เมื่อกองทัพแคว้นเจิ้ง แคว้นฉี และ แคว้นหลู่มาชุมนุมพลกันแล้ว ก็แปรขบวนเข้าล้อมเมืองซางชิว เมืองหลวงของแคว้นซ่งเอาไว้อย่างแน่นหนา ฝ่ายซ่งซางกงเจ้าเมืองซ่งเห็นทัพสามหัวเมืองบุกประชิดก็เรียกประชุมขุนนางทันทีและพูดว่า
“บัดนี้ทัพสามหัวเมืองก็บุกถึงกำแพงเมืองเราแล้ว เราจะทำอย่างไรดีถึงจะรอดพ้นความวิบัตินี้ไปได้”
ขุนนางผู้หนึ่งจึงแจ้งว่า “เจิ้งจวงกงอ้างรับสั่งองค์จักรพรรดิไปหลอกให้เมืองฉีและเมืองหลู่ยกมาครั้งนี้ ข้าพเจ้าให้คนใช้ไปสืบที่เมืองหลวงแล้ว พบว่าไม่ได้มีรับสั่งจากจักรพรรดิหวนอ๋องแต่อย่างใด ทั้งหมดล้วนเป็นการแอบอ้างของเจิ้งจวงกงทั้งสิ้น ขอให้ท่านใช้ทูตไปขอร้องให้เจ้าแคว้นเหวยซวนกง ช่วยออกหน้าขอร้องให้ทัพฉีล่าถอยไปก่อน หากทัพฉีล่าถอยไปทัพหลู่ก็คงหนีตามไปด้วย ถึงตอนนั้นเหลือแค่กองทัพเจิ้งพวกเราคงพอรับมือได้”
ซ่งซางกงได้ฟังก็เห็นว่าแผนดี จึงใช้ทูตแต่งหนังสือและเอาเงินทองผ้าแพรจำนวนมากไปเป็นของกำนัลแก่เหวยซวนกง เพื่อขอให้ช่วยเจรจากับฉีซีกงเจ้าแคว้นฉีให้ถอยทัพ ด้านเหวยซวนกงนั้นมีศักดิ์เป็นหลานภรรยาของฉีซีกงอยู่แล้ว จึงรีบส่งคนไปบอกกล่าวขอร้องให้ฉีซีกงยุติการตีแคว้นซ่งทันที
ด้านฉีซีกงพอหลานชายส่งทูตมาเกลี้ยกล่อมก็ฉุกคิดว่า “เรานำทัพมาร่วมล้อมเมืองอยู่เป็นเดือน แต่ยังไม่เคยเห็นราชโองการที่เจิ้งจวงกงอ้างเลย สงสัยจะเป็นอุบายหลอกให้เรามาช่วยตีเมืองซ่งเป็นแน่” จึงคิดจะช่วยซ่งซางกงประนีประนอมกับเจิ้งจวงกงเพื่อสร้างบุญคุณกับแคว้นซ่งเอาไว้
ฉีซีกงก็เข้าพบกับเจิ้งจวงกงชี้ให้เห็นข้อดีข้อเสียของการโจมตีเมืองซ่ง แต่เจิ้งจวงกงไม่ยอมถอนทัพ แต่จะขออยู่ตีเมืองซ่งต่อให้ได้ ฉีซีกงโกรธเลยกลับค่ายและยกทัพกลับไปเมืองฉีทันที ฝ่ายกองทัพหลู่เห็นกองทัพฉีถอยไปแล้วก็ล่าถอยตามไปด้วย
เจิ้งจวงกงก็เพียรตีเมืองซ่งอีกหลายวันก็ตีไม่ได้ เพราะกองทัพซ่งและชาวบ้านรักษาเมืองแน่นหนามาก เจิ้งจวงกงเลยส่งขุนทหารไปโจมตีเมืองเล็กๆที่ขึ้นกับเมืองซ่งมาได้ 2 หัวเมือง และเอาทั้งสองเมืองนั้นยกให้แคว้นฉีและแคว้นหลู่ฝ่ายละเมืองเพื่อเป็นสินน้ำใจ หลู่อินกงนั้นพอได้ดินแดนมาก็รับไว้ด้วยความดีใจ แต่ฉีซีกงนั้นพอได้เมืองมาก็คืนเมืองนั้นให้แคว้นซ่งตามเดิม
ฝ่ายเหวยซวนกงเห็นว่า แม้ทัพฉีและหลู่จะถอนตัวไปแล้ว แต่กองทัพเจิ้งก็ยังคงตีเมืองซ่งต่อก็ให้วิตกนัก จึงส่งทูตไปขอความช่วยเหลือจากแคว้นไช่และแคว้นเฉิน ร่วมกันนำกองทัพไปตีตลบหลังแคว้นเจิ้งเพื่อดึงทัพเมืองเจิ้งกลับ กองทัพเหวย-เฉิน-ไช่ บุกเข้าไปได้ลึกถึงเมืองซินเจิ้งแต่ตีเมืองไม่ได้เพราะ กงจื่อถูรักษาเมืองแน่นหนาไว้ไม่ออกรบ ทัพสามหัวเมืองจึงหันไปไล่ตีปล้นตำบลต่างๆในแคว้นเจิ้งแทน
พอเจิ้งจวงกงได้ข่าวว่ากองทัพสามหัวเมืองยกทัพมาตลบหลังก็โกรธมาก คิดว่าเรามาตีเมืองซ่งจวนเจียนได้เข้าเมืองได้อยู่แล้ว เหวยซวนกงกับอีกสองเมืองกระทำบังอาจมาโจมตีหลังบ้านของเรา ครั้นจะบอกให้ทหารถอยทัพกลับกองทัพก็จะเสียขวัญเพราะเป็นห่วงบ้าน อาจทำให้เกิดความระส่ำระสายจนกองทัพซ่งออกมาตีตลบหลังตอนถอยได้ จึงให้ฆ่าคนส่งหนังสือเสีย แล้วเอาหนังสือแอบไว้ในอกเสื้อ และสั่งให้ทหารเร่งตีเมืองซ่งต่อไปอีกหนึ่งวัน
แผนที่แคว้นใหญ่ในช่วงต้นยุคชุนชิว
เจิ้งจวงกง อธิราชผู้ยิ่งใหญ่หมายเลขศูนย์แห่งยุคชุนชิว (ตอนที่ 3)
“บัดนี้ทัพสามหัวเมืองก็บุกถึงกำแพงเมืองเราแล้ว เราจะทำอย่างไรดีถึงจะรอดพ้นความวิบัตินี้ไปได้”
ขุนนางผู้หนึ่งจึงแจ้งว่า “เจิ้งจวงกงอ้างรับสั่งองค์จักรพรรดิไปหลอกให้เมืองฉีและเมืองหลู่ยกมาครั้งนี้ ข้าพเจ้าให้คนใช้ไปสืบที่เมืองหลวงแล้ว พบว่าไม่ได้มีรับสั่งจากจักรพรรดิหวนอ๋องแต่อย่างใด ทั้งหมดล้วนเป็นการแอบอ้างของเจิ้งจวงกงทั้งสิ้น ขอให้ท่านใช้ทูตไปขอร้องให้เจ้าแคว้นเหวยซวนกง ช่วยออกหน้าขอร้องให้ทัพฉีล่าถอยไปก่อน หากทัพฉีล่าถอยไปทัพหลู่ก็คงหนีตามไปด้วย ถึงตอนนั้นเหลือแค่กองทัพเจิ้งพวกเราคงพอรับมือได้”
ซ่งซางกงได้ฟังก็เห็นว่าแผนดี จึงใช้ทูตแต่งหนังสือและเอาเงินทองผ้าแพรจำนวนมากไปเป็นของกำนัลแก่เหวยซวนกง เพื่อขอให้ช่วยเจรจากับฉีซีกงเจ้าแคว้นฉีให้ถอยทัพ ด้านเหวยซวนกงนั้นมีศักดิ์เป็นหลานภรรยาของฉีซีกงอยู่แล้ว จึงรีบส่งคนไปบอกกล่าวขอร้องให้ฉีซีกงยุติการตีแคว้นซ่งทันที
ด้านฉีซีกงพอหลานชายส่งทูตมาเกลี้ยกล่อมก็ฉุกคิดว่า “เรานำทัพมาร่วมล้อมเมืองอยู่เป็นเดือน แต่ยังไม่เคยเห็นราชโองการที่เจิ้งจวงกงอ้างเลย สงสัยจะเป็นอุบายหลอกให้เรามาช่วยตีเมืองซ่งเป็นแน่” จึงคิดจะช่วยซ่งซางกงประนีประนอมกับเจิ้งจวงกงเพื่อสร้างบุญคุณกับแคว้นซ่งเอาไว้
ฉีซีกงก็เข้าพบกับเจิ้งจวงกงชี้ให้เห็นข้อดีข้อเสียของการโจมตีเมืองซ่ง แต่เจิ้งจวงกงไม่ยอมถอนทัพ แต่จะขออยู่ตีเมืองซ่งต่อให้ได้ ฉีซีกงโกรธเลยกลับค่ายและยกทัพกลับไปเมืองฉีทันที ฝ่ายกองทัพหลู่เห็นกองทัพฉีถอยไปแล้วก็ล่าถอยตามไปด้วย
เจิ้งจวงกงก็เพียรตีเมืองซ่งอีกหลายวันก็ตีไม่ได้ เพราะกองทัพซ่งและชาวบ้านรักษาเมืองแน่นหนามาก เจิ้งจวงกงเลยส่งขุนทหารไปโจมตีเมืองเล็กๆที่ขึ้นกับเมืองซ่งมาได้ 2 หัวเมือง และเอาทั้งสองเมืองนั้นยกให้แคว้นฉีและแคว้นหลู่ฝ่ายละเมืองเพื่อเป็นสินน้ำใจ หลู่อินกงนั้นพอได้ดินแดนมาก็รับไว้ด้วยความดีใจ แต่ฉีซีกงนั้นพอได้เมืองมาก็คืนเมืองนั้นให้แคว้นซ่งตามเดิม
ฝ่ายเหวยซวนกงเห็นว่า แม้ทัพฉีและหลู่จะถอนตัวไปแล้ว แต่กองทัพเจิ้งก็ยังคงตีเมืองซ่งต่อก็ให้วิตกนัก จึงส่งทูตไปขอความช่วยเหลือจากแคว้นไช่และแคว้นเฉิน ร่วมกันนำกองทัพไปตีตลบหลังแคว้นเจิ้งเพื่อดึงทัพเมืองเจิ้งกลับ กองทัพเหวย-เฉิน-ไช่ บุกเข้าไปได้ลึกถึงเมืองซินเจิ้งแต่ตีเมืองไม่ได้เพราะ กงจื่อถูรักษาเมืองแน่นหนาไว้ไม่ออกรบ ทัพสามหัวเมืองจึงหันไปไล่ตีปล้นตำบลต่างๆในแคว้นเจิ้งแทน
พอเจิ้งจวงกงได้ข่าวว่ากองทัพสามหัวเมืองยกทัพมาตลบหลังก็โกรธมาก คิดว่าเรามาตีเมืองซ่งจวนเจียนได้เข้าเมืองได้อยู่แล้ว เหวยซวนกงกับอีกสองเมืองกระทำบังอาจมาโจมตีหลังบ้านของเรา ครั้นจะบอกให้ทหารถอยทัพกลับกองทัพก็จะเสียขวัญเพราะเป็นห่วงบ้าน อาจทำให้เกิดความระส่ำระสายจนกองทัพซ่งออกมาตีตลบหลังตอนถอยได้ จึงให้ฆ่าคนส่งหนังสือเสีย แล้วเอาหนังสือแอบไว้ในอกเสื้อ และสั่งให้ทหารเร่งตีเมืองซ่งต่อไปอีกหนึ่งวัน
แผนที่แคว้นใหญ่ในช่วงต้นยุคชุนชิว