้านรู้เผื่อมีปัญหาอะไร ซึ่งแม่เป็นคนมีเหตุผลพอ (แต่ถ้าเปิดใจเล่าให้พ่อฟังปัญหาใหญ่แน่ๆเราเลยเลี่ยงที่จะไม่เล่ามาโดยตลอด)
     - เราคุยกับแฟนแล้ว เราบอกเราไม่เป็นไรและยินดีที่เขาจะไปเริ่มต้นใหม่นะ เพราะคบกับเราไปปัญหาจะตามมาอีกมากเพราะที่บ้านแอลเป็นแบบนี้ แต่เขาบอกว่าขอยอมสู้เท่าที่ตัวเขาไหวก่อน อันนี้ก็ขอบคุณเขาจากใจจริงๆค่ะ

ปัญหาที่อยากถามทุกคนคือ: เราอยากมีอิสระค่ะ ควรเริ่มจากตรงไหนคะ อยากบอกพ่อให้พ่อเข้าใจและยอมปล่อยให้ไปใช้ชีวิต ควรจะพูดหรือบอกเขายังไง ไม่ให้มีผลกระทบต่อครอบครัวและความรักของเราคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่