สวัสดีทุกท่านอีกครั้งนะครับ ในปัจจุบันนี้ มีบุฟเฟ่ต์แนวใหม่ๆเกิดขึ้นมาแข่งกับเจ้าหลักๆอย่างจากชาบูและปิ้งย่างที่มีกันให้เกลื่อน 
หนึ่งในนั้นก็เห็นจะเป็นแนว โอมากาเสะ แต่ปัญหาของแนวนี้คือส่วนมากจะราคาสูง แต่ไม่นานมานี้ผมไปเจอ ร้านแนวโอมากาเสะอยู่ร้านหนึ่งมีชื่อว่า Yuzuki Izakaya ที่กำลังจัดโปรอยู่ ในราคา 699 ก็สามารถกิน เมนูหรูอย่างข้าวปั้นหน้าฟัวกรา หรือพวกท้องปลาทูน่าได้แล้ว ซึ่งพอทราบดังนั้นก็จัดแจง สืบค้นข้อมูล จองที่นั่ง แล้วบึ่งไปยังที่เกิดเหตุเลย

**อนึ่ง อาหารในการีวิวครั้งนี้เป็นเมนูช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งแตกต่างจากเมนูในปัจจุบัน** 

สำหรับร้านนี้ก็มีอยู่ 2 สาขาด้วยกัน คือ สุขุมวิท 26 กับ อุดมสุข 51 ผมเลือกมากินอุดมสุขเนื่องจากใกล้ที่พัก สำหรับการมากินนั้นจะวอร์ดอินเลยไม่ได้นะ
ต้องทำการจองผ่านทางหน้าเพจของเขาก่อน ซึ่งจะมีรอบให้กินบุฟเฟ่ต์ 2 รอบ นั่นคือ รอบเที่ยง 12.00 - 14.30 กับ รอบเย็น 17.00 - 21.00  
วันที่ผมมากินนั้นมาช่วงเย็นวันธรรมดา คนก็เลยยังไม่มากันมาก 



ร้านตกแต่งได้ดูกว้างขวาง สบายตา แต่ไม่ค่อยสบายกายนัก เพราะพึ่งเปิดร้าน แอร์ยังไม่ทำงาน เลยอบอ้าวอยู่ในช่วงแรก
ทางร้านมี 2 ราคา 699+ กับ 1500+ วันนี้ผมมาโดนตัวถูกสุดก่อน ซึ่งพอบวกรวมภาษี และน้ำที่คิดยากเป็นขวดและแยกน้ำแข็งด้วย(สั่งน้ำเปล่าไป)
ก็ตกที่คนละ 774 บาท ถือว่าแพงเอาเรื่องเหมือนกันนะ  แถมให้เวลาอันแสนจำกัดแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น งานนี้ก็ต้องรีบสั่งรีบกินกันล่ะครับ



สำหรับอาหารนั้น ชื่อก็บอกอยู่ว่า โอมากาเสะ ดังนั้น จะมีเมนูบังคับ ซึ่งเราสามารถบอกเขาได้ว่าเมนูไหนกินรึไม่กินบ้าง ซึ่งหลักๆจะมี 11 เมนู และสามารถสั่งได้รอบเดียวเท่านั้น  ส่วนเมนูในใบสั่งนี้สามารถสั่งเพิ่มได้เรื่อยๆ อยากได้กี่คำก็เขียนตัวเลขไปตามที่อยากกินเลยครับ



สั่งอาหารไปสักพัก พนักงานก็มาเสิร์ฟของกินเล่นรองท้องก่อน เป็นคานิครีม กับ ซุปมิโสะเสิร์ฟก่อน 
ซึ่งก็คือ มะกะโรนีต้มกับซอสครีมและปูอัดเท่านั้น กินรอครับ ไม่มีอะไรพิเศษ



เซ็ตปลาดิบ หนึ่งในเมนูบังคับ มาให้ลิ้มลองกันก่อน ซึ่งในจานจะประกอบด้วย แซลมอน ลื่นละลายอร่อยมาก ทูน่า มันอมเปรี้ยวนิดๆ 
ที่เด็ดคือคาวน้อยกว่าร้านอื่น  หอยเชลล์ เนื้อเป็นวุ้นหวานตามธรรมชาติ ฮามาจิ มันเนียนมากไม่เปรี้ยวเท่าไหร่ จัดว่าแจ่ม


ต่อมาก็เป็นเซ็ตข้าวปั้นสุดหรู จะได้ลองโอมากาเสะครั้งแรกในชีวิตแล้ว รสชาติจะเป็นไง ชักตื่นเต้น




ฟัวกรา  นุ่มละลายเนียนลิ้น รสหวานอมขมแบบไหม้ๆ อร่อยเลิศ แอบเลี่ยนพอควร ต้องค่อยๆลิ้มรส


ยามากาตะเซ็ต อันนี้เป็นมากิโปะหน้าต่างๆ ซึ่งก็จะมี
โทโร่สับ เนื้อเนียนละเอียดเหมือนมันบด มันอมหวานเปรี้ยวนิดๆ และไม่คาว
ปูสับ รสชาติโอเค ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์
ไข่หอยเม่น รสคาวมัน คล้ายกับกินไข่ปูผสมหอยนางรมสดๆ
ไข่แซลมอน สีเข้ม รสหวานอมเค็มเหมือนซุปสต๊อคสาหร่าย


ดูดีๆแล้วเขาใช้มากิสองลูกเลยนะเนี่ย แต่ไม่เป็นปัญหานักเพราะข้าวลูกเล็ก โยนเข้าปากก็หมดสองก้อนละ



ซูชิปลามากุโร่หรือทูน่าสุดแพง มาให้ลิ้มรสทั้ง 3 ส่วนด้วยกัน 
อาคามิ(เนื้อแดง) เนื้อแน่นและนิ่มมาก รสชาติเหมือนแบบซาซิมิ ทูน่าที่เด็ดจริง ฉ่ำแถมไม่คาวเลย
ซูโทโร่(ท้องส่วนล่าง) มันละลายในปากกำลังฟิน ละมุนมากๆ เด็ดสุดละอันนี้
โอโทโร่(ท้องส่วนบน) มันลื่นละลายปาก แต่จะเลี่ยนกว่าซูโทโร่นิดหน่อย แต่เทียบกับท้องแซลมอนแล้วเลี่ยนน้อยกว่ามาก


หอยเชลล์อาบุริ รสชาติจะเบาบางกว่าและไม่กรุบเท่าแบบดิบ แต่จะได้ความหอมของเครื่องเทศที่ย่างเคียงมาด้วย

ฮามาจิฟิวชั่น เป็นฮามาจิหั่นชิ้นโปะด้วยแซลมอนสับและไข่กุ้งดำ รสชาติเหมือนแบบซาซิมิเด๊ะ แค่ความมันจะน้อยกว่า


โอมากาเสะผ่านไปก็มาลองแบบตามสั่งกันบ้าง เน้นของแพงๆอย่างเดียวเลย 



เอนกาวะ ลื่นฉ่ำ ไม่มันมาก เหมือนกินน้ำอัดก้อน คล่องคอดี แต่น้ำจิ้มที่ราดมาด้วยนี่อย่างเปรี้ยวเลย


อุนางิ ปลาไหลแม่น้ำทั่วไปที่มีให้กินกันตามร้านบุฟเฟ่ต์ เนื้อแน่นปกติ แต่ดูจะย่างนานไป เนื้อเลยแอบกระด้าง แถมซอสก็เปรี้ยวอีกละ
ไม่ค่อยเข้ากันกับเนื้อปลาสักเท่าไหร่


อะนาโกะ ปลาไหลทะเล พึ่งจะได้กินเนี่ยแหละ รสชาติเหมือนปลากะพงนึ่ง แต่เนื้อจะละเอียดเป็นทรายและหวานนุ่มนวลกว่ามาก 



ซัดของแพงไปหมดแล้ว มาลองของเบสิคทั่วไปกันมั่ง หน้าไข่กุ้งก็รสชาติแบบทั่วไปเลย แต่สาหร่ายนี่เป็นแบบแห้ง ไม่แจ่มนัก


ส่วนหน้าแซลมอน ก็ลื่นมันปกติ แอบกรุบนิดหน่อย



ขนมวากาชิ อันนี้เขาจะเสิร์ฟท้ายสุด เนื้อแป้งเนียนระดับเดียวกับไส้ที่เป็นถั่วแดง รสชาติโดยรวมก็เหมือนลูกชุบบ้านเราแค่ไม่มีวุ้นแล้วก็เย็นกว่า 
หวานๆเย็นล้างคาวได้ดีมาก 

ตัดเกรด 
รสชาติอาหาร : *****
ร้านนี้ปลาดิบอร่อยสุดยอด เลิศทั้งรสชาติ หน้าตา และ คุณภาพ ปลาทูน่ากับฮามาจิแทบไม่มีรสเปรี้ยวและคาวเลย 
ปลาบนหน้าข้าวปั้นในเซตตามสั่งนั้นก็ดีไม่แพ้กัน มีเสียหน่อยตรงซอสราดที่ผมมองว่ามันเปรี้ยวเกินไปนิด

อร่อยมากสุด : ข้าวปั้นซูโทโร่
รสชาติอร่อยเลิศมาก มันเนียนละลายในปาก ความคาวคาวมเลี่ยนหาแทบไม่มี 

อร่อยน้อยสุด : คานิครีม
มันคือ ของกินเล่นรอเวลา และไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษ หวังเอาอร่อยคงไม่ได้อยู่แล้ว

บรรยากาศในร้าน : ***1/2
ร้านกว้างดีแต่ร้อน การระบายอากาศไม่ค่อยโอเคเลย

การบริการ : ***1/2
พนักงานไม่มีมารับออเดอร์อยู่นาน แถมพอมาก็ไม่ค่อยบอกข้อมูลอะไรให้ลูกค้าเท่าไหร่ 

ความหลากหลาย : ***
อาหารมีให้เลือกไม่มากนัก ก็เน้นแต่ข้าวปั้นเป็นหลักน่ะแหละ

ราคา : **1/2
แพงจัดเลยสำหรับร้านนี้ มีบวกค่าน้ำเพิ่มต่างหากอีก แม้ราคาจะสูง แต่มาคิดหักลบกัน 700กว่าบาท กับท้องปลาทูน่าเกรดดี มันย่องๆ 
และฟัวกราชิ้นโตถึง 5 ชิ้น ถือว่าคุ้มสุดๆเเล้ว 

การเข้าถึง : ***1/2
ข้อดี คือ คนไม่เยอะ และมีที่จอดอยู่พอสมควร แต่ข้อด้อย คือ ร้านนั้นตั้งอยู่ใจกลางซอย 51 แถมจราจรติดขัดมากเพราะแถวนั้นทำทางเสียอีก
คงไม่สะดวกนักสำหรับนักกินต่างถิ่นแต่ถ้าใครอยู่ละแวกนั้นก็สบายแฮ ผมนี่เดินไปยังได้เลย

ความคุ้มค่า : ****1/2
776 บาท กับการได้กิน ท้องปลาทูน่า ปลาไหลทะเล ไข่ปลา และฟัวกรา ไม่คุ้มก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ที่ให้ดาวไม่เต็ม เพราะเวลากินน้อยกับของให้เลือกมีน้อย แต่ถึงยังไงก็คุ้มอยู่ดี เพราะเอาเข้าจริง ก็เริ่มแน่นท้องตั้งแต่ นาทีที่ 45 ละ ถ้าใครทุนทรัพย์หนาก็สามารถจัดราคา 1500+ มาโดนได้ ก็จะสามารถสั่งตัวแพงๆได้อย่างไม่อั้น รับรองคุ้มค่าแน่นอน(ถ้าคุณกินเร็วพอนะ)

และอย่างที่บอกไปข้างต้น การรีวิวนี้เป็นประสบการณ์ที่ผมไปกินมาเมื่อเดือนที่แล้ว บางเมนูนั้นยังคงมีขายในร้านอยู่แค่มีการสับเปลี่ยนนิดหน่อย เช่น ยามากาตะเซ็ต จะไม่มีในราคา 699+ แล้ว แต่ก็ยังสามารถกินได้ในราคา 1500+ อยู่ ก็หวังว่าจะเป็นแนวทางให้ผู้ที่เข้ามาอ่านได้บ้างนะครับ 

ภาพรวม : ****

ก่อนจากผมมีทำเพจเฟซบุ๊คส่วนตัว ฝากติดตามกันด้วยนะครับที่ Buffeast Review หากมีข้อสงสัยหรือติชมเสนอแนะยังไง สามารถอินบ๊อกซ์ไปได้
ขอบพระคุณที่ติดตามอ่านกัน ขอให้แฮปปี้อิ่มพุงกันถ้วนหน้าครับ