ในจั่วจ้วนนั้น บันทึกเรื่องราวของเจ้าแคว้นต่างๆในยุคชุนชิวเอาไว้มากมาย แต่มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ กล่าวถึงซ่งหมินกง เจ้ารัฐซ่งผู้ครองเมืองในช่วง 691-682 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งถูกขุนนางชื่อ หนางกงเฉิงวาน เอากระดานหมากล้อมทุบจนตาย แต่เรื่องราวความขัดแย้งของซ่งหมินกง และ หนานกงเฉิงวาน นั้นเกิดจากอะไร? ทำไมถึงกับต้องฆ่ากันด้วยกระดานหมากล้อม? ก็จะขอเล่าพอสังเขปดังนี้
หนานกงเฉิงวานนั้นเป็นขุนทหารเอกเมืองซ่ง ผู้ขึ้นชื่อลือชาว่ามีกำลังประดุจเสือ สามารถสะเทือนภูเขาได้ด้วยสองมือเปล่า หนานกงเฉิงวานรับใช้รัฐซ่งมาแต่ครั้น ซ่งจวงกง ผู้เป็นบิดาของซ่งหมินกง สร้างความชอบด้านศึกสงครามเอาไว้ไม่น้อย
อันแคว้นซ่งนั้น เป็นแคว้นใหญ่แคว้นหนึ่งในจงหยวน สืบเชื้อสายมาจากจักรพรรดิราชวงศ์ซาง เมื่อราชวงศ์ซางล่มแล้ว จักรพรรดิโจวอู่อ๋องทรงพระเมตตาพระญาติพระวงศ์ของจักรพรรดิโจ้ว จึงมอบดินแดนเขตซางชิวให้ลูกหลานราชวงศ์ซางไปปกครองเมือง แต่งตั้งให้เจ้าแคว้นซ่งมียศสามนตราชระดับกง อันเป็นสามนตราชชั้นเอก ยศศักดิ์สูงกว่าสามนตราชทั้งปวงขั้นหนึ่ง ทายาทราชวงศ์ซางก็ปกครองแคว้นซ่งสืบมานับสิบชั่วคน จนถึงยุคของซ่งมู่กง (ครองเมืองช่วงปี 728-720 ปีก่อนคริสตกาล)
ซ่งมู่กงนั้น มีบุตรคนหนึ่งชื่อว่า กงจื่อเฟิง แต่เมื่อครั้นซ่งมู่กงป่วยใกล้ตาย ก็กล่าวกับเหล่าขุนนางว่า “กงจื่อเฟิงบุตรของเรา เป็นคนหยาบช้า โลภมาก หาสติปัญหาไม่ได้ ไม่เหมาะให้ปกครองบ้านเมืองต่อ เมื่อเราสิ้นชีวิตแล้ว ขอให้ตั้งกงจื่อหยูอี้ น้องชายของเราขึ้นครองบ้านเมืองแทนเถิด ชาวรัฐซ่งจะได้อยู่เย็นเป็นสุขสืบไป” ว่าแล้วซ่งมู่กงก็ให้ขับไล่ กงจื่อเฟิงไปเสียจากรัฐซ่ง เพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนานแก่กงจื่อหยูอี้ต่อไป
กงจื่อเฟิงที่ถูกเนรเทศก็เดินทางไปแคว้นเจิ้ง เข้าพบเจิ้งจวงกง ประมุขรัฐเจิ้ง ทำการหลอกลวงเจิ้งจวงกงว่า “บิดาข้าพเจ้าสิ้นชีวิตแล้ว พวกขุนนางและอาของข้าพเจ้ารวมหัวกันแย่งบ้านเมืองไป ข้าพเจ้าจึงหนีมาพึ่งท่าน ขอท่านโปรดช่วยยกทัพไปชิงเมืองคืนให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด”
ในครั้งแรกเจิ้งจวงกงหลงเชื่อ จึงเตรียมยกทัพไปตีแคว้นซ่ง แต่ภายหลังกงจื่อหยูอี้ส่งทูตถือหนังสือมาบอกเรื่องราวที่แท้จริง เจิ้งจวงกงเลยยกเลิกแผนที่จะไปตีรัฐซ่งเสีย แต่ก็ชุบเลี้ยงกงจื่อเฟิงให้ทำราชการอยู่ในรัฐเจิ้งแทน ฝ่ายกงจื่อเฟิงก็มอบน้องสาวให้เป็นภรรยาของเจิ้งจวงกง
หลายปีต่อมา กงจื่อหยูอี้ก็ถูกฮว่าตูฆ่าตาย ฮว่าตูกลัวความผิดเลยหันไปไปเชิญกงจื่อเฟิงให้มาครองเมืองต่อ ในครั้งนั้นเจิ้งจวงกงก็ส่งทหารช่วยคุ้มกันกงจื่อเฟิงให้เข้าเมืองซางชิวโดยปลอดภัย กงจื่อเฟิงก็ได้ขึ้นปกครองรัฐซ่ง (ภายหลังเมื่อเขาตายก็ได้รับอารามนามว่า ซ่งจวงกง)
ซ่งจวงกงหรือกงจื่อเฟิงนั้น ซาบซึ้งในพระคุณของเจิ้งจวงกงมาก เขาเลยมอบหยกขาวงามเป็นสมบัติคู่เมืองให้กับเจิ้งจวงกงเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพ
ซ่งหมินกง เจ้ารัฐซ่งผู้ตายอนาถด้วยกระดานหมากล้อม
หนานกงเฉิงวานนั้นเป็นขุนทหารเอกเมืองซ่ง ผู้ขึ้นชื่อลือชาว่ามีกำลังประดุจเสือ สามารถสะเทือนภูเขาได้ด้วยสองมือเปล่า หนานกงเฉิงวานรับใช้รัฐซ่งมาแต่ครั้น ซ่งจวงกง ผู้เป็นบิดาของซ่งหมินกง สร้างความชอบด้านศึกสงครามเอาไว้ไม่น้อย
อันแคว้นซ่งนั้น เป็นแคว้นใหญ่แคว้นหนึ่งในจงหยวน สืบเชื้อสายมาจากจักรพรรดิราชวงศ์ซาง เมื่อราชวงศ์ซางล่มแล้ว จักรพรรดิโจวอู่อ๋องทรงพระเมตตาพระญาติพระวงศ์ของจักรพรรดิโจ้ว จึงมอบดินแดนเขตซางชิวให้ลูกหลานราชวงศ์ซางไปปกครองเมือง แต่งตั้งให้เจ้าแคว้นซ่งมียศสามนตราชระดับกง อันเป็นสามนตราชชั้นเอก ยศศักดิ์สูงกว่าสามนตราชทั้งปวงขั้นหนึ่ง ทายาทราชวงศ์ซางก็ปกครองแคว้นซ่งสืบมานับสิบชั่วคน จนถึงยุคของซ่งมู่กง (ครองเมืองช่วงปี 728-720 ปีก่อนคริสตกาล)
ซ่งมู่กงนั้น มีบุตรคนหนึ่งชื่อว่า กงจื่อเฟิง แต่เมื่อครั้นซ่งมู่กงป่วยใกล้ตาย ก็กล่าวกับเหล่าขุนนางว่า “กงจื่อเฟิงบุตรของเรา เป็นคนหยาบช้า โลภมาก หาสติปัญหาไม่ได้ ไม่เหมาะให้ปกครองบ้านเมืองต่อ เมื่อเราสิ้นชีวิตแล้ว ขอให้ตั้งกงจื่อหยูอี้ น้องชายของเราขึ้นครองบ้านเมืองแทนเถิด ชาวรัฐซ่งจะได้อยู่เย็นเป็นสุขสืบไป” ว่าแล้วซ่งมู่กงก็ให้ขับไล่ กงจื่อเฟิงไปเสียจากรัฐซ่ง เพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนานแก่กงจื่อหยูอี้ต่อไป
กงจื่อเฟิงที่ถูกเนรเทศก็เดินทางไปแคว้นเจิ้ง เข้าพบเจิ้งจวงกง ประมุขรัฐเจิ้ง ทำการหลอกลวงเจิ้งจวงกงว่า “บิดาข้าพเจ้าสิ้นชีวิตแล้ว พวกขุนนางและอาของข้าพเจ้ารวมหัวกันแย่งบ้านเมืองไป ข้าพเจ้าจึงหนีมาพึ่งท่าน ขอท่านโปรดช่วยยกทัพไปชิงเมืองคืนให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด”
ในครั้งแรกเจิ้งจวงกงหลงเชื่อ จึงเตรียมยกทัพไปตีแคว้นซ่ง แต่ภายหลังกงจื่อหยูอี้ส่งทูตถือหนังสือมาบอกเรื่องราวที่แท้จริง เจิ้งจวงกงเลยยกเลิกแผนที่จะไปตีรัฐซ่งเสีย แต่ก็ชุบเลี้ยงกงจื่อเฟิงให้ทำราชการอยู่ในรัฐเจิ้งแทน ฝ่ายกงจื่อเฟิงก็มอบน้องสาวให้เป็นภรรยาของเจิ้งจวงกง
หลายปีต่อมา กงจื่อหยูอี้ก็ถูกฮว่าตูฆ่าตาย ฮว่าตูกลัวความผิดเลยหันไปไปเชิญกงจื่อเฟิงให้มาครองเมืองต่อ ในครั้งนั้นเจิ้งจวงกงก็ส่งทหารช่วยคุ้มกันกงจื่อเฟิงให้เข้าเมืองซางชิวโดยปลอดภัย กงจื่อเฟิงก็ได้ขึ้นปกครองรัฐซ่ง (ภายหลังเมื่อเขาตายก็ได้รับอารามนามว่า ซ่งจวงกง)
ซ่งจวงกงหรือกงจื่อเฟิงนั้น ซาบซึ้งในพระคุณของเจิ้งจวงกงมาก เขาเลยมอบหยกขาวงามเป็นสมบัติคู่เมืองให้กับเจิ้งจวงกงเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพ