ปฐมบทแห่งยุคโจวตะวันออก และเหวยอู่กงผู้ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าดั่งตาเห็น

เราทราบกันดีกว่า การล่มสลายของราชวงศ์โจวตะวันตกนำมาซึ่งยุคราชวงศ์โจวตะวันออก รายละเอียดนี้ถูกเขียนเอาไว้ในหนังสือเลียดก๊กด้วย จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังดังนี้

ปีที่ 39 รัชกาลจักรพรรดิโจวเสวียนอ๋อง (ตรงกับปีที่ 782 ก่อนคริสตกาล) พระองค์นำแปดทัพบูรพา ยกไปปราบพวกเจียงหรง (เป็นฉ่วนหรงจำพวกหนึ่ง) ที่ปัจจุบันอาศัยในเขตส่านซีเหนือ ปรากฏว่ากองทัพโจวพ่ายแพ้ยับเยิน จักรพรรดิโจวเสวียนอ๋องทรงได้เหล่าขุนทหารคุ้มกันตีฝ่าหลบหนีมาได้แต่ก็เสียรี้พลไปมากมาย หลังเสร็จศึกนี้ทรงโทมนัสนัก จะเสวยหรือจะบรรทมก็ไม่เป็นดั่งใจ



ครั้นเมื่อเสด็จกลับพระนครเฟิงเฮ่า ก็ได้ทรงสดับเด็กๆร้องเพลงเล่นกันมีใจความว่า “ดวงตะวันกำลังหรี่แสง จันทราจักเรืองรอง เกี่ยวต้นอ้อมาทำเกาทัณฑ์ แผ่นดินโจวจะเสื่อมโทรม”



เมื่อทรงได้ยินเด็กร้องเพลงนี้ จึงให้ขันทีไปเรียกตัวเด็กมาสอบถามว่า “เพลงนี้ใครเป็นคนสอนให้พวกเจ้าร้องเล่น?” พวกเด็กๆก็ตอบว่า มีคนแปลกหน้าใส่ชุดแดงกางเกงแดงมาสอนให้ร้องเล่นต่อๆกันไป

จักรพรรดิโจวเสวียนอ๋องจึงสั่งให้เรียกตัวจ้าวโฮ่วมาสอบถามว่า เพลงดังกล่าวเป็นนิมตรดีร้ายหรืออย่างใด? จ้าวโฮ่วจึงกราบทูลว่า
“ข้าพเจ้าตรวจดูดวงดาวแล้วพบว่า พระองค์ทรงมีพระเคราะห์ อาจจะถึงพระชนม์ชีพด้วยเกาทัณฑ์ และหลังจากนี้ชะตาเมืองแห่งราชวงศ์จะตกต่ำลง ในภายภาคหน้าคนสกุลอื่นจะเป็นใหญ่ หน่อเนื้อเชื้อพระวงศ์ของพระองค์จะด้อยบารมีลงทุกขณะ ขอให้พระองค์อย่าได้ยกทัพออกไปทำศึกสงครามอีกและตั้งพระทัยบำรุงบ้านเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงพระเคราะห์อันใหญ่หวางนี้ด้วยเถิด”
 
จักรพรรดิโจวเสวียนอ๋องทรงได้ฟังก็ตกพระทัย จึงตรัสให้ทำลายเกาทัณฑ์ในท้องพระคลังให้หมดสิ้น และห้ามประชาชนทำเกาทัณฑ์ออกขายหรือผลิตขึ้นอีกต่อไป แล้วก็เสด็จเข้าพระนคร ทรงกลัดกลุ้มอยู่ทุกวันไม่ได้ขาด

หลายคืนต่อมา จักรพรรดิโจวเสวียนอ๋องก็ทรงพระสุบินว่า มีสตรีนางหนึ่งมายืนต่อหน้าพระพักตร์ แรกหัวเราะแล้วก็เปลี่ยนเป็นร้องไห้ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในหอเทพบิดร หอบเอาพระบรมฉายาลักษณ์ของอดีตบูรพจักรพรรดิแล้ววิ่งหนีออกไปทางประตูวังทิศตะวันออก

เมื่อทรงตื่นจากบรรทมก็เรียกจ้าวโฮ่วเข้ามาสอบถามพระสุบินว่าจะดีหรือร้าย จ้าวโฮ่วก็ทำนายว่า เมื่อคืนนี้มีทารกหญิงเกิดขึ้นมาในเมือง ต่อในภายภาคหน้าจะเมื่อเด็กคนนี้เจริญวัยขึ้น จะเป็นเหตุให้บ้านเมืองวิบัติจนทายาทของพระองค์ต้องย้ายเอาหอเทพบิดรออกจากราชธานีเฟิงเฮ่าไปอยู่ที่ดินแดนตะวันออก
จักรพรรดิโจวเสวียนอ๋องได้ทราบก็ทรงพระวิตก ประกอบกับพระนางเจียงฮองเฮาผู้เป็นมเหสีมาแจ้งข่าวว่า เมื่อคืนมีนางกำนัลเฒ่าคนหนึ่งให้กำเนิดบุตรีในวังหลัง แต่หาทราบไม่ว่าบิดาของเด็กเป็นใคร พระนางเจียงฮองเฮาเลยให้เอาเด็กไปทิ้งเสียนอกวัง

จักรพรรดิโจวเสวียนอ๋องทราบเรื่องก็คิดว่า เห็นทีเด็กคนนี้น่าจะเป็นกาลีแก่บ้านเมืองแน่ๆ จึงสั่งให้ ตู้ป๋อ ออกไปตามหาเด็กแล้วเอามากำจัดทิ้งเสียให้ได้ ตู้ป๋อรับพระราชโองการแล้วก็ออกไปเที่ยวแสวงหาเด็กคนดังกล่าวก็ไม่พบ กลัวพระราชอาญาเลยแกล้งทำเป็นเฉยๆเสีย ไม่ยอมกลับมาเข้าเฝ้าทูลความแก่จักรพรรดิเสวียนอ๋องอีก

นอกนครเฟิงเฮ่านั้น มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง สามีชื่อ ซูไต้ ภรรยาชื่อใดไม่ปรากฏ ซูไต้ไม่ทราบข่าวเรื่องการห้ามทำเกาทัณฑ์ขาย ก็หอบเอาลูกเกาทัณฑ์ที่ทำขึ้นลงมาขายในเมือง เฉาอี้ขุนนางผู้รักษาเมืองเห็นจึงเข้าไปจับตัวภรรยาซูไต้เอาไว้ ส่วนซูไต้หลบหนีไปได้ เฉาอี้ก็ประหารภรรยาซูไต้เสียเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนที่คิดขายเกาทัฑณ์ต่อไป

ซูไต้พบทราบว่าภรรยาถูกประหารแล้วก็เสียใจนัก เดินร้องไห้ไปตามท้องถนนจนถึงริมคลอง ก็พบเด็กทารกหญิงคนหนึ่งถูกทิ้งเอาไว้ จึงคิดว่าภรรยาเราก็ตายแล้ว ลูกเต้าก็ไม่มี เห็นทารกนี้ถูกทิ้งไว้คงเป็นวาสนาของเรา จึงเก็บทารกไปเลี้ยงเป็นลูก

ฝ่ายจักรพรรดิเสวียนอ๋อง ผ่านไปหลายเดือนไม่เห็นตู้ป๋อมาเข้าเฝ้าก็ให้ขันทีไปเรียกตัวมาเพื่อไต่ถามงานที่ทรงสั่ง ตู้ป๋อมาเฝ้าแล้วก็ทูลว่า “ข้าพเจ้าไปเสาะแสวงหาเด็กคนนั้นอยู่หลายเดือน ทำอย่างไรก็หาไม่พบ เห็นว่าคงอดตายหรือถูกหมาป่ากินไปแล้วกระมังพระพุทธเจ้าข้า”

จักรพรรดิเสวียนอ๋องได้ฟังก็ทรงพิโรธ ตรัสว่า “เราสั่งให้ไปค้นหาเด็กคนเดียวก็ทำไม่สำเร็จ ศพก็ไม่มีจะมาคิดเอาเองว่าตายแล้วไม่ได้ เจ้ากระทำการไม่รอบคอบ ไม่เห็นคำสั่งเราอยู่ในสายตาหรือ?” ว่าแล้วก็ทรงให้ทหารเอาตัวตู้ป๋อไปตัดหัว

ด้านเฉาอี้เป็นเพื่อนสนิทของตู้ป๋อและอยู่ในที่เฝ้าด้วย ก็คุกเข่าทูลร้องขอชีวิตแก่ตู้ป๋อ ทำให้จักรพรรดิเสวียนอ๋องทรงพิโรธมาก และสั่งขับไล่เฉาอี้ออกจากราชสำนักไป เฉาอี้น้อยใจมากพอกลับไปบ้านก็เอากระบี่เชือดคอตาย

ผ่านไปปีเศษ จักรพรรดิโจวเสวียนอ๋องก็ทรงประชวรหนัก ทรงฝันเห็นแต่ตู้ป๋อและเฉาอี้มาหลอกหลอน แล้วเอาเกาทัฑณ์ยิงใส่พระองค์อยู่เนืองๆ พระอาการก็ทรุดหนักจนสิ้นพระชนม์ในปีที่ 45 ของรัชกาล (ตรงกับปีที่ 782 ก่อนคริสตกาล)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่