มักกะโรนีชีสที่มีจุดกำเนิดไม่แน่ชัด บ้างก็ว่าเริ่มต้นที่อเมริกา บ้างก็ว่าอิตาลี่, นิวซีแลนด์ และที่อื่นๆอีกมามาย
วันนี้ผมจะมาแนะนำในสูตรของผม ซึ่งจริงๆก็คล้ายกับสูตรคลาสสิค แต่จะเพิ่มเติมในส่วนของความเผ็ด ให้ได้รสชาติที่อาจจะถูกจริตคนชอบทานเผ็ด
เพียงแต่สูตรนี้จะเป็นความเผ็ดในระดับล่าง เพราะส่วนตัวมองว่าหากเผ็ดมากไป รสชาติมันดูไม่เข้ากัน แต่ถ้าอยากได้เผ็ดมากกว่านี้ ก็คูณ2พริกที่ใส่ลงไป
*เพิ่มเติม สูตรนี้ผมปรับปรุงมาสำหรับ 1-2คน จะได้ไม่ต้องเหลือทิ้งเยอะ
วัตถุดิบ
- 80-90 กรัม มักกะโรนี พาสต้า
- 2-3 สไลด์ เบคอน
- 250 มิล นม
- 20 กรัม เนย
- 20 กรัม แป้งเนกประสงค์
- 30 กรัม เชดดาร์ ชีส
- 1 ลูก ไข่แดง (ไม่จำเป็น)
- 1 เม็ด พริกหั่นละเอียด (ไม่เอาเมล็ด)
- 5 กรัม พาสเลย์ (ไม่จำเป็น)
- 1/2 ช้อนชา ปาปริก้า
- 1/2 ช้อนชา พริก คาเยน ถ้าไม่มีให้ใ้ผงพริกป่นแทน
- 15 กรัม เกล็ดขนมปัง
วิธีทำ
เริ่มจากทำซอส bechamel ก่อน ซอสนี้คือ 1 ในซอสแม่หรือซอสพื้นฐานที่สามารถนำไปพลิกแพลงเป็นซอสที่จะใช้ในเมนูมักกะโรนีชีส
1. ละลายเนยในหม้อ หลังจากนั้นก็ใส่แป้งลงไปแล้วจึงผัดให้เข้ากันดังรูป ก้อนที่เกิดจากเนยและแป้งในอัตราส่วนที่เท่ากันแบบนี้เรียกว่า Roux
ซึ่ง Roux มีหน้าที่ทำให้ซอสหนืด หรือข้น คล้ายๆกับหลักการที่ใช้แป้งข้าวโพดนั่นเอง
2. ใส่นมประมาณ 1/4 หรือ 1/3 ลงไป ถ้าจะให้ดีผมแนะนำให้นำนมไปอุ่นก่อน แต่ไม่จำเป็นขนาดนั้น
หลังจากนั้นก็คนให้ตัว Roux เข้ากับนมที่เราใส่ลงไป หากเข้ากันดีแล้วจะสังเกตุว่าผลที่ได้จะเป็นอะไรไม่รู้หนืดๆ เหนียวๆ
นมร้อนจะทำให้ประกฏการณ์นี้เกิดไวขึ้น 2 เท่า ในอณะที่นมเย็นหรือนมอุณหภูมิห้อง อาจจะเกิดช้าหน่อย
3. ค่อยๆทยอยเทนมเพิ่มทีละ 1/3 หรือ 1/4 แล้วคนให้เข้ากัน จนกระทั่งนมทั้งหมด 250 มิล ถูกเทลงไปในหม้อจนหมด
4. หาถาดหรือภาชนะอะไรก็ได้ ใส่น้ำรองไว้ด้านล่างหม้อ แล้วเคี่ยวซอสประมาณ 20-30 นาที วิธีนี้จะช่วยไม่ให้ความร้อนสัมผัสกับซอสของเราโดยตรง
ส่งผลให้ซอสไม่ไหม้ หรี่ไฟด้วยนะ
5. ลวกมักกะโรนีในน้ำที่ใส่เกลือ ประมาณ 7 นาที
6. นำเบค่อนเข้าเตาอบประมาณ 12-15 นาที เสร็จแล้วก็นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
* ไม่จำเป็นต้องอบจนกรอบ เพราะ texture ความกรอบจะไปอยู่กับส่วนเกร็ดขนมปังที่เราจะใส่ตอนสุดท้าย
7. นำซอส Bechamel ที่เราเคี่ยวเสร็จแล้ว มาใส่ไข่แดง
* ปิดไฟ นำออกจากเตาด้วย ไม่งั้นไข่แดงจะกลายเป็นไข่คนในซอส
8. ใส่ชีส
*จะเห็นว่าสีของไข่แดงจะทำให้ซอสกลายเป็ฯสีเหลือง สวยงาม
**เมื่อใส่ชีสลงไปแล้ว+ปรุงรสด้วยพริกไทยขาว ซอสนี้จะไม่ใช่ซอสที่ชื่อ Bechamel แต่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Mornay
ซึ่งมันก็คือซอส Bechemel ที่ใส่ชีสลงไป
9. ใส่มักกะโรนี, เบค่อน, พาสเลย์, พริกหั่นละเอียด, ผงปาปริก้า, ผงกระเทียม, พริกป่น, พริกไทย, เนย 5 กรัม เพื่อเพิ่มความหอม
หลังจากนั้นจึงคนให้เข้ากัน
*ไม่แนะนำให้ใส่เกลือเพิ่ม หรือถ้าอยากใส่ก็ให้ใส่นิดเดียว เพราะชีสกับเบค่อน เค็มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
10. โรยด้วยเกล็ดขนมปัง แล้วอบที่ไฟ 150-180 องศา จนได้สีเหลืองทอง
*ถ้าอยากได้สีเหลืองทองสวยๆ สำหรับการตกตแ่งจาน ผมแนะนำให้โรยชีสเพิ่มด้านบน แล้วจึงตบท้ายด้วยเกล็ดขนมปัง จะได้สีที่สวยงามกว่านี้
สำหรับสูตร Mac N Cheese บางที่ จะไม่มีเกล็ดขนมปัง แต่ผมชอบใส่ เพราะมันจะเพิ่มให้มีผิวสัมผัสกรอบๆ
หลังจากช้อน 4-5 ผมโคตรเลี่ยน ต้องเอากิมจิมากินคู่ด้วย 5555
Spicy Bacon Mac N Cheese
มักกะโรนีชีสที่มีจุดกำเนิดไม่แน่ชัด บ้างก็ว่าเริ่มต้นที่อเมริกา บ้างก็ว่าอิตาลี่, นิวซีแลนด์ และที่อื่นๆอีกมามาย
วันนี้ผมจะมาแนะนำในสูตรของผม ซึ่งจริงๆก็คล้ายกับสูตรคลาสสิค แต่จะเพิ่มเติมในส่วนของความเผ็ด ให้ได้รสชาติที่อาจจะถูกจริตคนชอบทานเผ็ด
เพียงแต่สูตรนี้จะเป็นความเผ็ดในระดับล่าง เพราะส่วนตัวมองว่าหากเผ็ดมากไป รสชาติมันดูไม่เข้ากัน แต่ถ้าอยากได้เผ็ดมากกว่านี้ ก็คูณ2พริกที่ใส่ลงไป
*เพิ่มเติม สูตรนี้ผมปรับปรุงมาสำหรับ 1-2คน จะได้ไม่ต้องเหลือทิ้งเยอะ
วัตถุดิบ
- 80-90 กรัม มักกะโรนี พาสต้า
- 2-3 สไลด์ เบคอน
- 250 มิล นม
- 20 กรัม เนย
- 20 กรัม แป้งเนกประสงค์
- 30 กรัม เชดดาร์ ชีส
- 1 ลูก ไข่แดง (ไม่จำเป็น)
- 1 เม็ด พริกหั่นละเอียด (ไม่เอาเมล็ด)
- 5 กรัม พาสเลย์ (ไม่จำเป็น)
- 1/2 ช้อนชา ปาปริก้า
- 1/2 ช้อนชา พริก คาเยน ถ้าไม่มีให้ใ้ผงพริกป่นแทน
- 15 กรัม เกล็ดขนมปัง
วิธีทำ
เริ่มจากทำซอส bechamel ก่อน ซอสนี้คือ 1 ในซอสแม่หรือซอสพื้นฐานที่สามารถนำไปพลิกแพลงเป็นซอสที่จะใช้ในเมนูมักกะโรนีชีส
1. ละลายเนยในหม้อ หลังจากนั้นก็ใส่แป้งลงไปแล้วจึงผัดให้เข้ากันดังรูป ก้อนที่เกิดจากเนยและแป้งในอัตราส่วนที่เท่ากันแบบนี้เรียกว่า Roux
ซึ่ง Roux มีหน้าที่ทำให้ซอสหนืด หรือข้น คล้ายๆกับหลักการที่ใช้แป้งข้าวโพดนั่นเอง
2. ใส่นมประมาณ 1/4 หรือ 1/3 ลงไป ถ้าจะให้ดีผมแนะนำให้นำนมไปอุ่นก่อน แต่ไม่จำเป็นขนาดนั้น
หลังจากนั้นก็คนให้ตัว Roux เข้ากับนมที่เราใส่ลงไป หากเข้ากันดีแล้วจะสังเกตุว่าผลที่ได้จะเป็นอะไรไม่รู้หนืดๆ เหนียวๆ
นมร้อนจะทำให้ประกฏการณ์นี้เกิดไวขึ้น 2 เท่า ในอณะที่นมเย็นหรือนมอุณหภูมิห้อง อาจจะเกิดช้าหน่อย
3. ค่อยๆทยอยเทนมเพิ่มทีละ 1/3 หรือ 1/4 แล้วคนให้เข้ากัน จนกระทั่งนมทั้งหมด 250 มิล ถูกเทลงไปในหม้อจนหมด
4. หาถาดหรือภาชนะอะไรก็ได้ ใส่น้ำรองไว้ด้านล่างหม้อ แล้วเคี่ยวซอสประมาณ 20-30 นาที วิธีนี้จะช่วยไม่ให้ความร้อนสัมผัสกับซอสของเราโดยตรง
ส่งผลให้ซอสไม่ไหม้ หรี่ไฟด้วยนะ
5. ลวกมักกะโรนีในน้ำที่ใส่เกลือ ประมาณ 7 นาที
6. นำเบค่อนเข้าเตาอบประมาณ 12-15 นาที เสร็จแล้วก็นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
* ไม่จำเป็นต้องอบจนกรอบ เพราะ texture ความกรอบจะไปอยู่กับส่วนเกร็ดขนมปังที่เราจะใส่ตอนสุดท้าย
7. นำซอส Bechamel ที่เราเคี่ยวเสร็จแล้ว มาใส่ไข่แดง
* ปิดไฟ นำออกจากเตาด้วย ไม่งั้นไข่แดงจะกลายเป็นไข่คนในซอส
8. ใส่ชีส
*จะเห็นว่าสีของไข่แดงจะทำให้ซอสกลายเป็ฯสีเหลือง สวยงาม
**เมื่อใส่ชีสลงไปแล้ว+ปรุงรสด้วยพริกไทยขาว ซอสนี้จะไม่ใช่ซอสที่ชื่อ Bechamel แต่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Mornay
ซึ่งมันก็คือซอส Bechemel ที่ใส่ชีสลงไป
9. ใส่มักกะโรนี, เบค่อน, พาสเลย์, พริกหั่นละเอียด, ผงปาปริก้า, ผงกระเทียม, พริกป่น, พริกไทย, เนย 5 กรัม เพื่อเพิ่มความหอม
หลังจากนั้นจึงคนให้เข้ากัน
*ไม่แนะนำให้ใส่เกลือเพิ่ม หรือถ้าอยากใส่ก็ให้ใส่นิดเดียว เพราะชีสกับเบค่อน เค็มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
10. โรยด้วยเกล็ดขนมปัง แล้วอบที่ไฟ 150-180 องศา จนได้สีเหลืองทอง
*ถ้าอยากได้สีเหลืองทองสวยๆ สำหรับการตกตแ่งจาน ผมแนะนำให้โรยชีสเพิ่มด้านบน แล้วจึงตบท้ายด้วยเกล็ดขนมปัง จะได้สีที่สวยงามกว่านี้
สำหรับสูตร Mac N Cheese บางที่ จะไม่มีเกล็ดขนมปัง แต่ผมชอบใส่ เพราะมันจะเพิ่มให้มีผิวสัมผัสกรอบๆ
หลังจากช้อน 4-5 ผมโคตรเลี่ยน ต้องเอากิมจิมากินคู่ด้วย 5555