เจิ้งจวงกง อธิราชผู้ยิ่งใหญ่หมายเลขศูนย์แห่งยุคชุนชิว (ตอนจบ)

ปีที่ 701 ก่อนคริสตกาล (ตรงกับปีที่ 18 รัชกาลจักรพรรดิหวนอ๋อง) เจิ้งจวงกงล้มป่วยหนัก รักษาอย่างไรก็ไม่ทุเลา จึงให้เรียกจี้ซู ขุนนางผู้ใหญ่เข้ามาพบและพูดว่า

“ตัวข้ามีลูกชายอยู่ 4 คนจากภรรยาที่มาจากตระกูลสูงศักดิ์ แต่เห็นว่าพอใช้การได้แค่ 3 คนคือ กงจื่อหู กงจื่อถู และ กงจื่อเหมิน เท่านั้น ในบรรดาทั้งสามคนข้ารักกงจื่อถูมากที่สุด อยากจะตั้งเขาให้เป็นซื่อจื่อ (ลูกเอก) สืบทอดสมบัติบ้านเมืองต่อ ท่านจะเห็นประการใด”

จี้ซูตอบว่า “อันธรรมเนียมบ้านเมืองแต่โบราณ สมบัติจักตกแก่ลูกชายคนโต ท่านควรตั้งกงจื่อหูขึ้นเป็นใหญ่แทน บ้านเมืองจักสงบสุขราบคาบ พวกข้าพเจ้าก็จะได้รับใช้กงจื่อหูอย่างเต็มความสามารถ”

เจิ้งจวงกงได้ฟังก็ถอนหายใจพูดว่า “เห็นทีแคว้นเจิ้งคงต้องแตกแยกเป็นเสี่ยงๆแน่แล้ว” ว่าแล้วก็อาการทรุดหนักขาดใจตายไป จี้ซูและขุนนางทั้งปวงก็จัดงานศพให้เจิ้งจวงกงอย่างสมเกียรติ เป็นการปิดฉากอธิราชหมายเลขศูนย์แห่งยุคชุนชิว และยกกงจื่อหู บุตรคนโตของเจิ้งจวงกงขึ้นครองแคว้นแทน
 
อันที่จริงเจิ้งจวงกงมีบุตรชายมากถึง 11 คน แต่ที่เกิดจากหญิงสูงศักดิ์และมีชื่อในประวัติศาสตร์จะมีเพียง 4 คน มีรายชื่อดังนี้

1)      กงจื่อหู หรือ เจิ้งหู มีมารดาเป็นหญิงสูงศักดิ์จากแคว้นเติ้ง เขาเป็นลูกชายคนโตที่ช่วยบิดาปกครองบ้านเมืองมาตลอด ในยามที่เจิ้งจวงกงเข้าไปทำราชการในเมืองหลวง กงจื่อหูนั้นเป็นคนห้าวหาญแต่ยิ่งทะนงตน เขาเคยยกทัพไปช่วยฉีซีกงรบกับพวกเป่ยหรงคนเถื่อน ฉีซีกงซาบซึ้งมากจะยกนางเหวินเจียงให้เป็นภรรยา แต่กงจื่อหูนั้นเคยได้ยินเรื่องฉาวโฉ่ของนางเหวินเจียงมาก่อน จึงปฏิเสธเสียและไปรับลูกสาวเจ้าแคว้นเฉินมาเป็นภรรยาแทน
 
2)      กงจื่อถู หรือ เจิ้งถู เป็นลูกชายคนรองของเจิ้งจวงกง เกิดจากนางหยงเจียงซึ่งเป็นสตรีตระกูลสูงแห่งแคว้นซ่ง กงจื่อถูจึงมีความสนิทสนมกับซ่งจวงกง (กงจื่อเฟิง) มากมาตั้งแต่ตอนที่ซ่งจวงกงยังลี้ภัยอยู่แคว้นเจิ้ง แถมต่อมาเมื่อซ่งจวงกงได้สตรีจากตระกูลหยงเป็นภรรยาอีก ก็ทำให้ซ่งจวงกงมีศักดิ์เป็นน้าเขยของกงจื่อถูด้วยอีกชั้นหนึ่ง
 
เมื่อครั้งที่พวกเป่ยตียกทัพมารุกรานแคว้นเจิ้งนั้น กงจื่อถูติดตามเจิ้งจวงกงออกไปรบด้วย ในสนามรบเจิ้งจวงกงเห็นพวกเป่ยตีเป็นทหารเดินเท้ายืนเรียงกันเป็นระเบียบก็ให้หนักใจพูดว่า “พวกคนเถื่อนเป็นพลเดินเท้ารักษากระบวนทัพเข้มแข็งมาก หากเราส่งรถศึกเข้าปะทะจะต้องเสียหายหนักแน่ เพราะพวกเป่ยตีคงรวมกำลังกันต้านทานเอาไว้ จะทำประการใดถึงจะเอาชนะโดยง่ายได้”
 
กงจื่อถูเสนอแผนว่า “พวกเป่ยตีเป็นคนละโมบ ขอท่านพ่อจงส่งทหารเดินเท้าออกต่อสู้แล้วให้แสร้งล่าถอย พร้อมสั่งให้ทหารโยนข้าวของเงินทอง อาวุธ และชุดเกราะทิ้งขณะถอยทัพด้วย พวกเป่ยตีเห็นข้าวของก็คงยินดีพากันทิ้งกระบวนทัพออกมาแย่งชิงกันเป็นแน่ เมื่อนั้นเราจึงค่อยส่งรถศึกเข้าบดขยี้เสียให้สิ้นซาก” เจิ้งจวงกงเห็นว่าแผนนี้ดีก็ปฏิบัติตาม ก็สามารถเอาชนะศึกได้โดยง่าย แต่นั้นมาเจิ้งจวงกงก็มีความรักต่อกงจื่อถูมากขึ้นทวีคูณ ใครอยากจะให้กงจื่อถูได้สมบัติเมืองเจิ้ง
 
3)      กงจื่อเหมิน หรือ กงจื่อเว่ย (คนเดียวกัน)

กงจื่อเหมิน เป็นน้องชายของกงจื่อหูและกงจื่อถู เกิดจากมารดาแซ่ใดไม่ปรากฏ กงจื่อเหมินมีความสนิทสนมกับเกาฉีมี่ ขุนนางใหญ่แคว้นเจิ้งมาก เนื่องจากในครั้งที่กงจื่อหลูตาย เจิ้งจวงกงคิดจะตั้งเกาฉีมี่ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่แทน แต่ถูกกงจื่อหูทัดทานว่า เกาฉีมี่เป็นคนชั่วไร้ศีลธรรมไม่ควรตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ กงจื่อเหมินเป็นคนเอาคำพูดนี้ไปบอกแก่เกาฉีมี่ พอเกาฉีมี่ทราบก็โกรธแค้นกงจื่อหูมาก และรับปากจะสนับสนุนกงจื่อเหมินขึ้นเป็นเจ้าแคว้นให้ได้
 
4)      กงจื่อิง เป็นลูกชายคนที่สี่ของเจิ้งจวงกงที่เกิดจากสตรีสูงศักดิ์ต่างแคว้น ทว่าเขาไม่มีผู้มีอำนาจสนับสนุนเลยมีความสำคัญน้อยที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งสี่คน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่