[SR] รีวิว "ห้องอาหารเรือนต้น" โฉมใหม่ 2021 บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ 30 เมนู เริ่มต้น 688++ ในโรงแรมมณเฑียรสุรวงศ์~

วันนี้เราได้รับการรับเชิญจาก PR ของโรงแรม Montien Hotel Surawong Bangkok ให้เข้ามารีวิวบุฟเฟ่ต์ติ่มซำราคาสุดคุ้มที่ห้องอาหาร Ruenton (เรือนต้น) อันโด่งดังเรื่องข้าวมันไก่อร่อยระดับมิชลินสตาร์ 2 ปีซ้อน ตอนนี้ทั้งโรงแรมได้ทำการปรับปรุงโฉมใหม่ดูทันสมัยและหรูหราร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น (ส่วนตัวเคยมารีวิวที่นี่แล้วครั้งนึงจำได้ว่าบรรยากาศภายในดูเก่า-มืดและโบราณสุดๆ) โดยยุบห้องอาหารจีนออกแล้วนำมารวมกันเป็นเรือนต้นในที่เดียวแต่เชฟทั้งหมดยังคงเป็นรุ่นเก่าทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะได้ทานเมนูที่อร่อยถูกใจเช่นเคย บุฟเฟ่ต์ติ่มซำที่นี่เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์คนละ 688++ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์คนละ 888++ บาท เด็กเล็กอายุ 1-5 ขวบทานฟรี อายุ 6-11 ปีคิดครึ่งราคา วันธรรมดาคนละ 344++ และวันหยุดคนละ 444++ อายุ 12 ปีขึ้นไปคิดค่าบุฟเฟ่ต์แบบผู้ใหญ่ ราคานี้รวมเครื่องดื่มรีฟิลคือชาจีนหรือเก๊กฮวยร้อนและเย็นเรียบร้อยแล้ว มีเมนูให้เลือกสั่งเสิร์ฟแบบ A La Carte ถึงที่โต๊ะรวมกว่า 30 เมนูทั้งติ่มซำนึ่ง-ทอด/อาหารจีนพร้อมทาน/ซุปจีนและขนมหวานสั่งทานได้ไม่อั้นไม่จำกัดเวลา เปิดให้บริการวันละ 2 รอบคือกลางวัน 11.30-14.30 น. (3 ชั่วโมงเต็ม) และช่วงเย็น 17.00- 21.00 น. (4 ชั่วโมงเต็ม) จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 นี้ วิธีการเดินทางหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ให้ขับมาตาม Google Maps หน้าทางเข้าโรงแรมมีลานจอดรถขนาดใหญ่ให้บริการฟรี (เพียงประทับตราที่ห้องอาหาร) ถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะลง MRT สามย่านหรือ BTS สถานีศาลาแดงแล้วต่อรถหรือเดินเท้าเข้ามาอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึงโรงแรมมณเฑียรสุรวงศ์แล้วครับ ห้องอาหารตั้งอยู่ที่ชั้น 1 เดินเข้าประตูล๊อบบี้หลักมาอยู่ตรงขวามือจะมองเห็นกระเบื้องลายสีเขียวมรกตพร้อมป้ายไม้เขียนว่า Ruenton แบบนี้แสดงว่ามาถูกห้องอาหารแล้วแน่นอนครับ

ทางเข้าประตูสู่ห้องอาหารปรับเปลี่ยนใหม่ดูกว้างขวางเปิดรับแสงจาธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างทั่วถึงดูไม่มืดทึบอย่างเมื่อก่อน และเอกลักษณ์ที่ยังคงเหมือนเดิมก็คือป้ายประกาศนียบัตรรับประกันความอร่อยยังคงวางอยู่บนโต๊ะหน้าร้านแบบเดียวกับเมื่อก่อน ทั้งมิชลินระดับ BIB GOURMAND ปี 2019 และปี 2020 ยังได้รับมาตรฐานความสะอาดจากหน่วยงานของรัฐบาลมั่นใจได้ถึงความอร่อยและปลอดภัยชวนให้เข้าไปนั่งทานได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น

บรรยากาศภายในห้องอาหารมาถึงครั้งแรกถึงกับต้องขยี้ตาเพราะมันเปลี่ยนไปมากจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ว่าได้ เป็นการออกแบบดีไซน์โดยใช้ของที่มีอยู่มาผสมกับของใหม่ เริ่มจากเอาเฟอร์นิเจอร์จากห้องอาหารเก่านำมาทาสีทำความสะอาดใหม่ผสมกับโคมไฟ-พื้นผิวการเล่นกับแสงธรรมชาติตามจุดต่างๆให้ดูหรูหราโมเดิร์น แต่ยังคงมีกลิ่นอายของความโบราณคล้ายบ้านคนจีนในสมัยก่อนมาจัดเรียงใหม่ได้อย่างลงตัว ถือได้ว่าเป็นตอบโจทย์ความเป็นห้องอาหารไทย-จีนที่ทางโรงแรมนำมายุบรวมกันได้อย่างลงตัว มีทั้งโต๊ะนั่งขนาดใหญ่-ขนาดเล็ก/โซนโซฟา/ห้องส่วนตัวขนาดเล็กสำหรับ 6-10 คนและห้องขนาดใหญ่รองรับกลุ่มลูกค้าได้ 25-30 คน และเดินทะลุออกหน้าถนนพระราม 4 จัดเป็นคาเฟ่-ร้านกาแฟและเบเกอรี่อบสดให้คนที่เดินผ่านไป-มาได้ใช้บริการอีก เปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆครับผม

บุฟเฟ่ต์ติ่มซำและอาหารจีนอย่างที่บอกไปเบื้องต้นที่ห้องอาหารนี้จัด 2 ราคาคือ 688++ และ 888++ ไม่ใช่แค่แตกต่างเฉพาะวันที่มาทานแต่เมนูก็เปลี่ยนไปอีกด้วย โดยวันจันทร์-ศุกร์มีอาหารให้สั่งทั้งหมด 24 รายการ วันเสาร์และอาทิตย์จะมี Main Course เพิ่มเข้ามาอีก 7 รายการรวมทั้งหมดเป็น 31 เมนู มีให้สั่งทั้งซาลาเปา-ติ่มซำนึ่ง 13 รายการ/ของทอด 4 รายการ/ซุป 3 รายการและขนมหวานอีก 4 รายการ โดยทุกอย่างสั่งได้ไม่อั้นและไม่จำกัดเมนูเช่นจานหลัก-ซุป-ขนมหวานตามที่โรงแรมอื่นมักจะจำกัดให้แค่คนละ 1 ชุดแต่ที่นี่จะทานเท่าไหร่ก็ได้ นอกจากนี้เมนู A La Carte ก็เปลี่ยนไปจากเล่มดูโบราณกลายเป็น QR Code สแกนดูได้จากมือถือหรือกดเข้าไปดูได้เลยที่ลิงค์นี้ >> http://online.anyflip.com/ldmnj/mfen/mobile/index.html << มีการลดเมนูอาหารที่ขายไม่ดีออกคงเหลือแต่เมนูแนะนำที่ได้รางวัลอาหารไทยบางเมนูและอาหารจีนกับติ่มซำแสดงราคาแบบ A La Carte เอาไว้ ราคาอาหารทั้งหมดที่เห็นในเมนูเล่มนี้ยังไม่รวม Vat. 7% และ Service Charge อีก 10% ยังไม่เป็นราคา Net. นะครับ

มาถึงทางห้องอาหารก็จะให้เลือกเลยว่าดื่มเป็นชาจีนเก็กฮวยร้อนหรือเย็นเสิร์ฟมาให้เป็นกาและแก้ว รสจืดหอมกลิ่นใบชาจีนและดอกเก็กฮวยตามธรรมชาติต้มมาจืดๆไม่ใส่น้ำตาล แต่มีน้ำเชื่อมแยกใส่เหยือกแก้วขนาดเล็กมาให้ก็สามารถเติมความหวานได้ด้วยตัวเอง แบบนี้ถือว่าดีมากครับเพราะจะได้ไม่ต้องปวดหัวว่าสมาชิกร่วมโต๊ะคนไหนดื่มหวานหรือไม่หวานก็ไปเติมเอาเองตามใจครับ ดื่มหมดถ้าเบื่อเปลี่ยนน้ำสลับกันได้เรื่อยๆไม่จำกัดหรือคิดเงินเพิ่มครับ

อาหารทุกอย่างทยอยมาเสิร์ฟที่โต๊ะเริ่มจากติ่มซำของห้องอาหารนี้เชฟเขาปั้นและนึ่งให้ใหม่จึงต้องใช้เวลาในการรอสักพักนึงแต่มั่นใจว่าได้ทานร้อนสดใหม่ไม่มีทิ้งค้างหรือนำมานึ่งรอบ 2 ให้ทานอย่างแน่นอน เมนูแรกนั่นก็คือ "กุ้งหางหงส์สามรส" เป็นกุ้งกรอบผสมหมูเด้งปั้นเนื้อแน่นๆท๊อบปิ้งด้วยกุ้งสดนึ่งจนสุกกำลังดีแล้วราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู๊ดสีแดงรสเปรี้ยวแซ่บหอมพริก-มะนาวโดนใจสไตล์ไทย เมนูต่อไป "ปลากระพงนึ่งซอสซีฟู๊ด" ฐานและซอสด้านล่างนั้นเป็นแบบเดียวกับเข่งแรกแต่เปลี่ยนจากท๊อบปิ้งด้วยกุ้งเป็นเนื้อปลากระพงนั่นชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มคำรสหวานหอมรสไขมันปลาคุณภาพสูง "สาหร่ายไส้กุ้งนึ่ง" เป็นหมูเด้งผสมกุ้งพันสาหร่ายชิ้นโตท๊อบปิ้งด้วยไข่กุ้งเสิร์ฟพร้อมบล๊อกโคลี่ราดซอสมันปูหอมๆรสชาติเข้มข้นทานแล้วไม่มีเลี่ยน "ซี่โครงหมูนึ่งเต้าซี่" ซี่โครงกระดูกหมูคัดมาแต่ส่วนกระดูกอ่อนปรุงรสเค็มหวานหอมกลิ่นเหล้าจีนและเต้าซี่กลมกล่อมไม่เข้มข้นจนเกินไปทำให้คีบเข้าปากทานได้เรื่อยๆเพลินๆครับ

เมนูต่อไปเป็นติ่มซำที่มีแป้งห่อสีขาวบางใสจนเห็นไส้ด้านในแต่เนื้อเหนียวหนึบเละจนไม่ติดกับแผ่นกระดาษรองนึ่งแบบที่อื่นคือ "ฝั่นโก๋ปวยเล้ง" เป็นแป้งฮะเก๋าสีขาวเหนียวหนึบเหมือนโมจิห่อเนื้อหวานกุ้งเด้งตัวใหญ่ๆหอมน้ำมันงาและปวยเล้งท๊อบปิ้งด้วยไข่ปลาบินปรุงรสเคี้ยวเต็มคำดีสุดๆ ตามมาด้วยขนมจีบธรรมดาหน้าตาดูไม่ซับซ้อนอย่าง "ขนมจีบหมูและกุ้ง" เป็นขนมจีบหมูเด้งเนื้อแน่นไขมันฉ่ำกัดแล้วรสชาติเข้มข้นของหมูค่อยๆไหลในปากผสมกับกุ้งที่ตัวใหญ่เด้งเนื้อกรุบกรอบเคี้ยวทีดังสนั่นไปทั่วทั้งปากห่อด้วยแป้งบางหนึบและเพิ่มสัมผัสในการเคี้ยวด้วยไขปลาบินปรุงรสสีดำแตกเหมือนฟองโซดาละเอียดในปากเวลาเคี้ยวจิ้มจิ๊กโฉ่วรสเปรี้ยวฉุนขึ้นจมูกลดความเลี่ยนได้ดีมากครับ

เมนูต่อไปคล้ายกับติ่มซำปลากระพงเข่งแรกแต่แค่เปลี่ยนซอสคือ "ปลากระพงห่อกุ้งนึ่งซอสซีอิ๊ว" ซอสซีอิ๊วรสหวานเค็มเข้มข้นแต่กลมกล่อมหอมกลิ่นน้ำมันงาเหมาะสำหรับคนที่ไม่ทานเผ็ดเข้ากับปลากระพงชิ้นใหญ่อย่างลงตัว "ฮะเก๋ากุ้ง" เป็นแป้งแบบเดียวกับฝั่นโก๋แต่เป็นเนื้อกุ้งล้วนบางใสจนมองเห็นสีส้มอยู่ภายใน เนื้อกุ้งชิ้นใหญ่เด้งกรอบเคี้ยวทีดังกรึ๊บๆในปากหอมกลิ่นน้ำมันงาทานกับจิ๊กโฉ่วรสชาติเข้มข้นลงตัวสุดๆ เมนูต่อไปหน้าตาธรรมดาแต่รสชาติดีเกินคาดคือ "ฟองเต้าหู้ทอด" เป็นกุ้งสับปรุงรสเนื้อเด้งกรอบห่อด้วยฟองเต้าหู้บางๆทอดมาจนเปลือกด้านนอกฟูกรอบเหมือนเผ่นโรตีกินกับน้ำจิ้มบ๊วยรสหวานอมเปรี้ยวหอมเหมือนกลิ่นดอกบ๊วยทานแล้วอร่อยสดชื่นต้องสั่งซ้ำครับ

เมนูต่อไปยังเป็นของทอดแต่ถ้าร้านไหนใส่แอมโมเนียลงไปล่ะก็ส่วนตัวจะรู้ทันทีคือ "เผือกทอด" ทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยด้านในสอดไส้หมูสับผสมกุนเกียงรสหวานเค็มแป้งบางกรอบสลายไปในปากไม่มีกลิ่นฉุนเหม็นๆของแอมโมเนียทำให้ทานได้เรื่อยๆเลยครับ เข่งต่อไปไม่ค่อยเห็นห้องอาหารโรงแรมไหนนำมาเสิร์ฟในบุฟเฟ่ต์คือ "ข้าวเหนียวห่อด้วยใบบัว" คล้ายๆกับบ๊ะจ่างด้านในสอดไส้ด้วยหมูสามชั้นต้ม/เห็ดหอม/ไข่เค็ม/กุนเชียงและกุ้งแห้งใส่ข้างเหนียวปรุงรสมาเค็มหวานห่อด้วยใบบัวหอมๆทำให้ได้กลิ่นที่แตกต่างกว่าบ๊ะจ่างที่ห่อด้วยใบไผ่จีน ส่วนความอร่อยก็ไม่ต่างกันครับ

ตามมาด้วยเมนูซาลาเปาไส้ต่างๆเริ่มจาก "ซาลาเปาไส้หมูแดง" แป้งที่ห่อด้านนอกเนื้อแน่นเหนียวหนึบเป็นแบบโบราณเนื้อฟูแต่ไม่มีกลิ่นเหม็นแอมโมเนียฉุนเตะจมูก ไส้ด้านในเป็นหมูแดงย่างแล้วสับให้เป็นชิ้นเล็กๆผัดกับน้ำซอสบาร์บีคิวสไตล์จีนรสหวานเค็มเข้มข้นกลมกล่อมทานกับแป้งซาลาเปาสีขาวเนื้อนุ่มๆได้อย่างลงตัวสุดๆ เข่งต่อไปเป็น "ซาลาเปาไส้หมูสับ" แป้งภายนอกสัมผัสเหมือนกันหมดแต่ไส้ด้านในเป็นหมูสับปรุงรสเนื้อแน่นๆหอมกลิ่นเครื่องเทศรสหวานด้วยต้นหอมเพิ่มความเค็มนุ่มนวลในปากด้วยไข่แดงเค็มถือว่าอร่อยเนื้อแน่นดีแต่ชวนให้อิ่มเร็วไปหน่อยครับ

****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:   ห้องอาหารเรือนต้น โรงแรมมณเฑียรสุรวงศ์ โฉมใหม่ 2021
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • อาหารมื้อนี้ฟรี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่